แครลอไรลด์นั่งดื่มกาแฟอยู่ในร้านประจำ นอกเหนือจากงานที่คลินิกที่ต้องเข้าทุกแทบทุกวัน ก็ยังมีงานอื่น โดยเธอจะใช้ร้านกาแฟเป็นที่คุยงาน
"บังเอิญจัง" เสียงนี้เรียกความสนใจให้แครลอไรลด์ต้องหันไปมอง
"มาได้ไงเนี่ย"
ก็คนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าเธอคือวิกานดา
"พี่ออกมาประชุม และก็ บัง เอิญ เห็นรถน้องหมอแครล์จอดอยู่หน้าร้าน พี่ก็เลยลางานครึ่งวันซะเลย" ไม่พูดเปล่ายังทำเนียนนั่งลงฝั่งตรงข้ามอีก
"มันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ"
"ก็ยากอยู่นะกว่าจะหาตัวน้องหมอแครล์เจอ อุ้ย!" ยกมือขึ้นปิดปากตัวเองทันทีเพราะเผลอหลุดปากออกมา
"แสดงว่าไม่ใช่ บัง เอิญ"
"แหม... ก็ใจมันคิดถึง พี่ก็เลยโทรหาเลขาน้องหมอแครล์ และก็ตามมา"
"ฉันไม่มีเลขานะคะ"
"ก็น้องกี้ไง"
อีกแล้ว!!! เธอน่าจะเจ็บแล้วจำว่าตอนนี้กีรดาเพื่อนตัวดีไม่น่าไว้ใจ
"จะเอายังไงคะ ฉันไม่มีเวลานะ ต้องไปที่อื่นต่อ"
"แหม พี่พึ่งมาถึงก็จะไล่เลยเหรอ น้อยใจนะ"
แครลอไรลด์ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย
"เรื่องของเรามันเป็นไปไม่ได้นะคะ คุณอย่าตื๊อฉันเลยค่ะ"
"โน โน โน วันนี้พี่ไม่ได้มาเพราะเรื่องของเรา แต่เป็นเรื่องของธุรกิจล้วนๆ"
"เรื่องส่วนแบ่งสองเปอร์เซ็นต์น่ะเหรอคะ"
"อะไรกัน เห็นพี่เป็นคนยังไง แค่นั้นน่ะ พี่ไม่เอาหรอก"
"แล้วมันเรื่องอะไรล่ะคะ"
"นี่อะ.." พูดพร้อมส่งไอแพดให้คนตรงหน้าแถมยังอธิบายต่อ
"พี่คิดโครงการให้แล้วนะ ถ้าน้องหมอแครล์อยากสนับสนุนเด็กๆ เราให้ทุนนักเรียนเรียนดีไปเรียนต่อต่างประเทศดีมั้ย"
"ส่วนใครที่จะได้ทุน พี่จะคัด และส่งมาให้น้องหมอแครล์เลือก"
"ทำไวจังเลยนะคะ" แครลอไรลด์เงยหน้าจากเอกสารและเอ่ยชมคนตรงหน้า
"พี่เก่งเรื่องหาผลประโยชน์น่ะ"
คนฟังก็ได้แต่พยักหน้าให้น้อยๆ
"ถ้าแบบนั้นทำไมไม่ไปหางานอื่นทำล่ะคะ งานอื่นน่าจะทำเงินได้มากกว่านี้"
"พี่ชอบคนในเครื่องแบบ"
"แค่นั้นน่ะเหรอ"
"แล้วพี่ต้องมีเหตุผลอื่นหรือไงล่ะ"
"ถ้าเป็นคนอื่นคงมี แต่คุณ มีแค่นี้ก็คงพอแล้ว"
"เหมือนโดนด่าแบบสุภาพ"
"ไม่สนิท ฉันไม่ด่าหรอกค่ะ"
วิกานดาทำหน้าหงอทันที
"สรุป มีเรื่องจะคุยแค่นี้ใช่มั้ยคะ"
"ต้องทำยังไงน้องหมอแครล์จะสนใจพี่"
"ปกติคนที่ฉันสนใจ มักจะเป็นพวกที่จนตรอกแต่มีความมุ่งมั่นและพร้อมที่จะลงทุนด้วย ซึ่งคุณกานไม่ใช่แบบนั้น"
"หมายถึงพวกลูกหนี้น่ะเหรอ"
"ทำนองนั้นค่ะ"
"งั้นถ้าพี่กู้เงิน น้องหมอแครล์ก็จะสนใจพี่ใช่มั้ย" ถามอย่างตาโตออกมา
"ฉันไม่ได้ให้กู้ทุกคนค่ะ"
"โธ่... อยากจะเป็นหนี้สักหน่อย"
"เป็นหนี้น่ะ ไม่สนุกหรอกนะคะ และยิ่งเป็นหนี้ฉัน ฉันกัดไม่ปล่อย"
"พูดซะกระตุ้นต่อมอยากของพี่เชียว"
"เดี๋ยวๆ ค่ะ นี่คุณคิดไปถึงไหน"
"ถึงบนเตียง"
ได้ยินแบบนั้นคนฟังก็ได้แต่ส่ายหัวให้
"จะมีสักครั้งมั้ยคะ ที่คุณจะจริงจังไม่เอาแต่พูดจาสองแง่สองง่ามแบบนี้ ไม่น่าเคารพเลย"
"พี่เริ่มจะเจ็บกับคำด่าของน้องหมอแครล์แล้วสิ" พูดออกมาด้วยสีหน้าเจื่อนๆ
"คุณจะสั่งอะไรมั้ยคะ เดี๋ยวฉันเลี้ยง" และแครลอไรลด์ก็เริ่มพูดต่อเพื่อเปลี่ยนเรื่อง
"น้ำผึ้งมะนาว" บอกออกมาทันทีเพราะได้ยินว่าคนตรงหน้าจะเลี้ยง จึงต้องรับไว้
"รีบสั่งค่ะ เพราะฉันจะไปแล้ว"
"งั้นพี่ไม่กงไม่กินมันแล้ว ถ้าน้องหมอแครล์ไม่อยู่ด้วย"
แครลอไรลด์ได้ยินแบบนั้นก็ลุกขึ้นทันทีและพูดต่อ
"ไว้เราเจอกันใหม่นะคะ"
"ด เดี๋ยวสิ" ฟากวิกานดาเองก็รีบลุกขึ้นบ้าง แต่คงไม่ระวัง เท้าเตะเข้าที่ขอบโต๊ะ จนล้ม
"ว ว้าย.." เธอร้องเสียงหลง
'เพล้ง!'
วิกานดาทั้งเจ็บและตกใจไปด้วย เพราะแก้วน้ำดันร่วงลงพื้นและแตกกระจาย
แต่ด้วยความเป็นคนไม่ระวังและซุ่มซ่าม
"อย่าค่ะ.." แครลอไรลด์เอ่ยห้ามคนที่ทำท่าจะลุก
"โอ้ย!" รอบนี้วิกานดาร้องอีกครั้งเพราะมือปัดป่ายไปโดยแก้วที่แตก
"เจ็บอะ เจ็บ เจ็บ เจ็บ"
ด้วยความไวของแครลอไรลด์รีบหยิบกระดาษทิชชู่มาช่วยซับเลือดให้
"หยุดร้องก่อนค่ะ คนมองใหญ่แล้ว"
"ก็พี่เจ็บหนิ ไม่ลองมาโดนบาดแบบนี้บ้างน้องหมอแครล์คงไม่รู้ว่ามันเจ็บและก็แสบด้วย" โวยวายออกมาไม่หยุด
"ขอโทษนะคะที่ฉันไม่ซุ่มซ่ามแบบคุณเลยคงจะไม่มีทางเจ็บแบบนี้"
"หลอกด่าอีกแล้ว!"
"ลุกค่ะ จะได้ไปทำแผล"
"โอ๊ย.. พี่ลุกไม่ไหวหรอก เจ็บมือ ช่วยอุ้มหน่อย" ได้ทีแสร้งทำเป็นอ่อนแอเพื่อให้คนตรงหน้าเห็นใจ
"อ่อ ได้สิ" พูดออกมาก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะกวักมือเรียกพนักงานที่ยืนอยู่ใกล้ให้เข้ามาหา
"เจ็บมากมั้ยครับ" พนักงานสองคนที่แครลอไรลด์เรียกมาถามไถ่คนที่นั่งล้มพับอยู่อย่างเป็นห่วง แถมยังช่วยพยุงหล่อนลุกขึ้นด้วย
"ด ด เดี๋ยว เดี๋ยว ฉันลุกเองได้" ก็เพราะคนที่เข้ามาช่วยไม่ใช่คนที่อยากได้ จึงรีบปฏิเสธและกุมมือตัวเอง ลุกขึ้นเองด้วยความทุลักทุเล
ท่าทางแบบนั้นทำให้แครลอไรลด์แอบขำแต่สักพักก็ต้องเก็บอาการ เพราะสีหน้าเอาเรื่องของวิกานดา
"ทำไมไม่ใช้แก้วพลาสติก แก้วแบบนี้มันอันตราย เห็นมั้ยทำให้ลูกค้าเจ็บตัว" ไม่วาย วิกานดาเอาแต่ต่อว่าพนักงานไม่หยุดเพราะความเสียหน้า
"ขอโทษครับลูกค้า"
"รับผิดชอบมาเลย จะเอายังไงก็ว่ามา"
"เอ่อ... คือ"
แครลอไรลด์ที่ยืนอยู่ก็ไม่อาจจะทนฟังได้
"พอก่อนค่ะ" หันไปบอกวิกานดาก่อนจะหันกลับไปหาพนักงาน
"ฉันจะจ่ายค่าเสียหายที่ทำแก้วแตก และจะรับผิดชอบลูกค้าคนนี้ให้เองค่ะ"
"ขอบคุณครับ" พนักงานสองคนรีบผงกหัวขอบคุณทันที
"อะไรกันน้องหมอแครล์ยอมได้ยังไง นี่พี่เสียหายนะ"
"หุบปากก่อนค่ะคุณป้า" แครลอไรลด์เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงและใบหน้าตึงๆ นั่นทำให้วิกานดาเงียบกริบ
"ฉันจะรับผิดชอบคุณเองค่ะ จบนะคะ" บอกพร้อมดึงแขนวิกานดาให้เดินตามออกมาจากร้านนั้น
....
เรื่องของคุณผู้หญิงกับกี้ ไรท์จะหยุดอัพนะคะ และขอลบเนื้อหาที่เคยลงไว้ออกด้วยค่ะ
หลังจากนี้จะเป็นเรื่องของคุณวิกานดากับน้องหมอแครล์ล้วนๆ ค่ะแครลอไรลด์นั่งดื่มกาแฟอยู่ในร้านประจำ นอกเหนือจากงานที่คลินิกที่ต้องเข้าทุกแทบทุกวัน ก็ยังมีงานอื่น โดยเธอจะใช้ร้านกาแฟเป็นที่คุยงาน
"บังเอิญจัง" เสียงนี้เรียกความสนใจให้แครลอไรลด์ต้องหันไปมอง
"มาได้ไงเนี่ย"
ก็คนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าเธอคือวิกานดา
"พี่ออกมาประชุม และก็ บัง เอิญ เห็นรถน้องหมอแครล์จอดอยู่หน้าร้าน พี่ก็เลยลางานครึ่งวันซะเลย" ไม่พูดเปล่ายังทำเนียนนั่งลงฝั่งตรงข้ามอีก
"มันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ"
"ก็ยากอยู่นะกว่าจะหาตัวน้องหมอแครล์เจอ อุ้ย!" ยกมือขึ้นปิดปากตัวเองทันทีเพราะเผลอหลุดปากออกมา
"แสดงว่าไม่ใช่ บัง เอิญ"
"แหม... ก็ใจมันคิดถึง พี่ก็เลยโทรหาเลขาน้องหมอแครล์ และก็ตามมา"
"ฉันไม่มีเลขานะคะ"
"ก็น้องกี้ไง"
อีกแล้ว!!! เธอน่าจะเจ็บแล้วจำว่าตอนนี้กีรดาเพื่อนตัวดีไม่น่าไว้ใจ
"จะเอายังไงคะ ฉันไม่มีเวลานะ ต้องไปที่อื่นต่อ"
"แหม พี่พึ่งมาถึงก็จะไล่เลยเหรอ น้อยใจนะ"
แครลอไรลด์ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย
"เรื่องของเรามันเป็นไปไม่ได้นะคะ คุณอย่าตื๊อฉันเลยค่ะ"
"โน โน โน วันนี้พี่ไม่ได้มาเพราะเรื่องของเรา แต่เป็นเรื่องของธุรกิจล้วนๆ"
"เรื่องส่วนแบ่งสองเปอร์เซ็นต์น่ะเหรอคะ"
"อะไรกัน เห็นพี่เป็นคนยังไง แค่นั้นน่ะ พี่ไม่เอาหรอก"
"แล้วมันเรื่องอะไรล่ะคะ"
"นี่อะ.." พูดพร้อมส่งไอแพดให้คนตรงหน้าแถมยังอธิบายต่อ
"พี่คิดโครงการให้แล้วนะ ถ้าน้องหมอแครล์อยากสนับสนุนเด็กๆ เราให้ทุนนักเรียนเรียนดีไปเรียนต่อต่างประเทศดีมั้ย"
"ส่วนใครที่จะได้ทุน พี่จะคัด และส่งมาให้น้องหมอแครล์เลือก"
"ทำไวจังเลยนะคะ" แครลอไรลด์เงยหน้าจากเอกสารและเอ่ยชมคนตรงหน้า
"พี่เก่งเรื่องหาผลประโยชน์น่ะ"
คนฟังก็ได้แต่พยักหน้าให้น้อยๆ
"ถ้าแบบนั้นทำไมไม่ไปหางานอื่นทำล่ะคะ งานอื่นน่าจะทำเงินได้มากกว่านี้"
"พี่ชอบคนในเครื่องแบบ"
"แค่นั้นน่ะเหรอ"
"แล้วพี่ต้องมีเหตุผลอื่นหรือไงล่ะ"
"ถ้าเป็นคนอื่นคงมี แต่คุณ มีแค่นี้ก็คงพอแล้ว"
"เหมือนโดนด่าแบบสุภาพ"
"ไม่สนิท ฉันไม่ด่าหรอกค่ะ"
วิกานดาทำหน้าหงอทันที
"สรุป มีเรื่องจะคุยแค่นี้ใช่มั้ยคะ"
"ต้องทำยังไงน้องหมอแครล์จะสนใจพี่"
"ปกติคนที่ฉันสนใจ มักจะเป็นพวกที่จนตรอกแต่มีความมุ่งมั่นและพร้อมที่จะลงทุนด้วย ซึ่งคุณกานไม่ใช่แบบนั้น"
"หมายถึงพวกลูกหนี้น่ะเหรอ"
"ทำนองนั้นค่ะ"
"งั้นถ้าพี่กู้เงิน น้องหมอแครล์ก็จะสนใจพี่ใช่มั้ย" ถามอย่างตาโตออกมา
"ฉันไม่ได้ให้กู้ทุกคนค่ะ"
"โธ่... อยากจะเป็นหนี้สักหน่อย"
"เป็นหนี้น่ะ ไม่สนุกหรอกนะคะ และยิ่งเป็นหนี้ฉัน ฉันกัดไม่ปล่อย"
"พูดซะกระตุ้นต่อมอยากของพี่เชียว"
"เดี๋ยวๆ ค่ะ นี่คุณคิดไปถึงไหน"
"ถึงบนเตียง"
ได้ยินแบบนั้นคนฟังก็ได้แต่ส่ายหัวให้
"จะมีสักครั้งมั้ยคะ ที่คุณจะจริงจังไม่เอาแต่พูดจาสองแง่สองง่ามแบบนี้ ไม่น่าเคารพเลย"
"พี่เริ่มจะเจ็บกับคำด่าของน้องหมอแครล์แล้วสิ" พูดออกมาด้วยสีหน้าเจื่อนๆ
"คุณจะสั่งอะไรมั้ยคะ เดี๋ยวฉันเลี้ยง" และแครลอไรลด์ก็เริ่มพูดต่อเพื่อเปลี่ยนเรื่อง
"น้ำผึ้งมะนาว" บอกออกมาทันทีเพราะได้ยินว่าคนตรงหน้าจะเลี้ยง จึงต้องรับไว้
"รีบสั่งค่ะ เพราะฉันจะไปแล้ว"
"งั้นพี่ไม่กงไม่กินมันแล้ว ถ้าน้องหมอแครล์ไม่อยู่ด้วย"
แครลอไรลด์ได้ยินแบบนั้นก็ลุกขึ้นทันทีและพูดต่อ
"ไว้เราเจอกันใหม่นะคะ"
"ด เดี๋ยวสิ" ฟากวิกานดาเองก็รีบลุกขึ้นบ้าง แต่คงไม่ระวัง เท้าเตะเข้าที่ขอบโต๊ะ จนล้ม
"ว ว้าย.." เธอร้องเสียงหลง
'เพล้ง!'
วิกานดาทั้งเจ็บและตกใจไปด้วย เพราะแก้วน้ำดันร่วงลงพื้นและแตกกระจาย
แต่ด้วยความเป็นคนไม่ระวังและซุ่มซ่าม
"อย่าค่ะ.." แครลอไรลด์เอ่ยห้ามคนที่ทำท่าจะลุก
"โอ้ย!" รอบนี้วิกานดาร้องอีกครั้งเพราะมือปัดป่ายไปโดยแก้วที่แตก
"เจ็บอะ เจ็บ เจ็บ เจ็บ"
ด้วยความไวของแครลอไรลด์รีบหยิบกระดาษทิชชู่มาช่วยซับเลือดให้
"หยุดร้องก่อนค่ะ คนมองใหญ่แล้ว"
"ก็พี่เจ็บหนิ ไม่ลองมาโดนบาดแบบนี้บ้างน้องหมอแครล์คงไม่รู้ว่ามันเจ็บและก็แสบด้วย" โวยวายออกมาไม่หยุด
"ขอโทษนะคะที่ฉันไม่ซุ่มซ่ามแบบคุณเลยคงจะไม่มีทางเจ็บแบบนี้"
"หลอกด่าอีกแล้ว!"
"ลุกค่ะ จะได้ไปทำแผล"
"โอ๊ย.. พี่ลุกไม่ไหวหรอก เจ็บมือ ช่วยอุ้มหน่อย" ได้ทีแสร้งทำเป็นอ่อนแอเพื่อให้คนตรงหน้าเห็นใจ
"อ่อ ได้สิ" พูดออกมาก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะกวักมือเรียกพนักงานที่ยืนอยู่ใกล้ให้เข้ามาหา
"เจ็บมากมั้ยครับ" พนักงานสองคนที่แครลอไรลด์เรียกมาถามไถ่คนที่นั่งล้มพับอยู่อย่างเป็นห่วง แถมยังช่วยพยุงหล่อนลุกขึ้นด้วย
"ด ด เดี๋ยว เดี๋ยว ฉันลุกเองได้" ก็เพราะคนที่เข้ามาช่วยไม่ใช่คนที่อยากได้ จึงรีบปฏิเสธและกุมมือตัวเอง ลุกขึ้นเองด้วยความทุลักทุเล
ท่าทางแบบนั้นทำให้แครลอไรลด์แอบขำแต่สักพักก็ต้องเก็บอาการ เพราะสีหน้าเอาเรื่องของวิกานดา
"ทำไมไม่ใช้แก้วพลาสติก แก้วแบบนี้มันอันตราย เห็นมั้ยทำให้ลูกค้าเจ็บตัว" ไม่วาย วิกานดาเอาแต่ต่อว่าพนักงานไม่หยุดเพราะความเสียหน้า
"ขอโทษครับลูกค้า"
"รับผิดชอบมาเลย จะเอายังไงก็ว่ามา"
"เอ่อ... คือ"
แครลอไรลด์ที่ยืนอยู่ก็ไม่อาจจะทนฟังได้
"พอก่อนค่ะ" หันไปบอกวิกานดาก่อนจะหันกลับไปหาพนักงาน
"ฉันจะจ่ายค่าเสียหายที่ทำแก้วแตก และจะรับผิดชอบลูกค้าคนนี้ให้เองค่ะ"
"ขอบคุณครับ" พนักงานสองคนรีบผงกหัวขอบคุณทันที
"อะไรกันน้องหมอแครล์ยอมได้ยังไง นี่พี่เสียหายนะ"
"หุบปากก่อนค่ะคุณป้า" แครลอไรลด์เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงและใบหน้าตึงๆ นั่นทำให้วิกานดาเงียบกริบ
"ฉันจะรับผิดชอบคุณเองค่ะ จบนะคะ" บอกพร้อมดึงแขนวิกานดาให้เดินตามออกมาจากร้านนั้น