“คุณจะไปไหน”
ไรอันเลิกคิ้วถามขณะที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าร่างบางระหง นัยน์ตาคู่คมกวาดมองร่างอรชรในชุดเดรสเรียบหรูสีครีมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม ใบหน้างดงามถูกแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางเล็กน้อยเพิ่มความโดดเด่นชวนมอง ผมยาวสลวยถูกรวบเป็นหางม้าอยู่ทางด้านหลังอย่างเรียบง่าย ทว่ากลับแลดูสวยและมีสไตล์ราวกับมืออาชีพ ในมือถือกระเป๋าใบเล็กราวกับเตรียมจะออกไปข้างนอก
“ฉันจะไปบริษัทค่ะ หวังว่าคุณคงไม่ห้ามนะคะ” จันทร์เจ้าเชิดใบหน้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อตอบคำถามของคนตัวสูง
ไรอันวางมือหนาลงบนไหล่มนทั้งสองข้างเบาๆ ก่อนจะโน้มตัวลงมาเล็กน้อย นัยน์ตาคู่คมจับจ้องอยู่ที่ใบหน้างามนิ่งพลางบอกกับเธอด้วยเสียงหนัก
“ไม่…แต่ผมจะให้คนตามดูแลคุณ”
“ไม่จำเป็นค่ะคุณไรอัน”
หญิงสาวปฏิเสธทันทีที่ฟังจบ ทว่าชายหนุ่มกลับไม่ยอมง่ายๆ เช่นกัน
“จำเป็นสิ เพราะคุณเป็นผู้หญิงของผม และผมก็ต้องการให้คุณอยู่ในสายตาของผมตลอดเวลา”
“ทำไมคะ หรือว่าคุณกลัวฉันจะหนี”
เสียงหวานเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเข้มขึ้นเล็กน้อย สบตาคมกริบนิ่งอย่างไม่หลบหลีก ถึงเธอจะเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่ก็ไม่เคยคิดที่จะผิดคำสัญญากับใคร แต่ถึงคิดจะหนีเขาจริงหากมาเฟียหนุ่มไม่ยอมปล่อยเธอก็หนีไม่พ้นอยู่ดี
“เปล่า แต่ผมแค่อยากมั่นใจว่าคุณปลอดภัยดี”
“ไม่มีใครทำอะไรฉันได้หรอกค่ะ ฉันดูแลตัวเองได้”
จันทร์เจ้าบอกอย่างมั่นใจ ทว่าชายหนุ่มกลับสวนมาทันควันด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยสบอารมณ์นัก
“แน่ใจเหรอว่าไม่มีใครทำอะไรคุณได้ ไหนลองบอกมาสิว่าอาของคุณตามไปข่มขู่คุณถึงบ้านกี่ครั้งแล้ว”
“คุณรู้เรื่องฉัน?”
“ผมรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับคุณ”
‘นี่ฉันคิดถูกหรือคิดผิดกันนะที่เข้ามาเล่นกับไฟ’
จันทร์เจ้าเม้มริมฝีปากแน่นเป็นเส้นตรง ขณะพึมพำถามตัวเองในใจด้วยความสับสน ถึงแม้การตัดสินใจเข้ามาเป็นผู้หญิงของเขาจะผ่านการคิดไตร่ตรองมาแล้วอยู่หลายครั้ง แต่ก็ลืมนึกถึงอิสระภาพระหว่างที่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับเขาจนได้
“ข้อตกลงของเราคืออย่าขัดคำสั่ง! และนี่ก็เป็นคำสั่งให้อยู่ในสายตาตลอดเวลา จันทร์เจ้า”
เสียงทุ้มหนักเน้นประโยคเพื่อรื้อฟื้นความจำของเธออีกครั้ง มันไม่ใช่คำขอร้อง แต่เป็นคำสั่งที่เฉียบขาด และดูเหมือนว่าตอนนี้เธอจะไม่มีทางเลือกใดใดนอกจากการยอมจำนน
“ค่ะ ฉันยอมให้คุณส่งคนติดตามฉันก็ได้”
“ดีมาก…ผมก็มีงานต้องไปทำ คืนนี้อาจจะกลับดึก พอดีต้องไปงานเลี้ยงกับลูกค้า”
ไรอันคลี่ยิ้มที่มุมปากบางๆ อย่างพอใจ ก่อนจะกดจูบลงบนหน้าผากมนอย่างแผ่วเบา โดยที่ไม่รู้เลยว่าท่าทางที่แสนอ่อนโยนและอบอุ่นของเขาหลายต่อหลายครั้งกำลังทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ
“ค่ะคุณไรอัน”
“อยากไปด้วยหรือเปล่า ตอนเย็นผมจะได้ส่งคนกลับมารับคุณ”
ไรอันไม่คิดว่าคำถามนี้จะออกมาจากปากของตน เนื่องจากเขาเป็นคนวางกำแพงสูงไม่ให้ผู้หญิงที่ผ่านมาในชีวิตของเขามีอิทธิพลเหนือหัวใจและความรู้สึก แต่ไม่รู้ทำไมกับเธอคนนี้ถึงทำลายกำแพงนั้นลงอย่างง่ายดาย แถมยังอยากจะเหน็บเธอไว้ข้างกายตลอดเวลา
“ไม่ค่ะ เชิญคุณตามสบายเถอะ”
หญิงสาวปฏิเสธอย่างไม่ต้องเสียเวลาคิด เพราะเธอไม่ต้องการที่จะเข้าไปวุ่นวายกับงานของเขา
ไรอันขบกรามแน่นเมื่อได้ยินคำปฏิเสธของคนตรงหน้า นี่เธอจะรู้หรือเปล่าว่าเธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่กล้าปฏิเสธเขา แต่พอจะดึงเธอมาจูบทำโทษให้สมกับความผิดที่ทำ กลับต้องชะงักและดึงสติกลับมาเมื่อดวงตาคู่สวยนั้นไร้เดียงสาและใสซื่อเกินกว่าที่เขาจะทำร้ายจิตใจเธอได้ลงคอ
“อืม…ไว้เจอกัน”
ไรอันบอกเสียงต่ำ ก่อนที่จะปล่อยมือจากไหล่มนแล้วหมุนตัวก้าวยาวๆ ออกจากห้องไปด้วยท่าทางหัวเสียเล็กน้อย ปล่อยให้หญิงสาวมองตามด้วยความไม่เข้าใจ
“หรือว่าเราเผลอทำอะไรให้เขาไม่พอใจ”
จันทร์เจ้าพึมพำถามตัวเองเบาๆ แต่เมื่อหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้ ก็ต้องสะบัดศีรษะแรงๆ ไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกแล้วเดินตามเขาออกจากห้อง แต่แล้วเท้าเล็กก็ต้องหยุดชะงักอยู่ที่ประตูเมื่อเห็นชายฉกรรจ์รูปร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีดำสองคนยืนรออยู่ก่อนแล้ว
หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ เหมือนจะทำใจยอมรับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เพราะไม่ต้องบอกก็รู้ว่าจากนี้ไปทั้งสองคนจะมาเป็นการ์ดที่คอยตามติดเธอเป็นเงา ตามคำสั่งของไรอันมาเฟียจอมเอาแต่ใจนั่นเอง
…………………………………….
“วันนี้คุณจันทร์เจ้าเข้าบริษัท ระหว่างทางเธอแวะร้านขายยาครับท่าน”
มาเฟียหนุ่มตั้งใจฟังรายงานจากลูกน้องที่อยู่ปลายสาย หลังจากที่ปล่อยให้ตามติดหญิงสาวมาตลอดทั้งวัน แต่ประโยคของอีกฝ่ายก็ทำหัวใจคนฟังไหววูบจนต้องย้อนถามเป็นชุดด้วยเสียงรัวเร็วกลับไป
“แวะร้านขายยา เธอเป็นอะไร ไม่สบายงั้นเหรอ”
“เปล่าครับ เธอแค่ไปซื้อยาคุมกำเนิด”
“ยาคุมกำเนิด”
คิ้วดกเข้มเลิกขึ้นสูงทวนประโยคของลูกน้องที่อยู่ปลายสายเบาๆ แต่มันก็ดังพอที่คนปลายสายจะได้ยิน เลยเอ่ยยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นอีกครั้งให้กับผู้เป็นนาย
“ครับท่าน!”
ไรอันเผลอพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อรับรู้ว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรงอย่างที่คิดไว้ในทีแรก
‘ป้องกันตอนนี้ไม่ทันแล้วมั่งแม่คุณ’
ใบหน้าหล่อเหลาของมาเฟียหนุ่มค่อยๆ ปรากฏรอยยิ้มบางๆ ไม่รู้ว่าจะขำหรือเอ็นดูดี เธอไม่ใช่สาวน้อยที่เพิ่งแตกเนื้อสาวหากแต่มีอายุยี่สิบสองปีบริบูรณ์แล้วก็น่าจะมีความรู้เรื่องการคุมกำหนดบ้าง แต่ที่เจ้าหล่อนไปซื้อยาคุมกำหนดเอาตอนที่เขามีอะไรกับเธอไปแล้วหลายครั้งแถมยังเกินยี่สิบสี่ชั่วโมงแบบนี้สงสัยเธอต้องหลงลืมบทเรียนที่อาจารย์เคยสอน หรือไม่ก็เข้าใจอะไรคาดเคลื่อนแน่ๆ
เจมส์ที่ลอบสังเกตอาการของผู้เป็นนายมาสักพัก ต้องขมวดหัวคิ้วเข้าชนกันเพราะตามอารมณ์อีกฝ่ายไม่ทัน ตอนเช้าออกจากบ้านด้วยอารมณ์หงุดหงิด ตอนบ่ายท่าทางกระวนกระวาย ตกเย็นมาก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ขณะคุยโทรศัพท์ ไม่รู้ว่าอีกหนึ่งชั่วโมงข้างหน้าจะอยู่ในอารมณ์ไหนอีก
ไรอันที่รู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังถูกสายตาของเลขาคนสนิทจับตามอง ก็ต้องรีบปรับสีหน้าให้กลับมาเป็นปกติ ก่อนจะเอ่ยถามปลายสายต่อด้วยเสียงขรึม
“แล้วเธอจะกลับบ้านกี่โมง”
“ไม่ทราบครับท่าน คุณจันทร์เจ้ายังไม่ได้บอกอะไรพวกผม เมื่อกี้เห็นมีคนมาหา นี่ก็คุยกันในห้องทำงานเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วยังไม่ออกมาเลยครับ”
“ใคร! ใช่อาของเธอหรือเปล่า”
“ไม่ใช่ครับ แต่เป็นผู้ชาย หน้าตาเอเชียแท้ สูงประมาณหนึ่งร้อยแปดสิบรูปร่างดีพอตัว ใบหน้าก็คมเข้มคล้ายๆ ดาราชายของไทย อายุน่าจะอยู่ที่สามสิบต้นๆ ครับท่าน”
ทันทีที่ปลายสายรายงานรูปพรรณสัณฐานของคนที่มาพบหญิงสาวอย่างละเอียดจบลง มือใหญ่ก็ตบลงบนโต๊ะเสียงดัง ปัง! จนคนข้างๆ ต้องสะดุ้งสุดตัว ก่อนที่เสียงเข้มห้วนจะออกคำสั่งเฉียบขาด!
“ไปสืบมาว่ามันเป็นใคร และคอยกันเธออย่าให้ใครหน้าไหนได้แตะตัว!”
“ครับท่าน!”
หลังหายจากอาการตกใจ เจมส์ก็ต้องลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ ขืนเจ้านายยังมีอารมณ์แปรปรวนไม่หาย เขามั่นใจว่าสักวันตัวเองต้องเป็นไบโพลาร์อย่างแน่นอน