bc

ภวินทร์หลงเมีย

book_age18+
6.9K
ติดตาม
37.8K
อ่าน
จบสุข
โอกาสครั้งที่สอง
หวาน
ออฟฟิศ/ที่ทำงาน
like
intro-logo
คำนิยม

เพราะเผลอไปไข่ทิ้งไว้โดยไม่รู้ตัว 'ภวินทร์' ที่ไม่ชอบการผูกมัดจึงแทบพลิกแผ่นดินตามหาเธอคนนั้น แต่โชคชะตาดันเล่นตลกเหวี่ยงเธอกลับเข้ามาในชีวิตอีกครั้งพร้อมกับเด็กน้อยที่หน้าตาละม้าย...คล้ายเขาไม่มีผิด!

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
บทนำ
เวลา 23.16 น. Zin rooftop bar (ซิน รูฟท็อป บาร์) ซิน รูฟท็อป บาร์เป็นบาร์น้องใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมจากเหล่าผีเสื้อราตรีทั่วทุกสารทิศ อาจเป็นเพราะดนตรีที่หลากหลายไม่จำเจรวมไปถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่คัดมาทุกเกรดตั้งแต่ยาดองจนถึงเตกีล่าล่ะก็ใช่ แต่ทว่าเหตุผลหลักที่ทำให้โต๊ะเต็มทุกวันเพราะลูกค้าภายในบาร์แห่งนี้ล้วนสวยหล่อดูดีราวกับคัดเกรดหน้าตาเข้ามาในร้านต่างหาก ไม่แปลกที่ใคร ๆ ต่างก็อยากออกล่าหาเหยื่อเนื้อหวาน ๆ มาลิ้มลอง ยิ่งเวลาใกล้จะเข้าวันใหม่เท่าไหร่ บรรยากาศภายในร้านกลับยิ่งครึกครื้นมากเท่านั้น นักเต้นเท้าไฟกลางฟลอร์ยืนเบียดเสียดกันแน่น แต่กระนั้นก็วาดลวดลายโชว์ของกันไม่เว้นช่วง แสงไฟมืดสลัวแซมด้วยสปอร์ตไลท์ตามมุมร้านที่สาดส่องและกระพริบตามจังหวะเบส เสียงเพลงฮิตติดกระแสเรียกให้ฝูงชนโยกศีรษะและร่างกายตามจังหวะได้ไม่ยาก ขวดเบียร์และขวดเหล้าแสงนำทางวางตั้งไม่ต่ำกว่าสี่ขวดเกือบทุกโต๊ะ ชั้นสองของบาร์เป็นโซนวีไอพีถูกกั้นด้วยเชือกกำมะหยี่สีแดงเลือดนก การ์ดรูปร่างสูงใหญ่สองคนยืนปักหลักทำหน้าทำตาขมึงเป็นยักษ์วัดแจ้งคุมเข้มคนที่จะผ่านทางเข้าออก โต๊ะกระจกด้านในโซนวีไอพีที่ใกล้กันกับเวทีมากที่สุดถูกจับจองโดยกลุ่มคุณหมอทั้งหล่อทั้งสวยจากโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำแห่งหนึ่ง ถึงแม้จะไม่ได้ไปเบียดเสียดกับผู้คนกลางฟลอร์ทว่าบรรยากาศก็ครื้นเครงไม่ต่างกัน “เฮ้ย!...ชนกันหน่อยเว้ย” เสียงของชายรูปร่างท้วมเอ่ยขึ้นเสียงดังไม่แพ้เสียงดนตรีอีดีเอ็มจากดีเจสาวสวย เจ้าตัวลุกขึ้นกลางวงพร้อมกับชูแก้วใสในมือที่บรรจุเครื่องดื่มสีอำพันจนเต็มแก้ว ช่างดูขัดกับแว่นสายตาหนาเตอะกรอบสีดำที่ประดับอยู่บนใบหน้า เคร้ง! “ชนเว้ย!” หนุ่มสาวรอบวงต่างก็ยกแก้วขึ้นมาชนก่อนจะยกดื่มกระดกกรอกน้ำสีอำพันเข้าปากอย่างเอาเป็นเอาตายจนหมดแก้ว แต่ก็เข้าใจได้ว่าการได้ปลดปล่อยตนเองหลังจากจบงานสัมมนาเคสผู้ป่วยประจำปีที่ค่อนข้างตึงเครียดและซับซ้อนจนต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเกือบสิบท่านซ้ำยังกินเวลาลากยาวมาไม่ต่ำกว่าห้าเดือนเป็นอย่างไร “อึก!” “เอ้อหมอภาม...ร้านนี้บรรยากาศดีจริงอย่างที่คุณว่าเอาไว้เลย” นายแพทย์หนุ่มรูปร่างผอมบางที่นั่งอยู่บนโซฟาหนังสีกรมฝั่งตรงข้ามเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้ายิ้ม ๆ กระนั้นสายตาแพรวพราวก็คอยสอดส่องไปรอบ ๆ เป็นระยะ “ร้านของเพื่อนผมน่ะครับ” เจ้าของชื่อตอบกลับไปด้วยใบหน้าเรียบนิ่งตามปกติของเจ้าตัว มือหนาเทเหล้าลงในแก้วก่อนจะยกดื่มอีกครั้ง ท่าทีกระดกแก้วไม่พักของหมอภามทำเอาเพื่อนร่วมงานสาวสวยที่นั่งอยู่ด้านข้างเอ่ยปรามด้วยน้ำเสียงติดดุเล็กน้อย “ภาม...ยั้งมือหน่อย เดี๋ยวก็เมาหรอก” มารินหรือแพทย์หญิงมาลาริน แพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกและข้อเหมือนหมอภาม สถานะของเธอคือเพื่อนร่วมงานก็จริง แต่คนที่แอบรักแอบชอบอีกฝ่ายมาเป็นปี ๆ ได้แต่รอเพียงค่ำคืนนี้เท่านั้น...ที่เธอและหมอภามจะได้เลื่อนสถานะกันซักที ภามหรือนายแพทย์ภวินทร์ อายุยี่สิบเจ็ดย่างยี่สิบแปดปี หมอกระดูกมือหนึ่งของโรงพยาบาลที่พยาบาลและเจ้าหน้าที่ลือกันว่า ‘ดุ’ ไม่น้อย แต่ทว่าใบหน้าหล่อเหลาเรียบนิ่งไร้รอยยิ้มนั่นมักจะดึงดูดให้ผู้พบเห็น ‘หลงใหล’ ได้ไม่ยาก “อย่าห่วงเลยครับคุณริน หมอภามแทบจะกินเหล้าเป็นน้ำเปล่าอยู่แล้ว...แค่แก้วสองแก้วทำอะไรไม่ได้หรอกครับ” “หึ...ผมไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” ภวินทร์ไม่ได้ปฏิเสธ ใบหน้าหล่อคมจุดรอยยิ้มขึ้นที่มุมปากเล็กน้อย ก่อนจะปลีกตัวมายังห้องน้ำ “แหม...มองตามใหญ่เลยนะคะ หมอภามไม่หนีไปไหนหรอกค่ะ” เมื่อเห็นมาลารินมองตามภวินทร์ไม่วางตา คุณหมอเฉพาะทางด้านประสาทก็เอิ้นหยอกแซวเพื่อนร่วมงานจนหน้าขึ้นสีระเรื่อ มารินยิ้มออกมาอย่างเขินอายที่โดนเพื่อนร่วมงานรอบวงแซวเรื่องหมอภาม ใช่...ทุกคนรู้ว่าเธอรู้สึกอย่างไรกับหมอภาม มีเพียงเจ้าตัวนั่นแหละที่ไม่เคยรับรู้หรือแกล้งทำเป็นไม่รู้ก็ไม่อาจรู้ได้ ครั้นเมื่อคนอื่น ๆ เลิกให้ความสนใจเรื่องของเธอและหมอภามก็หันไปจับเข่าคุยกันเรื่องอื่นต่อ มารินอาศัยจังหวะที่สปอร์ตไลท์สาดไปทางอื่น หยิบซองยาบางอย่างออกมาก่อนจะรีบเทลงไปในแก้วเหล้าของภวินทร์จนหมด ความรู้สึกผิดและความกลัวแล่นปราดเข้ามาในจิตใจเพียงชั่วครู่ก่อนจะพัดผ่านไปอย่างรวดเร็ว ความรู้สึกอยากได้ของเธอสูงลิ่วลอยแตะเพดานจนกลบความรู้สึกผิดชอบชั่วดีไปหมด มารินสอดส่องสายตาไปทางซ้ายทีขวาที ใจเต้นถี่รัวจนแทบจะหลุดออกมาจากอก ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าออกราวกับต้องการสงบสติอารมณ์ของตนเองเมื่อเห็นคนที่ตนเองหมายปองกำลังเดินกลับมา ร่างสูงหย่อนกายลงนั่งที่เดิม ก่อนจะคว้าแก้วเหล้าของตนเองขึ้นมาดื่มตามปกติ ภวินทร์รับรู้ได้ถึงสายตาคู่หนึ่งที่กำลังจ้องมองมาที่ตนเองก่อนจะหันขวับไปมองมาลารินที่ดูลุกลี้ลุกลนแปลก ๆ มาลารินสะดุ้งจนตัวโยนก่อนจะยิ้มแหย ๆ ส่งกลับไป มือขาวคว้าแก้วของตนเองขึ้นมาอย่างลนลานก่อนจะกระดกจนหมดแก้ว ภวินทร์เป็นผู้ฟังที่ดีนั่งฟังเพื่อนหมอคุยกันอย่างออกรสเพราะกำลังกรึ่มได้ที่เรื่อย ๆ ก่อนจะรู้สึกร้อนวูบวาบช่วงท้องน้อยแปลก ๆ ทว่าในเวลาไม่ถึงสิบนาทีความรู้สึกนั้นกลับเคลื่อนตัวไปยังแก่นกายแทนจนรู้สึกปวดหนึบไปหมด ความรู้สึกอยากปลดปล่อยแล่นเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว ภวินทร์ข่มความต้องการที่กำลังมากขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนจะทนไม่ไหวยันกายขึ้นอย่างรวดเร็ว เอ่ยลาเพื่อนร่วมงานก่อนจะดินปรี่ไปยังชั้นสามทันที ในขณะที่เพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ งงงวยกับท่าทีที่แปลกไปของภวินทร์ มีเพียงมาลารินเท่านั้นที่รู้ดีกว่าใครว่าภวินทร์เป็นอะไร “เดี๋ยวรินตามไปดูภามก่อนนะคะ” มาลารินแสร้งทำท่าทีเป็นห่วงออกมาก่อนจะรีบลุกขึ้นเดินตามภวินทร์ไปทันที เมื่อเดินขึ้นชั้นสามมาก็เจอเข้ากับร่างสูงที่กำลังร้อนรนหาคีย์การ์ดเพื่อเปิดประตูห้อง มาลารินสาวเท้าเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะเอ่ยให้ความช่วยเหลือ “ภาม ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า...ให้รินช่วยอะไรไหม” “ไม่ อึก ไม่เป็นไร” เมื่อหาคีย์การ์ดเจอก็รีบแตะลงไปจนได้ยินเสียงเซ็นเซอร์ ทว่ายังไม่ทันได้เปิดประตูเข้าไปก็มีเสียงทุ้มหนึ่งขัดขึ้นมาเสียก่อน “เฮ้ยไอภาม...ได้สาวแล้วรีบเลยนะมึง” ร่างสูงของคนแปลกหน้าสาวเท้าเดินเข้ามาอีกฝั่งของภวินทร์ เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นหู ภามก็เงยหน้าขึ้นมา พอร์ช เพื่อนสนิทตนเองที่ยืนอยู่ตรงหน้า ครั้นเมื่อคนมาใหม่เห็นสภาพที่ไม่สู้ดีของเพื่อนตนเอง คิ้วหนาก็ขมวดขึงเข้าหากันทันที “นี่มึง...” “กูว่า อึก กูโดนวางยา” “เหี้ยแล้วไง...ให้กูเรียกเด็กให้ไหม” พอร์ชมองเพื่อนตนเองที่ยืนตัวงอ เม็ดเหงื่อผุดตามกรอบใบหน้า ใครมันกล้าใช้ยาอันตรายแบบนี้ ก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้...ว่าไอภามมันมากับใคร มาลารินที่เงียบรอสถานการณ์อยู่นานชะงักกึกไปในทันทีเมื่อคนแปลกหน้าตวัดสายตาดุ ๆ มามองกัน สายตาของอีกคนที่จ้องมองมาทำเอามาลารินรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ เสียวสันหลังอย่างบอกไม่ถูก ภวินทร์ที่ร้อนรุ่มเต็มไปด้วยอารมณ์ใคร่ก็รอไม่ไหวเปิดประตูห้องเข้าไปแล้วตรงไปยังห้องน้ำทันที มารินละสายตาจากคนตรงหน้าก่อนจะเดินตามเข้าไป ทว่าถูกชายร่างหนาคนเดิมเข้ามาขวางเอาไว้ก่อน “เดี๋ยวผมดูแลไอภามเอง...คุณกลับไปเถอะ” พอร์ชพิงกรอบประตูเอาไว้ก่อนจะยกมือขึ้นมากอดอกด้วยท่าทีสบาย ๆ มารินเล่นสงครามประสาทกับชายตรงหน้า ก่อนจะทนมองดวงตาดุ ๆ นั่นไม่ไหวดึงสายตาตนเองกลับมาดังเดิม “...ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ” พูดจบมาลารินก็สาวเท้าเดินกลับไปทางเดิม ได้แต่นึกหงุดหงิดในใจเมื่อแผนที่วางไว้ล่มไม่เป็นท่า พอร์ชมองตามหญิงสาวร่างบางที่ดูมีพิรุธเป็นพิเศษ เขาจะหมายหัวเธอไว้ก่อนละกัน ถึงแม้จะไม่มีหลักฐานมัดตัว แต่เขาก็มั่นใจว่าแววตาขุ่นเคืองที่อีกฝ่ายทิ้งไว้มันต้องเกี่ยวข้องกับไอภามที่โดนวางยาแน่นอน ทางด้านอีกฝั่งแก๊งเพื่อนสาวที่นัดกันมาดื่มในรอบห้าปีที่ไม่ได้พบปะกันมานานหลังจากเรียนจบที่มหาวิทยาลัยฯ กำลังสนทนากันอย่างออกรสและคงจะสนุกมากขึ้นเพราะใบหน้าแต่ละคนเริ่มขึ้นสีแดงจาง ๆ ด้วยฤทธิ์ของน้ำเมา พันดาวหรือพริบพันดาว สาวอินโทรเวิร์ตที่หมกตัวอยู่แต่ในบ้านแทบจะไม่ออกไปไหน ใจจริงอยากนอนอยู่บ้านมากกว่าแต่เพราะทนคำรบเร้าและคำตัดพ้อของเพื่อนไม่ไหวจึงจำต้องยอมมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ “เมื่อไหร่ อึก กะ แกจะแต่งงานวะไอดาว” “ใช่...จะยี่สิบหกแล้วนะโว้ย!” “แกคงไม่ได้คิดจะเกาะคานไปยาว ๆ ใช่ไหม...หื้อ ไอดาว” พันดาวใช้ตาปรือปรอยจ้องมองไปที่เพื่อนสามคนที่รุมกันซักไซร้ราวกับกำลังสัมภาษณ์งานก็ไม่ปาน ใช่...ในช่วงอายุเดียวกันเพื่อนในกลุ่มที่มีอันน้อยนิดของเธอทยอยกันแต่งงานและมีลูกกันหมดแล้ว เว้นเสียแต่ว่าตัวเธอเองนี่แหละที่กินลมชมวิวอยู่บนคานไม่ยอมลงมาซักที “ก็ อึก ก็ฉันไม่อยากมีนี่...อยู่คนเดียวก็มาได้แย่ซะหน่อย” พันดาวบ่นอุบอิบ ยู่ปากออกมาน้อย ๆ ก่อนจะแสร้งมองไปทางซ้ายทีขวาทีเพื่อหลบหลีกจากสายตาแหลมคมของเพื่อน หลังจากนั้นพันดาวก็พยายามเปลี่ยนเรื่องคุยแถมยังชวนเพื่อนยกแก้วไม่หยุด กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็หมดสภาพเมามายกันทั้งกลุ่ม เพื่อนสองคนมีสามีมารับถึงที่ ส่วนเพื่อนอีกคนที่ตั้งใจหารห้องนอนด้วยกันดันทิ้งเธอเอาไว้ให้นอนที่บาร์คนเดียว “แกฉันขอโทษนะ เดี๋ยวฉันพาแกไปส่งที่ห้อง...มาเถอะ” “ไม่เป็นไร อึก ฉันไหว...แกไปเถอะ เดี๋ยวแฟนรอนานนะ” “อืม...เอางั้นเหรอ” เมื่อเห็นเพื่อนยืนลังเลพร้อมกับสีหน้ารู้สึกผิด พันดาวก็โกรธไม่ลง ร่างบางส่งยิ้มให้เพื่อนก่อนจะย้ำกับเจ้าตัวเป็นรอบที่ร้อยว่าเธอดูแลตนเองได้แน่นอน พูดจบก็ดันหลังเพื่อนออกไปพร้อมกับก็โบกมือลา คนตัวเล็กเดินโซซัดโซเซเกาะราวบันไดขึ้นมาทีละขั้นอย่างช้า ๆ ภาพที่เห็นตรงหน้าคือบันไดแยกร่างเป็นสี่ชั้นก่อนจะวนไปมาจนศีรษะหนักอึ้งมากกว่าเดิม พันดาวเดินเกาะประตูไปทีละห้อง ดวงตาหวานหยาดเยิ้มพยายามเพ่งมองตัวเลขหน้าห้อง ทว่าไฟที่สลัวกลับไม่เป็นใจเอาซะเลย...ห้องที่เธอจองเอาไว้อยู่ไหนกันนะ ตาแทบจะปิดอยู่ร่อมร่อ สติพร้อมจะดับวูบตลอดเวลา ร่างเล็กเดินมาหยุดอยู่หน้าห้องหนึ่ง มือเล็กพยายามควานหาคีย์การ์ดแต่ทว่าล้วงไปที่ช่องไหนก็เจอแต่ความว่างเปล่า ได้แต่ก่นด่าในความสะเพร่าของตนเองในใจ ดวงตาคู่สวยหรี่ลง พันดาวยกมือขึ้นมาปิดปากตนเองเมื่อความรู้สึกพะอืดพะอมตีขึ้นจุกอยู่ที่คอ ร่างบางลนลานหันรีหันขวางหาที่สำหรับอาเจียน ก่อนสายตาจะสะดุดกับบานประตูของห้องตรงข้ามที่เปิดแง้มเอาไว้อยู่ ไม่ต้องคิดพิจารณา พันดาวก็รีบวิ่งปรี่เข้าไปในห้องนั้นทันที ภายในห้องมีเพียงไฟสีส้มสลัว ร่างบางวิ่งผ่านเตียงนอนหลังใหญ่ตรงไปยังห้องน้ำทันทีโดยไม่ทันสังเกตว่ามีใครบางคนกำลังนอนเหงื่อตกอยู่ เมื่อได้อาเจียนเอาแอลกอฮอล์ที่อยู่ในกระเพาะออกไป แต่ทว่าอาการมึนเมายังไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย พันดาวพาร่างกายที่อ่อนเปลี้ยของตนเองออกมาก่อนจะพุ่งตรงไปทิ้งตัวลงที่กลางเตียงทันที “อะ!” “ฮึ่ม!” เสียงของพันดาวร้องอย่างตกใจเมื่อสัมผัสที่ได้ควรจะเป็นเตียงนุ่มแต่กลับเป็นร่างแข็ง ๆ ตัวใหญ่ ๆ ของอะไรก็ไม่รู้ทำเอาจุกไม่น้อย เมื่อตั้งสติได้ก็รีบตะเกียกตะกายพาร่างของตนเองออกมา แต่ทว่าแรงและสติที่มีอันน้อยนิดทำให้ไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ในทันที “อึก...อ่า” !!! เสียงทุ้มที่ครางอย่างผะแผ่ว ลมหายใจอุ่นเป่ารดอยู่ข้างใบหูทำเอาพันดาวชะงักกึก ก่อนจะสะดุ้งจนตัวโยนเมื่อถูกวงแขนหนาตวัดโอบรอบเอวบางของตนเองเอาไว้แน่น “อื้อ! อึก ดะเดี๋ยว”

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

แม่หมอแห่งซูโจว

read
6.2K
bc

เชลยรักท่านอ๋องอำมหิต

read
13.3K
bc

พันธะร้าย..ดวงใจรัก

read
1K
bc

พะยอมอธิษฐาน

read
1.8K
bc

คุณหนูสิบเจ็ดตระกูลเจียง

read
8.0K
bc

รักต้นฉบับ(ไม่ลับ)แม่มดมนตรา

read
1K
bc

ป๊ะป๋าผมเป็นมาเฟีย

read
1.3K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook