ณ คฤหาสน์หลังใหญ่
"โทรตามไอ้ขุนได้หรือยังคุณหญิง"
"ยังเลยค่ะ ฉันโทรไปเท่าไหร่ลูกชายตัวดีของคุณพี่ก็ไม่รับ"ว่าแล้วก็กดต่อสายหาลูกชายอีกครั้ง และครั้งนี้ก็เหมือนกับทุก ๆ ครั้งที่ผ่านมา ไม่มีคนรับสาย
"ชักจะเอาใหญ่ สงสัยไปหมกตัวอยู่กับแม่นางแบบนั้นอีกแน่นอน"
"เราจะทำยังไงกันดีคะคุณ ฉันล่ะไม่ชอบแม่นางแบบนั้นเอาเสียเลย"
"รอดูไปก่อน ถ้าหลังจากงานแต่งงานแล้วไอ้ขุนมันยังไม่เลิกยุ่งเกี่ยวกับแม่นางแบบคนนั้น เดี๋ยวผมจัดการเอง"เพราะเขาจะไม่ยอมให้ผู้หญิงคนนั้นมาทำลายชีวิตคู่ของลูกชายและลูกสะใภ้ของเขาพัง ถ้าหากว่าผู้หญิงคนนั้นคิดจะทำอะไรคงต้องข้ามศพของเขาไปก่อน
"ฉันล่ะกังวลจริง ๆ ค่ะ กลัวว่าลูกชายตัวดีของเราจะดึงนางผู้หญิงคนนั้นเข้ามาเสียเอง"
"ก็ให้มันรู้ไป ว่ามันจะเห็นกรวดทรายดีกว่าเพชรพลอย"ถึงยังไงเขาก็ไม่มีวันรับผู้หญิงแบบนั้นมาเป็นลูกสะใภ้ให้เสียชื่อวงศ์ตระกูลเด็ดขาด
"คุณโทรไปบอกคุณโชคด้วยว่าพรุ่งนี้ให้เข้ามาพบผมที่นี่และให้พาเจ้าหน้าที่เขตมาด้วย ผมจะจับไอ้ขุนให้มันจดทะเบียนสมรสกับหนูปิ่นมุก"ความรู้สึกบางอย่างมันกำลังบอกเขาว่าผู้หญิงคนนั้นไม่คิดที่จะออกไปจากชีวิตของลูกชายเขาง่าย ๆ แน่ จึงทำให้เขาต้องตัดไฟเสียแต่ต้นลม
เช้าวันต่อมา ขุนเขาที่ขับรถกลับมาจากคอนโดของแฟนสาวเดินเข้ามาให้ตัวบ้านด้วยสภาพเหนื่อยล้าเหมือนกับคนไม่ได้หลับไม่ได้นอน ทำเอาคนเป็นพ่อที่ได้เห็นสภาพแบบนี้ของลูกชายตัวดีถึงกับโมโหจนหน้าแดง
"อ้าว พ่อสวัสดีตอนเช้าครับแล้วนี่แต่งตัวซะหล่อจะไปไหนกันเหรอครับ"
เพียะ
"โอ๊ย พ่อตบหัวผมทำไมอะ ผมเจ็บนะ"ขุนเขาถึงกับร้องดังลั่นบ้านเมื่อฝ่ามือหนัก ๆ ของบิดาฟาดลงกลางกระหม่อมจนเห็นดาว
"ตบให้แกหายง่วงยังไงล่ะ หายหัวไปตั้งสองวันนึกว่าตายห่าไปแล้วซะอีก"
"ผมไม่ตายง่าย ๆ หรอกครับพ่อคนหล่อ ๆ อย่างผมอยู่ได้อีกนาน"
"ถุย"
"ถึงขั้นถุยน้ำลายใส่กันเลยเหรอครับเนี่ย"
"ฉันไม่ถุยใส่หน้าแกก็บุญเท่าไหร่แล้วไอ้ขุน เมื่อไหร่แกจะเลิกทำตัวเสเพลซะทีห๊ะ วัน ๆ งานการไม่รู้จักทำเอาแต่เที่ยวกับผลาญเงินของฉันไปวัน ๆ เมื่อไหร่แกจะมีความคิดเป็นผู้ใหญ่กับเขาเสียทีห๊ะไอ้ขุน"คนเป็นพ่อพูดออกมาอย่างคนหนักใจ อยากจะฝากผีฝากไข้ลูกชายในยามแก่ก็เห็นว่าจะไม่รอด วัน ๆ เอาแต่เที่ยวงานการในบริษัทที่เขามอบให้ก็ไม่ทำ แถมยังเสนอหน้าไปเปิดผับให้เปลืองเงินอีก แต่ดีหน่อยที่ผับของลูกชายเป็นที่รู้จักคนเลยเข้ามาใช้บริการเยอะ ถ้าลงทุนโดยศูนย์เปล่าเขาคงไม่รอช้าทุบทิ้งโดยทันที
"โถ่พ่อครับ พ่อก็รู้ว่าผมไม่ถนัดงานอะไรแบบนี้"
"ไม่ถนัดงานแบบนี้แต่เสือกอยากได้ตำแหน่งประธานบริษัท เหอะ เจริญแหละลูกกู"
"เสียงดังโวยวายอะไรกันแต่เช้าคะ สองคนพ่อลูก"สงครามระหว่างสองพ่อลูกเงียบลงโดยทันทีเมื่อผู้หญิงที่มีอภิสิทธิ์เหนือกว่าทุกคนภายในบ้านเดินลงบันไดมาอย่างสง่าผ่าเผยด้วยชุดลูกไม้จากประเทศฝรั่งเศสและสิ่งที่ทำให้ขุนเขาถึงกับแสบตาคือเครื่องเพชรชุดใหญ่ที่ผู้เป็นแม่นั้นสวมใส่ สมองที่มีรอยหยักน้อยเกิดความสงสัยว่าทำไมเช้า ๆ แบบนี้พ่อและแม่ของเขาถึงได้แต่งตัวเต็มยศเหมือนจะไปงานแต่งที่ไหนกัน
"พ่อกับแม่แต่งตัวแบบนี้จะไปไหนกัน"
"แกไม่ต้องถามอะไรให้มาก แกรีบขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วรีบลงมาหาฉัน"
"พ่อตอบผมมาก่อนสิว่าจะไปไหนกัน"
"แกทำตามที่ฉันสั่งก็พอ แล้วอย่าช้าล่ะ เพราะถ้าช้าแกโดนบาทาฉันแน่"ขุนเขาจ้องมองสีหน้าพ่อและแม่ของตัวเองด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไปเพราะถึงอย่างไรพ่อและแม่ของเขาก็คงจะไม่ปริปากบอก เอาเถอะแต่เดี๋ยวอย่างไรเขาก็คงจะรู้เองว่าพ่อของเขาจะพาเขาไปไหน
"ไอ้ธนินท์มึงออกจากบ้านมาหรือยัง"
"กูอกมาแล้ว แล้วทางนั้นล่ะพร้อมหรือยัง"หลังจากที่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเดินขึ้นบันไดไปบนชั้นสอง เจ้าสัวรังสิมันท์ก็ต่อสายหาเพื่อนรักโดยทันที
"ลูกชายตัวดีของกูกำลังอาบน้ำอยู่ มึงก็รีบ ๆ มาล่ะเดี๋ยวลูกชายกูหาเรื่องออกไปข้างนอกอีก"
"โอเค"
"ถ้าอย่างนั้นฉันขอไปดูเด็ก ๆ ในครัวก่อนนะคะไม่รู้ว่าเตรียมอาหารกันไปถึงไหนแล้ว"
"คุณไปเถอะเดี๋ยวอีกสักพักไอ้ธนินท์ก็คงจะมาถึง"
ขุนเขารีบอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดสูทสีดำผมหยักศกถูกเซตตั้งน้ำหอมราคาแพงฉีดพรมไปทั่วทั้งตัว ชายหนุ่มผู้ที่มีใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติกำลังยืนมองตัวเองอยู่ในกระจก
"เรานี่ก็หล่อใช้ได้เหมือนกันนี่หว่า"ไม่ว่าจะมองมุมไหน ขุนเขา คือผู้ชายที่หล่อเหลาดั่งเทพบุตรจนสาว ๆ แทบจะทั้งประเทศอยากได้เขามาครอบครอง แต่คงไม่ใช้หญิงสาวรายหนึ่งที่แม้แต่ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาอยู่ภายในรถตู้ของครอบครัว
"เป็นไงลูก พี่ขุนเขาหล่อเหมือนที่แม่บอกเลยใช่ไหมคะ"ปิ่นมุกวางโทรศัพท์ที่มีรูปของชายหนุ่มปรากฏอยู่บนหน้าจอ สายตาเรียบนิ่งไม่ยินดีปรีดามองไปยังผู้เป็นแม่ที่นั่งอยู่ด้านข้าง
"ก็หล่อดีค่ะ"เธอไม่ปฏิเสธว่าผู้ชายที่อยู่ในรูปนั้นหล่อเกินคำบรรยาย แต่แล้วยังไงล่ะเธอต้องดีใจใช่ไหมที่จะต้องมาแต่งงานกับผู้ชายรูปหล่อ ที่ดูก็รู้ว่าเป็นเสือตัวพ่อแบบนี้และถ้าเธอจำคนไม่ผิด ผู้ชายคนนี้กำลังคบหาอยู่กับนางแบบดังแถวหน้าของเมืองไทย
"พ่อคะ คนที่พ่อจะให้หนูแต่งงานเขามีแฟนแล้วไม่ใช่เหรอคะ"คำถามของลูกสาวทำเอาคนที่กำลังนั่งตรวจเช็กราคาหุ้นในไอแพดต้องเงยหน้าขึ้นมามอง
"ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้เป็นที่ยอมรับ ถึงขุนเขาจะชอบพอกับแม่นางแบบคนนั้นมากขนาดไหนแต่ก็ไม่สามารถก้าวข้ามมาเป็นภรรยาได้ เพราะรังสิมันต์ไม่ยอมรับผู้หญิงคนนั้น"ปิ่นมุกพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนที่เธอจะพ่นลมหายใจออกมาอย่างคิดหนัก เขามีคนรักอยู่แล้ว แล้วแบบนี้เธอกับเขาจะมองหน้ากันคิดได้ยังไงที่เธอแทรกเข้าไปเป็นมือที่สามระหว่างเขากับคนรัก
"อย่าคิดมากเลยนะลูก คุณลุงกับคุณป้าคงจะเห็นแล้วว่าหนูคือคนที่เหมาะสม ชีวิตรักเริ่มต้นของหนูกับตาขุนเขามันอาจจะไม่ได้เริ่มต้นเกิดจากความรัก แต่แม่เชื่อว่าอีกไม่นานความรักของหนูกับตาขุนเขาจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนจ้ะ"
'แต่หนูคิดว่ามันคงจะไม่มีวันนั้นหรอกค่ะ เพราะหนูไม่ได้รักเขา และเขาก็คงจะเกลียดหนูไปจนตายที่ไปทำลายความรักของเขากับแฟน'นี่คือประโยคที่ปิ่นมุกได้แต่บอกผู้เป็นแม่อยู่ในใจ เธอได้แต่หวังว่าชีวิตหลังการแต่งงานของเธอจะสงบสุขไม่มีใครมาวุ่นวาย