อีกด้านของคนที่มาใหม่
กานต์บุรุษที่เรียกรถแท็กซี่กลับบ้านเพราะรถของตนเองอยู่ที่ศูนย์ซ่อม มองเข้ามาในบ้านเห็นรถยนต์หรูจอดอยู่ในบ้านนึกเอะใจรีบลงจากรถแล้วเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับเรียกหาน้องสาวด้วยความเป็นห่วง
"น้องบีใครมาเหรอพี่เห็นรถจอดที่หน้าบ้าน บี..เป็นอะไรหรือเปล่า" กานต์บุรุษร้องเรียกน้องสาวพร้อมกับรีบสับเท้าเข้ามาในบ้าน
ด้านคนตัวเล็กที่ถูกคนตัวโตล็อคเท้าเอาไว้พยายามจะดึงเท้ากลับแต่ก็ยากลำบากเต็มที จึงได้แต่ร้องตอบพี่ชายกลับไป
"พี่เอ น้องอยู่นี่ค่า"
"ห๊!! บีเป็นอะไร แล้วคุณเป็นใคร ทำอะไรน้องผม ถอยออกไปเลยนะ" กานต์บุรุษตะเบ็งเสียงและปรี่เข้าทำท่าจะทำร้ายอีกฝ่ายแต่บังเอิญ ปกรณ์และอัญญารินทร์วิ่งเข้ามาห้ามไว้ได้ทัน
"เอ่อ เรามาดีครับ คุณคงเป็นพี่ชายของน้องบีใช่มั๊ยครับ พวกเราเป็นอาของเพื่อนน้องบีครับ เรามาส่งน้องบีที่บ้าน ระหว่างรอก็สั่งอาหารมากินกัน พอดีน้องอาสาล้างจานแล้วทำจานแตกบาดเท้า แล้วเพื่อนผมช่วยทำแผลให้" ปกรณ์รีบอธิบายอย่างยืดยาวและรวดเร็วที่สุดเพื่อความปลอดภัยของเพื่อนรัก
"คุณปล่อยน้องผมออกมาก่อน/น้องบีเดินมาหาพี่" กานต์บุรุษเอ่ยสั่งอีกคนและเรียกน้องสาวให้เดินมาหาเพราะต้องการมั่นใจว่าน้องไม่ได้ถูกบังคับให้รับสมอ้าง
"เชิญครับ" เปรมมนัสยกมือขึ้นระดับใบหูเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ
"จริงหรือเปล่าน้องบี" กานต์บุรุษเอ่ยถามน้องสาวหลังจากพาน้องสาวเดินออกมาไกลพอประมาณ
"จริงค่ะพี่เอ คุณอาของเพื่อนใหม่หนูเขามาส่งหนูที่บ้านค่ะ เห็นว่าพี่เอไม่มาสักทีก็เลยก็สั่งข้าวมากิน กินเสร็จแล้วหนูอาสาล้างจานเองก็เลยจานหลุดมือ แตกเลย ชุดใหม่ที่พี่เอพึ่งซื้อมาซ๊ะด้วย แหะ แหะ แหะ.." กานต์เล่าจบก็ยิ้มเจื่อน ๆ ให้พี่ชายอย่างขอลุแก่โทษ
"ยัยบีเอ๊ย.....ล้างจานไม่เป็นก็ไม่ต้องล้าง เก็บไว้เดี๋ยวพี่ล้างเอง นึกยังไงถึงอาสาล้างจาน เสียดายจานหลายตังค์นะนั่น" กานต์บุรุษพูดยิ้ม ๆ พร้อมกับเดินจูงมือน้องสาวมาหาแขกผู้มาเยือน
"เอ่อ..ผมต้องขอโทษคุณ ๆ ด้วยนะครับที่เข้าใจผิด พอดีมัวแต่เป็นห่วงยัยกุ้งแห้ง ก็เลย...."
"ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเข้าใจ แต่แผลที่เท้าของน้องต้องได้ล้างแล้วก็ใส่ยาฆ่าเชื้อนะครับ คุณพอจะมีกล่องยามั๊ยครับพอดีผมไม่ได้เอาติดรถมาเสียด้วยซิ" เปรมมนัสเอ่ยแทรกขึ้นก่อนที่กานต์บุรุษจะพูดจบ
"มีครับ ๆ เดี๋ยวผมไปเอามาให้" พูดจบชายหนุ่มก็เดินหายไปในห้อง ๆ หนึ่ง แล้วกลับมาพร้อมกับกล่องยา
"นี่ครับ ได้แล้วครับ"
"ผมขออนุญาตนะครับ อาจจะเจ็บหน่อยแต่รับรองว่าจะไม่ติดเชื้อ ครั้งแรกต้องดูดี ๆ ว่าจะไม่เศษกระเบื้องฝังอยู่ ต้องสครับดี ๆ ครับ" เปรมมนัสเอ่ยกับกานต์บุรุษยิ้ม ๆ และสบตากับชายหนุ่มเพื่อรอรับอนุญาต
"ได้ครับ คุณหมอช่วยดูให้ละเอียดทีนะครับว่าต้องไปหาหมอมั๊ย ผมไม่ค่อยรู้เรื่องนี้" กานต์บุรุษเอ่ยอย่างสุภาพและเป็นการขอความช่วยเหลืออยู่ในที
"..อืม... ไม่มีเศษกระเบื้องฝังนะครับ แผลไม่ลึกมาก แค่พุชน้ำเกลือเข้าไปและสครับแผลให้สะอาดก็น่าจะได้ ไม่ต้องไปหาหมอหรอกครับ ผมก็เป็นหมอ อืม..ล้างแผล ต่อเนื่องสักสองสามวันก็น่าจะแห้งแล้วครับ ถ้าปวดก็พารา น้องไม่แพ้ยาอะไรใช่มั๊ยครับ" เปรมมนัสทำท่าพิจารณาแผลอย่างละเอียดทั้งที่ก่อนนี้ก็ดูดีแล้ว แต่ไหน ๆ อยากหวงน้องสาวนักก็ถือโอกาสทำโชว์เสียเลย
"ไม่แพ้ครับ"
"ก็ถ้าปวดก็กิน ไม่ปวดก็ไม่ต้องกินครับ แล้วก็อย่าให้แผลเปียกน้ำ สวมรองเท้าแตะไปก่อนจนกว่าแผลจะแห้งก็แค่นั้นแหละครับ" เปรมมนัสตอบยิ้ม ๆ
"ครับ ขอบคุณครับ" กานต์บุรุษรับคำหนุ่มใหญ่อย่างว่าง่ายแล้วลูบผมน้องสาวอย่างเบามือ
ด้านปกรณ์รีบสะกิดอัญญารินทร์ให้รีบแนะนำตัวเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย
"เอ่อพี่เอคะ หนูชื่ออัญญารินทร์ หรือน้องเอ๋ยค่ะเราเคยเจอกันที่ร้านมายาฟลาวเวอร์ร้านดอกไม้ของป้าเหมียวไงคะ ตอนนี้หนูเรียนคณะบริหารที่มหาวิทยาลัยเดียวกันกับยัยบี เราเพิ่งตกลงเป็นเพื่อนเมื่อเช้านี้เองค่ะ แต่ว่าเราเคยรู้จักกันแล้วนะคะ ตอนที่ยัยบีเค้าเป็นลมไงคะ ตอนนั้นเราเป็นคนพายัยบีไปส่งที่โรงพยาบาลเองค่ะ" อัญญารินทร์เล่าตามความเป็นจริง
"อ๋อ..น้องเอ๋ยเองหรือครับพี่ก็มัวแต่ห่วงยัยบีเลยจำไม่ได้ว่าใครเป็นใคร ขอบคุณอีกครั้งนะครับ" กานต์บุรุษเอ่ยยิ้ม ๆ อย่างโล่งใจ
"ต้องขอบคุณคนโน้นค่ะ" อัญญารินทร์เอ่ยอย่างรู้งาน
"เหรอครับ ขอบคุณคุณหมอนะครับ อ๋อ...ผมนึกออกแล้ว คุณนั่นเองที่ให้นามบัตรผม ผมจำได้ล๊ะ" กานต์บุรุษพูดพร้อมกับลูบท้ายทอยไปมาแก้เก้อ พลางนึกในใจ เกือบไปแล้วมั๊ยล่ะ
"ไม่เป็นไรเลยครับ ผมเข้าใจ ว่าแต่คุณพาน้องไปตรวจบ้างหรือยังครับ" เปรมมนัสเอ่ยถามทั้ง ๆ ที่พอจะทราบเรื่องแล้วจากหลานสาว
"เอ่อ ยังครับ พอดียัยคนนี้ไม่อยากขาดเรียน ว่าจะไปตอนเย็นก็เลยรถมาเสียเสียก่อน คงต้องรอซ่อมเสร็จก่อนครับ พรุ่งนี้ก็น่าจะได้แล้วครับ" เปรมมนัสเอ่ยขึ้นแต่ในใจนึกห่วงกังวลอยู่ไม่น้อย
"ผมอยากให้รีบไปนะครับ อย่างน้อยเราจะได้รู้แนวทางการรักษา อ้อ แล้วไม่ต้องห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายนะครับ พอดีเราจะเอาน้องเป็นเคสตัวอย่าง ไม่ต้องเสียค่าตรวจใด ๆ ทั้งสิ้น ขอแค่ให้น้องไปตรวจก็พอครับ" เปรมมนัสเอ่ยขึ้นอย่างหนักแน่น (จะต้องเสียอะไรล่ะ ก็คนจ่ายนั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้ไง) ในวงเล็บพูดในใจ