Demon Talk
"จะพาซารังไปไหน?"
"ไปบริษัท"
หลังเสร็จจากประชุมผมก็ยังมีเอกสารต้องเซ็นอยู่ แต่เพราะว่าไม่มากเท่าไหร่ก็เลยมีเวลาออกมาตามซารังได้และเธอต้องรับผิดชอบโดยการไปนั่งเฝ้าผมในห้องทำงานโทษฐานที่ทำให้ผมเสียเวลางาน
"ซารังไม่อยากไป"
เธอเอ่ยขึ้นแต่ผมไม่ได้สนใจ ซารังจะอยากไปหรือไม่อยากไปก็ไม่มีประโยชน์เพราะผมเป็นคนตัดสินใจ อีกอย่างถ้าปล่อยเธอกลับบ้านก็คงแอบหนีออกมาอีก เผลอๆหนีไปไกลกว่าเดิมด้วยซ้ำ เด็กคนนี้ดื้อด้านจะตายไป ส่วนนึงก็คงเป็นความผิดผมที่เลี้ยงเธอตามใจเกินไป
"เฮียยังมีงานต้องทำ อย่าสร้างความวุ่นวายได้มั๊ยซารัง"
คนข้างๆสะบัดหน้าหนีก่อนจะนั่งเงียบไปตลอดทาง ไม่รู้ว่าเมื่อกี้ผมพูดแรงไปรึป่าวแต่พอเห็นเธอซึมแบบนี้แล้วไม่ค่อยสบายใจเลยว่ะ
...ไม่เป็นไรไว้ค่อยง้อก็ได้
"ซารัง หิวรึป่าว?"
"ไม่ค่ะ"
อย่างน้อยเธอก็ยอมตอบไม่ได้ถึงขั้นงอนจนไม่พูดด้วย ซารังเป็นคนขี้น้อยใจ เวลาที่ผมดุเธอก็จะซึมอย่างที่เห็นและเป็นมาตั้งแต่เด็กจนโตไม่เคยเปลี่ยน
"นั่งรอเฮียตรงนี้"
ผมเอ่ยบอกกับเธอก่อนที่ซารังจะนั่งลงบนโซฟาและวางกระเป๋าลงบนตัก เธอหันหน้ามองออกไปนอกกระจกมองวิวด้านล่างไม่แม้แต่จะสนใจผมสักนิดเดียว
...สงสัยยังไม่หายงอน
"ซารัง..."
"เฮียไปทำงานเถอะค่ะ ซารังจะรอตรงนี้"
ผมพยักหน้าและเดินมาที่โต๊ะทำงานแต่ก็คอยมองคนที่นั่งเงียบเหม่อมองออกไปข้างนอกตรงโซฟาด้วยความเป็นห่วงลึกๆ เมื่อก่อนตอนยังเด็กซารังขี้งอนก็จริงแต่พอง้อด้วยขนมหรือของเล่นเล็กๆน้อยๆเธอก็กลับมาร่าเริงพูดคุยและเล่นกับผมเหมือนเดิม
แต่ตอนนี้เธอโตเกินกว่าที่จะล่อด้วยของพวกนั้นแล้ว อีกอย่างผมเองก็ไม่รู้แล้วว่าจะทำยังไงให้เธอหายโกรธและกลับมาสนิทกับผมเหมือนตอนเด็กๆ
...ก็ระยะห่างของเรามันมากขึ้นทุกวัน
"ถ้าง่วงก็นอนไปก่อน เฮียทำงานเสร็จจะปลุก"
ผมมองคนที่ดูท่าทางง่วงๆแล้วก็เอ่ยบอก ซารังขยับตัวนิดหน่อยก่อนจะล้มตัวลงนอนตะแคงหันหลังให้ ผมถอนหายใจนิดหน่อยก่อนจะก้มหน้าเซ็นเอกสารต่อ ทำไปได้สักพักจนเหลือเอกสารแค่สามสี่ฉบับ โทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างๆก็สั่นขึ้นมา
"ว่าไงครับน้องขวัญ"
'พี่เดม่อนทำอะไรอยู่คะ?'
ผมยิ้มเมื่อได้ยินเสียงเล็กๆของเธอ...ผู้หญิงที่สำคัญต่อชีวิตผม
"ทำงานครับ แล้วน้องขวัญอยู่ที่ไหน?"
'ขวัญอยู่โรงเรียนค่ะ กำลังจะกลับคอนโด'
"อ๋อ แล้วเงินที่พี่ให้พอใช้มั๊ยครับ?"
ผมให้เงินของขวัญเป็นรายเดือนประมาณสามหมื่นตามที่เธอขอ และมีบางครั้งที่เพิ่มเงินให้เวลาที่เธอขอเพิ่ม ซึ่งผมไม่เคยบ่นเคยว่าเพราะมันเป็นสิทธิ์ที่ของขวัญควรจะได้
...และผมอยากเห็นเธอมีความสุข
'วันนี้ขวัญไปหาพี่เดม่อนได้มั๊ยคะ?'
ผมเหลือบมองคนที่นอนนิ่งและคาดว่าจะหลับไปแล้วก่อนจะตัดสินใจเอ่ยตอบกลับไปว่า...
"ได้ครับ ให้คนขับรถมาส่งน้องขวัญที่บริษัทก็ได้ เดี๋ยวพี่ให้เลขาลงไปรับ"
'โอเคค่ะ ขสัญรักพี่เดมอนนะคะ'
"พี่ก็รักน้องขวัญครับ'
ผมวางสายก่อนจะโทรหาสตีฟให้ขึ้นมาด้านบนก่อนจะเดินไปปลุกซารังที่นอนหลับอยู่บนโซฟา
"ซารัง"
เธอค่อยๆลืมตาขึ้นมาก่อนจะสบตาผมนิ่งสักพักและค่อยๆดันตัวลุกขึ้นอย่างช้าๆ
"งานเสร็จแล้วเหรอคะ?"
"ยังหรอก แต่เฮียจะให้สตีฟไปส่งซารังที่บ้านก่อน"
"ทำไมคะ?"
ผมไม่กล้าบอกเธอว่าของขวัญจะมาที่นี่ พอๆกับที่ไม่กล้าบอกของขวัญว่าซารังอยู่ที่นี่เช่นกัน ผมยังไม่พร้อมให้ทั้งคู่ได้เจอกันตอนนี้
"นอนตรงนี้มันไม่สบายหรอก กลับไปนอนที่บ้านเถอะ"
"ถ้าเฮียต้องการแบบนั้นก็ได้ค่ะ"
ผมไม่ได้รู้สึกไปเอง แต่ซารังดูเปลี่ยนไปทั้งน้ำเสียงและเเววตาที่เรียบนิ่งซะจนใจผมกระตุกวูบ เธอหันหลังเดินออกไป ไม่มีรอยยิ้มหรือแม้แต่จะบอกลากันเหมือนเมื่อก่อน
...หรือยังโกรธเรื่องเมื่อคืนอยู่วะ?
ผมสะบัดหัวพยายามไม่สนใจเพราะอีกไม่นานของขวัญก็จะมาถึงแล้ว และผมไม่ต้องการให้เธอเห็นสีหน้าเคร่งเครียดเพราะกลัวเธอจะไม่สบายเอาเปล่าๆ
"พี่เดม่อน!"
หลังซารังกลับไปได้เกือบครึ่งชั่วโมง ของขวัญก็มาถึง ร่างเล็กในชุดนักเรียนวิ่งเข้ามาหา ทันทีที่เจอหน้าเธอก็ตรงเข้ามาสวมกอดผมจนตัวลอย
"ติดถึงพี่เดม่อนจังเลยค่ะ"
"พี่ก็คิดถึงขวัญ วันนี้เรียนเหนื่อยมั๊ยครับ?"
"ไม่เหนื่อยค่ะ ขวัญชอบเรียน"
ของขวัญเป็นเด็กเรียนเก่ง ขยันและเป็นเด็กเรียบร้อยมีสัมมาคารวะ ยกเว้นตอนอยู่กับผมที่เธอจะไม่ค่อยเรียบร้อยสักเท่าไหร่ ออกจะร่าเริงเเละซุกซนเกินไปด้วยซ้ำ รอยยิ้มกว้างน่ารักของเธอทำให้ผมคลายเครียดได้เป็นอย่างดี
"ขวัญหิวข้าว ไปกินข้าวกันนะคะ"
"ได้ครับ น้องขวัญอยากกินอะไร?"
"อืม อะไรก็ได้ ขอแค่ไม่มีกุ้งก็พอ"
ของขวัญแพ้กุ้งเพราะงั้นผมจึงไม่ค่อยพาเธอไปกินร้านอาหารทะเลเพราะกลัวว่าเธอจะเผลอไปกินอาหารที่มีส่วนผสมของกุ้งโดยไม่รู้ตัว
"งั้นกินพิซซ่าของโปรดน้องขวัญดีมั๊ย?"
เด็กน้อยของผมพยักหน้ารัวก่อนจะตรงเข้ามาเกาะเเขน
"ดีค่ะ งั้นไปกันเลยดีกว่าเนอะ"