บทที่๗
อัญมณียืนมองความเรียบร้อยหน้ากระจกอีกครั้งก่อนจะออกจากห้องเพื่อไปทำงาน หล่อนไม่ได้พักสองวันตามที่ชลทิศลางานให้ หล่อนรู้ตัวว่าไม่ต้องพักนานขนาดนั้น แค่นอนอยู่บ้านหนึ่งวันเต็มๆ ก็อึดอัดขัดใจจะแย่ ตั้งแต่เรียนจบมาหล่อนก็ทำงานมาตลอดจึงไม่ชินกับการหยุดงานลักษณะพิเศษเช่นนี้ วันนี้จึงกลับไปทำงานอีกครั้ง โดยโทรบอกตั้มไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
หล่อนชอบแต่งตัวสบายๆ รัดกุมเหมาะสมกับงานที่ต้องออกนอกสถานที่ตลอดเวลา เช่นเดียวกับวันนี้ที่หล่อนสวมเสื้อยืดเนื้อนุ่มบางเบากับเกงเกงยีนสีเข้ม และที่ขาดไม่ได้คือเสื้อแจ๊กเก็ตกันแดดกันลมเพราะว่าหล่อนขี่รถจักรยานยนต์
การแต่งกายง่ายๆ สบายๆ เช่นนี้ส่งเสริมภาพลักษณ์ทอมบอยของหล่อนได้ดีทีเดียว จึงไม่แปลกใจนักหากคนที่ไม่สนิทจะคิดเช่นนั้น เมื่อพร้อมแล้วโดยไม่ได้แต่งเติมสีสันบนใบหน้าเพียงแค่ทาครีมกันแดดแล้วทาทับด้วยแป้งเด็ก ผมยาวสีอ่อนจากการย้อมเปลี่ยนสีรวมไว้หลวมๆ ตรงท้ายทอย แค่นี้หล่อนก็พร้อมสำหรับการไปลุยงาน ทว่าก่อนจะก้าวออกจากห้องนอนโทรศัพท์เคลื่อนที่ก็ส่งเสียงว่ามีข้อความใหม่ดังขึ้น อัญมณีรีบเปิดดูแล้วขมวดคิ้วทันที
‘ผมมารับไปทำงาน รออยู่หน้าบ้าน’
เจอคนมีน้ำใจไม่ใช่เรื่องแปลก แต่แปลกตรงเจ้าของข้อความคือชลทิศ หล่อนไม่ค่อยชอบตรงที่ยังปรักปรำและคิดว่าหล่อนคืออัญมณีคนนั้น ซ้ำเหตุการณ์วันที่ทำให้หล่อนวิ่งไปชนรถก็เพราะเขาเป็นต้นเหตุ แม้เขาจะบอกว่าแค่ล้อเล่นแต่มันน่ากลัวจนยากจะคิดว่าแค่ล้อกันเล่นเท่านั้น หล่อนไม่แปลกใจหากเขาจะทำดีเพื่อลบล้างความผิดครั้งนั้น แต่ที่อยากรู้คือเขาทราบได้อย่างไรว่าวันนี้หล่อนไปทำงาน ไม่ได้นอนพักตามที่เขาลางานไว้ให้ และหล่อนก็ส่งข้อความกลับไปถามเขาเพื่อความกระจ่าง
‘รู้ได้ยังไงว่าฉันไปทำงาน’
พลางเดินออกไปนอกห้อง ชลทิศมีข้อความตอบกลับมาในทันที
‘เพราะผมรู้ว่าคุณดื้อ ไม่ชอบนอนเฉยๆ’
‘แสนรู้ ไม่ต้องรอ ฉันยังไม่ได้กินข้าวเช้า อีกนานกว่าจะเสร็จ อย่าเสียเวลารอเลย ไปก่อนเถอะ’ หล่อนส่งข้อความยาวๆ กลับไป ปรากฏคำว่าอ่านแล้วให้รู้ว่าชลทิศรับทราบ แต่ไม่มีข้อความใดๆ ตอบกลับมานอกจากตัวการ์ตูนคำว่าโอเค หล่อนยังคิดในใจว่าวันนี้หมอคนนี้พูดง่ายเชื่อฟังดีจัง ซึ่งก็ดีมากๆ หล่อนไม่อยากไปกับเขาสักเท่าไหร่ เพราะไม่รู้ว่าวันดีคืนดีเขาจะบ้าลุกขึ้นมาบีบคอแล้วบอกว่าล้อเล่นอีกไหม ทว่า...
อัญมณีชะงักเท้าที่กำลังเดินไปที่โต๊ะกินข้าว เพราะได้ยินเสียงคุ้นเคยกำลังพูดคุยกันอยู่ พ่อคุยกับคนที่ตอบโอเคง่ายดายเมื่อครู่ ข้อความที่ทำให้หล่อนคิดว่าเขารับทราบและจากไปแล้ว
ไอ้บ้าเอ๊ย! แทนที่จะไปกลับเข้ามาในบ้านเฉยเลย
เสียงพ่อหล่อนชวนเขากินข้าว อัญมณีเงี่ยหูฟังว่าเขาจะตอบเช่นไร แต่ไม่แปลกใจเลยที่เขารับคำชวนทันทีทันใด
“อ้าว มาแล้วหรือมานี่ นั่งๆ หมอชลมารอนานแล้ว”
คำของพ่อทำให้อัญมณีหันขวับไปจ้องหน้าชลทิศ เขายิ้มมุมปากแล้วไหวไหล่น้อยๆ ท่าทีกวนประสาทจนหล่อนอยากพุ่งเข้าไปตบให้ปากเบี้ยว แสดงว่าตอนที่เขาส่งข้อความถึงหล่อนนั้นเขาเข้ามานั่งอยู่ในบ้านแล้วแน่ๆ
“หมอเจ้าเล่ห์” หล่อนอดประณามเขาไม่ได้
“มานี่ว่าอะไรนะลูก มาๆ นั่งตรงนี้” พ่อถามแต่ไม่สนใจคำตอบเพราะเดินมาลากหล่อนไปนั่งลงข้างๆ ชลทิศ แล้วตัวเองเดินหายไปในครัวที่ได้ยินเสียงแม่กำลังทำอะไรสักอย่างเสียงดังพอสมควร ซึ่งหล่อนรู้ว่าแม่คงไม่ชอบใจหมอเจ้าเล่ห์เหมือนหล่อน ไม่นานพ่อก็ออกมาพร้อมจานอาหาร ชลทิศรีบเข้าไปช่วยแต่พ่อบอกปัด
“ไม่ต้องหมอ ไปชงกาแฟดีกว่า จะกินรสชาติไหนก็บริการตัวเองเลย” พ่อบอก แล้วบุ้ยใบ้ไปที่กระติกน้ำร้อนไฟฟ้า ที่มีอุปกรณ์และวัตถุดิบสำหรับทำเครื่องดื่มพร้อม ทั้งชา กาแฟ โกโก้ น้ำตาล ครีมเทียม
“มานี่เอากาแฟมั้ย” เขายังมีน้ำใจหันมาถามหล่อน
“มานี่กินกาแฟดำหนึ่งช้อน น้ำตาลหนึ่งช้อนครับ” เสียงคนเข้ามาใหม่บอก ทุกสายตาหันไปมองแล้วยิ้มทักทาย แต่ชลทิศเอ่ยค้าน
“ผมจำได้ว่ามานี่กินกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาลนี่ครับ”
“อ้าว หรือครับ” สวิชหันมามองหล่อนช่วงสั้นๆ มีคำตำหนิแฝงไว้มากมายตามความคิดอัญมณี แต่คิดว่าไม่ใช่การหึงหวงที่ชลทิศสนิทสนมจนรู้ว่าหล่อนกินกาแฟรสชาติใด
“กินอะไรมาหรือยังละ ตาวิช” แม่โผล่หน้ามาจากครัว กระตือรือร้นถาม
อัญมณีคิดว่าหากทำได้แม่คงมาลากให้สวิชนั่งลงข้างหล่อนแล้วจัดแจงวางจานอาหารเช้าให้ ชงกาแฟมาให้ ส่วนคนอื่นก็ต้องรอแม่ทำใหม่เพิ่ม
“ยังครับ ว่าจะมาอาศัยฝากท้องสักมื้อ พอดีพ่อกับแม่ออกไปข้างนอกแต่เช้า ผมเลยมาหาเพื่อนกินอาหารเช้าแถวนี้” เขาบอกแล้วขยับเกาอี้ข้างๆ อัญมณี แต่ชลทิศรีบเข้ามาวางแก้วกาแฟแล้วนั่งลงเสียก่อน
“เราต้องรีบไปทำงาน คงอยู่คุยด้วยไม่ได้ ขอกินก่อนนะครับ เอามานี่ รีบกินสิจ้ะ สายเดี๋ยวรถติดนะ” ชลทิศเลื่อนจานอาหารเช้าแบบฝรั่งมาตรงหน้าหล่อน เปิดขวดซอสแล้วส่งให้ ส่วนตนเองยกกาแฟขึ้นมาจิบ แล้วลงมือหั่นไส้กรอก ส่งเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ ไม่สนใจว่าสวิชหรือแม่จะมองด้วยสายตาเช่นไร
“วิชรอเดี๋ยวนะ เดี๋ยวน้าทำให้ใหม่” แม่บอกแล้วผลุบหายเข้าไปในครัว
“ผมช่วยครับ” สวิชเดินตามเข้าไป
“ตามสบายนะหมอ” พ่อบอกแล้วเดินตามเข้าไปในครัวอีกคน
“คนข้างบ้านคุณหึง”
ชลทิศพูดเบาๆ ไม่ได้หันมา แต่หล่อนหันไปมอง อยากตบปากนัก แต่ก็คิดไม่ตกว่าสวิชจะหึงหล่อนจริงหรือแสร้งทำ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่มีทีท่าว่าเขาจะรักใคร่หล่อนจริงจังเลย แต่คำพูดเขาเมื่อวานก็ชวนคิด เขายังมีเจตนารมณ์ที่จะแต่งงานกับหล่อนและในเร็วๆ นี้เสียด้วย ทำไมถึงเพิ่งมาแสดงออกเอาตอนนี้เล่า
อัญมณีตริตรองจนตกในภวังค์ อ้าปากรับบางสิ่งบางอย่างที่มาจ่อตรงปากพร้อมพูดบอกให้กินคำแล้วคำเล่า จนสะดุ้งตกใจกับเสียงกระแอมดังๆ ที่ตั้งใจเรียกสติ เมื่อหันไปก็เห็นแม่เดินถือจานอาหารออกมาหน้าตาบึ้งตึง และร้ายไปกว่านั้นคือหล่อนรู้แล้วว่าชลทิศนี่เองที่ตัดไส้กรอกป้อนเอาๆ จนเต็มปากในขณะนี้ ซ้ำร้ายเมื่อแม่ออกมาเห็นเขากลับยิ้มแล้วก้มหน้าก้มตากินของตนเองต่อ ทำให้หล่อนต้องก้มหน้าก้มตากินบ้าง เพื่อให้เสร็จและจะได้ลุกออกไปอย่างรวดเร็ว
“ตอนเย็นพี่ไปรับ” สวิชตะโกนตามหลัง
ชลทิศเหลือบมองหล่อนแล้วยิ้มแปลกๆ ก่อนหันกลับไปตะโกนตอบ
“คุณสวิชอย่าเพิ่งขับรถเลย ผมมารับแล้วจะมาส่งด้วยครับ ไม่ต้องห่วง”
หล่อนไม่อยากฟังว่าสวิชจะตอบอย่างไร แต่รู้สึกว่าไม่ได้ยินเสียงตอบใดๆ กลับมา
“แฟนใช่มั้ย” เขาถามย้ำเมื่อรถเคลื่อนตัวออกมาได้ไม่นาน
“มันเกี่ยวอะไรกับคุณมั้ยละ ถึงได้อยากรู้จัง” หล่อนตอกกลับ
“แค่อิจฉา ทำไมคนข้างบ้านคุณใจดี สนิทสนมกันดีจัง มีหึงหวงด้วย ยอมรับมาดีกว่าน่า”
“นี่ ฉันจะเป็นอะไรกันมันก็ไม่เกี่ยวกับคุณเลยนะ”หล่อนตอกกลับ คาดว่าหากเขาไม่ด้านชาในความรู้สึกคงเจ็บที่ถูกว่ากลายๆ แต่เขากลับพูดคำที่หล่อนอึ้ง
“แล้วเอาพี่สาวผมไปไว้ไหน หรือคุณประเภทผู้หญิงก็ได้ผู้ชายก็ดี ดูไปฐานะทางบ้านคุณก็ดีมากๆ คงไม่ใช่หวังปอกลอกพี่ดาวกระมัง”
“ไอ้!” หล่อนอยากตบเขาให้หน้าหัน แต่กลัวจะเกิดอุบัติเหตุเพราะเขาขับรถค่อนข้างเร็ว จึงนั่งเงียบมาตลอดทาง แต่ไม่คิดว่าเขาจะกวนประสาทก่อนหล่อนลงจากรถอีก
“ไม่ต้องขอบคุณ ผมแค่รู้สึกผิดที่ทำให้คุณวิ่งไปชนรถ เลยมารับส่งไปทำงานจนกว่าคุณจะขี่รถเองได้”
“ไม่จำเป็นทำคุณไถ่โทษหรอกนะ ถ้ามารับแล้วปากเสียแบบนี้ฉันมาเองได้” หล่อนลงจากรถแล้วปิดประตูดังโครมใหญ่ ไม่สนว่ารถคันหรูจะบุบสลาย แต่หมอกวนประสาทยังลดกระจกลงแล้วตะโกนบอกเสียงดังลั่น
“เย็นนี้เจอกันนะที่รัก”
“ไอ้หมอบ้า ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณอีก ไม่ต้องมานะ ไม่ต้อง” อัญมณีหันไปตะโกนไล่หลังรถที่แล่นออกไป พอหันกลับก็เห็นตั้มและคนอื่นๆ ยืนยิ้ม สายตาที่มองหล่อนนั้นบอกเลยว่าอยากเข้าไปจิ้มตารายคน
อัญมณีวิ่งขึ้นบันไดหนีสายตาแต่ได้ยินเสียงวิ่งตาม
“ไม่ต้องแก้เขินแล้วทำให้ตัวเองเหนื่อยขนาดนี้หรอก มานี่”
“ตั้ม!”