ย้อนเหลี่ยมใส่

1203 คำ
ตอนที่ 6 “ฮึแกอย่ามาปรักปรำฉันนะและฉันไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย” “อ้าวคุณลัมภ์อย่ากินกับปากอยากอยู่กับท้องสิครับ” ดลัมภ์เหมือนตุ๊กแกกินปูนร้อนท้อง “คุณลัมภ์ไอ้วิธีไขสือและทำเพิกเฉยน่ะผมไม่โง่หรอกที่ไม่อ่านเดาสายตาคุณออกฮึนี่ก็ถือว่าดีนะที่คุณบุลิศเขาไม่ถือสาเอาเรื่องและเขาเป็นคนอย่างนี้นี่แหละผมเองก็ชักชอบเขาด้วยนะถ้าเป็นผมจริงๆผมไม่ยอมคุณหรอก” มันมาพูดกรอกใส่หูสรรเสริญถึงหมอนั่นให้เขาได้ยินอีกแล้วใครๆก็ยกย่องชื่นชมมัน ยิ่งเพิ่มความพล่านรุนแรงในจิตใจของดลัมภ์อีกครั้ง ราวกับว่าในเวลานี้เขา ได้จ้องไปที่สีหน้าของไอ้กระจอกอย่างอมเลศ และเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อเลยทีเดียว “ฮึแกเสือกมากเกินไปแล้วนะไอ้กระจอกแกรู้ไหมว่าฉันเป็นใครอย่ามาคิดเทียบเอารัศมีความสกปรกของนายออกไปห่างๆฉันดีกว่าโธ่เอ๋ยมาเทียบราศีกับคนอย่างฉันไอ้กระจอก” ดลัมภ์ประกาศกร้าวผ่านแววตาร้ายกาจสบถคำหยาบแดกดันพูดใส่อมเลศ ที่ถูกรับเชิญมาในงานด้วยในฐานะเพื่อนของเมี่ยงเมรัย และพนักงานในบริษัทแห่งนี้ ดลัมภ์ขู่ใส่เขา นั่นเองต้องทำให้อมเลศยอมราถอยพาฝีเท้าก้าวออกห่างผู้ชายคนนี้ไว้ใจยากและน่ากลัวสำหรับเขายิ่งนัก บุลิศมั่นใจอย่างนั้นไม่มีทางล่ะที่รักครั้งนี้เขาจะปล่อยให้หลุดลอยไป.เพราะในหัวใจของบุลิศแม่นมั่นคิดเสมอว่า.เป็นความปรารถนาที่เขามีต่อหล่อนมันยังไม่ลืมเลือนหายไปไหนสักนิด ใกล้ช่วงเที่ยงวันหนุ่มหล่อเหลาจัดที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากภาคเหนือและกลับมาอยู่กรุงเทพเป็นการถาวร ชายหนุ่มมองไปที่ดอกช่อของกุหลาบซึ่งเน้นสีส้มโอล์ดโรสมีทั้งสีแดงแดงสดและแดงเลือดนกสีชมพูสีเหลืองมีตะกร้าสำหรับจัดดอกไม้แบบสานห้อยอยู่ใกล้ๆอย่างเป็นระเบียบ ชายหนุ่มชี้มือขาวๆเอ่ย “ผมขอสีนี้นะครับแล้วช่วยจัดผูกเป็นช่อให้ด้วยเอาให้สวยที่สุดผมอยากจะเอาไปส่งให้กับคนสำคัญพิเศษ” เขาเอ่ยสั้นย้ำแค่นี้ แล้วยืนรออยู่ด้านหน้า ไม่ช้านักยื่นมือไปรับดอกสีส้มของช่อกุหลาบกำหนึ่งผูกรวบเป็นช่อใส่พลาสติคใสพร้อมกับริบบิ้นผูก ชายหนุ่มพึงพอใจอย่างมากเขามองกุหลาบที่อยู่ในมือไม่วางตา เขาจะวานคนของเขาแมสเซนเจอร์ในบริษัท ให้ไปส่งที่บริษัททิชากร ย่านสาธุประดิษฐ์ด่วนจี๋เลย จากถนนสาทรไปที่นั่นคงใช้เวลาไม่มากนักคงจะทันในช่วงบ่ายแล้วคนรับล่ะจะมีความรู้สึกอย่างไรน๊า...นึกถึงใบหน้าสวยคมหวานคงฉงนสนเท่ห์ไม่น้อย บุลิศไม่อยากบอกหรอกว่าเป็นเขา “ช่วยนำไปส่งที่บริษัททิชากรให้หน่อยนะเบส ตามที่อยู่พร้อมกับชื่อของคุณเมี่ยง”พนักงานส่งเอกสารที่บุลิศคุ้นเคยและใช้งานบ่อยตั้งแต่สามวันที่ผ่านมา หลังจากเข้ามาดูแลบริหารงานของบริษัทผงกศีรษะเป็นเชิงรับคำ “รีบไปเดี๋ยวนี้เลยก็ได้เดี๋ยวจะเที่ยงเสียก่อน” นายเบสพยักหน้ารับพร้อมรีบเดินถือช่อดอกไม้ใส่กล่องกระดาษยาวที่เขาได้จากทางร้านมาเรียบๆง่ายๆอย่างนี้เสมอบุลิศไม่อยากจะให้ใครรู้ว่าเขากำลังทำอะไรรวมทั้งไม่อยากให้สนใจด้วยบนริมฝีปากหยักสีชมพูแกมแดงพึงพอใจอย่างมาก บุลิศเดินกลับมาที่ห้องทำงานจากนั้นก็นั่งก้มหน้าทำงานเกี่ยวกับเอกสารที่ยังค้างคา..เพียงไม่นานนักเสียงกริ่งโทรศัพท์ดังขึ้นจากประชาสัมพันธ์สาวของบริษัท “คุณลิศคะมีพนักงานของเราชื่อนายเบสโทร.มาบอกเรื่องธุระค่ะ” ชายหนุ่มพยักหน้ารับครางในลำคอ “ฮื่มส์งั้นคุณช่วยโอนสายเข้ามาด่วน” เมื่อพนักงานรับโทรศัพท์ทราบความแล้วก็คงคิดว่าเจ้านายกับพนักงานส่งเอกสารหนุ่มคนนั้นมีเรื่องสำคัญ ที่อาจจะเป็นความลับของเจ้านายจริง และนายเบส พนักงานส่งเอกสาร ไม่ได้โทร.มาคุยแบบส่งเดชก็ตอนที่หล่อนรับสาย ก็ยังถามด้วยความตกใจใส่นายเบสว่า “แกมีธุระอะไรที่จะมาขอคุยกับเจ้านายล่ะฮึเกินหน้าที่ไปหรือเปล่ายะนายเบส” หล่อนแทบจะตวาดแว้ดใส่ด้วยโดยเฉพาะปกติรู้ดีว่าเจ้านายหนุ่มผู้นี้โลกส่วนตัวสูง เขานั้นแทบไม่อยากที่จะพบปะหน้ากับใครๆเลย เพ็ญสมรก็เลยหวาดหวั่นไปด้วย “ไม่ใช่หรอกน่าเจ๊เรื่องด่วนจริงๆ เจ้านายเป็นคนสั่งมาเองคนอื่นรู้ไม่ได้” เจ้าเบสตัวดีก็บอกแค่นั้นด้วยจากนั้นก็หุบปาก หล่อนจึงรีบกดโอนต่อสายห้องเจ้านายให้ ระหว่างที่รอก็ใจเต้นตูมตามเหมือนกันใจคว่ำใจหายเพราะกลัวว่าจะถูกตำหนิหาก..เดี๋ยวถ้ามันไม่จริงหรือนายเบสโทร.อำหล่อนนี่ล่ะจะเฉ่งใส่มันให้หนักหนาสาหัสเลย ปรากฏว่าเป็นความจริงพนักงานประชาสัมพันธ์สาวใหญ่จึงเงียบกริบถือว่านายเบสรอดตัวไป “ ขอบใจมากนะเบส นี่ เอาเป็นว่าเธอได้รับแล้วใช่ไหม?” “ครับเจ้านาย”เบสตอบเขาชายหนุ่มอมยิ้ม คราวนี้ล่ะดอกกุหลาบสีส้มคงไปถึงมือหล่อนเป็นปริศนาค้างคาใจให้หญิงสาวสวยมาดระหงหยิ่งเหมือนกับนางพญาให้หล่อนได้ขบคิดบ้างและยังไม่ถึงเวลาอันสมควร ที่เขาจะบอกความจริงแก่หล่อน เขาอยากจะทำอย่างนี้ต่อไปสักสองสามอาทิตย์ นี่ดอกไม้ของใครกัน?หากเมื่อเลขาเดินเข้ามาในมือมีช่อกุหลาบสวยงามโดยเฉพาะผูกโบรวบเป็นบูเก้ใส่กระดาษสีชนิดดียื่นมาให้หล่อนนั่นเลยทำให้เมี่ยงเมรัยนึกเอะใจขมวดคิ้ว นั่นเป็นของใคร..ใครกันเป็นคนเอามาส่งรู้ด้วยว่าเมี่ยงเมรัยชอบดอกกุหลาบสีโอล์ดโรสหล่อนไม่เคยบอกให้ใครรู้นี่ สีที่หล่อนชอบและปรารถนาคือโอล์ดโรสชอบเพราะดอกมันแปลกตาสีสันด้วยหล่อนไม่ชอบหวานอ่อนๆแบบชมพู หรือแม้แต่ว่าแดงเลือดนกหรือแดงกะมะหยี่ แต่หล่อนว่าสีมันขรึมแรงไป สีแดงเป็นสีที่หล่อนไม่ค่อยจะชอบนัก มันเป็นเหมือนรังสีของความเหี้ยม “เอมันของใครกันน๊า” เพราะว่างานในช่วงบ่ายของหล่อนค่อนข้างน้อย เฝ้าครุ่นคิดถึงเจ้าของดอกไม้ เมื่อนึกสงสัยมากเข้า เลยต่อสายเข้าไปหาอีศเพื่อนสนิทซะเลย “นี่อีตาอีศแกส่งดอกไม้มาให้ฉันหรือเปล่ายะหวานทำโรแมนติกเชียว”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม