แม่ทัพไร้ใจ

1035 คำ
        ณ เมืองหงโจว เมืองที่อยู่ไกลโพ้นท่ามกลางหุบเขาเทียนเล่อในพื้นที่อุดมสมบูรณ์และสงบสุขด้วยบุญญาบารมีแห่งท่านเจ้าเมืองผู้ผดุงความสุขและยุติธรรมมาสู่ประชาชนของท่านเสมอ         หากเวลานี้ กาลเวลาได้พรากทุกสิ่งอย่างไปจากท่าน วัยหกสิบห้าปีกับการกรำทั้งบู๊และบุ๋นทำให้ท่านอ่อนแอลงไปมาก จะแต่งตั้งผู้ใดขึ้นมาเป็นเจ้าเมืองแทนก็ยังมิเห็นสมควรจึงได้แต่รั้งตำแหน่งประคับประคองไปก่อน         เมืองที่อุดมสมบูรณ์เช่นนี้ทำให้เป็นที่หมายปองของหัวเมืองใหญ่ที่พยายามขยายอาณาเขต            หงโจวมิได้สงบสุขดังเช่นเคย แม่ทัพและทหารกล้าต้องฝึกฝนการรบพุ่งและออกศึกสงครามอยู่เสมอ และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่หงโจวได้รับข่าวดี         “ ท่านแม่ทัพเหิงกลับมาแล้ว เราชนะ เราชนะ ! ” เสียงเซ็งแซ่ของเหล่าทหารหาญดังขึ้น         เหรินต้าฝง เจ้าเมืองวัยชราออกมายืนต้อนรับอยู่ที่หน้าประตูเมือง แม้กาลเวลาจะพรากความงดงามแห่งร่างกายไป         มากโข แต่พระองค์ยังคงความมีสง่าราศีน่าเกรงขามอยู่ไม่น้อย สมกับที่เคยเป็นเจ้าเมืองผู้เก่งกล้าทั้งการบริหารและการรบพุ่ง แต่ยามนี้วัยหกสิบห้านั้นทำให้พระองค์ต้องยอมจำนนต่อสังขาร และเป็นเหตุให้เกิดจอมทัพคนใหม่         เขาคือท่านแม่ทัพเหิง หรือเหิงซื่อหลุน         ทัพหงโจวนั้นแม้จะขึ้นชื่อถึงความเข้มแข็งแต่สิ่งใดก็มิอาจจีรัง ยิ่งในศึกสงครามแล้วอะไรก็เกิดขึ้นได้และเหิงซื่อหลุนก็ได้ปรากฏตัวขึ้น ณ เวลานั้น         เขามาจากไหนหาได้มีใครรู้ไม่ ชายฉกรรจ์ร่างสูงใหญ่กำยำกว่าบุรุษใด ๆ นั้นได้ปรากฏตัวขึ้น ขณะที่ทัพหงโจวกำลัง เพลี่ยงพล้ำให้เมืองเถินแห่งปัจจิมทิศ แม่ทัพเอกถูกสังหารบั่นคอ ทหารกล้าสูญเสียกำลังใจและเริ่มระส่ำระสาย เขาผู้นั้นควบอาชาสีนิลดำขลับงดงามพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว ปัดป่ายเพลงกระบี่อันเฉียบคมและเด็ดขาดสังหารอริราชศัตรูจนหมดสิ้น โลหิตทหารหาญแห่งเมืองเถินหลั่งนองผืนปฐพีคาวคลุ้งแดงฉานพร้อมกับชัยชนะของหงโจว โดยบุรุษนิรนามผู้นั้น         หลังจากนั้นท่านเจ้าเมืองจึงได้แต่งตั้งเขาให้เป็นแม่ทัพเอกแม้อีกฝ่ายจะแจ้งอย่างชัดเจนว่าตนเองนั้นทำงานเป็นเพียงทหารรับจ้าง           “ ข้ามีอิสระต่อตนเอง ไม่เคยก้มหัวให้ผู้ใด สิ่งเดียวที่ข้าศรัทธานั่นก็คือเงินทอง ”         นั่นคือสิ่งที่เขาแจ้งความประสงค์และท่านเจ้าเมืองก็ประทานให้กับเขาเสียจนเกินที่ร้องขอ         แม้จะรู้ดีว่าไม่วันใดก็วันหนึ่งเขาต้องไปจากที่นี่ แต่ท่านเจ้าเมืองก็พยายามหาสิ่งดึงดูด ประเคนทุกสิ่งที่คิดว่าจะทำให้เขามีความสุขเพื่อจะอยู่ที่นี่ได้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้เพื่อให้เขาช่วยฝึกซ้อมการรบพุ่งให้กับทหารของท่าน ทั้งเรือนพัก เงินทองและสตรีโฉมงามนับไม่ถ้วนและนั่นดูเหมือนจะทำให้เขาพออกพอใจได้มากพอควร เพราะเขาอยู่ที่นี่นานหกเดือนแล้วนับแต่วันนั้น         ประตูเมืองเปิดรอ ม้าสีดำสนิทควบรัวเร็วจนฝุ่นตลบผ่ากลางกองทัพแล้วหยุดอยู่ตรงหน้าประตูเมือง ก่อนที่            ร่างสูงใหญ่ของชายผู้หนึ่งจะกระโดดลงจากหลังม้า โอบกอดรอบแผงคอมันอย่างสหายรักและเอ่ยถ้อยคำขอบอกขอบใจที่ร่วมศึกมาด้วยกัน         ท่านเจ้าเมืองเป็นฝ่ายเดินเข้าหาเสียเอง อีกฝ่ายทำเพียงค้อมศีรษะคำนับ ซึ่งนั่นเป็นกิริยาที่เหล่าขุนนางทั้งหลายมองว่ามันช่างยโสโอหังเสียเหลือเกิน         “ เห็นว่าเป็นคนโปรด คิดจะทำสิ่งใดก็ทำ ก็แค่ไอ้โจรกระจอกรับจ้างรบ เหตุใดท่านเจ้าเมืองจึงตามใจมากจนมัน ได้ใจเหลือเกินก็ไม่รู้ ไว้ใจมันได้ที่ไหน เปรียบได้ดังการเลี้ยงงูเห่าที่มันจะกลับมาแว้งกัดได้เมื่อไรก็ได้ ”         แน่ละ บุคลิกเย่อหยิ่งจองหองของเขาไม่เข้าตาหลายคนนัก มีคนรักย่อมมีคนเกลียด และนี่คือเสียงซุบซิบนินทาลับหลังอยู่เสมอ แต่เบื้องหน้าทุกคนต่างเคารพนบนอบเขาด้วยเกรงกลัวความเด็ดขาดเหี้ยมโหดที่ได้ยินมาจากทหารที่เคยร่วมรบ ใครเล่าอยากจะเสี่ยงกับบุรุษผู้ไร้อารยะ ย่อมรักตัวกลัวตายกันทั้งนั้น         “ คารวะท่านเจ้าเมือง ” เสียงห้าวฉะฉานเอ่ยทักทายท่านเจ้าเมือง อีกฝ่ายสืบเท้าเข้าไปใกล้แล้วยื่นมือไปตบไหล่บึกบึนกำยำนั้นหนัก ๆ เป็นการให้กำลังใจ ก่อนพินิจไปทั่วใบหน้าของเขา         ใบหน้ายาวรกครึ้มไปด้วยไรเคราสีเขียวเข้มนั้นมีรอยแผลเป็นและแผลสดเป็นเครื่องประดับ รวมไปถึงหางคิ้วเข้มที่     เฉียงยาวด้านขวาที่มีรอยขีดนูนของแผลเป็นจนเห็นได้ชัด ดวงตาคมดำมืดลุ่มลึกราวห้วงมหาสมุทรที่หยั่งไม่ถึง จมูกโด่งเป็นสันยาวและปากหยักอิ่มเต็มที่เม้มสนิทอยู่เสมอและมิมีใครสักคนที่เคยเห็นเขาแย้มยิ้ม เสมือนว่าเขายิ้มไม่เป็น         ใบหน้างดงามนั้นแม้ถูกแดดเผาจนเกรียมไหม้และประปรายไปด้วยเลือดและแผลแต่ก็ยังถือได้ว่างดงามเหลือเกิน เมื่อรวมเข้ากับความบึกบึนกำยำของเจ้าตัวก็จัดได้ว่า จอมทัพไร้อารยะผู้นี้รูปงามอยู่มิใช่น้อย เป็นที่หมายปองของสาวเล็กสาวใหญ่ ทั้งผู้มียศถาไปถึงรากหญ้าประชาชนคนเดินดิน         เสียอยู่อย่างเดียว บุรุษผู้นี้ไร้หัวใจ เขามีแต่ความใคร่ หาได้เคยมอบใจให้สตรีใดในเมืองนี้ที่ผันผ่านเข้ามานับไม่ถ้วนแม้สักคน          “ ข้าขอแสดงความยินดีกับชัยชนะและขอบใจเจ้าเหลือเกินที่ปกป้องหงโจวไว้ได้อีกครั้ง พวกเราทุกคนเป็นหนี้บุญคุณเจ้าเหลือเกิน จอมทัพเหิงซื่อหลุน ” ท่านเจ้าเมืองกล่าวพร้อมรอยยิ้ม 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม