หลังจากที่ทานอาหารเรียบร้อย ทั้งสองคนก็มาเลือกชุดที่ร้านประจำของชายหนุ่ม เขาเลือกชุดไว้ให้เธอหลายชุดแต่ก็อยู่ที่หญิงสาวนะว่าจะถูกใจชุดไหน
"ชอบชุดไหนคะ"
"ชุดนี้สวยนะ"
"อืมสวย"
หญิงสาวหันไปมองชายหนุ่มที่ตอนนี้มองเธอตาหวานเยิ้มแทบจะกลืนกินเธออยู่แล้ว พิ้งค์กี้เท้าสะเอวมองเขาก่อนจะยิ้มออกมา
"สวยนี่ชุดหรือเค้า"
"ตัวเองนะสิถามได้"
เขามองเธอด้วยสายตาหวานฉ่ำจนพนักงานในร้านยิ้มเขินไปตามๆกัน ใครจะคิดว่าเจ้าของห้างดังจะมาคลั่งรักผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดนี้
"ปากหวานนะต้องการอะไรรึเปล่า"
"เปล๊าาาาา"
เขาเสียงสูงก่อนจะหันไปหยิบชุดของตัวเองที่เลือกได้แล้วส่งไปให้พนักงานพร้อมกับชุดของหญิงสาว จากนั้นทั้งสองคนก็เดินทางกลับมาที่บ้านของชายหนุ่มเพื่ออาบน้ำแต่งตัวเตรียมตัวเดินทางไปงานเลี้ยงรุ่นที่ดาดฟ้าของโรงแรมหรู
"จุ๊บ"
หลังจากที่อาบน้ำออกมาจากห้องน้ำหญิงสาวก็มายืนหน้ากระจกทาครีมที่ผิวโดยมีชายหนุ่มกอดเอวอยู่ทางด้านหลัง
"อ้อนอะไรคะ"
เธอหันไปมองชายหนุ่มด้วยความสงสัย วอแวเธอตั้งแต่เข้ามาที่ห้องแล้วนะไม่รู้ว่าอยากได้อะไรรึเปล่า
"อยาก"
"แล้วมาว่าเค้าหื่นตัวเองก็ใช่ย่อยนะ"
เธอส่ายหน้ายิ้มๆก่อนจะปล่อยให้เขาอุ้มเธอไปนอนลงบนเตียงนอน เวลายังเหลืออีกตั้งเยอะตามใจเขาหน่อยก็ได้
สองชั่วโมงต่อมาทั้งสองคนลุกขึ้นมาแต่งตัวเพื่อเตรียมไปงานเลี้ยงรุ่นพร้อมกัน ณภัทรโทรศัพท์มาหาบอกว่าไปเจอกันที่นั่นสองหนึ่งทุ่มและนี่ก็ใกล้เวลาแล้วด้วย เพราะฉะนั้นควรแก่เวลาออกเดินทาง
"ให้คนขับรถไปส่งหรือเราจะขับรถไปด้วยกันดี"
"ขับไปเองก็ได้นะ เราไม่รู้ว่ากลับกี่โมงอ่ะ"
"โอเคงั้นหยิบกุญแจรถก่อน"
เขาเดินไปหยิบกุญแจลัมโบร์กินีสุดหรูคันโปรดของเขามาถือไว้ในมือ ฐานะระดับเขาลัมโบร์กินีก็แค่รถธรรมดาคันหนึ่งไม่ตื่นเต้นอะไรมาก
"ไปค่ะคนสวย"
เขากุมมือเธอไว้ก่อนจะพาไปขึ้นรถแล้วขับออกไปทันที ไม่นานก็มาถึงโรงแรมหรูตามที่นัดหมาย ทั้งสองคนเดินขึ้นไปพร้อมกันก่อนจะเจอเพื่อนสมัยเรียนตั้งแต่มัธยมและบางคนก็ไม่ได้เจอกันนานมากแล้ว
"เมษาแกกลับมาตอนไหน"
"พิ้งค์กี้ไม่เจอแกนานเลยอ่ะ คิดถึง"
สองคนเดินไปสวมกอดกันก่อนจะเอ่ยทักทายไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบทั่วไป
"กลับมาไม่ทักมาเลยจะได้พาไปกินข้าว"
"เหมือนแกว่างอ่ะ ในโซเชียลเอาแต่อัพรูปงานจนฉันไม่กล้าทักไปคุยด้วย"
สองคนยิ้มออกมาอย่างดีใจที่ได้เจอกันอีกครั้ง นี่ก็หลายปีแล้วที่ไม่ได้เจอกันเลยเพราะเมษาไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่มหาวิทยาลัย ตอนเรียนมัธยมปลายด้วยกันทั้งสองคนสนิทกันมาก
"แกก็เวอร์คนเรามันก็ต้องมีเวลาว่างดิ"
"โอเคเอาไว้นัดกัน ว่าแต่มีแฟนยังไม่เห็นอัพเดทสถานะเลยอ่ะ"
เธอเหลือบสายตามองซีเนียร์เล็กน้อยก่อนจะรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที
"จะมีได้ยังไงวันๆเอาแต่ทำงานอ่ะ"
"แกจะสามสิบแล้วนะเว้ย มันควรมีได้ละป่ะ คนอื่นเค้าแต่งงานมีลูกกันไปหมดแล้ว"
เมษาบ่นออกมาก่อนจะพาพิ้งค์กี้เข้าไปหาที่นั่งข้างใน แล้วก็จะได้ไปเจอเพื่อนคนอื่นด้วย ส่วนซีเนียร์เขามองตามคนรักไปก่อนจะหันไปทักทายเพื่อนบ้าง
"ไงป๋าซีเนียร์มหาเศรษฐีรวยที่สุดในรุ่น"
"โน่นรวยที่สุดในรุ่นนะ"
เขาบุ้ยปากไปยังณภัทรที่เดินเข้ามาพร้อมกับภรรยาสาว ถ้าเทียบในประเทศเขาก็คงรวยที่สุดแหละแต่ถ้ารวมธุรกิจคาสิโนของณภัทรด้วยท่าทางเขาจะเป็นรองอยู่
"นินทาอะไรวะไอ้ซีเนียร์ แตงกวาคะหนูหิวยังอยากกินอะไรมั้ย"
"ยังไม่หิวค่ะ สวัสดีค่ะพี่ซีเนียร์ พี่พิ้งค์กี้ล่ะคะ"
"นั่งอยู่ข้างในนะเข้าไปหาสิ"
"งั้นแตงกวาไปหาพี่พิ้งค์กี้นะคะพี่ภัทร"
เธอหันไปขออนุญาตสามี เขาพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะปล่อยให้เธอไปเจอกับเพื่อนสาวของเขา สองคนคุยกันถูกคอก็เลยติดต่อกันบ่อย พิ้งค์กี้ก็เป็นเพื่อนสนิทของเขาตั้งแต่มัธยมแต่สนิทที่สุดก็คงจะเป็นซีเนียร์
"วันนี้เสี่ยณภัทรพกเมียมาด้วยวะ"
"แต่งงานแล้วดูท่าทางมีความสุขมากเลยนะเสี่ย"
"แน่นอนสิคนมันอิ่มความสุขอ่ะ"
เขายักไหล่อย่างยอมรับ ก็มีแฟนและรักมากได้แต่งงานกันใครมันจะไม่มีความสุขมาก
"แล้วแกยังไงเมื่อไหร่จะแต่งกับเค้าบ้าง ถามทีไรก็โสดอะไรยังไง"
เพื่อนๆคนอื่นหันมาถามซีเนียร์ เขายักไหล่ไม่รู้จะตอบคำถามยังไงจะบอกว่ามีเดี๋ยวก็ถามว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใครถ้าตอบว่าโสดไม่พ้นจับคู่ให้เขาอีก
"ตลอดแหละถามไม่เคยได้คำตอบ ป่ะเข้าไปข้างในกัน"
จากนั้นภายในงานก็เริ่มทำกิจกรรมกันข้างใน โดยทันทีเพื่อนร่วมรุ่นขึ้นเป็นพิธีกรดำเนินงานในวันนี้
"เอาล่ะเพื่อนๆ วันนี้เป็นเกียรติมากที่ทุกคนสละเวลามาพบปะเจอหน้ากันในวันนี้ และเรามีสปอนเซอร์จากผู้ใหญ่ในครั้งนี้ให้มงกุฎฝังเพชรมาสองอัน โดยภายในงานเราจะให้เพื่อนๆในรุ่นโหวตกันว่าใครจะได้เป็นคู่ที่เหมาะสมกันที่สุดในค่ำคืนนี้"
เสียงโห่ร้องดังขึ้นอย่างสนุก เป็นกิจกรรมที่ทำขึ้นทุกปีโดยคนที่ได้รับรางวัลคู่ที่เหมาะสมกันที่สุดไม่พ้นซีเนียร์กับดีสนีย์ ทั้งสองคนเป็นคู่จิ้นกันมาตั้งแต่มหาวิทยาลัยและทั้งสองคนก็ยังไม่มีใคร
"ปีนี้ไม่รู้ว่าผลคะแนนจะยังเป็นของคู่จิ้นคู่เดิมรึเปล่า ปีนี้ต้องมาลุ้นกันแล้วล่ะว่าจะเป็นคู่ไหน เอาล่ะแสนแอพพลิเคชั่นในกระดาษที่แจกไปแล้วกดโหวตได้เลย สามารถแก้ไขผโหวตได้จนกว่าจะปิดล็อคผลโหวตตอนสี่ทุ่มครับ"
นทีหันไปสั่งพนักงานให้แจกกระดาษให้ทุกคนที่อยู่ภายในงาน ดีสนีย์มองหน้าพิ้งค์กี้อย่างเหนือกว่าเพราะเธอมีความเหมาะสมกับซีเนียร์มาแต่ไหนแต่ไรใครๆก็มองออกและยังเชียร์กันอยู่เสมอ
"ปีนี้แกจะได้คู่กับดีสนีย์อีกป่ะวะ"
"ไม่รู้ดิ ว่าแต่พวกแกคิดอะไรกันเนี่ย มาจับคู่ให้ฉันกับดีสนีย์เนี่ย เราสองคนเป็นแค่เพื่อนกันและมันไม่มีทางเป็นอื่นไปได้"
เขาเอ่ยออกมาตามตรง ถ้าจะมีมันมีไปนานแล้วคงไม่รอมาเป็นเกือบสิบปีแบบนี้หรอก
"ก็เป็นคู่จิ้นกันตั้งแต่มหาวิทยาลัยนี่หว่า ก็มองไม่เห็นใครจะเหมาะสมเท่ากับคนนั้นแล้วนี่"
"นั่นดิ แล้วถ้าไม่ให้โหวตดีสนีย์กับแกแล้วจะให้โหวตกับใครวะ"
ทุกคนหันไปมองหน้าเขาตาเดียว ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาก่อนจะมองไปยังหญิงคนรักที่ตอนนี้กำลังคุยสนุกอยู่กลับกลุ่มเพื่อนและภรรยาของเพื่อนอยู่
"ปีนี้จะใส่ใครดีนะ ยัยพิ้งค์กับไอ้แบล็คลิสต์ดีป่ะ"
ทุกคนหันไปมองหน้ากันอย่างเห็นด้วย แบล็คลิสต์ทายาทเจ้าของบริษัทขนส่งยักษ์ใหญ่ในประเทศ เอาง่ายๆก็คือเขาเคยจีบเธออยู่ช่วงหนึ่ง แต่เธอก็ปฏิเสธไปตามตรงเพราะไม่ได้รู้สึกมากเกินเพื่อน แต่ทุกคนก็ยังเชียร์ให้เราสองคนคบกันอยู่
"ไร้สาระ"
พิ้งค์กี้เบะปากออกมาก่อนจะยกน้ำส้มขึ้นดื่ม ดีสนีย์ที่นั่งอยู่ตรงหน้าเธอแสยะยิ้มออกมาก่อนจะเอ่ยเสียงหวาน
"เหมาะกันดีนะ ทำไมเธอไม่ลองคบกับแบล็คลิสต์ดูล่ะ เหมาะสมกันออก คนนั้นก็รวยมากเลยนะ"
"ยุ่ง ไม่ใช่เรื่องของเธอ"
เธอสวนกลับไปทันที ทุกคนหันไปมองหน้าดีสนีย์ก่อนจะเอ่ยแซวคู่จิ้นประจำปี
"ว่าแต่แกกับซีเนียร์ล่ะยังไง ไม่คบกันอีกเหรอ"
"นั่นดิแกสองคนเหมาะสมกันมากเลยนะ ถ้าได้คบกันคงดีมาก"
ดีสนีย์ยิ้มออกมาอย่างเขินอายก่อนจะมองไปยังพิ้งค์กี้ที่อยู่ตรงข้าม เธอได้ยินแบบนั้นก็หันหน้าไปมองดีสนีย์อย่างหมั่นไส้ ก็แค่คู่จิ้นในความมโนของคนหมู่มาก ไม่มีทางที่จะได้ครอบครองในชีวิตจริงหรอก เพราะคนที่เป็นเจ้าของเขาคือเธอ พิ้งค์กี้คนนี้คนเดียว....
'หล่อนเอารางวัลไปเลยจ้ะ เพราะชีวิตจริงฉันชนะไปแล้ว'