“เชิญทางนี้ดีกว่าค่ะ เงียบดี ความจริงปริมก็ไม่ได้กลับบ้านนานมากแล้ว ไม่รู้ว่าจะพาพี่ต้นไปเดินเล่นตรงไหน”
“กรุงเทพ-เชียงรายก็เดินทางสะดวก ทำไมถึงไม่ค่อยกลับบ้านล่ะครับ” หนุ่มหล่อเปิดคำถามด้วยน้ำเสียงสุภาพนุ่มนวล
“กลับมาก็ไม่รู้จะมาทำอะไรค่ะ อีกอย่างคุณลุงอยากให้ปริมตั้งใจเรียนแล้วมาช่วยงานที่บ้านหลังเรียนจบ ก็นี่แหละค่ะ ปริมเรียนจบแล้ว คงได้มาช่วยแบ่งเบาภาระงานของคุณลุง”
“มาอยู่ยาวแบบนี้ แฟนจะไม่คิดถึงแย่เหรอครับ”
“มุกหลอกถามแบบนี้ ไม่ผ่านนะคะ”
ต้นตระกูลหัวเราะหึหึตลกขบขัน เขาชอบปาลิตามานานแล้ว แต่เพราะอยู่คนละจังหวัดและเขาเรียนหนัก ก็เลยไม่มีโอกาสได้เจอ ในเฟซบุ๊กแอดเพื่อนไปหล่อนก็ไม่รับ ไม่ให้เขาเห็นอะไรเลย
“ปริมไม่มีแฟนหรอกค่ะ โสดสนิท”
ในที่สุดก็ยอมเฉลย เดินเคียงคู่ชายหนุ่มมาเรื่อยๆ จนเกือบจะพ้นแสงไฟจากตัวบ้านจึงหยุด และหันกลับมามองเขา
“แล้วพี่ต้นล่ะคะ มีแฟนไหม”
“พี่โสดครับ”
“ไม่น่าเชื่อนะคะ ปกติหมอเป็นอาชีพที่สาวๆ ใฝ่ฝันอยากได้มาเป็นแฟน เพื่อนปริมก็มีแฟนเป็นหมอหลายคนเลยค่ะ”
“แล้วน้องปริมล่ะครับ อยากมีเหมือนเพื่อนไหม”
“เอ่อ...” ไปไม่เป็นเลยแฮะ ถูกถามตรงๆ แบบนี้ “สำหรับปริม อาชีพไหนก็ดีหมดค่ะ ขอแค่รัก ดูแลกัน และประสงค์ดีต่อกัน”
“คิดเหมือนพี่เลยครับ”
ทั้งสองเดินชมนก ชมไม้ ชมพระจันทร์เต็มดวงมาเรื่อยๆ ท่ามกลางแสงสีเหลืออร่ามจากดวงจันทร์บนฟากฟ้า
“แต่รู้ไหม ว่าตอนนี้ไม่อยากโสดแล้ว”
“อ๋อ... ค่ะ” ปาลิตายิ้มแห้ง ไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี
“พี่อยากมีแฟนเป็นตัวเป็นตน”
“ค่ะ”
“เป็นน้องปริมจะได้ไหมครับ”
“พี่ต้น! อย่าล้อเล่นแบบนี้สิคะ ไม่ดีเลยนะ”
ยอมรับว่าตกใจไม่น้อย ไม่คิดว่าคนเพอร์เฟ็คอย่างต้นตระกูลจะพูดออกมาโดยไม่มีลักษณะการลังเลสักนิด
ต้นตระกูลก้าวเท้าเข้ามาประชิดปาลิตา จับเส้นผมนุ่มสลวยของหล่อนออกจากแก้ม “พี่ไม่ได้ล้อเล่น พี่แอบชอบน้องปริมนานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสเข้ามาทำความรู้จักจริงจังแบบนี้สักที”
“ไม่ได้ค่ะ ปริมกับพี่ต้นไม่เหมาะสมกัน”
“ตรงไหนครับ ที่ว่าไม่เหมาะ”
“ครอบครัว ฐานะ หน้าที่การงาน ทุกอย่าง”
“ไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลย”
“เกี่ยวสิคะ”
“ไม่เกี่ยวครับ”
ต้นตระกูลดื้อตอบ ตัดบท พร้อมกับเปลี่ยนเรื่องในทันที “พรุ่งนี้พี่มารับไปกินมื้อเที่ยงนะครับ ให้โอกาสพี่นะ”
“เอ่อ... คือ...”
