ดวงตากลมโต เห็นร่างสูงใหญ่ยืนโดดเด่นไม่เคลื่อนไหว ราวกับเป็นภูเขาหินอีกลูกในสวนแห่งนั้น
จ้านซานป๋อ เพียงแค่นางเรียกเขาในใจ ความรู้สึกกดดันอย่างมหาศาลก็ทาบทับไหล่สองบ่าน้อยๆ นี้
เมื่อครู่นางพบกับหลี่หมิง ซึ่งบอกให้นางต้อนรับอีกฝ่ายไปก่อน ด้วยเขาจะไปเตรียมบางสิ่งเพื่ออวดแม่ทัพหนุ่ม
“เสี่ยวชิง นานๆ ต้าเกอตัวจริงของเจ้ากลับเมืองหลวง สมควรปรนนิบัติเขาให้ดีรู้หรือไม่”
หลี่หมิงยกให้จ้านซานป๋อเป็นพี่ใหญ่ ทั้งเคารพ ทั้งนอบน้อมอีกฝ่าย หลี่หวางชิงก็ไม่คิดคร้าน ตั้งแต่มาอยูในร่างนี้ นางพยายามไม่สร้างปัญหากับคนในบ้าน และหลี่หมิงผู้นี้ เพียงแค่สัมผัสตัวตนเขา วิญญาณที่มาจากโลกอื่นรับรู้ได้ว่าเขาเป็นบุรุษที่ดีผู้หนึ่ง ผิดแต่ขาดเล่ห์เหลี่ยมไปสักหน่อย กระนั้นต้องยอมรับว่านางพึ่งพาเขาได้มากกว่าผู้อื่นในจวนใต้เท้าหลี่
“น้องสี่ย่อมต้องดูแลต้าเกอของพี่ใหญ่อย่างดีที่สุด”
“เจ้านี่นะ อย่าจ้องแต่แขวะพี่เลย แม่ทัพจ้านดีกับเราแค่ไหน น้องสี่ย่อมรู้แก่ใจ”
หลี่หมิงเอ่ย และยิ้มให้นาง ยามนั้นหลี่หวางชิงมองอีกฝ่าย พยายามค้นหาว่าเหตุใดเขาถึงได้ปลื้มจ้านซานป๋อ ทว่าไม่มีภาพปรากฏให้เห็น และพบแต่ความเอ็นดูที่หลี่หมิงมีให้นางผ่านสายตารักใคร่
“ข้ารู้ว่าเขาเป็นคนเก่ง กล้าหาญ และยังเผด็จการ!”
“พี่ป๋อ คือบุรุษทรงเกียรติและมีอำนาจ เจ้าควรให้ความเคารพเขา อย่าได้ทำกิริยามิงามให้เป็นที่ขุ่นเคืองใจ มิเช่นนั้นหน้าที่การงานพี่อาจไม่ราบรื่น”
หมี่หลิงแกล้งข่มขู่น้องสาว และแม้เขาเป็นเพียงขุนนางขั้นสี่ แต่ก็ไม่เดือดร้อนอันใด เขาไม่ชอบการรับใช้ในวังหลวง ไม่ขยันเขียนรายงาน การประดิษฐ์สิ่งต่างๆ ช่วยกองทัพ นับว่าเป็นเรื่องที่ทำให้เขามีความสุขมาก และจ้านซานป๋อก็เป็นผู้หยิบยื่นโอกาสนี้ให้เขา และยังคอยชื่นชมหลี่หมิง ต่อหน้าฮ่องเต้อยู่เสมอ หลี่หมิงจะได้รับงานชิ้นพิเศษจากฮ่องเต้ นั่นจึงหมายความว่าอนาคตเขาย่อมไม่ตกอับ
“เช่นนั้น ข้าสมควรใช้ ‘แผนคนงามซื้อใจแม่ทัพจ้าน’ เพื่อให้เขาช่วยเลื่อนขั้นพี่หมิง ดีหรือไม่”
หลี่หมิงชอบใจ แล้วยกมือไล่น้องสาวให้ไปดูแลจ้านซานป๋อ ทว่าพอนางหมุนตัวหันหลัง เขาเพิ่งสังเกตเห็นว่า น้องสาวสวมเสื้อคลุมสีเหลืองและลวดลายขัดตายิ่ง อีกทั้งนางแต่งหน้าวาดคิ้ว ทาปากสีสันบาดตาจนเกินพอดี ทว่าพอจะร้องทัก หลี่หวางชิงก็ก้าวจากไปราวกับนางเหาะเหินได้
ยามนี้เมื่อเห็นบุรุษผู้นั้นเต็มสองตา หลี่หวางชิงอยากก้าวหนีไปเสีย แต่สองขานางคล้ายถูกตอกตรึงไว้บนพื้น กระทั่งภูเขามนุษย์ลูกนั้นเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าฟาดเข้ามาหานาง มือใหญ่ๆ ที่มีพลังมหาศาลก็ยื่นมาบีบหัวไหล่บาง เขาออกแรงบีบรุนแรงคล้ายต้องการให้กระดูกในร่างนี้แหลกสลาย
ดวงตาคมกริบของจ้านซานป๋อ เมื่อเห็นร่างงามในเสื้อผ้าชุดสวย และเสื้อคลุมปักลายดอกแปะก๊วย ก็ทำให้หัวใจเขาปวดหนึบ นางจิ้งจอกน้อย จงใจท้าทายเขา เรื่องนี้ย่อมไม่อาจเป็นอื่น และยังกล้าหาญมากพอที่จะทำให้เขาแสดงความดิบเถื่อนออกมา หลี่หวางชิงอวดดีเกินไปแล้ว!
ดวงตากลมโตจ้องคนตัวสูงใหญ่อย่างไม่เกรงกลัว เขาบ้าไปแล้วหรืออย่างไร ถึงได้กระทำรุนแรงต่อสตรี หญิงสาวอยากหวีดร้องตวาดใส่ อยากตบตี อยากกระทืบเขาด้วยสองเท้า ทว่าริมฝีปากงามที่แต้งสีสดกับไร้เสียงใดเล็ดลอด
“เป็นเจ้าสินะ ที่ทำให้อี้เอ๋อร์ร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด อีกทั้งนางเตรียมกินยาฆ่าตัวตาย ทั้งหมดล้วนเป็นฝีมือเจ้า คุณหนูสี่ผู้อมหิต” เขาเอ่ยถึงจ้านปี่อี้ หลังจากกลับจวนแม่ทัพในวันที่ได้พบกับถังมู่เหริน น้องสาวเขาก็เหม่อลอย ก่อนคิดสั้นในเวลาต่อมา
หลี่หวางชิงหวีดเสียงแหลมสูง ใจนางเดือดปุดอย่างที่สุด
เหตุใดประตูขุมนรกอย่างจ้านซานป๋อ ถึงได้โยนข้อกล่าวหาบัดซบให้นาง
หลี่หวางชิงสูดลมหายใจลึก เมื่อรวบรวมสติและพลังได้ นางจึงแหวใส่เขา “ธุระของข้าหรือ ที่ต้องชี้นำผู้อื่นเช่นนั้น”
“หึๆ ๆ เพราะเจ้าคือสตรีร้ายกาจ ชอบสร้างเรื่องให้ผู้อื่นเดือดร้อน เจ้าบ้านถังน้อยก็เป็นเจ้าที่นัดแนะเขาให้ไปพบ สตรีที่ไม่อยู่ในขนบธรรมเนียม ไม่รักนวลสงวนตัว ยังนับว่าใช้ได้หรือ”
“ฮิๆ ๆ ข้าเพิ่งรู้ว่า แม่ทัพจ้าน หูตากว้างไกล และยังสนใจเรื่องลับๆ ของหนุ่มสาว มิน่าถึงได้เดือดร้อนเมื่อเห็นโฉมงาม รอพบบุรุษอยู่ที่สวนในศาลต้าฟู่ คงอยากรู้ว่าเจ้าบ้านถังน้อย…เกี้ยวสตรีได้หวานหยดย้อยสักแค่ไหน ใช่หรือไม่”
ถูกยั่วโมโหเช่นนั้น จ้านซานป๋อจึงหัวเราะเสียงดุเข้ม มือใหญ่ปล่อยหัวไหล่บาง ก่อนกระทำในสิ่งที่เขาไม่อาจระงับโทสะไว้ได้ ยามนั้น เขาระลึกถึงทหารที่ภักดีต่อตน ทั้งญาติพี่น้องหลายคน รวมถึงบิดาและอนุฉินที่สู้ศึกช่วยถ่วงเวลาไม่ให้ชาวเผ่านอกด้านนำกำลังไปสมทบพรรคพวกเพื่อเข้าโอบล้อมทัพจ้านซานป๋อซึ่งขณะนั้นติดอยู่ในค่ายกล
แม้ศึกครั้งนั้น จ้านซานป๋อสามารถเอาชนะพวกเผ่านอกด่านกับแคว้นฉีสำเร็จ แต่เมื่อรีบรุดนำกำลังมาหาบิดาที่หมู่บ้านแปะก๊วย กับพบว่าทุกคนสิ้นชีพทั้งหมด
ภาพเลวร้ายยังติดตาเขา เลือดสีแดงฉานชโลมต้นแปะก๊วย ศพนับร้อยถูกห้อยแขวนบนต้นไม้ทั่วทั้งหมู่บ้าน ด้วยศัตรูต้องการข่มขวัญและประกาศชัยชนะของตน!
ดังนั้นสีเหลือง และดอกแปะก๊วยจึงเป็นสิ่งที่เขาเกลียดมากที่สุด มันคือการหยามหมิ่นเขา
เสื้อคลุมสีเหลืองที่ทอจากผ้าไหมเนื้องาม ปักเป็นลายดอกแปะก๊วยถูกกระชากออกจากร่างกายหลี่หวางชิง เสียงผ้าขาดดังอย่างน่าตื่นตระหนก หลี่หวางชิงหน้าซีดเผือด นางทำสิ่งใดไม่ได้ในช่วงเวลานั้น และครั่นคร้ามใจจนตัวสั่น จ้านซานป๋อคนหยาบช้า เขาหวังจะข่มเหงนางในสวนหินใช่หรือไม่!