"ใช่อะไรกันคะ"
ฉันเอ่ยถามท่านทั้งสองอย่างงงๆ ท่านกำลังจะบอกฉันก็ได้ยินเสียงดังลั่นมาจากข้างบนห้อง
เพล้ง ตุ๊มม
"โอ๊ยยยยยยยย"
เสียงร้องของนายกอไผ่ดังลั่น พวกเรามองหน้ากันแล้วรีบวิ่งขึ้นไปหาเขาทันที พวกเราพยายามเปิดประตูเข้าไปแต่ก็เข้าไม่ได้สักที
"โอ๊ยย แค่กๆๆ อ๊ะ"
เขาร้องเสียงหลงจนพวกเราที่อยู่หน้าห้องเริ่มใจไม่ดีนัก
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"ตาไผ่เปิดประตูสิลูก ตาไผ่"
ท่านอธิการบดีเคาะประตูตะโกนเรียกลูกชายท่านเสียงดังลั่นแต่ก็ไม่มีใครออกมาเปิด
"ท่านคะหนูขอทางหน่อยค่ะ"
ท่านหลบให้ฉันเดินเข้าไปจับที่ประตู ฉันหลับตาลงก่อนจะท้องคาถาที่หลวงพ่อเคยให้ไว้ตอนเด็กๆ ท่องไปได้สามจบประตูก็เปิดออกทันทีเหลือเชื่อใช่ไหมละเนี้ยแหละอีกโลกหนึ่งที่คนปกติมองไม่เห็นแต่ไม่ใช่สำหรับฉันไง
ฉันผลักประตูเข้าไปก็เจอนายกอไผ่กำลังพิงกำแพงเพราะถูกยัยผีร้ายบีบคออยู่ ตอนนี้เขาหน้าแดงหมดแล้วเหมือนจะขาดอากาศหายใจ
"ปล่อยเขา"
'ไม่ แกต้องออกไปจากที่นี่ อย่ามายุ่งอีกเขาเป็นของฉัน'
"เธอตายไปแล้วทำไมไม่อยู่ในที่ของเธอ ปล่อยเขาซะไม่อย่างงั้นเขาจะตายนะ"
ฉันพยายามกล่อมเธอแต่เธอไม่ยอม เธอมองหน้านายกอไผ่ก่อนยิ้มเหี้ยมแล้วบีบแรงกว่าเดิม
'ก็ดีฉันจะพาเขาไปอยู่ด้วย หึ'
"อ๊ะ แค่กๆ อ๊ากกกกก"
ท่านทั้งสองยืนร้องไห้อยู่ข้างหลังฉัน ท่านเดินมาจับแขนฉันแล้วคุกเข่าลงตรงหน้าฉันจนฉันตกใจ
"ช่วยลูกชายฉันที ฮือออ ช่วยเขาด้วย"
"ลุกขึ้นเถอะค่ะ อย่าทำแบบนี้ฉันจะช่วยเขาเอง"
พูดจบฉันก็ดึงท่านลุกขึ้นก่อนจะหายใจเข้าลึกๆแล้ววิ่งเข้าไปกอดเขาทันที และได้ผลยัยผีร้ายกรีดร้องแล้วหายตัวออกไปจากตรงนั้นทันที
'กรี๊ดดดดดดดดดดด'
"นาย"
เมื่อยัยผีร้ายปล่อยเขาให้เป็นอิสระเขาก็ทรุดลงกับพื้นทันทีก่อนจะนอนหายใจหอบ ตอนนี้ฉันนั่งลงกับพื้นให้เขาเอากน้ามาซบลงกับอกฉัน
"กอไผ่ นายไหวมั้ย"
"ลูกแม่ ฮืออออ เป็นยังไงบ้าง"
พอได้สติพวกท่านทั้งสองคนรีบวิ่งมาประคองลูกชายของท่านก่อนจะพาเขาลุกขึ้นไปนอนที่เตียง ฉันเดินไปหยิบกะลามังกับผ้าขนหนูชุบน้ำหมาดเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆเขา ฉันหยิบผ้าขนหนูเช็ดให้เขาตรงใบหน้าช้าๆ เขามองหน้าฉันหน้าตาเขาซีดไปหมด
"เมเปิ้ล"
"หืม"
ฉันยังเช็ดตัวเขาต่อโดยมีสายตาของพ่อกับแม่เขามองฉันสลับกับเขา เขาถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะเอ่ยถาม
"เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น"
ฉันมองสบตากับเขามือยังเช็ดแขนเขาอยู่ ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะเอาผ้าไปใส่ไว้ในกะลามัง
"พูดไปนายก็ไม่เชื่อนี่นา ตอนเราเจอกันครั้งแรกฉันก็บอกไปแล้วนี่นา"
เขาชะงักไปก่อนจะหลุบตาลงต่ำ ฉันลุกขึ้นหยิบกะลามังจะเอาไปเก็บไว้ที่ห้องน้ำแต่แม่เขามาจับมือฉันไว้ก่อนจะดึงกะลามังไปให้ศาตราจารย์พงษ์เอาไปเก็บแทน
"หนูเมเปิ้ลนั่งกับแม่ตรงนี้ก่อนนะ"
ท่านเอ่ยยิ้มๆแต่ฉันถึงกับแคะหูแทบไม่ทันกับสรรพนามเรียกที่เปลี่ยนไปของท่านกับฉัน
"อะ...อะไรนะคะ เมื่อกี้ท่านแทนตัวเองว่าไงนะคะ"
"แม่ไงจ๊ะ หนูรู้มั้ยว่าหนูเป็นนางฟ้ามาโปรดครอบครัวเราเลยนะ หนูเป็นคนเดียวเท่านั้นที่จะช่วยให้ครอบครัวของเราพ้นจากเรื่องร้ายๆไปได้ "
ฉันเงียบไปก่อนจะหันไปสบตากับกอไผ่ เขายักไหล่เล็กน้อยก่อนจะทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ชิ อิตาบ้าเอ้ยทำไมไม่คัดค้านยะ
"คือว่า"
"หนูต้องช่วยตาไผ่นะลูก ผีร้ายนั้นมันจะเอาชีวิตลูกชายแม่ ฮือๆๆ แม่มีลูกชายคนเดียวเท่านั้นแม่ยอมไม่ได้จริงๆ"
ท่านสองคนมองหน้าฉันก่อนจะน้ำตาคลอเบ้าจนฉันอดสงสารไม่ได้ ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะพยักหน้ายิ้มๆ
"ค่ะหนูจะช่วยเรื่องผีผู้หญิงคนนั้นเอง"
ท่านทั้งสองยิ้มออกมาทันทีก่อนจะดึงฉันเข้าไปกอด ท่านอธิการบดีไม่น่าเชื่อเลยนะว่าท่านจะเชื่อเรื่องแบบนี้ด้วย นึกว่าท่านจะเชื่อแต่เรื่องราวทางวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์ได้เท่านั้นซะอีก
"ขอบคุณมากนะลูกสาวแม่"
ฉันอ้าปากค้างทันทีที่ตอนนี้กลายมาเป็นลูกสาวของบ้านนี้ไปซะแล้ว ฉันหันไปมองหมอนั้นเพื่อขอความช่วยเหลือแต่เขาก็ไม่ยอมที่จะช่วยแถมยังยิ้มชอบใจอีก อะไรของเขากัน
"ว่าแต่ตาไผ่เราอ่ะเป็นยังไงบ้างลูก"
"ดีขึ้นแล้วครับแม่ เมื่อกี้ผมคิดว่าตัวเองจะตายแล้วครับแม่เหมือนผีอำเลย เอ่อ ก็คงอย่างนั้นแหละ ฮ้าาา ให้ตายสิผีมีจริงเหรอเนี้ย"
เขาทำท่าทางเหมือนจะไม่เชื่อ เห้อออเขาก็คือเขาแหละไม่เชื่อยังไงก็คงจะยากที่จะมาเชื่อ
"หนูเมเปิ้ลลูกผีร้ายนั้นจะกลับมาทำร้ายตาไผ่อีกมั้ย ไม่ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ไปหนูมานอนที่บ้านนี้ได้มั้ยลูก แม่กลัวมันจะกลับมาอีก"
"เดี๋ยวพรุ่งนี้หนูจะไปหาหลวงพ่อค่ะ ให้ท่านทำน้ำมนต์แล้วก็สายสิญจน์มาพันรอบบริเวณบ้าน ผีร้ายจะเข้ามาในนี้ไม่ได้ค่ะ วันนี้เธอคงไม่กล้ามาแล้วเพราะร่างกายเธอคงอ่อนแรงมาก"
โดนแสงขาวรอบๆร่างกายฉันขนาดนั้นคงไหม้ปวดแสบปวดร้อนไปทั้งตัวแหละมั่ง เอาจริงๆฉันไม่คิดว่าเธอจะทำร้ายกอไผ่เพราะฉันมองยังไงเธอก็ดูรักหมอนี่มากนะ
"ว่าแต่นายไปทำอะไรให้เธอ ทำไมเธอถึงมาตามนายแบบนั้น"
เขาส่ายหน้าเบาๆก่อนจะเอามือกุมขมับตัวเองแน่น
"โอ๊ยยยปวดหัว"
ฉันรีบเดินไปจับหัวเขาไว้ก่อนจะนวดขมับเขาเบาๆเผื่อจะช่วยอะไรได้บ้าง สักพักเขาก็ทำหน้าเหมือนจะดีขึ้นก่อนจะยื่นมือมาจับกุมมือฉันไว้
"ขอบคุณนะสำหรับวันนี้"
ฉันพยักหน้ายิ้มๆก่อนจะชักมือกลับแล้วเดินถอยหลังออกมาเว้นระยะห่างกับเขา บ้าจริง!! ทำไมเขาทำแบบนี้แล้วฉันต้องหน้าร้องผ่าวเขินด้วยเนี้ย
"หนูขอตัวกลับก่อนนะคะ"
ฉันยกมือไหว้พวกท่านก่อนจะหันหลังเดินออกไป แต่ท่านอธิการบดีรั้งแขนฉันไว้แน่นไม่ยอมให้ไป
"หนูเมเปิ้ล"
"คะ"
ฉันหันกลับมาแล้วเอ่ยถาม ท่านยิ้มหวานให้ฉันก่อนจะยื่นมือมาลูบผมฉันอย่างแผ่วเบา
"หนูแต่งงานกับตาไผ่มั้ย แม่อยากได้หนูเป็นลูกสะใภ้แม่"
นี่ถ้าดื่มน้ำอยู่นี่สำลักแน่นอนเมื่อได้ยินแบบนี้ จะเป็นไปได้ยังไงฉันกับเขารักกันที่ไหนเพิ่งเคยเจอกันด้วยซ้ำจะมาแต่งอะไรกันเนี้ย
"แม่ครับพอเถอะ เมเปิ้ลเขินหน้าแดงหมดแล้ว"
หมอนี่ก็ยิ้มกวนประสาทฉันอีก บ้าจริงถ้านายไม่พูดฉันก็ไม่เขินหรอกยะ
"แต่หลวงพ่อบอกว่าหนูเมเปิ้ลเป็นเนื้อคู่ลูกนะ"
"เอ่อ คือ..."