หลังจากที่กลับมาจากโรงพยาบาลขจีก็ให้ชายหนุ่มเข้าพักผ่อนในห้องพักทันที ทั้งยังเอ่ยย้ำให้พนักงานนำอาหารไปให้ชายหนุ่มทานเพราะตั้งแต่ช่วงพลบค่ำเขายังไม่มีข้าวตกถึงท้องสักเม็ด
“เดี๋ยวธิชาเอาไปให้เขาเองค่ะ”
“ไปสิลูกแต่กลับมาเรามีเรื่องต้องคุยกันยาว”
“ค่ะ” หญิงสาวตอบกลับเสียงแผ่วเบา ธาริกาถือถาดอาหารไปให้ชายหนุ่มถึงห้องพัก รอไม่นานชายหนุ่มก็เปิดประตูออกมาในสภาพเปลือยท่อนบน
“ว้ายบัดสี!” หญิงสาวตกใจจนแทบจะปล่อยถาดอาหารทิ้ง
“ขอโทษที่รบกวนเวลาคุณค่ะ”
“แทนตัวเองว่าคุณอีกแล้วนะครับ” ชายหนุ่มทำหน้าหงอยๆเมื่อได้ยินคำสรรพนามแสนห่างเหินหลุดออกมาจากปากของหญิงสาว
“ก็เราไม่ได้สนิทกันจริงๆนี่คะ” เธอตอบกลับตามความเป็นจริง เขาก็แค่คนเคยรู้จักที่ไม่น่าจดจำคนหนึ่งเท่านั้น
“เรียกพี่เถอะนะครับถือว่าพี่ขอ ว่าแต่พี่ขอธิชาอะไรอย่างหนึ่งสิ”
“อะไรละคะ”
“ช่วยใส่เสื้อให้พี่หน่อยได้ไหมมันยกแขนลำบาก”
“วุ่นวายจริงเชียว” เธอบ่นเขาเบาๆแต่ก็ยอมทำตามคำขอของเขาเพราะเห็นว่าเขาเจ็บตัว เธอต้องหายใจเข้าลึกๆอย่างทำสมาธิก็เพราะกล้ามเนื้อหน้าท้องเป็นลอนเนื้อตัวขาวอมชมพูของเขาทำสมาธิเธอแทบแตกกระจาย แม้จะดูเก้ๆกังๆแต่สุดท้ายก็ใส่เสื้อให้เขาสำเร็จ
“ขอบคุณครับ” เขากล่าวขอบคุณยิ้มเต็มใบหน้า
“ขอตัวค่ะ”
“เดี๋ยวสิครับ”
“มีอะไรอีกละคะ”
“พรุ่งนี้พี่ขอไปทานข้าวด้วยคนสิครับ”
“ทานข้าว?”
“ก็ธิชาชวนคุณหมอมาไม่ใช่หรอครับ พี่ก็อยากจะขอบคุณคุณหมออีกครั้ง” งานนี้เขาขออ้างคุณหมอหนุ่มหน่อยเถอะ
“เดี๋ยวธิชาถามคุณป้าให้นะคะ”
“แล้วพี่จะรู้ได้ยังไงละครับว่าอนุญาตไหม”
“จะไปยากอะไร...”
“พี่ว่าเอาไลน์ของธิชามาดีกว่าครับ” ชายหนุ่มชิงขอไลน์ก่อนที่หญิงสาวจะพูดจบประโยค
“ให้พนักงานเดินมาบอกไม่ง่ายกว่าหรอคะ”
“นี่มันยุดสมัยไหนแล้วครับไลน์มานั่นแหละครับไม่ต้องเหนื่อยเดินมาตาม”
“เจ้าเล่ห์อย่างนี้คงจะขอไลน์สาวบ่อยน่ะสิคะ” ใจคิดอย่างไรเธอก็พูดออกไปอย่างนั้น
“…” ชายหนุ่มถึงกับเถียงไม่ออกแต่ก็แอบอมยิ้มที่มุมปาก
“คงจะจริงสินะ” สีหน้าของเธอบ่งบอกถึงความไม่พอใจชัดเจน
“หึงพี่หรอครับ”
“มโนค่ะ ฉันต้องไปแล้วคุณป้ารอ”
“ก็ได้ครับ ฝันดีนะครับฝันถึงพี่ด้วยนะครับ” หญิงสาวหมุนตัวเดินออกไปทันที เมื่อกลับเข้าบ้านมาอีกครั้งคุณป้าคนสวยก็นั่งรออยู่ก่อนแล้ว
“เรียบร้อยใช่ไหมลูกป้าเห็นหายไปนานสองนานเลย”
“เรียบร้อยดีค่ะ” เธอเดินมานั่งลงข้างๆท่าน
“บอกป้าหน่อยได้ไหมว่าเขาสำคัญกับหนูใช่หรือเปล่า”
“ทำไมคุณป้าถามแบบนั้นละคะ”
“ก็เพราะหนูห่วงเขามากกว่าความปลดภัยของตัวเอง”
“อะ เอ่อ...”
