Chapter 5

1494 คำ
เช้าวันต่อมา… พะพายตื่นนอนมาทำอาหารเช้าเพราะเธอเหนื่อยกับมาวินที่รังแกเธอทั้งคืนจนแทบไม่ได้หลับได้นอน ส่วนเขานั้นหลับสบายอยู่บนเตียงมันน่าตีจริงๆ “คอยดูเถอะถ้าไม่รักษาสัญญาล่ะก็น่าดูแน่!” หญิงสาวบ่นออกมาก่อนจะทำเมนูง่ายๆอย่างเช่นหมูกระเทียมไข่ดาว เธอทำเผื่อเขาด้วยหนึ่งจานกินเสร็จจะได้แยกย้ายไม่ต้องมาเจอกันอีก แต่ก็ต้องเจออยู่ดีเพราะว่าเขาทำงานที่เดียวกันกับเธอ “ตื่นเช้าจังเลยทำอะไรอ่ะตัวเอง” “ตัวเองอะไร…ไม่ต้องมาเรียกแบบนี้เลยนะ” พะพายหันไปดุชายหนุ่มที่เดินเข้ามาหาเธอในห้องครัวแถมยังมาเรียกเธออย่างกับคู่รักอีก ตัวเองบ้าอะไรกล้ามากนะที่มาเรียกแบบนี้ “หิวอ่ะขอกินด้วย” หญิงสาวแบ่งใส่จานไว้สองจานก่อนจะถือไว้สองมือแล้วหันไปมองหน้าชายหนุ่มก่อนจะย้ำในสิ่งที่เขารับปากเธอไว้เมื่อคืนนี้ “รับปากแล้วนะคะว่าจะลืมเรื่องทุกอย่างแล้วไม่บอกใครทั้งนั้น มันจะจบในคืนที่ผ่านมาคืนเดียว คุณต้องทำตามที่สัญญาไว้ด้วย” เธอจ้องหน้าเขาอย่างกดดันให้เขารับปาก ความสัมพันธ์ของเราสองคนมันเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นแต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วเธอต้องทำใจให้ได้แล้วเดินหน้าต่อ “ผมไปสัญญาตอนไหนอ่ะจำไม่เห็นได้เลย” “นี่คุณ! ลืมไปแล้วเหรอไงก็เมื่อคืนคุณสัญญาว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับใครแล้วก็จะลืมเรื่องทุกอย่าง อ๊ะ!” เธอนิ่งไปอย่างใช้ความคิด เมื่อคืนนี้เธอพูดกับเขาไปทั้งหมดเขาไม่ตอบรับอะไรเลยนี่ทำเพียงแค่ยิ้มมุมปากเท่านั้น นี่เขา… “เอ้าตกลงยังไง ผมไปสัญญาตอนไหน” เขายิ้มมุมปากออกมาอย่่างเจ้าเล่ห์ เมื่อคืนเขาไม่ได้สัญญาอะไรกับเธอทั้งนั้นและไม่มีทางที่จะพูดแบบนั้นเด็ดขาด “คุณมันเจ้าเล่ห์ที่สุด” “มีหลักฐานว่าพูดตอนไหนก็บอกนะจะรอฟัง ว่าแต่หิวอ่ะขอกินหน่อย” เขายื่นมือจะไปหยิบจานข้าวแต่หญิงสาวไม่ให้ เธอเสียรู้คนเจ้าเล่ห์อย่างเขาไปซะได้ แล้วที่ยอมเมื่อคืนไปทั้งหมดเพื่ออะไร.. โอ๊ย พลาดแล้วพะพายเอ้ย “ไม่ต้องกิน คนเจ้าเล่ห์แบบคุณฉันไม่น่าไปหลงกลเลย” พะพายเอ่ยออกมาอย่างหงุดหงิดก่อนจะถือจานเดินไปนั่งลงตรงโต๊ะ เธอใช้ช้อนตักกินของตัวเองก่อนจะตักอีกจานกินด้วย “หิวก็ทำกินเองแล้วกัน ชิ” เขาไม่สนใจเดินมาลงข้างเธอก่อนจะแย่งช้อนของเธอไปตักกินเองบ้าง พะพายอ้าปากค้างมองชายหนุ่มอย่างตกใจ ไม่คิดว่าเขาจะเอาช้อนของเธอไปใช้ต่อ “อร๊าย ฉันใช้ไปแล้วนะ” “ไม่เห็นเป็นไรเลย เมื่อคืนจูบกันแลกน้ำลายกันเยอะกว่านี้อีกไม่เห็นจะรังเกียจเลย” “หยุดพูดนะ” หญิงสาวตีแขนชายหนุ่มหลายทีอย่างหมั่นไส้ เขาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะตักกับข้าวตรงหน้าต่ออย่างหิวโหย เธอทำได้เพียงแค่กระทืบเท้าปึงปังแล้วเดินไปหยิบช้อนใบใหม่พร้อมกับน้ำเย็น หญิงสาวเดินมานั่งลงตรงหน้าเขาก่อนจะกินของตัวเองบ้าง “กินเสร็จก็กลับไปเลยนะ” “รู้แล้วน่ากลับอยู่แล้วต้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไปทำงานต่อ แต่ว่าเดี๋ยวจะเอามาเผื่อด้วยซักสองสามชุดดีป่ะ” เขาตีมึนเอ่ยถามหญิงสาว พะพายเงยหน้ามองเขาอย่างงุนงงไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่เขากำลังจะสื่อ “หมายถึงอะไรคะ” “ก็เผื่อมานอนค้างกับเมียไง” “คุณมีเมียแล้วเหรอ มีแล้วยังมานอนกับฉันเนี่ยนะจิตใจคุณทำด้วยอะไร ถ้าเธอรู้ขึ้นมาไม่เสียใจแย่เหรอ เลวที่สุด” แค่กๆ หญิงสาวชี้หน้าด่าชายหนุ่มยกใหญ่ เขาถึงกับสำลักอาหารรีบยกน้ำขึ้นดื่มก่อนจะรีบอธิบายกับเธอให้เข้าใจใหม่จะได้ไม่เข้าใจผิดไปมากกว่านี้ “เห้ยๆผมโสดครับไม่ได้มีเมียที่ไหน” “อ่าว แล้วบอกไปนอนกับเมียทำไม” “ก็นี่ไงเมีย” เขาชี้นิ้วมาตรงหน้าหญิงสาวอย่างแกล้งหยอก เธอปัดมือเขาออกก่อนจะหน้าบึ้งตึงทันที “อย่ามาพูดแบบนี้นะเราสองคนจบกันแค่คืนนี้เท่านั้นจะไม่มีการสานต่อความสัมพันธ์อีก เพราะฉะนั้นห้ามมายุ่งเกี่ยวกันอีก” “แต่ว่าเราต้องทำงานด้วยกันน้า จะมองหน้ากันติดรึเปล่า” เขามองหญิงสาวตาแป๋วก่อนจะตักอาหารกินต่อ ตอนนี้คงต้องตามน้ำไปก่อน เธอให้ห่างก็ห่างตามใจแหละพูดอะไรเยอะจะทะเลาะกันเปล่าๆ “เรื่องนั้นฉันมืออาชีพพอค่ะไม่ต้องห่วง” “โอเคงั้นเรามาเป็นคู่แข่งกันเนาะ ผมจะทำยอดขายเดือนนี้แซงคุณให้ได้เลย” พะพายหลุดขำออกมาทันทีที่ได้ยินแบบนั้น เดือนนี้เธอยอดขายทะลุไปหลักสิบล้านแล้วเขาจะเอาอะไรมาแซงเธอล่ะ “เอาเป็นเดือนหน้าแล้วกันค่ะ เดือนนี้คงยาก” “โอเคเดือนหน้าก็ได้ ผมก็ยังไม่อยากให้มันแซงไวๆเหมือนกัน” เขาอมยิ้มก่อนจะตักกับข้าวกินต่อ กำลังมีของเล่นชิ้นใหม่เข้ามาจะรีบออกไปรับตำแหน่งทำไม อยู่แกล้งเธอที่แผนกดีกว่าน่าสนุกกว่าเยอะ “มั่นใจในตัวเองสูงเนาะ” พะพายแขวะชายหนุ่มก่อนจะนั่งทานข้าวต่อจนอิ่มจากนั้นทั้งสองคนก็แยกย้ายกันไป ชายหนุ่มเดินทางกลับบ้านไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปทำงาน คุณแม่ที่ตื่นนอนแต่เช้าก็เอ่ยทักทายลูกชายทันทีที่ลงมา “เมื่อคืนไม่กลับบ้านลูกไปค้างที่ไหนมา” “ก็มันดื่มแล้วผมไม่อยากขับรถกลับก็เลยนอนค้างคอนโดครับ” “งั้นเหรอ” คุณแม่มองลูกชายอย่างจับผิด ไม่รู้ว่าแอบไปซุกสาวที่ไหนตั้งแต่โตมาจนอายุ28ปีเธอยังไม่เคยเห็นลูกชายพาใครมาแนะนำให้คนที่บ้านนี้รู้จักเลย ไม่รู้ว่าแอบซุกไว้แล้วปิดเงียบรึเปล่า “ผมไปก่อนนะครับ” “ไม่กินข้าวก่อนเหรอไง” “ไม่ครับผมกินมาแล้ว” เขาโบกมือให้คุณแม่อย่างอารมณ์ดีก่อนจะเดินผิวปากหมุนกุญแจรถเล่นออกไปยังลานจอดรถ คุณแม่มองตามก่อนจะนิ่วหน้าอย่างประหลาดใจ “แปลกๆนะลูกชายคนนี้ อารมณ์ดีผิดปกติ” เมื่อมาถึงที่ทำงานมาวินก็เข้าไปนั่งตรงโต๊ะทำงานของตัวเอง ส่วนพะพายที่มาถึงก่อนก็นั่งทำใบเสนอราคาส่งให้ลูกค้าช่วงบ่าย แอรินเดินเข้ามาในสภาพบึ้งบูดอารมเสียที่เมื่อคืนชายหนุ่มแอบหนีเธอหายไปไหนก็ไม่รู้กลับไปเอากุญแจที่โต๊ะแป๊บเดียวเอง ทำให้เธออดได้กินเขาเลย “มาวินขาเมื่อคืนคุณกลับยังไง แอรินบอกว่าจะไปส่งแต่ออกมาก็ไม่เจอคุณแล้ว” มาวินกับพะพายสะดุ้งพร้อมกัน เธอหันขวับไปมองหน้าชายหนุ่มจ้องหน้าเขาอย่างกดดันไม่ให้พลั้งปากพูดออกมา ‘อย่าคิดพูดออกมาเชียวนะ’ มาวินยิ้มมุมปากออกมาก่อนจะหันไปมองหน้าแอรินที่รอฟังคำตอบจากเขาอยู่ “เมื่อคืนผมกลับแท็กซี่นะแล้วก็ไปนอนค้างกับ…” เขาเหลือบสายตามองพะพายที่ตอนนี้เริ่มอยู่ไม่นิ่งก็อดขำออกมาไม่ได้ เขาชอบเวลาที่เธอโมโหอ่ะมันมีเสน่ห์น่ารักดีนะ “นี่! บอกไปสิว่าไปนอนกับเพื่อน” “นี่อะไรพะพาย ฉันถามมาวินยะไม่ได้ถามหล่อนไม่ต้องยุ่ง” พะพายอ้าปากค้างอย่างพลาดที่เผลอเอ็ดเขาไปก็รีบเอามือปิดปากตัวเองก่อนจะเบือนหน้าหนีไปอีกทาง เขาอมยิ้มก่อนจะเอ่ยเสียงหวาน “ไปนอนค้างคอนโดเพื่อนครับ” แอรินพยักหน้าอย่างพอเข้าใจแต่ก็อดเสียดายไม่ได้โอกาสมาตรงหน้าแล้วแท้ๆเธอพลาดซะได้ พะพายได้ยินแบบนั้นก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก นี่เธอจะต้องคอยกังวลแบบนี้ไปจนถึงเมื่อไหร่ ถ้ามีคนรู้ขึ้นมาเธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ‘ผู้หญิงใจง่ายเมาแล้วไปได้เสียกับผู้ชาย รู้ถึงไหนอายถึงนั่น’
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม