Chapter 3

1349 คำ
ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงซีเนียร์ก็มาถึงที่สนามบินในเวลาต่อมา เขามองหาพิ้งค์กี้ก่อนจะจอดรถแล้วลงไปหาเธอที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้หน้าประตูทางออก "ยัยแสบรอนานมั้ย" หญิงสาวเงยหน้ามองชายหนุ่มลอบยิ้มออกมาก่อนจะหุบยิ้มแล้วเอ่ยออกมาเสียงเคร่งครึ่ม "เอากระเป๋าไปขึ้นรถดิ" "จ้าแม่จ๋า รถทางนี้ครับ" เขารีบไปยกกระเป๋าให้เธอก่อนจะพากันไปขึ้นรถแล้วรีบขับออกไป จอดนานไม่ได้เพราะมีผู้โดยสารท่านอื่นรอต่อคิวอยู่ เมื่อขับออกมาได้สักพักเขาก็หันไปมองเธอที่ตอนนี้กำลังเล่นโทรศัพท์ของเขาอยู่ "ทำไรอ่ะ" "ทำไมต้องไปถ่ายรูปกับมันด้วย" เขาถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองเธอแล้วเอ่ยถามน้ำเสียงจริงจังมาก "ถามจริง โกรธเกลียดไรกันนักหนา" "เชอะ ใครขอถ่ายรูปก็ให้ถ่ายแบบนี้นะเหรอ มันเกินไปรึเปล่า จอดรถข้างทางเดี๋ยวนี้" เธอหันไปสั่งให้เขาจอดรถข้างทาง ซีเนียร์มองเธอตามอารมณ์ไม่ทันแต่ก็ไม่อยากขัดใจยั่วโมโหตอนนี้จึงยอมจอดรถแต่โดนดี "จอดทำไมอ่ะ" "ถ่ายรูปกัน" พิ้งค์กี้ขยับตัวขึ้นไปใกล้เขาก่อนจะกอดคอเขามาใกล้แล้วถ่ายภาพไปหลายช็อต จากนั้นก็ปล่อยให้เขาขับรถไปส่วนเธอก็ใช้โทรศัพท์ของเขาอัพรูปภาพพร้อมกับแท็กตัวเองกับสถานะ 'มารับแม่จ๋าที่สนามบิน แม่ดุมาก' พิ้งค์กี้หัวเราะออกมาอย่างสนุกก่อนจะเลื่อนดูคอมเม้นท์ของเพื่อนแต่ละคนโดยเฉพาะแก๊งเพื่อนของเขาที่แซวกันอย่างขำคงไม่คิดว่าคนอย่างซีเนียร์จะพิมพ์อะไรแบบนี้ 'แม่จ๋าก็มาวะ' 'แม่หรือเมียเอาดีๆ' 'แต่งเถอะถ้าจะขนาดนี้' มาวิน มินและณภัทรสลับกันเอ่ยแซวเพื่อนอย่างสนุก หญิงสาวยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีก่อนจะคืนโทรศัพท์ให้เขาแล้วหันไปหาชายหนุ่มที่กำลังตั้งใจขับรถอยู่ "ห้ามไปเจอมันอีกนะไม่งั้นฉันจะเลิกคบแก" "จ้าแม่จ๋า ไม่เจอแล้ว" "น่ารักที่สุด ไปกินข้าวกันหิวมาก" "ร้านไหนดีล่ะเลือกสิ" สองคนหันไปตกลงกันว่าจะไปทานอาหารร้านไหนดี ในที่สุดก็ตกลงกันได้แล้วก็ตรงไปยังเป้าหมายทันที เมื่อมาถึงที่ร้านอาหารเขาก็พาหญิงสาวเข้าไปข้างใน เป็นร้านประจำของพิ้งค์กี้เธอชอบทานอาหารญี่ปุ่นมากและต้องมาทานทุกสัปดาห์ "สวัสดีครับคุณพิ้งค์กี้ วันนี้รับเหมือนเดิมมั้ยครับ" "วันนี้ตามใจคนเลี้ยง กินอะไรดีคะป๋า" หญิงสาวกอดแขนชายหนุ่มไว้ก่อนจะซบหน้าลงกับไหล่กว้าง วันนี้เขาจะเลี้ยงข้าวเธอโทษฐานที่ทำให้เธอโมโหก็เลยต้องโดนแบบนี้แหละ "เอาซาชิมิเซตใหญ่เลยครับ อูนิด้วย" "ได้ครับ แล้วเครื่องดื่ม..." "ผมเอาเก๊กฮวย ส่วนของพิ้งค์เอาชามะนาวครับ" เขาเอ่ยออกมาเสียงเรียบก่อนจะส่งเมนูคืนไปแล้วหันมามองหญิงสาวข้างกาย เขารู้ว่าเธอชอบอะไรไม่ชอบอะไรและรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับเธอเหมือนเช่นที่เธอรู้จักเขามากที่สุดเช่นกัน "ไงยัยแสบหายงอนยัง" "หายแล้ว" เธอยิ้มแก้มปริก่อนจะกอดแขนเขาไว้แน่นมือถือโทรศัพท์กดเล่นหัวเราะคิกคักอย่างสนุก เขามองเธอก่อนจะส่ายหน้าเล็กน้อย หยิบโทรศัพท์ของตัวเองมาเล่นบ้างก่อนจะชะงักไปเมื่อหน้าจอเด้งแจ้งเตือนอะไรไม่รู้เยอะแยะ "อะไรเนี่ย" เขาก็เข้าไปดูก่อนจะเห็นภาพพร้อมสถานะที่ตัวเองเป็นคนโพสต์และแน่นอนไม่ใช่เขาที่เป็นคนโพสต์ เขาไล่อ่านคอมเม้นท์ก่อนจะยิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อย ชอบจังเวลาที่พิ้งค์กี้ทำให้คนอื่นเข้าใจคิดว่าเราสองคนเห็นแฟนกันเนี่ย สงสัยอยากจะลงแกล้งดีสนีย์มากกว่า แล้วมาบอกไม่เคยหึงหวงแต่การกระทำมันไม่ใช่เลยสักนิด "สนุกมั้ย" เข้าเก็บโทรศัพท์ลงก่อนจะเอ่ยถามคนข้างๆ เธอทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะถ่ายรูปอาหารตรงหน้าที่ทยอยมาเสิร์ฟแถมติดหน้าเขาไปอีกด้วย "แฟนพามาเลี้ยง น่าย๊ากกกก" เธอยิ้มออกมาอย่างสนุกก่อนจะอัพเดทสถานะของตัวเองบ้าง เขาเห็นเธอเล่นสนุกแบบนั้นก็ส่ายหน้าออกมาอย่างปลงๆ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกซะหน่อยที่ทำบอกให้เป็นจริงๆก็ไม่ยอมเชื่อจนปัญญาจะตื้อละ "อ่ะอ้าปากจะป้อน" หญิงสาวคีบทูน่าแดงสดใส่ปากเขาก่อนจะทานของตัวเองบ้าง ทั้งสองคนใช้เวลาอยู่ด้วยกันนานเป็นชั่วโมงก่อนจะเดินทางกลับบ้านโดยที่เธอแวะไปที่บ้านของชายหนุ่มก่อน "ไปทำไมที่บ้าน" "เอาขนมไปฝากคุณแม่ นี่ซื้อมาจากที่เชียงใหม่เลยนะ นอกจากขนมเจ้าดังยังมีอาหารเหนือที่คุณพ่อกับคุณแม่แกชอบด้วยนะ มีแคบหมูน้ำพริกหลายอย่างบอกเลยว่าเจ้านี้แซ่บมาก" เธอยิ้มออมาอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเปิดประตูลงรถแล้วหยิบของฝากหลายถุงเดินลงไปในบ้านของเขา เมื่อเข้ามาข้างในก็มีแต่คนทักทายเพราะพิ้งค์กี้คือลูกรักของบ้านนี้ "คุณแม่ คุณพ่อสวัสดีค่ะ พิ้งค์กี้มีขนมมาฝากด้วย" พอเจอกันก็อ้อนตามประสา คุณแม่ของเขาเห็นพิ้งค์กี้ก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจก่อนจะดึงเธอไปนั่งลงข้างๆแล้วก็กอดทักทายเสียงสดใส "คิดถึงจังเลยหนูพิ้งค์ หายไปเป็นเดือนเลยลูก" "ทำงานทุกวันเลยค่ะ นี่ซีเนียร์ก็ไปรับที่สนามบินมาค่ะบินไปทำงานที่เชียงใหม่มา มีอาหารเหนือมาฝากด้วยค่ะของชอบคุณพ่อ" หญิงสาวยื่นถุงมากมายส่งไปให้คุณพ่อ ท่านรับมาก่อนจะยื่นมือไปหยีผมเด็กสาวอย่างเบามือ "ขอบใจนะหนูพิ้งค์ ไปไหนก็มีของฝากตลอด" "พิ้งค์ชอบกินค่ะ ไปที่ไหนต้องได้ของอร่อยกลับมา คิคิ" เธอคุยอยู่กับครอบครัวของเขาอย่างสนิทสนมโดยที่เขายืนกอดอกอยู่ตรงประตูมองภาพนั้นก่อนจะยิ้มออกมา เป็นผู้หญิงคนเดียวที่เข้ากันได้ดีกับครอบครัวของเขา และพ่อกับแม่ชอบมากเลยทาบทามมาเป็นลูกสะใภ้ด้วย แต่ก็นั่นแหละ เพื่อนกันนะเว้ย ประโยคเดียวที่เธอจะพูดกับเขาทุกครั้งบางทีฟังแล้วก็เจ็บ... "แล้วหนูจะกลับเลยมั้ย อยู่ทานข้าวเย็นกับแม่ก่อน" "เพิ่งกินมาเลยค่ะ แต่ว่าอยู่ที่นี่ก่อนก็ได้พิ้งค์ไม่รีบค่ะ" "ดีเลย งั้นคุยกับแม่ก่อนนะ ตาซีเนียร์ไปยืนทำอะไรตรงนั้นล่ะ มานั่งนี่สิ" คุณแม่หันไปหาลูกชายก่อนจะกวักมือเรียกให้มานั่งคุยหันในห้องรับแขก เขาเดินไปนั่งลงข้างคุณพ่อก่อนจะมองสองสาวที่ตอนนี้กำลังแกะขนมชิมกันอยู่ "ตกลงว่าแกไม่มีความสามารถในการจีบสาวใช่มั้ย" คนเป็นพ่อเอ่ยถามเสียงเบา เขามองไปยังหญิงสาวก่อนจะมองหน้าพ่อแล้วถอนหายใจออกมาเล็กน้อย "อย่าว่าผมไม่มีความสามารถสิ รายนั้นตั้งกำแพงคำว่าเพื่อนกับผมไว้สูงเกินไปทุบยังไงก็ไม่แตก" "น่าสงสารเนาะ เค้าไม่เอา" คุณพ่อหัวเราะออกมาอย่างสมน้ำหน้าก่อนจะหันไปมองภรรยาและเพื่อนลูกที่ตอนนี้กำลังคุยกันอย่างสนุก ส่วนซีเนียร์มองเพื่อนรักตาละห้อย 'นี่ก็พยายามหว่านล้อมอยู่ทุกวัน ไม่ได้มีท่าทีรักเขาขึ้นมาเลย ต้องทำยังไงถึงจะเอาชนะใจได้ล่ะ เฮ้อ!'
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม