“น้องเรียกตั้งนาน พี่พายมัวมองอะไรอยู่ครับ”
เพื่อนรุ่นพี่ปีสี่ต่างคณะกันสะกิดพระพาย หนุ่มเบดที่ฮอตสุด ๆ ของมหาวิทยาลัย คนที่พวกตนภูมิใจมาก ๆ ตอนที่ได้ชายหนุ่มคนนี้มาเป็นหนึ่งในสมาชิกของแก๊ง sawajunk จากที่พวกตนต้องการแค่สมาชิกของแก๊งให้มีเพิ่มขึ้น แต่ตอนนี้กลับได้หัวหน้าแก๊งเข้ามาแทน
พระพายกลายเป็นหัวหน้าแก๊งไปแล้วเรียบร้อย
เหตุผลอาจเป็นด้วยฐานะทางการเงิน การวางตัว รวมไปถึงทัศนคติของพระพายมีมากกว่าพวกตนนั่นเอง พวกตนที่อยู่ปีสูงกว่าไม่มีใครโต้แย้ง ทุกคนจึงยินยอมรับพระพายอย่างง่ายดาย
พระพายไม่ได้ตอบคำถามเซ้าซี้พวกนั้นในทันที
แต่ที่เขายอมละสายตาจากกลุ่มนักศึกษาหญิงที่กำลังเดินผ่านหน้าไป เป็นเพราะเขาได้ยินรุ่นพี่อีกคนพูดถึงคนกลุ่มนั้นขึ้นมาพอดีต่างหาก
“เด็กคณะนี้แม่งมีแต่หน้าตาจืด ๆ แดกไม่ลง ให้ฟรีก็เอาไม่ลง นี่เว้ย ต้องอย่างนี้เว้ย”
ชวินทร์พูดจบพาดมือโอบไหล่นักศึกษาสาวดีกรีดาวมหาวิทยาลัยปีล่าสุด หญิงสาวคนนั้นพยายามเอาตัวเองไปอิงซบไหล่ของพระพายอยู่ แต่ก็ถูกมือเรียวหนาใหญ่ของพระพายผลักออกอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไรนัก พระพายมองสบตากับนักศึกษาหญิงคนในกลุ่มที่หอบถุงหนังสือใบเบ้อเริ่มเดินผ่านโต๊ะประจำของพวกเขาไป พร้อมกับที่จิรกิตติ์เอ่ยถามขึ้นหลังจากดีดมวนบุหรี่ยัดไส้ให้กระเด็นเข้าไปอยู่ในพุ่มไม้สำเร็จแล้ว
“น้อง ๆ พวกนี้นี่อยู่คณะอะไรกันวะ"
“ไม่น่าใช่น้องนะเว้ยกิด ใส่เสื้อฝึกงานแล้วด้วย คงจะปีสี่แล้วมั้ง” ชวินทร์บอกเสียงเอื่อย เดาไปเรื่อยตามนิสัยชอบทายมั่วๆ
“คนนั้นเพิ่งปีสอง แล้วนั่นก็ไม่ใช่เสื้อฝึกงาน เสื้อเหี้ยอะไรไม่รู้ ชอบเอามาใส่คลุม”
พระพายเองที่เป็นคนตอบขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้ดังเท่าไรนัก ตามลักษณะของคนไม่ค่อยช่างพูดช่างคุย
แต่ครั้งนี้พระพายกลับตอบเรื่องของนักศึกษาหญิงกลุ่มนั้น ไม่ใช่สิ เป็นนักศึกษาหญิงคนนั้นมากกว่า พระพายตอบได้อย่างละเอียด ราวกับรู้จักมักคุ้นผู้หญิงคนนั้นเป็นอย่างดี
พระพายขยับตัวนั่งใหม่ เพื่อที่ว่าสายตาของเขาจะได้มองไปยังทางนั้น ทางเดินที่นักศึกษาหญิงหน้าตาจืดชืดกำลังเดินผ่านไป เขาอยากมองเธอ จะได้เห็นคนที่ต้องการเห็นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ว่าเธอกำลังจะไปที่ไหน
หญิงสาวต่างคณะหน้าตาจืดชืดคนนั้นกำลังเดินมุดรั้วออกไปแล้ว พระพายมองตามไม่วางตาเลยทีเดียว เมื่อมองไม่เห็นเธอคนนั้นอีก เขาถึงได้ละสายตาจากมา เมื่อมีคนร่วมโต๊ะพูดขึ้น
"หน้าแม่งอย่างแก่เลย นึกว่าจบแล้ว" จิรกิตติ์บอกกลั้วหัวเราะ คงเป็นเพราะฤทธิ์ของสิ่งที่สอดใส้ในบุหรี่ออกฤทธิ์แล้วนั่นเอง ชวินทร์เลยพลอยขำตามไปด้วย
"เขาใส่แว่นด้วยหรือเปล่าวะ เลยดูจืด ๆ แก่ ๆ"
จิรกิตติ์รับอย่างเห็นพ้องด้วย "เออว่ะ กูว่าน่าจะใช่"
"ถอดแว่นออกก็ยังดูจืด"
พระพายพูดขึ้นบ้าง คนที่เหลือเลยพลอยหัวเราะตามไปด้วยเพราะนึกว่าที่พูดนั่นคือมุกตลก แต่พระพายไม่ได้ขำไปกับรุ่นพี่พวกนั้น เขาปัดหญิงสาวที่ยังคงไม่ละความพยายามที่จะนัวเนียอยู่ข้าง ๆ ออกจากตัวด้วยความรำคาญ แล้วเดินตรงไปยังรถคันหรูที่จอดเกาะกลุ่มกันตรงลานปูนตรงหน้าตึกของคณะ
"จะไปไหนน่ะพาย รออุ๊บอิ๊บด้วยสิคะ"
นักศึกษาสาวสวยดาวมหาวิทยาลัยที่เรียนอยู่คณะแพทย์วิ่งตามพระพายไป แต่พระพายไม่แม้แต่จะหันไปมองด้วยซ้ำ เขาขึ้นรถแล้วก็ค่อย ๆ พารถคู่กายเคลื่อนคลานออกจากรั้วของมหาวิทยาลัยด้วยความเร็วผิดปกติจากที่ใช้อยู่เป็นประจำ
รถสปอร์ตสีแสบตาคันนั้นเคลื่อนตัวไปตามเส้นทางเดียวกันกับที่เห็นนักศึกษาหญิงหน้าจืดชืดคนนั้นเดินจากไป