บทที่ 4 เหยื่อมาหาถึงที่

1506 คำ
ดอร์ริกเดินย่างก้าวเข้ามาในห้องที่สำหรับใช้ แคสนักแสดงหน้าใหม่ในสังกัด ทุกย่างก้าวของเขาทำเอาสาวๆกรี๊ดสนั่นหัวใจแทบวาย ด้วยใบหน้าที่หล่อเหลาตามสไตน์ลูกครึ่ง ความสูงยาวเข่าดีสะดุดตาสะดุดใจสาวน้อยสาวใหญ่สาวสอง ทำไมดอร์ริกจะไม่รู้ว่าเขาเป็นที่หมายตาของสาวๆ แต่มีแม่สาวดอกของเขาที่วิ่งหนี เขาทำอะไรพลาดตรงไหน ดอร์ริกเดินเข้าไปนั่งตรงโต๊ะกรรมการ ใจหนึ่งนั่งรอคำตอบจากลูกน้องคนสนิทว่าหาสาวดอกเจอหรือเปล่า ลูกน้องของเขาช่างทำงานไม่ได้เรื่อง จนป่านนี้ยังหาสาวดอกของเขาไม่เจอ ดอร์ริกกำลังนั่งคิดถึงสิ่งหนึ่งที่แม่สาวดอกทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า คือกางเกงในลายดอกที่เข้าชุดกับคืนนั้น เธอคงรีบจนลืมทิ้งชิ้นส่วนไว้ให้เขาดูต่างหน้า เขาสงสัยวันนั้นแม่สาวดอกของเขาไม่รู้สึกโล่งช่วงล่างบ้างหรือไง "คุณดอร์ริกพร้อมแล้วหรือยังครับผมจะได้ให้กรรมการเริ่มเลย" ใบหน้าที่เคร่งเครียดของดอร์ริกที่แสดงออกมา ทำให้กรรมการที่นั่งอยู่ไม่กล้าทำอะไร จนต้องส่งตัวแทนคือเลขาคนสนิทออกหน้าแทน "เริ่มเลยผมมีงานที่ต้องไปทำอีกหลายอย่าง" ดอร์ริกต้องวางเรื่องแม่สาวกางเกงในลายดอกลง และเพ่งเล็งไปที่สาวสวยคนแล้วคนเล่า ที่มีหน้าพิมพ์เดียวกันสงสัยอาศัยกังนัมเป็นพิมพ์นิยม และแล้วดอร์ดิกก็ต้องสะดุดกับสาวชุดแดงที่เดินเข้ามาดุจนางพญา สาวเจ้าที่ทิ้งกางเกงในลายดอกไว้ให้เขาดูต่างหน้า "อีมีฮีมึงว่าผู้ชายคนนั้นหน้าตาคุ้นๆไหม" เมื่อเดินมาถึงบริเวณที่เขาจะให้มาแคสนักแสดงหน้าใหม่ สายตาเจ้ากรรมของเดมี่ก็เหลือบไปเห็นผู้ชายหน้าตาดีที่เดมี่รู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างมาก เดมี่พยายามคิดแล้วคิดอีกว่าเคยเจอที่ไหน "อีเดมี่มึงพูดเป็นเล่นเราจะเคยเห็นได้ยังไงตั้งแต่มาอยู่เมืองกรุงเราไม่เคยออกไปไหน ไปที่เดียวก็คือที่นั่น แล้วผู้ชายพวกนั้นจะโผล่มาให้เราเห็นได้ยังไงกัน มึงรอกูอยู่นี่แหละ เดี๋ยวกูเข้าไปวาดลวดลาย ทำแสดงให้ทุกคนเห็นดวงดาวดวงใหม่ของวงการบันเทิง" นั่นแหละคือตัวตนของมีฮีที่มั่นฮีได้ทุกที่ทุกเวลา "เออ!!อีสวยไปหมด อีสวยไม่หลือ อีสวยไม่บังยะบังยัง" มีฮีหันมามองหน้าเพื่อนสาว "อีเดมี่มึงกำลังชมกูอยู่จริงๆใช่ไหม สรุปว่ามึงชมกูว่ากูสวยกูเข้าใจถูกต้องใช่ไหม" มีฮีถามย้ำกับเพื่อนสาวเพื่อความมั่นใจ เดี๋ยวนี้เดมี่มันชอบหลอกด่า เธอหวังว่าเดมี่คงไม่หลอกด่าอีกครั้ง "เออ กูชมมึงว่าสวยไปหมด" ความสวยมึงนะไปหมดแม้กระทั่งสมอง อันนี้เดมี่พูดต่อเองในใจไม่อยากพูดออกมาให้เพื่อนสาวของนางสะเทือนไต "มึงรีบไปเถอะเครื่องบินกำลังจอดรอรับมึงอยู่ข้างหน้าพามึงโกอินเตอร์สมใจ ว่าแต่มึงอย่าก้าวขาพลาดแล้วตกลงจากเครื่องบินแล้วกัน เที่ยวนี้มันอาจเป็นเที่ยวสุดท้ายของมึงแล้วก็ได้" เดมี่มันพูดจากำกวมให้มีฮีที่ขบคิดอีกแล้ว ช่วงนี้โอเมก้าสามไม่ได้ตกถึงสมอง นอนก็น้อยเลยคิดอะไรไม่ทันเพื่อนสาวอีก มันคงจะอวยพรให้ขึ้นสู่เส้นทางบันเทิงนั่นแหละ มีฮีจึงก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ และหยุดยืนต่อหน้ากรรมการ สายตา ของมีฮีก็ไปปะทะตาสีน้ำข้าวคู่หนึ่ง ซึ่งมีฮีไม่มีวันลืมความใหญ่ยาวขาวอวบนั้นได้ "อุ๊ตะ ฮีหกตกกระโถน" มีฮีตาค้างไม่นึกว่าหนุ่ม โฮสกรวยใหญ่จะนั่งเป็นกรรมการด้วย ตายแล้ว มีฮีเธอจะทำยังไงต่อไปดี ชีวิตสู่เส้นทางดวงดาวเธอจบแน่ เงินก็ยังไม่ได้จ่ายเขาไปดันวิ่งหนีเขาออกมาก่อน แค่เห็นสายตาคาดโทษเธอน่าจะไม่รอดแล้ว หรือว่าต้องโอนเงินให้นายนั่นก่อน แต่จะโอนเงินให้เธอก็ยังไม่จับไม่ได้ลูบได้คลำเลยนะ หรือจ่ายแล้วนัดคลำอีกรอบดี "เชิญคุณแนะนำตัวเองก่อน ก่อนจะเริ่มแสดงความสามารถของคุณให้พวกเราตัดสินใจ" อยู่ๆกรรมการท่านหนึ่งก็โพล่งขึ้นมาดื้อๆ ทำให้มีฮีตกใจอย่างมาก "ห่าเอ้ย ค*ยทิ่มฮี" ด้วยความที่ตกใจไม่ทันตั้งตัวมีฮีก็อุทานเสียงดัง จนกรรมการยังงงแม้แต่ดอร์ริก เธอปล่อยคำแปลกใส่เขาอีกครั้งแล้ว "คุณว่าอะไรนะคะพวกเราฟังไม่ค่อยเข้าใจค่ะ" กรรมสาวอีกคนถามขึ้นมาทันทีเมื่อไม่เข้าใจสำนวนของเธอ "ปะ เปล่า ฉันแค่ตกใจเสียงนิดหน่อยค่ะมันเป็นแค่คำอุทานไม่มีอะไรเลย" มีฮีรีบแก้ตัวก่อนที่กรรมการจะตัดสิทธิ์ แต่สายตาของไอ้กระดอใหญ่ยังคงจ้องมองที่เธอตลอด ไอ้กระดอมีปัญหาอะไรกับเธอนักหนาแค่เงินไม่กี่บาทถึงกับมองเธอตาไม่กระพริบ "สวัสดีค่ะกรรมการทุกท่าน ดิฉันชื่อเพชรลดา นวลละออ ชื่อเล่นมีฮีค่ะ ความสามารถต่างๆ เป็นนักร้องนำค่ะ" มีฮีแนะนำตัวและความสามารถต่างๆของเธอให้กับกรรมการทุกคนรู้ด้วยความภาคภูมิใจ "คือผมสงสัยชื่อเล่นของคุณครับ ไม่ทราบว่าคุณเป็นลูกครึ่งเกาหลีหรือเปล่าครับ ชื่อมันออกแนวๆนั้น" หนึ่งในกรรมผู้ชายคนนั้นถามเธอมาด้วยความสงสัย นามสกุลของเธอก็ไม่ใช่เกาหลี หรือว่าจะตั้งให้มันดูดี "มีฮี มาจากลูกผู้หญิงที่ต้อง มีอันนั้นของผู้หญิงค่ะ แม่ของมีฮีมองว่าถ้าจะตั้ง มี...มันจะดูแปลกๆ เลยเปลี่ยนพยัญชนะจาก ห เป็น ฮ แทนค่ะ" ด้วยความภาคภูมิ ความใสซื่อ ความบ้า หรืออะไรไม่รู้มีฮีพูดความจริงออกไปให้ทุกคนรับรู้ เดี๋ยวจะหาว่าเธอแสแสร้ง เดมี่ที่ฟังเพื่อนสาวอยู่ข้างนอกถึงกับเอามือปาดเหงื่อกับคำพูดของเพื่อนสาว กรรมการในห้องถึงกับปล่อยก๊ากออกมา มีฮียังยิ้มรับเหมือนเดิม "คุณมีฮีจะแสดงความสามารถอะไรให้กรรมการดูครับ เชิญแสดงได้เลยนะครับ" "วันนี้มีฮีจะร้องเพลงเพราะๆให้กรรมการได้ชมและรับฟังพร้อมกับเต้นประกอบเพลงค่ะ" มีฮีซ้อมมาเป็นอย่างดีรับรองกรรมการเห็นต้องเลือกเธอเป็นอับหนึ่ง "ขอดนตรีค่ะ" แล้วมีก็ขอซาวด์ที่ได้ตกลงไว้กับ Staff เรียบร้อยก่อนเข้ามาห้องนี้เมื่อเธอส่งสัญญาณ จังหวะเพลงมามีฮีก็เริ่มร้องและเต้นตามเสียงดนตรี ทุกคนตกตะลึงค้างอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อมีฮีเห็นว่ากรรมถึงกับตาค้างกับการแสดงความสามารถพิเศษของเธอ เธอยิ่งปล่อยพลังออกมาอย่างเต็มที่ เธอต้องชนะแน่งานนี้เธอไม่มีวันพลาด ดูจากสายตาของทุกคนที่มองมาที่เธอเป็นตาเดียวกันหมด บวกกับความสวยเส้นทางสายนี้อยู่แค่เอื้อม "พอเถอะค่ะ พวกเราเชื่อคุณแล้วว่าคุณเป็นนักร้องนำจริงๆ ร้องนำเพลงทุกท่อน และเต้นค่อมทุกจังหวะ ผมว่าคุณไม่จำเป็นต้องเตรียมดนตรีมาก็ได้ เต้นดิบไปเลยดีกว่านะครับ" กรรมการผู้ชายคนเดิมพูดกับมีฮี "ฉันร้องและเต้นมีมากใช่ไหมคะถึงไม่ต้องใช้เสียงดนตรีประกอบ ฉันก็บอกคุณแล้วว่าฉันเป็นนักร้องนำ และเต้นค่อม ฉันเต้นและร้องแบบไม่มีเสียงดนตรีก็ได้นะคะ พวกคุณจะลองฟังดูไหมคะ" กรรมการทุกคนถึงกับเอามือกุมที่ขมับ นี่พวกเขาต้องนั่งทนฟังอีกเหรอ แค่เมื่อกี้พวกเขาก็แทบสำลักตายอยู่แล้ว "ไม่ต้องแล้วค่ะ วันนี้เราจะแสดงความสามารถกันแค่นี้ เดี๋ยวพวกเราจะติดต่อกลับไปเชิญคุณกลับไปรอฟังผลที่บ้านได้เลยนะคะ" กรรมการหญิงกล่าวขึ้น "สรุปฉันได้แสดงละครแล้วใช่ไหมคะ วันไหนพวกคุณจะให้ฉันมาเริ่มงานคะ ฉันขอเวลาสักอาทิตย์เพื่อไปขัดตัวก่อนได้ไหมคะ พวกคุณคงไม่รีบมาก" กรรมการแทบประสาทแดก มีฮีของเรายังมั่นใจเสมอเดินยิ้มออกไปหาเพื่อนสาวของเธอ มีฮีเป็นคนสุดท้ายแล้วของวันนี้ กรรมการทุกคนจึงต้องประชุมลงความเห็นคัดเลือก ส่วนดอร์ริกยังคงนั่งยิ้มกรุ้มกริ่ม ไม่ต้องตามหาเจ้าของนาสามจังหวัดอีกแล้ว อยู่ๆเธอก็เดินเข้ามาเขาเอง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม