ตอนที่ 5: พ่อหม้ายขี้เหงา

1667 คำ
ตอนที่ 5: พ่อหม้ายขี้เหงา เช้าคน กลางวันคน เย็นสามคน รวมสามวันแล้วมากกว่าสิบ! หลายคนจนปัญญาจะนับว่า ‘อนันต์ ธนะโชติสกุล’ คั่วสาวกี่นางต่อหนึ่งสัปดาห์ ถึงเวลาทำงานหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบห้าปีก็ทำงาน เว้นเสียแต่ว่าเป็นวันหยุด... “หนู ๆ... อยู่ไหนกันนาา...? มาให้จับซะดี ๆ นะคะ” ปลายเสียงหวานเรียกหาคนที่วิ่งหายไปคนละทาง ร่างสูงในชุดคลุมอาบน้ำเดินสะเปะสะปะ สองมือยื่นออกไปข้างหน้า พยายามคลำหาแม่สาวตัวนุ่มนิ่มท่ามกลางความมืดมิด ผ่านผ้าเช็ดหน้าสีขาวพันรอบศีรษะมีแสงลอดเพียงเล็กน้อย หนุ่มใหญ่เพิ่งจัดการกับตัวเองเสร็จพร้อมกับสาว ๆ ทั้งบนเตียงไปถึงห้องน้ำ ก่อนมาเล่นสนุกหลังบ้าน เขาเดินไปมาไม่นาน คว้าหมับเข้าผ้าผืนหนึ่งบนเรือนกายเย้ายวนที่ผลัดกันร่วมศึกดุเด็ดเผ็ดมันหลายท่วงท่ามาตลอดคืน พลันสูดกลิ่นรัญจวนเข้าเต็มปอดจากไรผมนุ่มหอมและซอกคอขาวเนียน “อืม... คนนี้ ลิลลี่ใช่ไหมครับ? โคโค่มาดมัวแซลล์ที่อาซื้อให้คนสวย...” สองมือหนาเลื่อนขึ้นบีบขยำสองเต้าเต่งตึงอย่างไม่ให้สาวน้อยผิดหวังในการบริการงานนวดหลังฝ่าด่านเกมสนุก ๆ มาได้ ร่างบางในชุดน้อยชิ้นซีทรูสีแดงสดมองทะลุถึงยอดอกสีหวานแอ่นเอวเร่าไปทางข้างหลัง “อือ... คุณอา... ทำอะไรคะ?” “ชื่นใจครับ... อาล่ะอยากกอดทีละหลาย ๆ คนพร้อมกัน ลิลลี่ หนูริน หนู... อะไรนะ?” เขาเลิกคิ้วขึ้นเพราะจำคนล่าสุดไม่ได้ ซึ่งสาววัยยี่สิบกว่า ๆ ก็ไม่ได้โกรธยังบอกชื่อเพื่อน “เจเจค่ะ... คุณอาหาพวกหนูเก่งจังนะคะ แต่ว่ายังเหลืออีกคนนะคะถึงจะได้กินตามกติกา” “อ้าว... ตายละ อาทำผิดกติกาล่ะสิเนี่ย อยากโดนทำโทษจริง ๆ นะครับทูนหัว...” พูดพลางทำหน้าตาทะเล้นด้วยนิสัยขี้เล่นของตัวเขา คงเหมือนหยอกลูกสาวติดแค่ว่าพวกหล่อนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวพันกับเขาทางสายเลือด “คุณอาพร้อมโดนโทษหนักสามรุมหนึ่งเลยนะคะ... ไหวเหรอ?” “แล้วคืนก่อนไหวไหมล่ะครับ?” เสียงหัวเราะคิกคักดังจากนั้น มือหนาเลื่อนเข้ามาในชุดแพรไหมวาบหวิว เกือบที่จะจับเข้าจุดหวามไหวแต่กลับทิ้งไว้แค่ความคาดหวัง มือสากลูบต้นขาด้านในจนคนตัวเล็กครางสยิว โน้มใบหน้าลงกระซิบข้างกกหู “ไปซ่อนเร็ว... เด็กดีของอาต้องซ่อนเก่งกว่านี้นะ อาบวกค่าเทอมให้พิเศษนะครับ” แล้วลูกนกในอ้อมแขนก็กางปีกบินไป สาวทั้งสามคนปิดปากเงียบแม้อาจหัวเราะชอบใจอยู่ก็เป็นได้ ขณะที่เขากระชับจับผ้าเช็ดหน้าผูกรอบศีรษะแน่น เกมปิดตาจับนม! หากไม่เห็นลูกสาวออกไปทำงานแต่เช้าคงไม่ได้เล่นตามคำชักชวนของสาวน้อย แต่ละคนก็รุ่นลูกทั้งนั้น บางคนอายุแค่ยี่สิบกว่า อนันต์เป็นพ่อหม้ายผู้รักสนุกขี้เหงามาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ลูกเริ่มโตเป็นสาวเขาก็อาการหนักขึ้นเพราะชอบที่จะหาเรื่องแปลก ๆ เสียว ๆ ทำแก้เบื่อ ในสวนหย่อมร่มรื่น รอบตัวบ้านขนาบข้างสระว่ายน้ำความยาวถึงยี่สิบเมตรในชั้นลอย พื้นที่ตรงนี้กว้างขวางมากพอจะทำให้เกมมันยากขึ้น หนุ่มใหญ่ไม่ได้เกรงกลัวเพราะรางวัลของเขาอย่างไรเสียก็มีแต่ได้กับได้ “ห้าหมื่น... ตาละห้าหมื่นนะครับหนู ๆ” ตะโกนดัง เจ้าของบ้านเริ่มเดินเปะปะไปมาปากว่าอะไร ๆ เป็นเงินเป็นทองเป็นกระเป๋าที่พวกหล่อนชอบ เมื่อผู้ชนะคงจะเป็นผู้รอดชีวิตคนสุดท้าย สองมือยื่นไปข้างหน้าคว้าโต๊ะ เก้าอี้ เขาใช้ความพยายามมากกว่าเดิม ขณะเงี่ยหูฟังในความมืด... ด้วยความตั้งใจว่าจะตบรางวัลงาม ๆ ให้หมดทุกคนนั่นแหละ ทันใดนั้นเอง เสียงฝีเท้าคู่หนึ่งใกล้เข้ามา วงแขนกว้างอ้าออกรวบเข้าอย่างแม่นยำ “จับได้แล้ว!” “ว๊าย!” เสียงหวีดร้องของร่างบางในอ้อมแขนพารอยยิ้มหวานบนวงหน้าหล่อเหลา ยิ่งได้กลิ่นหอมปานกลิ่นของดอกไม้จากไรผมนุ่มของแม่สาวน้อย ร่างกำยำสั่นสะท้านไปทั่วกายร้อนรุ่ม กระทั่งว่าเจ้าหนอนน้อยยังลุกพรึบตั้งหน้าตระหง่านรอสู้ศึก แต่แชมพู... ไม่คุ้นเลยแฮะ คิดพลางมือลูบคลำมาถึงยอดอกงาม กลับถูกมือเรียวคว้าเข้าหมับ! “อย่าค่ะ... คุณท่าน...” “หืม?” เขาเอียงคอสงสัยเพราะว่ามันไม่ใช่เสียงหวาน ๆ! แม้แต่กลิ่นก็ไม่ใช่... “ใครน่ะ?” “ณดาค่ะ... ขอประทานโทษนะคะ ดิฉันไม่ได้ตั้งใจเข้ามารบกวนเวลาส่วนตัวของท่านเลยค่ะ ช่วยเปิดผ้าปิดตาแล้วปล่อยดิฉันก่อนได้ไหมคะ?” เป็นเพราะว่าเขาไม่อยากปล่อยของใหม่ที่ทั้งหอม! นุ่ม! ทั้งที่รู้แล้วว่าณดาน่ะเลขาฯ ของลูกสาว ความอยากรู้อยากเห็นอย่างค่อยเป็นค่อยไปทำให้หยุดแค่กอด เป็นอ้อมกอดที่ระวังไม่ให้กระต่ายน้อยตื่นตูม แต่ก็คงจะยาก ณดาไม่เคยถูกคุกคามขนาดนี้ เธอตัวสั่นกลัวในอ้อมกอดชายแปลกหน้า และหยุดดิ้นเพราะเหมือนว่าจะโดนบางอย่างอุ่น ๆ แข็ง ๆ ทิ่มหลังอยู่ “เรียกท่านทำไมเล่า? แก่หมด... ผมเพิ่งสี่สิบห้าเองนะครับ... หน้าผมแก่ขนาดนั้นเลยรึไง?” “ไม่ค่ะ คุณอนันต์ไม่แก่เลยค่ะ... ช่วยปล่อยดิฉันก่อนนะคะ” “อ้อ... ครับ ขอโทษทีนะ” สัมปชัญญะน้อยนิดบอกตัวเขาเองว่าไม่ควรทำตัวเป็นสมภาร ต่อให้จะเป็นเลขานุการส่วนตัวของลูกก็ตาม ณดาไม่ได้รับเงินเดือนจากเขาโดยตรง แต่ลูกสาวรับเงินจากบริษัทและหุ้นอื่น ๆ ที่มี แล้วให้ต่อไปอีกทอด ณดาช่วยงานคุณแป๋ว เข้าไปดูแลเรื่องเอกสารต่อจากเลขาฯ รุ่นพี่ในบางโอกาส ก็ต้องนับว่าเป็นลูกน้องอยู่ดีนั่นแหละ! สองมือปล่อยร่างนุ่มหอมในอ้อมแขนอย่างเสียดาย ค่อยดึงผ้าปิดตาออกมองร่างบางในเชิ้ตทำงานเรียบร้อย กระโปรงสั้นประหน้าขา เธอก้มศีรษะลงอย่างนอบน้อม “คุณวีฝากให้ดิฉันมาบอก... ถ้ามีอะไรให้คุณพ่อรับใช้เรียกดิฉันได้เลยนะคะ ฉันอาจจะไปรอที่บริษัท ดิฉันมาเรียนแจ้งก่อนค่ะ” “อ้าว... ไม่ทำงานให้วีแล้วเหรอ? ทำไมลูกวีให้มาช่วยงานผมล่ะ...” “ดิฉันไม่ทราบค่ะ คุณวีบอกว่าให้ไปช่วยงานคุณพ่อ... เท่านี้เองค่ะ” ณดาบอกไปตามตรง เธอไม่กล้ามองหน้าสบตาเขาด้วยรู้สถานะตัวเองดี หากว่าเธอทำไม่ถูกใจเขาอาจไล่เธอออกก็ได้ ถึงโอกาสจะเป็นไปได้น้อยมาก “ออ... ก็ดีเหมือนกันนะ งานเยอะอยู่ครับ...” “ขอบพระคุณคุณอนันต์ค่ะ ดิฉันจะตั้งใจทำงาน” “ณดา...” น้ำเสียงเข้มขึ้นทำให้หญิงสาวไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตาคุณพ่อยังหนุ่มแน่น! ฟิตเปรี๊ยะไปทั้งตัวหลังผ่านพ้นอ้อมกอดร้อนแรงมาเมื่อสักครู่ เธอหลับตาปี๋จนได้ยิน... “ตอนอยู่กับลูกสาวผมก็แทนตัวเองว่าณดานี่... แล้วนี่... ก้มหน้าก้มตาหาอะไรบนพื้น? เงยหน้าขึ้นมาคุยกับผมดี ๆ ผมยังไม่ได้ต่อว่าอะไรคุณสักคำนะครับ” “ดา... ขอโทษค่ะที่ทำกิริยาไม่สุภาพ” เธอตอบแล้วเงยหน้าขึ้นช้า ๆ นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนสะท้อนแสงไฟจากโคมไฟแชนเดอเรียเป็นประกายวิบวับ ราวกับว่ามีหยดน้ำลูกหนึ่งวิ่งวนข้างใน ใบหน้าหล่อเหลาหมดจดออกไปทางลูกครึ่งชัดเจนมากกว่าลูกสาวเพราะบรรพบุรุษเป็นชาวกรีก อนันต์จึงออกไปทางแขกขาวเสียมากกว่าคนไทยแท้ มองใกล้ ๆ แล้วคุณพ่อดูดี! กว่าที่พี่ ๆ คุยโม้โอ้อวดเสียอีก ตอนนี้เธอยังอยากรู้ด้วยซ้ำว่าเขาใช้ครีมบำรุงผิวหน้ายี่ห้ออะไร จะได้ขอแย่งใช้บ้าง... “ไม่มีอะไรสักหน่อยเห็นไหมล่ะ? ที่ผมมองหน้าคุณเมื่อวันก่อนน่ะ เรื่องบริษัทจัดหาคู่ผมแค่ไม่ชอบใจถ้าลูกสาวผมจะไปนัดบอดกับหนุ่มที่ไหน” พอเขาบอกตามตรงว่าที่ส่งสายตาพิฆาตให้เธอเพราะอะไร ณดายกสองมือประนมไหว้ปลก ๆ “ขอประทานโทษจริง ๆ ค่ะที่เสียมารยาท แต่เป็นคำสั่งของคุณวี ดาจำเป็นต้องทำตามหน้าที่” “เรื่องนั้นพอเข้าใจได้แต่ผมไม่ชอบเลยนะ นี่ก็ด้วย... เป็นอะไรครับ?” เขาเลิกคิ้วถามกวนประสาท อีกคนกลับอึก ๆ อัก ๆ “ดา... ดาแค่ตกใจน่ะค่ะ” “ตกใจอะไรล่ะ?” พูดพลางส่งยิ้มหวานให้เธอได้คลายความกังวลใจลง แต่คงไม่ได้ช่วยอะไรเลย หญิงสาวหน้าร้อนฉ่าเพียงนึกถึงเรือนกายกำยำสมส่วน ไม่รู้ว่าคุณพ่อต้องออกกำลังกายหนักขนาดไหนเพื่อล่อสาว และเหมือนจะได้ผลตรงนี้คนหนึ่ง! เขายังทำไม่รู้สึกรู้สากับสองเต้าตึงที่เกือบจะได้ขยำเข้าแล้วหากไม่ติดมือนุ่ม ๆ “ว่าไงครับ? ผมถามว่าตกใจอะไร...” คนถูกถามไม่กล้าที่จะตอบ เธอก้มศีรษะลงอีกครั้ง ละล่ำละลักพูด “ขอโทษค่ะ! ต่อไปนี้ดาจะตั้งใจทำงานเป็นพนักงานที่คุ้มค่าเงินเดือนอย่างที่สุดค่ะ” อนันต์ยิ้มรับอย่างผู้ใหญ่ ความคิดชั่วร้ายผุดขึ้นมาในหัวพอมีคนบอกว่าจะทำงานให้... “เป็นคนขยันทำงานรู้จักหน้าที่ตัวเองก็ดี ไหน ๆ ลูกสาวให้มาช่วยผมแล้ว ตามผมมาละกัน”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม