หนึ่งเดือนต่อมา หลังจากที่ซุนเฉียวและลูกหลานของนาง ได้เข้ามาอาศัยอยู่ร่วมจวนกับซุนฉีและชิงเหมย เหตุการณ์ในแต่ละวันก็ดูผ่านไปอย่างสงบสุขดี ซุนฉีและซุนเฉียวได้พูดคุยกันมากขึ้น ทำให้ความอิจฉาริษยาภายในใจของผู้เป็นน้องสาวที่เคยมี กลับกลายเป็นความรู้สึกผิด พี่สาวของนางนั้นช่างแสนดี จิตใจดีและมีเมตตากว่านางยิ่งนัก ชิงเหมยเองก็เป็นเด็กที่น่ารักน่าเอ็นดู หลานสาวผู้นี้นั้นเก่งไปเสียทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหรือเขียนอักษร การเล่นดนตรีหรือเล่นหมากล้อม ชิงเหมยยอมถ่ายทอดความรู้ของนางให้แก่เหลียงชีและเหลียงเจียอย่างไม่อิดออด จากที่ซุนเฉียวเคยนึกอิจฉา ยามนี้นางกลับรู้สึกภูมิใจแทนพี่สาวยิ่งนัก ที่มีหลานสาวรู้ความและเป็นเด็กดีเช่นนี้ “เด็กๆ อ่านอักษรคล่องขึ้นบ้างหรือยังล่ะหลานสะใภ้” ซุนฉีเอ่ยถามหลานสะใภ้ออกมาในขณะที่นาง ซุนเฉียวและหลิวเวยกำลังนั่งเย็บปักอาภรณ์อยู่ภายในเรือนรับรอง “เจ้าค่ะท่านป้า… ต้