นัยน์ตาคู่สวยหลุกหลิกมองกลับไปทิศทางเดิม เห็นเมืองเหนือกำลังยืนบนชานระเบียงคุยอะไรไม่รู้กับนายยอด
“นะครับน้องปริม” เขาก้าวเท้าเข้ามาใกล้มากกว่าเดิม
“ก็ได้ค่ะ” ปาลิตาถอยหลังไปครึ่งก้าว รักษาระยะห่างไว้ไม่ให้ใกล้เกินงาม ไม่ได้แคร์ใคร ไม่ได้กลัวใครเข้าใจผิดเลยสักนิด
“ปริม เอ่อ... ปริมว่าเราสองคนเข้าบ้านกันเถอะนะคะ ดึกแล้ว ป่านนี้คุณทรงพลกับคุณอิงธาราคงเตรียมตัวกลับกันแล้ว”
“ครับผม”
ชายหนุ่มยิ้มกว้างหลังจากได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ผายมือเชิญสาวสวยให้เดินนำตัวเองกลับเข้าไปในบ้าน ผ่านเมืองเหนือและคนรับใช้สองคน กำลังถกเถียงอะไรบางอย่างที่โคตรไร้สาระ
“เชิญเข้าบ้านดีกว่าค่ะ” ขนาดปาลิตาเองก็ยังคิดว่าไร้สาระ จึงรีบชวนต้นตระกูลเข้าไปข้างใน จะได้ไม่ต้องทนฟังอะไรที่ไม่น่าฟัง
สองหนุ่มสาวกำลังจะเดินผ่านไปทางด้านหลัง เมืองเหนือยังคงวางฟอร์มโวยวายใส่นายยอดเอาจริงเอาจัง ไม่คิดยอมแพ้
“นี่มันยาฆ่าแมลง ถ้านายกินลงไปแล้วตายก็แสดงว่านายเป็นแมลงสิ”
เถียงน้ำขุ่นไปงั้น เมื่อกี้เขาหาเรื่องออกมาดูว่าสองคนนั้นเดินคุยไปถึงไหน แอบหยิบยาฆ่าแมลงขวดเล็กมาฉีดใส่ดอกไม้ ไม่ทันมองว่าข้างล่างมีนายยอดกับลุงเติมนั่งเล่นหมากรุก น้ำยาก็เลยปลิวไปโดนนายยอดเต็มๆ ดีที่มันไม่ได้อ้าปากรับ ไม่อย่างนั้นคงอันตราย
“แต่ผมก็มีสิทธิ์ตายได้นะครับเจ้านาย”
“ก็ยังไม่ตายนี่นา ไว้มีอาการค่อยมาบอกแล้วกัน”
“ครับ”
“พี่เหนืออยู่ตรงนี้นี่เอง อิงเดินหาซะทั่วบ้านเลย” คุณหนูอิงธาราในชุดเดรสสีขาวสั้นเหนือเข่า เข้ามาคล้องแขนเมืองเหนือ
“ตามหาพี่ทำไมเหรอครับ”
“เราเข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ อิงจะกลับแล้ว”
“โอเคครับ ขอพี่ล้างมือแป๊บนะ”
“ได้ค่ะ เดี๋ยวอิงพาไปล้างในห้องครัวนะคะ”
“ครับ” ร่างกายเมืองเหนือเคลื่อนตามทิศทางการลากของอิงธารา ส่วนใบหน้าเขาหันกลับมาสั่งคนงานทั้งสองให้นำขวดยาฆ่าแมลงไปเก็บ ลุงบุญเติมเข้าใจ พยักหน้ารับ ต่างจากนายยอดที่มัวแต่ง่วงหงาวหาวนอน มันน่ากระโดดเตะสักทีจะได้หายง่วง
“อิงช่วยล้างนะคะ”
เอ่ยเสียงหวาน หลังจากเปิดก๊อกน้ำ
“ไม่ต้องครับ เดี๋ยวน้องอิงจะโดนยาฆ่าแมลงไปกับพี่ด้วย”
พูดแค่รอบเดียวเท่านั้น คุณหนูคนสวยก็ไม่เฉียดเข้ามาใกล้อ่างล้างมือ ปล่อยให้เขาจัดการล้างชำระความสกปรกด้วยตัวเอง
อิงธาราเห็นว่าอีกฝ่ายมือสะอาดแล้ว จึงเดินกรีดกรายเข้ามาใกล้ “พรุ่งนี้พี่ต้นจะมารับคุณปริมไปกินมื้อเที่ยง แล้วพี่เหนือล่ะคะ สนใจมารับอิงด้วยไหม อิงกินง่ายอยู่ง่าย กินในไร่ก็ได้”
“โทษทีนะ พี่ไม่สะดวก ปกติกินข้าวไม่เป็นเวลา ลำบากน้องอิงเปล่าๆ แต่สัญญาว่าไว้วันไหนพี่ว่าง เราค่อยไปดินเนอร์กัน”
“โอเคค่ะ พี่เหนือน่ารักที่สุดในโลกเลย”
เข้ามากอดอีกฝ่ายไม่มีเอียงอายอะไรทั้งนั้น ก่อนอิงธาราจะเป็นฝ่ายชวนเมืองเหนือเข้าไปในบ้าน
“อ้าว ยัยอิงมาพอดี พ่อกำลังจะให้หนูปริมไปตามอยู่พอดี มาลูก มากราบลาคุณเปรม ดึกแล้ว เราจะได้กลับบ้านกัน”
“น้องปริมครับ พรุ่งนี้สิบโมงพี่มารับนะครับ” นายแพทย์ต้นตระกูลกระซิบบอก ในช่วงที่รออิงธาราบอกลาคนนั้นทีคนนี้ที เสียงดังคับบ้านไปหมดเจ้าน้องคนนี้ แววตาใต้แว่นสายตาลบสองร้อยแอบอายเล็กน้อย สังเกตได้จากความแดงของแก้มเขา ปาลิตาเงยหน้าขึ้นสบประสานสายตา ส่งยิ้มไปให้เขา
“ได้ค่ะ” พูดถึงขนาดนี้แล้วจะให้พูดอะไรได้อีก
“ครับ”
ตอบรับก่อนจะตีตัวออกห่าง เพื่อบอกลาคุณเปรม “ลุงเปรม ผมกลับก่อนนะครับ กลับแล้วนะครับพี่เหนือ แล้วเจอกันพี่”
“ขับรถดีๆ เดินทางปลอดภัยนะต้น”
“ขอบคุณครับพี่เหนือ” ต้นตระกูลยกมือไหว้พี่ชาย
เมืองเหนือตบไหล่ต้นตระกูลเบาๆ เดินตามออกไปส่งทั้งสามถึงหน้าบ้าน และยืนมองกระทั่งรถเบนซ์คันหรูเคลื่อนตัวออกไป