ตอนที่ 8 ด้านมืด
ร่างสูงกำลังก้าวเดินมายังห้องนอนของตัวเอง ที่มีเด็กสาวกำลังจัดห้องให้เขาอยู่ พรุ่งนี้ไต้ฝุ่นตั้งใจจะจัดปาร์ตี้ที่เซฟเฮ้าส์ เลยคิดว่าจะให้วันวิสาไปช่วยเก็บกวาดให้ เพราะไม่อยากจะจ้างคนนอกมาทำสักเท่าไหร่ เขาไม่ค่อยชอบให้คนแปลกหน้าเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัว
“วิสา ไม่ต้องทำแล้ว ตามฉันออกไปข้างนอก”
คนที่โดนเรียกหยุดการกระทำของตัวเอง แล้วหันมามองเขาด้วยความสงสัย
“จะไปไหนเหรอคะ ตอนนี้ก็มืดแล้วนะ”
นาฬิกาที่แขวนอยู่ตรงผนังห้อง บอกเวลาสองทุ่มกว่าแล้ว ตั้งแต่เธอเข้ามาอยู่ที่นี่ได้สองอาทิตย์ ไต้ฝุ่นไม่เคยเรียกไปทำงานข้างนอกเลยสักครั้ง
“จะให้ไปช่วยจัดของอีกที่หนึ่งหน่อยนะ พอดีพรุ่งนี้ฉันจะจัดงานที่นั่น”
“อ๋อ ถ้าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ ไปกันเลยไหมคะ”
“อืม ไปเลย”
ไต้ฝุ่นเดินนำหน้า แล้วมีคนตัวเล็กเดินตามหลัง ขาสั้น ๆ พยายามจะก้าวให้ทัน แต่จะไปทันได้ยังไง เขาเดินก้าวเดียว เท่ากับเธอก้าวขาตั้งสามครั้ง
“คุณเดินช้า ๆ สิคะ หนูตามไม่ทัน”
พอได้ยินเสียงเรียก คนขายาวก็หยุดเดินทันที แล้วหันกลับมามองดูสาวน้อยที่กำลังก้าวขาตามมา ยัยคนตัวเล็กนี่ทำอะไรก็ดูน่ารักไปหมด
ทั้งสองคนเข้าไปนั่งในรถที่มีลูกน้องคนสนิทของไต้ฝุ่นเป็นคนขับ ที่จริงก็อยากจะไปกันสองคน แต่วันนี้ทำงานมาเหนื่อยทั้งวัน เขาเลยไม่อยากจะขับรถเพิ่มความเหนื่อยล้าให้ตัวเอง
“พี่พัดทำงานถึงกี่โมงคะเนี่ย หนูเห็นพี่ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เลิกงานอีก”
ปากบาง ๆ ส่งเสียงเจื้อยแจ้วเอ่ยถามคนที่กำลังขับรถอยู่
“ทำตลอดครับน้องวิสา พี่ไม่มีเวลางานตายตัว”
“โห..ทำไมคุณใจร้ายจังคะ ใช้งานพี่พัดไม่ให้มีเวลาพักเลย”
นั่งอยู่เงียบ ๆ ก็โดนพาดพิง ทำเอาไต้ฝุ่นถลึงตาใส่ลูกน้องที่พูดจาไม่เข้าท่า
“ยัยเตี้ย เธอไม่รู้อะไรก็ไม่ต้องพูดมากได้ไหม ช่วยอยากรู้อยากเห็นให้มันน้อย ๆ ลงหน่อย”
“เหอะ ค่า ๆ”
ไม่รู้ว่าเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ เด็กที่เขาเก็บได้ข้างทางกล้าต่อล้อต่อเถียงขนาดนี้ ไม่เหมือนวันแรก ๆ ที่ทำตาปริบ ๆ อ้อนวอนให้เห็นใจเลยแม้แต่น้อย
ไต้ฝุ่นไม่ได้อยากถือสาเท่าไหร่นัก ยังไงซะเธอก็ยังอายุไม่ถึง 18 ปี ด้วยซ้ำ ค่อย ๆ สอนไปน่าจะพอไหว
ราวชั่วโมงเศษ รถสีขาวคันใหญ่ก็มาถึงหน้าตึกสีดำ ที่ดูภายนอกก็เหมือนตึกธรรมดาทั่วไป แต่พอเปิดเข้าไปข้างใน ก็ทำเอาวันวิสาตาโตอ้าปากค้างอีกครั้ง
“ป้าด..หลังนี้กะงาม เฮือนคุณมีแต่หลังใหญ่ ๆ เนาะจ้า”
“ฉันบอกแล้วไงว่าให้พูดภาษาที่ฉันเข้าใจ”
“ก็มันตื่นเต้นนี่คุณ จะแคดแลดภาษาบ้านเกิดบ้างมันก็เป็นเรื่องปกติ”
ยิ่งพูดก็เหมือนยิ่งยุ เด็กสาวเจ้าของดวงตากลมโตยังขยับปากบางพูดภาษากลางปะปนกับภาษาบ้านเกิดของตัวเอง เหมือนกับต้องการจะแกล้งเขาเสียมากกว่า
ใบหน้าคมได้แต่ส่ายไปมาด้วยความเหนื่อย เหนื่อยจากงานไม่พอ ทุก ๆ วันที่กลับมาถึงบ้านจะต้องมาเหนื่อยกับเด็กน้อยอย่างเธออีก
ระหว่างที่ไต้ฝุ่นกำลังนั่งดูวันวิสาทำความสะอาดรอบ ๆ และเก็บของให้เข้าที่เข้าทาง พัด ลูกน้องของเขาก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหาข้างใน
“นะ นายครับ ยะ แย่แล้ว คะ ครับ”
เสียงลูกน้องลำล่ำละลัก ตะกุกตะกักแทบจะจับใจความไม่ได้
“มีอะไร แกพูดให้มันเข้าใจหน่อยได้ไหม”
พัดกลืนน้ำลายเหนียวลงคอไปหลายรอบ กว่าจะตั้งสติเอ่ยบอกกับเจ้านายได้
“เมื่อกี้ภูดิศโทรมาครับ บอกว่าคุณพายุถูกยิง อาการโคม่า กำลังทำการผ่าตัดอยู่ ส่วนคุณพลอยใสก็อาการหนักเหมือนกันครับ”
คราวนี้เขาได้ยินชัดทุกคำพูด ถูกยิงอย่างนั้นเหรอ ใครกันมันกล้ามากระตุกเขี้ยวงู เป็นใครมาจากไหนถึงได้กล้ายิงพายุ ทายาทของอาร์เดน
“เอารถออก ไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้”
ขณะที่หันไปสั่งลูกน้อง นัยน์ตาสีน้ำตาลก็เหลือบไปมองคนตัวเล็กที่ยืนทำหน้าฉงนสงสัยอยู่ไม่ไกล เขาคงจะพาเธอไปด้วยไม่ได้ เพราะว่าไม่ใช่แค่การไปเยี่ยมพี่ชายแล้วกลับ
...แต่จะต้องลากคอไอ้คนทำมาลงโทษด้วย...
“วิสา เธออยู่นี่คนเดียวก่อนจะได้ไหม ฉันมีธุระสำคัญจะต้องไปทำ ถ้าหิว ในตู้เย็นมีของที่พอทำกินได้ พรุ่งนี้เช้าถ้าฉันยังไม่กลับ ก็อาบน้ำแล้วใส่เสื้อผ้าฉันในตู้ก่อนก็ได้”
“ด่วนมากเลยเหรอคะ ถ้างั้นหนูรอคุณที่นี่ก็ได้ค่ะ หนูเป็นคนง่าย ๆ คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”
“อย่าออกไปไหนเด็ดขาด นี่คือคำสั่ง ตกลงไหม”
“ทราบแล้วค่ะ หนูจะไม่ออกไปไหนแม้แต่ก้าวเดียว สบายใจได้ค่ะ”
สั่งคนตรงหน้าเสร็จแล้ว ไต้ฝุ่นก็รีบออกไปด้านนอกที่พัดรออยู่ พี่ชายของเขาปกติแทบจะไม่มีเรื่องกับใครเลย วัน ๆ ทำแต่งาน เรื่องการค้าก็ไม่เคยเอาเปรียบใคร แล้วเป็นไปได้ยังไงที่จะมีคนมายิง ถ้าเป็นเขาที่ชอบมีเรื่องไปทั่วล่ะว่าไปอย่าง
//////
รถคันใหญ่ขับด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่จะทำได้ ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงโรงพยาบาลที่พายุและพลอยใสรักษาตัวอยู่
ไต้ฝุ่นเปิดประตูเข้าไปในห้องพักของพลอยใส นัยน์ตาสีน้ำตาลมองดูร่างเล็กที่เปรียบเหมือนน้องสาวคนหนึ่งยังนอนไม่ได้สติ
ความรู้สึกขุ่นเคืองอัดแน่นอยู่เต็มอก เปลวไฟแห่งโทสะแผดเผาอยู่ในหัวใจ ยิ่งได้รู้จากปากลูกน้องของพี่ชายว่าใครคือคนทำ ก็ยิ่งทำให้ความโกรธมันมากขึ้นทวีคูณ
“ไอ้พัด ส่งคนออกตามล่าไอ้ภูผามาให้กู มึงรู้ใช่ไหมว่าจะต้องตามมันที่ไหน”
“รู้ครับนายท่าน ผมจะรีบจัดการให้เดี๋ยวนี้เลยครับ”
พัดก้มหัวรับคำ แล้วก็เดินออกไปข้างนอกห้องเพื่อจัดการทุกอย่างตามที่นายสั่ง
ร่างเล็กที่นอนอยู่บนเตียงเริ่มขยับตัว ไต้ฝุ่นจึงรีบเดินเข้าไปหา เมื่อพลอยใสลืมตาขึ้น เห็นว่าที่ยืนอยู่ข้างเตียงไม่ใช่สามีตัวเองก็ร้องไห้โวยวาย
เขาทำได้เพียงโอบกอดภรรยาของพี่ชายเอาไว้ ปลอบใจให้เธอสงบลง อย่างไรพลอยใสก็เหมือนกับน้องสาวของเขาคนหนึ่ง
ลูกน้องคนสนิทหายไปเกือบสามชั่วโมง ก็ติดต่อกลับมา พร้อมกับบอกว่ารู้ที่กบดานของไอ้ภูผาแล้ว เรื่องตีฟันรันแทง ไต้ฝุ่นโชกโชนมาแต่ไหนแต่ไร ยิ่งกับไอ้ภูผาที่เป็นคู่อริกันมาหลายปี เขาย่อมรู้ดีว่ามันจะไปมุดหัวอยู่ที่ไหน
ปกติมีเรื่องกับมันก็ธรรมดา ต่อยตีกันเป็นประจำ แต่คราวนี้มันเป็นคนที่ดึงด้านมืดที่สุดในตัวเขาออกมา ใครก็ตามที่กล้าทำร้ายคนในครอบครัว ไต้ฝุ่นไม่เคยปล่อยให้รอดไปแม้แต่รายเดียว
...ทั้งไอ้ภูผา และเมทันกรุ๊ป จะต้องจบลงภายในคืนนี้...
//////////////////////////////////////////