“มีอะไรอยากบอกป้าหรือเปล่าลูก”
“ธิชายอมรับก็ได้ค่ะว่ารู้จักกับเขามาก่อนหน้านี้”
“ตอนไหนล่ะลูก”
“ตอนเรียนมัธยมค่ะ”
“นานมากแล้ว”
“ใช่ค่ะ”
“....”
“เขาเป็นรักแรกของธิชาค่ะ จะบอกว่ารักแรกคงไม่ถูกนะคะเพราะธิชากับเขาไม่เคยคบกัน”
“อ้าวมันยังไงล่ะลูก”
“ธิชาแอบชอบเขาฝ่ายเดียวค่ะและเรื่องของเขาก็คือจุดแตกหักของธิชากับพี่กิ่งค่ะ”
“ตายจริงนี่หนูชอบผู้ชายคนเดียวกับกิ่งหรอลูก”
“พี่กิ่งเขาไม่ได้ชอบคุณต้นน้ำหรอกค่ะ ส่วนเขาธิชาไม่แน่ใจว่าชอบพี่กิ่งจริงๆหรือเปล่า” นี่เป็นสิ่งที่ติดค้างในใจของเธอมาตลอดแต่ไม่กล้าถามเขาออกไป เมื่อหลายปีก่อนพอชายหนุ่มเลิกส่งดอกไม้และข้าวของต่างๆให้กิ่งกมลก็ดูเหมือนเรตติ้งของหญิงสาวจะตกฮวบ เธออยากรู้ว่าแม่น้องสาวตัวดีทำอย่างไรผู้ชายคนนั้นถึงได้หยุดส่งสิ่งของต่างๆทันที กิ่งกมลตัดสินใจถามน้องสาวตรงๆว่าทำอย่างไร ธาริกาก็บอกตามตรงว่าของที่ให้ถูกนำไปทิ้งเขาคงจะนึกเสียดายเงินบ้างแหละแต่คนเป็นพี่ไม่เชื่อและยังคงหาเรื่องเธอต่อ
“หึ อย่าบอกนะว่าความจริงเธอชอบคนที่มาจีบฉัน”
“…”
“นิ่งแบบนี้แสดงว่าใช่ ฉันว่าแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ เธอมันก็เหมือนแม่เธอนั่นแหละ”
“พี่ไม่มีสิทธิมาว่าแม่ของธิชานะ ถ้าธิชาชอบเขาแล้วพี่จะทำไมในเมื่อพี่ไม่ได้ชอบเขาสักนิด”
“ก็เพราะคนที่ชอบฉันห้ามชอบเธอยังไงล่ะ ดูอย่างคุณพ่อสิ ฉันต้องแบ่งความรักที่คุณพ่อมีให้ฉันคนเดียวไปให้แกด้วย”
“ธิชาก็เป็นลูกของคุณพ่อเหมือนกันนะคะ” เธอตอบกลับอย่างรู้สึกกรุ่นโกรธ ทำไมกิ่งกมลถึงได้ใจร้ายใจดำขนาดนี้ก็ไม่รู้
“ทะเลาะอะไรกันลูก” เสียงสองพี่น้องทะเลาะกันดังออกไปถึงหน้าบ้านจนคนเป็นพ่อรู้สึกเป็นห่วงว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
“ก็ยัยลูกรักของพ่อจะมาแย่งหนุ่มๆของหนูไปน่ะสิคะ” กิ่งกมลรีบฟ้องคนเป็นพ่อ
“ว่าไงนะลูก”
“คุณพ่อนะคุณพ่อไม่น่าไปทำคนใช้ในบ้านท้องเลย” กิ่งกมลรู้สึกโกรธแค้นแทนคนเป็นแม่เสมอ เธอรู้ว่าคนเป็นแม่ต้องปวดใจแค่ไหนที่ต้องอยู่ร่วมชายคาเดียวกันกับเมียน้อย แถมคนเป็นพ่อยังเชิดหน้าชูตายัยธิชาอีก เธอเกลียดสองแม่ลูกนั่นเข้าไส้
“อย่าพูดอะไรบ้าๆอย่างนั้นนะกิ่งกมล” คนเป็นพ่อตอบกลับเสียงเข้ม การที่คนเป็นพ่อเรียกชื่อจริงของเธอแสดงว่าท่านกำลังโกรธมาก
“ทำไมคะทำไมกิ่งจะพูดไม่ได้”
“ก็เพราะสิ่งที่ลูกพูดมันไม่ใช่ความจริงน่ะสิ”
“หมายความว่ายังไงคะคุณพ่อ” สองสาวประสานเสียงพร้อมกันด้วยความสงสัย