ประตูห้องของแครลอไรลด์เปิดออก แถมอีกมือยังคว้าแขนวิกานดาให้ตามมาด้วย
"เชิญค่ะ เราหมดเรื่องที่จะคุยกันแล้ว"
"อะไรกัน ไม่ต้องเขินหรอกน่า โตๆ กันแล้ว อยากทำอะไรก็ทำเถอะ จะไปแคร์ทำไม" แถมวิกานดายังเอ่ยออกมาอย่างหน้าตาย ไม่รู้สึกอายกับคำพูดตัวเองสักนิด
"ฉันไม่ได้เขิน แต่ฉันรำคาญ เลิกพูดจาแบบนี้สักที"
"ก็ขอพี่สักทีไม่ได้รึไง"
"ไม่อายฉ้น ก็น่าจะอายหน้าที่การงานตัวเองบ้างนะคะ ไม่กลัวว่าจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้เด็กรึไง"
"แล้วไง เรื่องแบบนี้ มันตัวใครตัวมัน พี่ไม่ใช่คนหัวโบราณนะ ไม่ถือ"
"พูดแบบนี้ ทำให้ฉันสงสัยแล้วสิคะ ว่าตำแหน่งงานที่ได้มา เพราะความสามารถหรือเอาตัวเข้าแลกกันแน่"
"น้องหมอแครล์!" ปั้นปึงส่งเสียงแว้ดออกมา แม้ที่แครลอไรลด์พูดจะมีส่วนจริงอยู่บ้าง แต่เธอไม่เคยรู้สึกเจ็บเท่านี้
"หวังว่าถ้าครั้งหน้าถ้าเราเจอกัน คุณกานจะไม่พูดเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อีกนะคะ"
"เชิญค่ะ" พูดพร้อมทำท่าไล่โดยเปิดประตูให้กว้างกว่าเดิม
"จ้า ไปแล้วจ้า เอะอะก็ไล่ ไล่เก่งจริงๆ" พูดออกมาไม่ได้จริงจังนัก ก่อนจะยกแขนตัวเองขึ้น
"แต่ถ้าอยากให้พี่ไปจริงๆ ก็ปล่อยแขนพี่สิจ๊ะ" และรอบนี้วิกานดาก็เอ่ยอย่างเป็นต่อ พร้อมส่งยิ้มกวนๆ ให้แครล์อีก
นั่นทำให้เจ้าของห้องรู้สึกตัว ปล่อยมือออกจากแขนวิกานดาทันที
"เชิญค่ะ" และยังเอ่ยปากไล่ต่ออีกอย่างแก้เก้อ
"ว้าย!" และก็ต้องร้องออกมาเสียงหลง ก็จู่ๆ วิกานดาก็แอบขโมยหอมแก้มเธอแบบไม่ทันตั้งตัว แถมเมื่อกว่าจะรู้ตัวคนชอบก่อกวนก็หนีหายไปแล้ว
"ยัยป้า! ฉันจะ จะ โธ่... ยัยป้าโรคจิต" ก็คิดคำต่อว่าไม่ออกแล้ว แถมได้แต่ยืนถูแก้มตัวเองไปด้วยราวกับต้องการจะลบรอยจูบนี้
รถหรูของแครลอไรลด์เลี้ยวเข้ามาจอดภายในรั้วโรงเรียนมัธยม
ทุกสายตาของเหล่านักเรียนรวมถึงอาจารย์พากันจับจ้องสาวสวยชาวต่างชาติในลุคนักธุรกิจทันทีที่เธอก้าวเดิน
วันนี้ที่โรงเรียนมีกิจกรรมสำคัญ และเธอในฐานะผู้บริจาคเงินก็พร้อมมีส่วนร่วมตามคำเชิญของผู้อำนวยการ
"สวัสดีครับคุณแครล์ ยินดีเป็นย่างยิ่งที่ได้เจอคุณเสียที"
"เช่นกันค่ะ"
เขาเพียงแต่ได้ยินเรื่องของแครลอไรลด์จากปากของวิกานดาเท่านั้น ไม่เคยพบเจอกันสักครั้ง
"ไม่ทราบว่าคุณอยากจะเดินดูโครงการของเด็กๆ มั้ยครับ"
"ฉันพอมีเวลาว่างอยู่ที่นี่สองชั่วโมงค่ะ"
"ดีเลยครับ เพราะคุณแครล์ เด็กๆ เลยได้ทำตามฝัน" เขาพูดมันออกมาด้วยความชื่นชม
"ฉันยินดีที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาความรู้และสร้างฝันของเด็กๆ ค่ะ และถ้าในอนาคตขาดเหลือสิ่งใดก็แจ้งฉันได้นะคะ"
"แค่ที่คุณสนับสนุนก็มากพอแล้วครับ แต่ถ้าคุณอยากจะช่วยเด็กๆ จริงๆ ก็แจ้งผ่านคุณกานได้ตลอดนะครับ"
"อ่อ ค่ะ" ก็ทันทีที่ได้ยินชื่อของวิกานดา เธอก็รู้สึกชะงักขึ้นมากลางอากาศ เพราะคนที่ชอบมาทำท่าทางแปลกๆ กับเธอดันหายไปเลยนับตั้งแต่วันนั้นที่เธอถูกขโมยหอมแก้ม
ยังไม่ทันได้พูดจากันต่อ อยู่ๆ คนที่กำลังนึกถึงก็เดินเข้ามาภายในห้องนี้
"อ้าว น้องหมอแครล์นี่เอง ทำไมมาไม่บอกพี่ก่อนล่ะ พี่จะได้ออกไปรอต้อนรับหน้าโรงเรียน"
"คุณมาก็ดีแล้ว ผมกำลังต้องการคนช่วยอยู่พอดี"
"ช่วยแบบไหนคะ"
ด้วยน้ำเสียงแบบนั้นทำให้แครลอไรลด์ต้องเงยหน้าขึ้นมองด้วยความสงสัย ก็แบบที่ฟังดูน่ารำคาญเหมือนที่เคยได้ยินจากปากของวิกานดา แถมยังสองแง่สองง่ามอีก
"ช่วยพาคุณแครล์ไปดูโครงการของเด็กๆ ทีน่ะครับ"
"อ๋อ งานถนัดค่ะ เรื่องดูแลผู้บริจาค"
"ไวหน่อยก็ดีนะครับ คุณแครล์มีเวลาแค่สองชั่วโมง"
"งั้นมากันเถอะจ้ะ อยากบริการจนใจจะขาดแล้ว"
วินกานดาจงใจเดินเคียงคู่กับแครลอไรลด์แบบที่ตัวติดไม่ห่าง จนคนหนึ่งรู้สึกได้
"คุณกานเดินนำฉันก็ได้นะคะ"
"พี่จะทำแบบนั้นได้ยังไงคะ ท่านผู้อำนวยการสั่งให้พี่ดูแลน้องหมอแครล์อย่างดี"
ได้ยินแบบนั้น แครลอไรลด์ก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้
"ดูแลผู้บริจาคอย่างดีแบบนี้ทุกคนเลยรึเปล่าคะ แบบที่ตามไปถึงที่ทำงานและบ้าน" แครลอไรลด์จงใจพูดจากระทบกระทั่งคนข้างๆ แต่คงจะผิดคาด
"ก็ไม่ทุกคนหรอก เฉพาะแค่คนที่พี่สนใจ" บอกออกมาอย่างไม่สะทกสะท้าน และเดินนำไปเปิดประตูห้องซ้อมดนตรีให้
ก็เพื่อจะอวดผลงาน โครงการของนักเรียนที่ตนเองอุส่าใช้เงินบริจาคของแครลอไรลด์เพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถของเด็กๆ
"เด็กๆ กำลังซ้อมดนตรีเพื่อจะแสดงเย็นนี้"
ภายในห้องซ้อมยังมีห้องที่แยกย่อยและเก็บเสียงอีกหลายห้อง เพื่อให้เพียงพอต่อการซ้อมของเด็กนักเรียนหลายกลุ่ม แถมยังมีเครื่องดนตรีที่ครบครันอีก
พวกเธอเพียงมองดูผ่านช่องกระจกเล็กๆ ด้วยกัน
"พี่จัดสรรค์เงินบริจาคของน้องหมอแครล์ส่วนหนึ่งเพื่อพัฒนาชมรมดนตรี เพราะมีนักเรียนหลายคนที่มีความสามารถแต่ขาดทุนทรัพย์"
"มีธนาคารเครื่องดนตรี โดยนักเรียนสามารถยืมเครื่องดนตรีเหล่านี้กลับไปซ้อมที่บ้านได้"
"แล้วผลตอบรับล่ะคะ"
"ตามมาสิ" วิกานดาบอกก่อนจะเดินนำไปถึงห้องในสุด และชะโงกหน้าดูผ่านกระจกเล็กๆ
"วงดนตรีวงนี้ เพิ่งจะคว้ารางวัลชนะการประกวดระดับจังหวัด ช่วงนี้เลยต้องซ้อมหนักเพื่อประกวดโครงการอื่นต่อ"
"ทั้งทำชื่อเสียงให้โรงเรียน และถือเป็นโปรไฟล์ติดตัวให้นักเรียน ตอนที่จะเข้ามหาวิทยาลัย"
"และก็..." วิกานดาเดินนำไปชะโงกดูอีกห้อง
"เห็นมือเบสหน้าตาน่ารักนั่นมั้ย"
นั่นทำให้แครลอไรลด์ต้องชะโงกหน้าตามไปมองบ้าง แบบที่ใกล้กว่าเก่า และแถมยังใกล้กับวิกานดาด้วย
"เพิ่งอยู่แค่ ม.สี่ แต่ได้ทุนจากมหาวิทยาลัยในอเมริกาแล้วนะ"
ได้ยินแบบนั้นก็ทำให้แครลอไรลด์เผลอยิ้มออกมาน้อยๆ
"นี่ยิ้มเพราะพี่รึเปล่า" พูดออกมาอย่างหยอกล้อ แถมยังขยับหน้าเข้าไปใกล้แครลอไรลด์ด้วย จนปลายจมูกเฉียดชิดกัน
คนถูกจู่โจมแบบไม่รู้ตัวรีบผละออกทันที
"เอ๊ะ... หน้าแดงอีก เขินพี่ล่ะสิ"
วันนี้คงไม่ใช่วันของแครลอไรลด์ เพราะเอาแต่ชื่นชมกับสิ่งที่ลงแรงไปจนไม่ทันระวังตัวว่าคนข้างๆ อันตรายแค่ไหน
"อย่าเยอะ" แต่สิ่งหนึ่งที่ตรงกับใจของแครลอไรลด์คือปาก เธอต่อว่าวิกานดาออกมาแบบจริงจัง
"แหม ก็พี่ชอบน้องหมอแครล์นี่นา ยิ่งหน้าบึ้งๆ คิ้วขมวดแบบนี้พี่ยิ่งชอบ" ไม่พูดเปล่ายังทำท่าเพ้อฝันอีก
คนฟังได้แต่ส่ายหัวให้ กำลังจะพูดต่อแต่ก็ต้องหยุดแค่นั้น
"ขอตัวสักครู่นะคะ" นั่นเพราะเสียงโทรศัพท์ของแครลอไรลด์ดังขึ้น
และสาวสวยหน้าฝรั่งก็รีบเดินหนีจากตรงนั้นไปทันที ทิ้งให้วิกานดาได้แต่ยิ้มถูกใจกับใบหน้าตื่นๆ ของคนที่หมายปอง