7

1010 คำ
“บ้า ละเมอกลางวันหรือไงคะ” หญิงสาวแกะมือปลาหมึกออกจากเอวเงยหน้าขึ้นมองค้อนชายหนุ่มที่ถือวิสาสะจุ๊บริมฝีปากโดยไม่ได้รับอนุญาต “เขินเหรอ” แตะแก้มหล่อนหยอกเย้า “ไหน ใครเขินกัน” “เธอไง” “ตาฝาดแล้วหน้าณดาก็เป็นแบบนี้ตลอด ใช่เขินที่ไหนกัน” “งั้นจูบ” “อย่าค่ะ เดี๋ยวมีคนเข้ามาเห็น” “เห็นก็ช่างหัวเขา” “คุณภู...” พิมพ์ณดาผลักอกกว้างออกส่ายใบหน้าไปมาปรามไม่ให้เขาจูบจริงๆ ติดกระดุมต่อให้ครบทุกเม็ด “คิดออกแล้วค่ะ ตอนเย็นเราไปกินหมูกระทะกันเนอะ ณดาอยากนึกกินมาหลายวันแล้ว” “ได้สิแม่หมู เดี๋ยวพาไปนะ” ภวัตกระเซ้าเย้าแหย่แม้หล่อนจะติดกระดุมให้หมดแล้วแต่ก็ไม่ยอมปล่อยเอวคอดให้เป็นอิสระคอยกอดคอยหอมหากำลังใจก่อนต้องเข้าไร่ไปดูแปลงเกษตรกับลูกน้องคนสนิท “พี่ภูขา” เสียงนั้นทำให้ทั้งสองรีบผละออกจากกัน ผู้มาใหม่เปิดประตูเข้ามาในห้องพร้อมส่งเสียงทักทายทว่ารอยยิ้มต้องหุบลงเมื่อเห็นพี่สาวตัวเองก็อยู่ในนี้ด้วย พิมพ์นาราร้องถามเสียงร้อนรนห้วนกว่าตอนทักผู้ชายเยอะ “ทำไมพี่ณดาเข้ามาอยู่ในห้องทำงานของพี่ภู” “จะถามอะไรก็หัดมีสามัญสำนึกบ้าง พี่เป็นพี่สาวเธอนะนารา” “ไม่รู้แหละหนูนาหวงพี่ภู” ภวัตยังคงนั่งบนโต๊ะทำงานยกปลายนิ้วขึ้นเกาขมับเตรียมปวดประสาทกับการก่อกวนของพิมพ์นารา เพียงเสี้ยวพริบตาเท่านั้นสาวลุคหวานทว่าเปรี้ยวจี๊ดก็เข้ามาคล้องแขนดึงให้ลงมายืนเคียงกาย “สวัสดีค่ะพี่ภูไม่ได้เจอตั้งหลายเดือนหนูนาคิดถึงที่สุดเลย” “จ้ะ” เอนกายไปอีกทางแต่สาวสวยก็ขยับเข้ามากอดแขนเหมือนเดิม “แล้วนี่หนูนามาได้ยังไงเหรอ” “หนูนาเบื่อก็เลยลาออกจากงานแล้วค่ะ ส่งเรซูเม่ไปสมัครโรงแรมที่กรุงเทพฯ ไม่รู้เขาจะรับไหม อยู่ว่างๆ ก็เลยมาหาพี่ภู” ซบพวงแก้มแนบท่อนแขนแข็งแรง เน้นย้ำว่ามาหา ‘พี่ภู’ ซะจนพิมพ์ณดากลอกตาเป็นเลขเเปดเอือมระอา “ทำไมถึงไม่อยู่ช่วยงานที่ร้านอาหาร แม่ไม่สบายนทก็ต้องดูแลร้านดูแลพนักงานคนเดียวช่วงศุกร์เสาร์อาทิตย์คนเยอะจะตายไม่สงสารน้องบ้างเหรอ นทเรียนปีสุดท้ายแล้วนะช่วงนี้มีสอบด้วย” “ทำไมหนูนาไม่อยู่ช่วยงานที่ร้านของแม่” เห็นว่าพิมพ์ณดาถามแต่พิมพ์นาราทำเฉยเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ไม่สนใจฟังก็เลยถามซ้ำให้ “หนูนาเบื่อร้านเบื่อหน้าไอ้นทค่ะขี้เกียจทะเลาะกับมัน ขออยู่กับพี่ภูสักสองสามวันนะคะอีกเดี๋ยวหนูนาก็จะไปกรุงเทพแล้ว” ซบใบหน้าลงบนต้นแขนกำยำอีกครั้งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่อายพี่สาวตัวเอง “เอาที่สบายใจเถอะ อยากทำอะไรก็เชิญอย่ามาขอเงินพี่ก็แล้วกัน” สุดจะทนพิมพ์ณดาก็เลยประชดแล้วเดินหนีออกจากห้อง ได้ยินเสียงน้องสาวร้องตามหลังก็ยิ่งปวดหัวหนักมากกว่าเดิม “แล้วคิดว่าหนูนามาที่นี่ทำไมล่ะ!” การมาของพิมพ์นาราป่วนไปทั้งบ้านป้านงค์ต้องตามเก็บของพิมพ์ณดาในห้องนอนของภวัต รวมถึงเก็บของภวัตออกจากห้องนอนของพิมพ์ณดาเพื่อไม่ให้พิมพ์นาราล่วงรู้ความลับ พิมพ์นาราสาวสวยสุดมั่น ปีนี้อายุยี่สิบสี่มีนิสัยค่อนข้างเอาแต่ใจคนอื่นพูดอะไรไม่เคยฟังทำเสียงเเข็งใส่ตลอดเว้นแค่ภวัตคนเดียวเท่านั้นที่พิมพ์นารายอมอ่อนข้อให้ สองพี่น้องแตกต่างกันราวหน้ามือหลังมือ น้องสาวศัลยกรรมหลายจุดสวยน่ารักชายไหนเห็นก็เข้ามาจีบ สวมเสื้อผ้าทันสมัยมั่นอกมั่นใจส่วนพี่สาวนั้นเชยแสนเชยอย่างเช่นในตอนนี้ที่เพิ่งเดินออกจากห้องน้ำ “แน่ใจนะคะว่านั่นคือชุดนอนไม่ใช่ชุดปฏิบัติธรรมของแม่ชีสำนักไหน” “ทำไม เหมือนเหรอ” ก้มลงมองชุดตัวเอง “มันเชยมากน่ะสิคะ ดูชุดหนูนาเป็นตัวอย่างนะมันต้องแบบนี้” หมุนกายสามร้อยหกสิบองศาเชิดหน้าสูงปิดท้ายยกมือเท้าเอว “เป็นผู้หญิงก็ต้องหัดแต่งหน้าแต่งตัวให้สวยสมเป็นผู้หญิงหน่อยสิ มิน่าล่ะพี่ถึงไม่มีใครหลงเข้ามาจีบอนาคตมีหวังขึ้นคานแน่ๆ” “วิจารณ์ให้มันน้อยๆ หน่อย ใส่ชุดไหนมันก็นอนได้เหมือนกันนั่นแหละ” ยัยน้องสาวบ้าพูดซะหล่อนเสียความมั่นใจ ใส่แบบนี้ทุกคืนภวัตก็ไม่เห็นจะว่าอะไรเพราะสุดท้ายเขาก็จับถอดออกอยู่ดี “หนูนาหวังดีหรอกถึงพูด แต่ก็ดีนะคะ แต่งแบบนี้แหละพี่ภูจะได้ไม่หน้ามืดมาสนใจพี่ไง” พิมพ์นาราหัวเราะคิกคักสนุกอยู่คนเดียว น้องสาวหล่อนก็ไม่ต่างจากบรรดาแฟนคลับของเขา คิดอะไรตื้นจริงเชียว เห็นเงียบๆ แบบนี้แต่แอบกินเรียบนะจ๊ะ พิมพ์ณดาอยากโม้เหลือเกินคนอื่นจะได้เลิกดูถูกสักทีทว่าก็ได้แค่คิดเท่านั้น เรื่องนี้มันละเอียดอ่อนเกินกว่าจะให้ใครรู้ ทั้งสองคุยกันอีกนิดหน่อยก็ปีนขึ้นเตียงมานอน กลางดึกคืนเดียวกันนอนไม่หลับเช่นเคยเหงากายแปลกๆ พลิกไม่รู้กี่ครั้งก็ยังนอนไม่หลับยันกายลุกขึ้นมาหยิบโทรศัพท์ ‘คิดถึง’ ข้อความสั้นๆ ถูกส่งมาจากภวัต หล่อนแอบมองน้องสาวเห็นยังหลับสบายก็เดินเข้าห้องน้ำไม่อยากให้แสงหน้าจอโทรศัพท์รบกวน ‘คิดถึงเหมือนกันค่ะ’ ‘มาหาหน่อย’ ‘ไม่ได้ค่ะเดี๋ยวน้องตื่นมาเห็น’ ‘แป๊บเดียว จะออกไปรอที่ระเบียงบ้านนะ’ “เอาแต่ใจไม่มีใครเกิน”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม