ความเดิม- "ค่า.."
.......................................
ตัดมาที่กานต์บุรุษ
@บ้านวรนนท์
กานต์บุรุษไปรับน้องสาวจากมหาวิทยาลัยกลับมาถึงบ้านในเวลามืดค่ำ ชายหนุ่มเลือกที่จะแวะซื้อจากข้างนอกมาอุ่นกินเพราะเหนื่อยล้ากับการเดินทางเหลือเกิน หลังจากกินอาหารเสร็จและเก็บล้างเรียบร้อยแล้วจึงชวนน้องสาวมานั่งคุยกันที่ห้องนั่งเล่นก่อน
"บีพี่มีอะไรจะคุยด้วยหน่อย"
"ค่ะพี่เอ"
"สัปดาห์หน้าพี่ต้องไปอบรมต่างจังหวัด 2-3 วัน พี่เป็นห่วงไม่อยากให้เราอยู่บ้านคนเดียว พี่คิดว่าจะพาเราไปฝากกับพี่สาวที่นับถือคนนึง เราล่ะว่าไง"
"ใครหรือคะพี่เอ"
"พี่เหมียวน่ะ ทำร้านขายดอกไม้ แกใจดีอยู่ รู้จักกันมาตั้งแต่ที่พี่เป็นพนักงานบริษัทนี้แหละ"
"แล้วแต่พี่เอซิคะ บียังไงก็ได้ค่ะ"
....................................
เช้าวันรุ่งขึ้นซึ่งเป็นวันหยุดกานต์ธิดาตื่นนอนในช่วงสาย ๆ และลุกขึ้นมาอาบน้ำทำธุระส่วนตัวและลงมาด้านล่างพบว่าพี่ชายได้ออกไปทำงานแล้วเพราะเป็นวันเสาร์ รู้สึกเบื่อ ๆ จึงหยิบโทรศัพท์มาไถเล่นไปเรื่อย ๆ และพบข้อความใหม่จากเพื่อนสาว
อัญญารินทร์: สติ๊กเกอร์รูปโบกมือทักทาย
กานต์ธิดา: ส่งสติ๊กเกอร์สวัสดีทักทายกลับ
อัญญารินทร์: ได้ข่าวว่าสัปดาห์หน้าพี่เอจะไปประชุมต่างจังหวัดเหรอ
กานต์ธิดา: ทำไมรู้ล่ะ
อัญญารินทร์: รู้ก็แล้วกันน่ะ มานอนที่บ้านเราซิ่ ขอคุณแม่แล้ว คุณแม่ไฟเขียว จะได้ไปเรียนพร้อมกัน
กานต์ธิดา: ต้องถามพี่เอก่อน เห็นพี่เอบอกว่าจะพาไปฝากกับพี่สาวที่นับถือ ที่ทำร้านขายดอกไม้
อัญญารินทร์: เคร วันจันทร์เจอกันบอกพี่เอให้ชลอก่อน มานอนกับเราดีกว่าจะได้ไปเรียนด้วยกัน ตามนี้นะ วันจันทร์คุยกัน
กานต์ธิดา: โอเคจ้า
ด้านอัญญารินทร์หลังจากคุยไลน์กับเพื่อนสาวเสร็จ หญิงสาวจึงได้ต่อสายหาผู้เป็นอาทันที
สายโทรออก
เปรมมนัส: ค่าสาวน้อย
อัญญารินทร์: พีเอจะพายัยบีไปฝากกับพี่สาวที่นับถือที่ทำร้านขายดอกไม้ในช่วงที่ไปอบรมค่ะ
เปรมมนัส: ทำไมไม่ชวนเพื่อนมาพักที่บ้านเราล่ะ อ้างเหตุผลอะไรก็ได้ อาจะได้ไปรับไปส่งพร้อม ๆ กันเลย
อัญญารินทร์: ชวนแล้ว แต่ยัยบีบอกว่าจะถามพี่ชายก่อนค่า
เปรมมนัส: เฮ้อ...เด็กดีจริงจริ๊ง...
อัญญารินทร์: มันก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่คนเราจะเชื่อคนในครอบครัวมั๊ยคะอานัท
เปรมมนัส: อือ..เข้าใจแต่...ทำยังไงก็ได้ให้ยัยผีดิบมาพักกับเราให้ได้ เดี๋ยวมีค่าเหนื่อยให้
อัญญารินทร์: เท่าไร
เปรมมนัส: ไอ้งก!! แค่นี้นะ อาจะไปดูงานต่อแล้ว
อัญญารินทร์: ค่า..สวัสดีค่า.. แล้วสัญญาณก็ถูกตัดไป แต่อารมณ์ของคนที่คุยยังจบ
-..อะโด่ว..ที่แท้ก็โดนยัยบีตกเต็ม ๆ เช๊อะ พอถามก็มาว่าเราแก่แดด..นี่เห็นว่าเป็นอาหรอกนะ ถ้าเป็นคนอื่นจะไม่ช่วยเลย..- อัญญารินทร์พูดกับโทรศัพท์อย่างระบายอารมณ์
"บ่นอะไรครับน้องเอ๋ย" เป็นปกรณ์ที่เอ่ยขึ้นพร้อมกับโชว์กุญแจที่อยู่ในมือ และข้างหลังชายหนุ่มคือบิดาของเธอนั่นเอง
"คุณพ่อ มารับน้องเอ๋ยไปฝึกทำขนมใช่มั๊ยคะ" อัญญารินทร์เอ่ยขึ้น ดวงตาเป็นประกายระยิบระยับ พร้อมกับยกมือกระพุ่มไหว้ทั้งสองหนุ่มต่างวัยที่มาใหม่
"ตาวาวเชียวนะ พอพูดถึงเรื่องขนมเนี่ย" ปกรณ์แกล้งแซว
"แหม..อากรก็..เดี๋ยวน้องเอ๋ยไปเอาอาหารให้บุญเก็บก่อนนะคะ แป๊บเดียว..(ว่าแล้วหญิงสาวก็รีบสับเท้าไปส่วนหลังของบ้านแล้วเดินกลับมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม) ไปค่ะ น้องเอ๋ยพร้อมแล้ว"
"ไลน์บอกคุณแม่หรือยังลุก"
"ไลน์แล้วค่ะ แล้วก็นู่น โบกมือให้คุณแม่หน่อย" หญิงสาวชี้ไปที่กล้องวงจรปิดที่มารดาของเธอให้ช่างมาติดตั้งไว้แล้วยิ้มร่าพร้อมโบกมือไปมาให้กล้อง
"อ้อ จริงด้วย../ที่รักครับพี่มารับลูกไปฝึกทำขนมนะครับ เย็น ๆ จะพามาส่ง" เปรมกิจอือออกับลูกสาวแล้วหันหน้าไปหากล้องส่งเสียงดังฟังชัดพร้อมกับโบกมือโบกไม้ส่งยิ้มเก๋ส่งใส่กล้องอย่างไม่อายใครทำเอาอีกหนึ่งหนุ่มถึงกับเลิ่กลั่กเพราะเกรงใจชาวบ้านระแวกนี้แต่โชคดีที่บ้านพี่บ้านของสาวเจ้าอยู่ห่างจากบ้านหลังอื่นพอประมาณ
"ไปค่ะคุณพ่อ หนูมีเรื่องจะปรึกษาด้วย เรื่องของอานัทนะค่ะ"
"เหรอลุก ปะ ไปครับ" จากนั้นทั้งสามก็ขึ้นนั่งบนรถยนต์คันหรูไปยังบ้านคุณปู่ทันที
@บ้านอนันตวรรณาวงษ์
"คุณปู่ขาหนูมาแล้วค่า" หญิงสาวร้องเสียงคนชราเสียงดังฟังชัด
"มาแล้วหรือหลานสาวคุณปู่ มาทางนี้เร็วคุณปู่รออยู่"
"สวัสดีครับคุณลุงชัย"
"หลานกรมานั่งคุยกันก่อนซิลุก เดี๋ยวคนนู้นเค้าก็ไปในครัวกับพ่อเค้าแล้ว ลุงไม่มีเพื่อนคุยเลย" เปรมชัยเอ่ยยิ้ม ๆ
"ครับ"
"ทางนั้นว่าไงบ้างล่ะ" เปรมชัยเอ่ยขึ้น
"เดินทางวันพุธครับ เห็นว่ากำลังมองหาที่ฝากน้องสาวอยู่ ไม่กล้าให้อยู่บ้านคนเดียวครับ" ปกรณ์เล่าตามที่ได้รับรายงานจากสายสืบเฉพาะกิจ
"เหรอ ฝากบอกทางเพื่อนเราด้วยล่ะให้เตี๊ยมทางเขตแดนให้หน่อย"
"ได้เลยครับ" ปกรณ์รับคำยิ้ม ๆ
"เห็นน้องเอ๋ยบอกว่าวันจันทร์นี้จะล็อบบี้พามาบ้านคุณแม่เค้าเลย ให้มานอนด้วยกัน จะได้ไปเรียนด้วยกัน เข้าทางนายนัทเค้าล่ะ" ชายชราลูบคางตัวเองเบา ๆ คล้ายกำลังคิดวางแผนในหัว
"ครับ ผมก็ว่าดีนะครับ ไหนก็เรียน ม.เดียวกัน คณะเดียวกันแล้ว" ปกรณ์ออกความเห็นบ้าง
"นั่นนะซิ ถ้าเค้าจะลงเอยกันลุงก็ไม่ขวางนะ ขอให้ลูกมีความสุขลุงยอมทั้งนั้น ลุงมีบทเรียนราคาแพงเรื่องพ่อของน้องเอ๋ยมาแล้ว ลุงจะไม่มีวันให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเด็ดขาด" ชายชราเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น