พ่อเลี้ยงธิปรกหัวเราะเบาๆ กับคำพูดในตอนท้ายของสน ก่อนจะเอ่ยบอกกลั้วเสียงหัวเราะ
“โตไม่มากเท่าไรหรอก ก็แค่เวลายืนคุยกันต้องแหงนหน้ามองเจ้าฝาแฝดก็เท่านั้นเอง”
“ลุงๆ ทนอีกนิดหนึ่งก็แล้วกัน เดี๋ยวก็ได้เจอคุณหนูของลุงแล้วจ้ะ”
แม่เลี้ยงรดาเอ่ยยิ้มๆ นึกขำในทุกครั้งที่ลุงสนและลุงชาญมักจะเรียกอัคนีและอัคคีว่า ‘คุณหนู’ ฝาแฝดทั้งสองอายุปาจะเข้าสามสิบปีแล้ว แต่สามทหารเสือรวมทั้งคนงานในไร่ธิปรกก็เรียกอัคคีและอัคนีว่าคุณหนูเหมือนเดิม
“คุณหนูจะกลับบ้านจริงหรือครับ ผมกลัวว่าคุณหนูจะหลงแสงสีเสียงในเมืองนอกแล้วไม่ยอมกลับบ้านป่าบ้านดอย” ชาญเต็มไปด้วยความกังวลอดคิดเช่นนั้นไม่ได้
พ่อเลี้ยงธิปรกส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่หรอกน่าไอ้ชาญ เพลิงและไฟไม่เคยรักที่ไหนเท่ากับประเทศไทยและที่บ้านป่าแห่งนี้ของพวกเขา ทุกคนก็รู้ดีว่าฝาแฝดทั้งสองรักบ้านมากเพียงใด แต่ที่พวกเขายังไม่กลับบ้านก็เพราะยังสนุกกับการใช้ชีวิตในต่างแดน”
“แต่ตอนนี้ไม่น่าจะสนุกแล้ว หลังจากเจ้าไฟรู้ว่าลุงหมอจะขายฟาร์ม รายนี้รักม้าเป็นชีวิตจิตใจ ยิ่งรู้ว่าลุงหมอจะขายทั้งฟาร์มทั้งม้าให้ ก็ยิ่งอยากกลับประเทศไทย”
แม่เลี้ยงรดาเอ่ยถึงจุดอ่อนของฝาแฝดคนเล็ก ที่รักเจ้าอาชาไนยมากจนสามารถคลุกอยู่แต่ในคอกม้าได้ทั้งวัน
“ส่วนเจ้าเพลิง ป่านนี้คงนั่งไม่ติดเก้าอี้ ตูดร้อนเป็นไฟแล้วหลังจากแม่เลี้ยงบอกว่ามีเศรษฐีมาสู่ขอหมามุ่ยให้กับลูกชายของเขา”
พ่อเลี้ยงธิปรกเอ่ยเสริมท้าย พลางหัวเราะร่วนเมื่อนึกถึงคำโวยวายของอัคนี ที่ไม่พอใจเป็นอย่างมากเมื่อรู้ว่ามีคนมาสู่ขอธีราดา
“ตอนนี้คงกำลังวุ่ยวายอยู่กับการจองตั๋วเครื่องบินและจัดกระเป๋าเดินทางแน่
นอนค่ะ” แม่เลี้ยงรดาหัวเราะร่วนไม่แพ้ผู้เป็นสามี ไม้เด็ดที่งัดมาเล่นงานลูกชายฝาแฝดทั้งสองได้ผลชะงักจริงๆ
“เอ่อ...แล้วแม่เลี้ยงจะยกหมามุ่ยให้ลูกชายของเถ้าแก่ประจงจริงไหมครับ”
สนเอ่ยถาม ในใจนั้นไม่อยากให้แม่เลี้ยงยกธีราดาให้กับใคร เพราะเขารู้ว่าธีราดาปักใจรักที่อัคนีแค่เพียงคนเดียว
“ไม่หรอกจ้ะ ฉันก็แค่ขู่ให้เจ้าเพลิงรีบกลับบ้าน เพราะรู้ว่าเพลิงรักหมามุ่ยมาก และหมามุ่ยเองก็รักเพลิงเหมือนกัน”
“ค่อยยังชั่วหน่อย ผมนึกว่าแม่เลี้ยงจะหักหาญน้ำใจยายหมามุ่ยของผมซะแล้ว”
ชาญเป่าปากอย่างโล่งอก เขารักและเอ็นดูธีราดาไม่ต่างจากเป็นลูกของตนเอง และแน่นอนว่าเขานี่แหละเป็นคนตั้งชื่อเล่นให้กับธีราดาในวันแรกเกิดว่า ‘หมามุ่ย’
“ว่าแต่มีใครเห็นไอ้รามบ้างไหม หรือว่ามันไปรับหมามุ่ยกลับบ้าน” พ่อเลี้ยง
ธิปรกเอ่ยถามลูกน้องทั้งสอง
“ใช่ครับ พี่รามไปรับหมามุ่ยกลับบ้านครับ” สนเป็นคนเอ่ยบอก
หลังจากเรียนจบในระดับปริญญาตรีแล้ว ธีราดาก็ทำงานให้กับพ่อเลี้ยงธิปรกและแม่เลี้ยงรดา โดยธีราดามีหน้าที่คอยประสานงานติดต่อกับลูกค้า และหญิงสาวต้องไปทำงานในออฟฟิศของฟาร์มที่อยู่ในตัวเมือง ซึ่งรามกับอักษราภัคผู้เป็นบิดามารดาของหญิงสาวมักจะผลัดกันไปรับไปส่งในทุกวัน หากวันใดทั้งสองไม่ว่างไปรับ ก็จะมีลุงชาญหรือไม่ก็ลุงสนที่ไปรับหลานสาวคนนี้กลับฟาร์ม
สนเอ่ยบอกไม่ทันขาดคำ ทุกคนในห้องนั่งเล่นก็ได้ยินเสียงรถยนต์แล่นมาจอดหน้าบ้าน และไม่กี่นาทีต่อมาก็เห็นร่างใหญ่ของรามเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นพร้อมกับลูกสาวด้วย
“เพิ่งบ่นถึงอยู่หลัดๆ ก็โผล่หน้ามาให้เห็นทันทีเลยนะ ไอ้ราม”
พ่อเลี้ยงธิปรกสัพยอกลูกน้องคนสนิท พลางพยักหน้ารับไหว้เมื่อธีราดาได้ยกมือไหว้ตนด้วยกริยาอ่อนน้อม
“คิดถึงผมหรือครับ พ่อเลี้ยง ถึงบ่นหาผมไม่มีหยุด”
รามแซวกลับคืนพร้อมกับทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้ามกับพ่อเลี้ยงและแม่เลี้ยงรดา พอมองเห็นคนที่เป็นทั้งเพื่อนสนิททั้งลูกน้องของตนนั่งอยู่ใกล้ๆ พ่อเลี้ยงธิปรก ก็เอ่ยแขวะทั้งสองบ้าง
“ไอ้ชาญ ไอ้สน พวกมึงก็คิดถึงกูเหมือนกันหรือ ถึงได้มาดักรออยู่ที่บ้านของพ่อเลี้ยง”
“คิดถึงกะผีนะสิ”
ชาญเอ่ยตอบอย่างยียวน ทำเอารามแทบสำลักหัวเราะ ก่อนจะเอ่ยบอกเหตุผลอันสุดแสนสำคัญไปว่า
“พวกผมมาฟังข่าวตอนที่แม่เลี้ยงคุยโทรศัพท์กับคุณไฟและคุณเพลิงต่างหากล่ะ”
“คุณหนูทั้งสองจะกลับบ้านแล้วหรือครับ”
รามเอ่ยถามแม่เลี้ยงรดา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความตื่นเต้นไม่แพ้บรรดาลุงๆ ทั้งสอง ซึ่งนั่งยิ้มแป้นหลังจากรู้แล้วว่าคุณหนูจะกลับบ้านเมื่อไร
และใช่ว่าจะมีแค่เพียงรามเท่านั้นที่ตื่นเต้น ธีรดาผู้เป็นลูกสาวก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน หัวใจดวงน้อยเต้นรัวเร็วอยากรู้คำตอบซะเหลือเกินว่าอัคนีจะกลับบ้านในวันไหน แต่ไม่ว่าจะอยากรู้มากเพียงใด กระนั้นก็ทำเป็นนิ่งเฉยรอฟังคำตอบจากแม่เลี้ยงรดา
แม่เลี้ยงรดาลอบมองสบตากับพ่อเลี้ยงธิปรกแล้วคลี่ยิ้มให้แก่กัน แม้ธีราดาจะไม่เผยอาการออกมาให้เห็น แต่คนที่อาบน้ำร้อนมาก่อน ก็รู้ดีว่าหญิงสาวกำลังกลั้นหายใจรอฟังข่าวของอัคนี
“เพลิงบอกว่าจะกลับบ้านภายในสามวันนี้จ้ะ”
แม่เลี้ยงรดาเอ่ยตอบโดยไม่เจาะจงว่าเลือกตอบใคร จากนั้นก็เอ่ยถามธีราดาซึ่งหน้าแดงดวงตาคู่สวยไหวระริกเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
“หมามุ่ยจะไปรับพี่เพลิงกับแม่เลี้ยงไหมจ๊ะ”
ธีราดาคลี่ยิ้มให้แม่เลี้ยงรดา พยายามระงับความตื่นเต้นขณะเอ่ยตอบไปว่า
“ไปค่ะ แม่เลี้ยง หมามุ่ยอยากไปรับพี่เพลิงกับพี่ไฟค่ะ”
“ขอสนไปด้วยนะครับ” สนรีบเอ่ยร้องขอแทบจะทันทีที่ธีราดาพูดจบ