“ ลุงเอี่ยม ว่าจะได อ้าว นั่นผู้หมวดใช่ไหมจ๊ะ สวัสดีจ้ะผู้หมวด ” เมื่อเธอเห็นร่างสูงใหญ่ที่นั่งอยู่ในเรือกับลุงเอี่ยมก็รีบยกมือขึ้นสวัสดี เขายกมือขึ้นรับไหว้
“ สวัสดีครับบัวตอง ”
“ นายเปิ้นจะมาสั่งข้าวกับเอ็งน่ะบัวตอง ”
“ สั่งข้าวอะไรเหรอจ๊ะผู้หมวด ”
“ บัวตอง เอ็งกะเชิญนายขึ้นไปนั่งบนบ้านให้มันเป็นกิจจะลักษณะจะมานั่งในเรือคุยแบบนี้ได้จะได ” บัวตองพยักหน้าพลางรีบเชื้อเชิญเขาให้ขึ้นฝั่งเพื่อไปนั่งบนบ้าน
“ ลุงเอี่ยมขึ้นมาบนบ้านก่อน ”
“ ลุงจะต้องรีบไปรับอีแปวมันฝั่งโน้นอีกน่ะ มันจะไปเข้ากะที่โรงทอ นายจะให้ผมมารับตอนไหน หรือว่าจะไปพร้อมผมเลย ผมจะได้รอ นานไหมครับ ”
“ เอ่อ นานครับ ไปธุระก่อนก็ได้ ” บัวตองหันมามองหน้าผู้หมวดหนุ่มด้วยความแปลกใจ แค่มาสั่งข้าวทำไมต้องนานด้วย อีกอย่างเธอก็รู้สึกเกร็งมากเพราะเห็นความดุและเด็ดขาดของเขาเมื่อวานนี้
“ ถ้าอย่างนั้นผมเสร็จธุระแล้วจะมารับนายนะครับ ”
“ ได้ครับ อีกสักชั่วโมงก็ได้ ” แล้วลุงเอี่ยมก็พายเรือจากไป
“ เอ่อ เชิญผู้หมวดขึ้นบ้านก่อน อาจจะคับแคบไปหน่อย ต้องขอโทษด้วยนะจ๊ะ ” ภูผาเดินตามร่างบอบบางขึ้นไปบนบ้าน
“ ไม่หรอกครับ บ้านบัวตองน่าอยู่มากเลย ร่มรื่น ต้นไม้นี่ปลูกเองเหรอครับ ”
“ ปลูกเองจ้ะ พ่อสอนให้บัวตองปลูกตั้งแต่เด็ก พวกพืชผักสวนครัวจะได้ไม่ต้องซื้อเขา ” เธอเชื้อเชิญให้เขานั่งกับพื้นตรงนอกชานที่เป็นไม้กระดานที่ขัดถูไว้จนมันปลาบแล้วเธอก็เดินหายไปหาน้ำหาท่ามาให้ดื่ม ภูผามองไปรอบ ๆ ตัวบ้านหลังเล็ก ๆ นั้น มีการจัดเก็บอย่างเรียบร้อยและเช็ดถูจนสะอาดเอี่ยม เธอเดินกลับมาพร้อมน้ำในขันสแตนเลสลอยดอกมะลิ
“ น้ำจ้ะผู้หมวด ที่นี่มีแต่น้ำฝนลอยดอกมะลินะจ๊ะ ไม่มีตู้เย็นเลยไม่มีน้ำเย็น ”
“ ขอบคุณครับ ”
ภูผารับน้ำจากมือเธอแล้วยกขึ้นดื่ม น้ำฝนที่มีความเย็นตามธรรมชาติลอยดอกมะลิยิ่งหอมชื่นใจ หอมแบบไม่ต้องปรุงแต่ง หอมเช่นเดียวกับคนที่ตักน้ำมาให้ ภูผาเผลอตัวจ้องเธอตาหวานเยิ้มพร้อมกับกลืนน้ำลงไปราวกับว่าได้กลืนสาวเจ้าลงคอไปด้วย บัวตองหน้าแดงทันทีที่เงยหน้าไปสบสายตาคมหวานนั้น เธอรีบก้มหลบ
“ หอมมากเลยครับ ชื่นใจจัง ” ก่อนจะวางขันน้ำลงกับพื้น
“ ผู้หมวดจะสั่งข้าวกับบัวตองเหรอจ๊ะ ”
“ ครับ จะสั่งข้าว พอดีมีงบพิเศษจากทางกองทัพบกให้กองทัพอากาศของเรา จะได้ไม่ต้องเคลื่อนพลเข้าไปกินในโน้น ผมนึกถึงบัวตอง เห็นบอกว่ารับทำข้าวกล่องด้วย ”
“ จ้ะ บัวตองทำข้าวกล่องด้วย วันละกี่กล่องจ๊ะ ”
“ กำลังพลอากาศสี่สิบนาย ข้าวพร้อมขนมสลับผลไม้วันละสามมื้อ ” บัวตองตาโตแล้วยิ้มออกมาด้วยความดีใจ
“ ได้จ้ะ ขอบคุณผู้หมวดมากนะจ๊ะที่นึกถึงบัวตอง ขอบคุณจริง ๆ จ้ะ บัวตองจะได้มีเงินเก็บไว้รักษาพ่อเพิ่มอีก ” ภูผาเห็นรอยยิ้มอันเบิกบานนั้น หัวใจก็ยิ่งชุ่มชื่น
“ ทางกองทัพบกขอกำลังสนับสนุนจากกองทัพอากาศมาเป็นเวลาสามเดือน งบประมาณอาหารจะจ่ายเดือนละครั้ง นี่คือรายละเอียดของงบต่อหัว ” เธอรับเอกสารนั้นไปดูแล้วหน้าเจื่อน
“ หมายความว่าเบิกเงินได้ทีหลังเหรอจ๊ะ ” ภูผาพยักหน้า
“ บัวตองมีปัญหาเหรอ ”
“ บัวตองทุนน้อย แต่ไม่เป็นไรหรอกจ้ะเดี๋ยวไปหายืมแถวนี้เอาได้ เอามาหมุนก่อน ” ภูผามองหน้าละห้อยนั้นอย่างเห็นใจ
“ ถ้าอย่างนั้นผมจะออกเงินส่วนตัวจ่ายให้บัวตองไปก่อน เดี๋ยวกลับไปจะเข้าเมืองไปกดเงินให้นะครับ บัวตองจะได้ไม่ต้องลำบาก ” บัวตองรีบส่ายหน้าปฏิเสธ
“ ไม่ต้องหรอกจ้ะผู้หมวด บัวตองเกรงใจ ไม่เอา ”
“ นะ รับไว้เถอะ ผมขอร้อง ผมไม่ได้ลำบากอะไร นะครับ ”
สายตาอบอุ่น ถ้อยคำเอื้อนเอ่ยเว้าวอน หญิงสาวหน้าแดงอีกแล้ว พลางหลบสายตาเขาแต่ก็รับคำ
“ ถ้าอย่างนั้นก็ได้จ้ะ ขอบคุณผู้หมวดมากนะจ๊ะ ”
“ ไม่เป็นไรครับ ผมมาตั้งนานยังไม่ได้ไปสวัสดีพ่อของบัวตองเลย พาผมเข้าไปไหว้ท่านหน่อยสิครับ ” บัวตองหน้าเหลอ ไม่คิดว่าเขาจะให้ความสำคัญกับเธอและพ่อถึงเพียงนี้
“ เอ่อ ได้จ้ะ พ่อนอนอยู่ในห้อง พ่อเป็นอัมพาตช่วงล่าง เดินไปไหนมาไหนไม่ได้ ” พูดพลางเดินนำเข้าไปในห้องที่มีแคร่วางอยู่บริเวณริมหน้าต่างไม้มีร่างหนึ่งนอนอยู่บนนั้น แต่ดูเหมือนไม่ใช่ผู้ป่วยเลย ดูมีเนื้อมีหนังสดใสแข็งแรง ถ้าไม่บอกว่าป่วยก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ ร่างนั้นหันหน้ามาเมื่อพบว่ามีคนแปลกหน้ามาเยือน
“ พ่อจ๋า นี่ผู้หมวดภูผาเปิ้นเป็นทหารอากาศ มาเป็นหน่วยสนับสนุนทหารบก เปิ้นจะสั่งข้าวกับบัวตองทุกวันวันละร้อยยี่สิบกล่อง ขนมพร้อม ” บัวตองอธิบายเสียงใสจ๋อย ๆ นายบางผู้เป็นพ่อยิ้มออกมาด้วยความดีใจ
“ สวัสดีครับคุณลุง ผม ภูผาครับ ” ชายหนุ่มยกมือขึ้นไหว้ นายบางรับไหว้
“ สวัสดีครับผู้หมวด ขอบคุณมากนะครับที่เมตตาลูกสาวผมให้มีรายได้เพิ่ม แล้วลูกจะทำไหวเหรอบัวตอง ตัวกะแค่นี้ ทำคนเดียวมันจะเหนื่อยนักนะ ” ท้ายประโยคมีความเป็นห่วงพร้อมหันไปมองลูกสาว เธอยิ้มตอบ
“ แค่นี้เอง ไหวอยู่แล้วล่ะจ้ะ จะได้มีเงินเพิ่มพาพ่อไปรักษา พ่อจะได้หายไว ๆ ” ลูกสาวยื่นมือไปจับ ผู้เป็นพ่อกุมมือน้อยไว้ด้วยความรัก น้ำตารื้น
“ พ่อขอโทษนะที่เป็นภาระให้ลูก ”
“ พ่อ อย่าอู้จะอี้อีก บัวตองเสียใจนักนะ ” พ่อเขาพยักหน้าแล้วยิ้ม
“ ลุงดูสดใส แข็งแรง มีเนื้อมีหนัง ไม่เหมือนคนป่วยเลยนะครับ ”
“ ก็ลูกสาวผมดูแลดีมากเลยผู้หมวด ข้าวปลาอาหารไม่เคยขาด บังคับกินอยู่นั่นแล้ว แถมคอยกายภาพบำบัดหื้อผมเสมอ ”
“ คุณลุงโชคดีมากเลยนะครับที่มีลูกสาวน่ารักขนาดนี้ ” จบประโยคก็หันไปมองร่างบางที่นั่งกับพื้น เธอเงยหน้ามาสบตาเขาแล้วก็รีบหลบเมื่อพบสายตาหวาน ๆ นั้นจ้องมองอยู่ก่อน
“ ครับ ผมโชคดีขนาดเลยล่ะหมวด ” พลันนั้นเธอก็นึกบางอย่างออก
“ ตายแล้ว ! บัวตองนึ่งขนมไว้ บ่อใช่ไหม้แล้วก่า ”
พูดพลางรีบลุกขึ้นวิ่งออกไปด้านนอก ภูผาหันมายิ้มให้ผู้ป่วยก่อนรีบวิ่งตามไป