“นี่! อะไรห๊ะมาหลบอยู่ห้องกูทำไม นั่นเขากำลังจะพาขึ้นสวรรค์นะ!” เสียงของน้ำตาลดังลั่นห้องของเจ้าตัว นับตั้งแต่เพื่อนชายคนสวยหย่อนก้นนั่งในห้อง น้ำตาลยังไม่หยุดที่จะหาคำมาว่าหรือด่าเพื่อนคนนี้ได้เลย
“ไม่รู้ดิกูกลัวอ่ะน้ำตาล” สาเหตุที่เพื่อนชายคนสวยอย่างยีนส์ต้องมาซุกหัวอยู่ห้องน้ำตาลก็ช่างเป็นเหตุผลที่ไร้สาระสิ้นดี จนน้ำตาลอยากจะเอาหัวโขกกำแพงห้องให้มันตายๆไป
ยีนส์ตอนนี้ก็ดูท่าจะอยู่ไม่สุข โทรศัพท์ก็ปิดเครื่องหนีไม่ให้เฮียยอร์ชหรือใครติดต่อได้ เอาแต่นั่งก้มหน้ากำมือทำชันเข่าอยู่บนเตียง ไม่ว่าน้ำตาลจะด่าแรงขนาดไหนยีนส์ก็ไม่แสดงอาการอะไรออกมา
เขาหนีออกมาจากสนามTตั้งแต่ธีมหันหลังออกไปทำแผล สิ้นจูบสูบวิญญาณทีาแสนจะกระหายของธีม สมองยีนส์ก็สั่งการให้รีบหนีออกมาจากตรงนั้น ไม่งั้นคืนนี้เขาต้องแย่แน่ๆ
“อะไรกันยะ ไอ้คนก่อนๆหน้าไม่ให้เห็นกลัวมีแต่คนเขาอ่ะติดใจมึง แต่นี่กลับมากลัวทั้งๆที่ไปยั่วเยเขาไว้สารพัด” พูอแล้วน้ำตาลก็อยากจะเห็นหน้านักว่าเฮียธีมคนนี้หน้าตาเป็นยังไง เพื่อนเขาถึงได้แสดงอาการทั้งอยากลองทั้งกลัว เสียอาการได้หนักขนาดนี้
“อยู่ดีๆกูก็กลัวอ่ะ แค่คิดก็ตัวสั่นใจเต้นแรงแล้วเนี่ยมึง” ยีนส์ไม่ได้พูดเปล่า ร่างเล็กชูมือขาวที่สั่นขึ้นกลางอาการ มันสั่นจนไม่สามารถจะชงกาแฟหรือเขียนหนังสือได้สักตัวในตอนนี้
“กลัวเขาฟันมึงแล้วทิ้งน่ะหรอ”
“กลัวติดใจวะ”
“อียีนส์!” เสียงแหลมพุ่งปรี๊ดเมื่อได้ฟังคำตอบของเพื่อน
“น้ำตาลแค่จูบแค่แววเดียวกูยังฟินยังเคลิ้มขนาดนี้เลยมึง ถ้าเป็นอะไรที่มันมากกว่าจูบกูจะไม่คลั่งตายเลยหรอวะ”
เพียงจินตนาการว่าเขากำลังผลัดกันถอดเสื้อผ้ากับเฮียธีมร่างกายมันก็ตอบสนองขึ้นทันที ขนตามร่างกายลุกชัน เหงื่อจำนวนไม่น้อยผุดซึมทั่วกรอบหน้า แค่คิดเท่านั้นภาพของเฮียธีมยังมีอิทธิพลกับความรู้สึกและอารมณ์ของยีนส์ขนาดนี้ แล้วถ้าหากมันเกิดขึ้นจริงๆ ความรู้สึกของเขามันจะเป็นยังไง มันจะสุขจนลืมไม่ลง หรือว่าจะทุกข์เพราะรู้สึกมากเกินไป
“แล้วกับคนอื่นที่ผ่านมาละไม่เคยเป็นหรอแบบเนี่ย” น้ำตาลยอมรับเลยว่าเมื่อเห็นอาการที่ดูกลัวจริงๆของยีนส์เธอเองก็อดรู้สึกแปลกใจและสงสัยไม่ได้ ถ้ายีนส์จะมีอะไรกับธีมจริงๆ อย่างน้อยนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกของเพื่อนเธอ
“ไม่ว่ะ กูออกจะเหนือกว่าคนพวกนั้นด้วยซ้ำ แต่กับคนนี้…กับเฮียธีมกูรูสึกต่างจากคนอื่นมากๆเลยอ่ะมึง แบบว่าเขาตามกูทันบางทีก็รู้สึกว่าเขาอยู่เหนือกูด้วย บางครั้งก็เหมือนจะรู้จุดอ่อนของกู” เขากับธีมอาจจะไม่ได้เจอกันบ่อยๆ หรือมีเวลาอยู่ด้วยกันนานๆ แต่ทุกครั้งที่เจอและได้คุยกันยีนส์กลับลืมช่วงเวลาเหล่านั้นกับธีมไม่ลง แถมในบางทียังรู้สึกติดใจกับคำพูดที่ตามทัน และไม่ยอมอยู่ต่ำกว่าของธีม “ความรู้สึกเหมือนเคยเจอกันมาก่อน เคยลึกซึ้งกันมาก่อน”
“แล้วสรุปเคยเจอไหม”
“กูก็จำไม่ได้วะ แต่ความรู้สึกกูเหมือนกูคุ้นเคยกับเขามาก่อน”
@สนามT
“หึ ยีนส์น่าจะหนีมึงไปไกลแล้วล่ะไอ้ธีม” ยอร์ชนั่งกระดกเบียร์เข้าปากไปด้วย ยิ้มเยาะเพื่อนตัวดีไปด้วยที่รั้งน้องเขาไว้ไม่อยู่ ไปทำแผลแค่ไม่กี่นาที กลับออกมามีแต่ความว่างเปล่า แม้แต่เส้นผม ยีนส์ก็ไม่ทิ้งไว้ให้มอง
“น้องมึงนี่…อย่างร้าย” ธีมเองก็ดูผิดปกติ โดนทิ้งให้อารมณ์ค้างอยู่กลางทางแต่กลับนั่งยิ้มมีความสุข
นิ้วเรียวที่กร้านแตะคลึงริมฝีปากตัวเองไม่หยุดหย่อน นึกถึงเหตุการณ์เมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนที่เขาได้ประทับปากจูบดื่มด่ำความหวานจากริมฝีปากสีสวย แต่น่าเสียดาย..เด็กมันร้ายมายั่วเขาทิ้งไว้กลางทาง
“เห็นมึงกับยีนส์แล้วกูไม่รู้จะสงสารใคร” ยอร์ชส่ายหัวให้กับเพื่อนตัวเองที่นั่งลูบคล่ำปากไม่ปล่อย “มึงคนที่ไม่เคยมีความรัก ยีนส์ผู้ที่ไม่คิดจะรักใคร ตอนจบแม่งจะเป็นไงวะ” ยอร์ชเดาไม่ออกเลยว่าเขาจะต้องมาดื่มย้อมใจกับเพื่อน หรือจะคอยนั่งเช็ดน้ำตาให้น้องก่อนดี
“มึงหมายความว่าไง ยีนส์ไม่เคยมีแฟน?”
“กูก็เห็นมันวันไนท์ไปเรื่อย ไม่เคยรักไม่เคยจริงจังกับใคร หรือนอนกับใครซ้ำสักที มึงก็ระวังตัวไว้” ยอร์ชพูดถึงสิ่งที่เขาเห็นมาตลอดตั้งแต่ยีนส์เข้าเรียนปี1 น้องเขาก็เริ่มเห็นเซ็กส์เป็นเรื่องปกติ จะห้ามน้องก็ไม่ได้ในเมื่อตัวเองยังควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า
“ไม่ตามหาแล้วหรอคนในคืนนั้นน่ะ มึงไม่อยากเจอเขาแล้วหรอ” แทนพูดแทรกเมื่อเขาฟังดูแล้วคนชื่อยีนส์จะมีอิทธิพลต่อความรู้สึกของธีมมากเกินความจำเป็น ทั้งที่ก่อนหน้านี้ให้เขาช่วยตามหาเด็กผู้ชายคนนั้นแทบพลิกแผ่นดิน
ยอร์ชถลึงตามองธีม เขาเกือบจะลืมเรื่องนี้ไปแล้วถ้าแทนไม่พูดขึ้นมา“มึงอย่ามาเอาน้องกูเป็นตัวแทนนะไอ้ธีม กูตัดขาดกับมึงได้เลยนะถ้าน้องกูเสียใจ” ยอร์ชชี้นิ้วคาดโทษธีมไว้แต่เนิ่นๆ
คำตอบที่ธีมตอบกลับมาทำเอายอร์ชเกิดการเสียอาการ แสดงสีหน้าและแววตาตกใจออกมาชั่วขณะหนึ่ง
“แล้วถ้ากูบอกว่าอาจจะเป็นคนๆเดียวกันละ มึงจะเชื่อไหม”
“มะ..มึง..จำเขาได้หรอ” ยอร์ชทำเสียงกะอั่กกะอ่วน รู้สึกใจเต้นอย่างกับกลองรบที่กำลังถูกีก่อนทำศึก “มึง..จำหน้าเขาได้หรอขนาดชื่อยังไม่รู้จัก”
“แต่น้องมึงคุ้นวะ หน้าตาคล้ายแต่ไม่เหมือน” ทุกอย่างในช่วงเวลานี้สำหรับธีมมันดูเลือนลางไปหมด แต่มีบางสิ่งที่เขาจำมันได้ดี แม้จะผ่านมาแล้วหลายปีก็เถอะ “แต่กูจำลีลาได้”
ยีนส์ก้าวขาเข้าบ้านตัวเองเมื่อฟ้าสว่าง เมื่อคืนเขาไปหลบอยู่ห้องน้ำตาลทั้งคืน ตื่นเช้ามาก็รีบรนรานกลับบ้าน เพราะวันนี้มีนัดสำคัญกับหมอประจำตัว โทรหาพี่ชาย อีกฝ่ายก็ไม่รับสายไม่รู้ป่านนี้จะตื่นแล้วรึยัง หรือยังเมาหลับอยู่ที่สนามเฮียธีม
“กลับมาแล้วหรอคุณ”
“แค่กกๆๆ...แค่กๆ” ยีนส์สำลักน้ำที่กำลังดื่มจนมันหกเลอะไปทั่วพื้นและเสื้อที่กำลังใส่ ธีมยิ้มให้กับอาการตกใจขั้นสุดขีดของคนตัวเล็ก “ฮะ..เฮีย!”
ยีนส์ผงะไปเล็กน้อยเมื่อเห็นเฮียธีมอยู่ในบ้านตัวเอง ร่างสูงตรงหน้าสวมแค่กางเกงนอนสบายๆแค่ตัวเดียว ท่อนบนยังถอดโชว์เนื้อหนัง มัดกล้าม และรอยสัก
“ร้ายนะคุณชิ่งหนีเฮียไปทั้งคืน” ธีมพูดทีเล่นทีจริง ซึ่งในตอนนี้ยีนส์เดาไม่ออกเลยว่าธีมกำลังคิดจะทำอะไร ไม่ใช่ว่าจะกินเขาจริงๆจนมารออยู่บ้านหรอกหรอ
“เรา..เพื่อนเราโทรให้รีบไปหาพอดี” ยีนส์แก้ตัวน้ำขุ่นๆ ธีมทำเป็นเออออเชื่อเด็กเลี้ยงแกะตรงหน้า
“ก็เลยต้องอยู่กับเพื่อนทั้งคืนสินะ”
“อ๊ะ!” เพราะยีนส์มัวแต่ก้มหน้าหลบตาไม่ยอมสบตาธีม เลยไม่รู้ตัวว่าอีกฝ่ายเขาเดินเข้าใกล้มากขนาดที่สามารถจับตัวเขาอุ้มยกไปวางบนโต๊ะทำอาหารได้สบายๆ
ธีมกวาดตามองไปบนโต๊ะ เขาหยิบทิชชู่ขึ้นมาแล้วค่อยๆบรรจงซับคราบน้ำใสที่หกเลอะไปทั่วริมฝีปากบาง ลำคอขาวผ่อง และสีดำคอลึกที่เขาอยากจะล่วงเข้าไปเช็ดด้านใน
“เฮียก็รอคุณทั้งคืนไปดิ เฮียควรทำยังไงกับคนที่คิดหนีเฮียดี” พูดแล้วก็อดที่จะลูบหน้าขาสวยตรงหน้าไม่ได้
ธีมยังยืนยันเหมือนเดิมว่าขาของยีนส์เรียวสวย มันยิ่งหน้าลูบไล้และล้วงผ่านเนื้อผ้าที่ขาดอย่างยั่วอารมณ์ เมื่อยีนส์กำลังนั่งก้มหน้าหลบตาเขาในตอนนี้
“เฮีย…เดี๋ยวเฮียยอร์ชลงมาเห็น แม่บ้านก็อยู่” ยีนส์ตอบเสียงเบาแทบจะอยู่ในลำคอ ทำไมดูแล้วตอนนี้ยีนส์กำลังเสียเปรียบทั้งๆที่อยู่ในบ้านตัวเอง
“เรื่องของพวกเขาสิ ไม่ใช่เรื่องของเฮียหนิ” ธีมพูดอย่างไม่ทุกข์ร้อน ต่อให้เขาจับยีนส์กินตรงนี้เขาก็ไม่แคร์ถ้าจะมีใครมาเห็น เพราะคนที่ต้องอายคือคนที่เข้ามาไม่ถูกจังหวะและรบกวนเวลาของคนอื่น
“เฮียอย่าเพิ่งใจร้อนสิ ของอร่อยๆใครเขารีบกินกัน” ยีนส์จับมือธีมไว้ก่อนที่อีกฝ่ายจะล้วงเข้ามาด้านในตามรอยขาดจริงๆ
“งั้นเฮียก็คงจะต้องค่อยๆชิมคุณสินะ” เมื่อจับขาไม่ได้ธีมก็ไม่เร้าหรือ เขาเปลี่ยนไปเล่นงานเอาคอดที่อยู่ภายใต้เสื้อเชิ้ตพอดีนั้นแทน “เริ่มจากตรงไหนก่อนดีละ”
“ตามที่เฮียอยากชิมเลย เราตามใจ” คนตัวโตนึกว่าจะถึงโอกาสทองที่เขาจะได้ชิมของอร่อยและสวยงามตรงหน้า กำลังจะเอียงหน้าประทับรอยจูบอีกครั้ง เพียงไม่กี่วิริมฝีปากของธีมก็จะแตะกับริมฝีปากสีระเรื่อตรงหน้าอยู่ร่อมร่อ แต่แล้วยีนส์ก็มาดับฝันเขากลางทาง แล้วเอียงหน้าหนี
“แต่บังเอิญว่าวันนี้เรามีนัดกับหมอ เฮียคงต้องอดทนกลื่นน้ำลายแก้หิวไปก่อน”
“ล้อกันเล่นป่ะเนี่ยคุณ” ธีมแสดงสีหน้าเสียดายออกมา เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่กับสีหน้าจริงจังของยีนส์ สุดท้ายก็ต้องจำยอมอุ้มคนตัวเล็กลงจากโต๊ะ แทนที่เขาจะได้อุ้มเข้าเอวพาขึ้นห้อง
เมื่อเท้าแตะพื้นยีนส์ก็ชิ่งหนีวิ่งขึ้นชั้นสอง ตะโกนหายอร์ชในทันที ปล่อยให้ธีมอารมณ์ค้างกับความคับแน่นใต้กางเกงนอนไว้คนเดียว ในชีวิตเขาก็เพิ่งเคยเจอคนที่ทำให้เขาอยาก และอยากจัดมากๆมาทำให้อยากแล้วก็จากไปก็ยีนส์นี่แหล่ะ
ยอร์ชทำหน้าที่พายีนส์ไปหาหมอ เสร็จแล้วยังทำหน้าที่คนขับรถพามาส่งถึงหน้าตึกคณะ ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุครั้งนั้นยอร์ชก็ต้องพายีนส์มาพบหมอทุก3เดือน
“ยังฝันอะไรแปลกๆอยู่ไหม”
“ก็มีบ้างที่ฝันเห็นความมืดแล้วมีคนเรียกชื่อ” ยีนส์ยังคงฝันแบบนี้มาเรื่อยๆ บางครั้งก็เห็นภาพตัวเองกับใครบางคนในตอนเด็ก แต่มันเลือนลางจนตัวยีนส์เองก็มองไม่ออกว่าคนนั้นคือใคร “เรียกชื่อยีนส์กับโย เฮียไม่รู้จักคนชื่อโยจริงๆหรอ”
ยอร์ชถอนหายใจกับคำถามเดิมๆของยีนส์ ที่เฝ้าถามถึงคนชื่อโย “โยไหนกูจะรู้ไหม ในชีวิตรู้จักคนตั้งเยอะแยะ”ยอร์ชตีไฟเลี้ยวเขามาจอดเทียบหน้าตึกคณะของยีนส์ รถของยีนส์เป็นรถหรูราคาแพง เรียกสายตาของนักศึกษาได้จำนวนไม่น้อย
“แล้วตั้งแต่มึงมาเรียนมีใครมาทำตัวไม่ดีใส่บ้างไหม หรือมึงไม่ไหว-“
“ก็บอกเฮียนะ เฮียพร้อมพากลับไปเกาหลี” ยีนส์พูดล้อเลียนประโยคเดิมที่ยอร์ชชอบพูดใส่บ่อยๆ “ยีนส์แค่ดรอปเรียนไปหลายปีแค่นั้นเอง ไม่ได้ไปก่อเรื่องอะไรไว้สักหน่อย ไม่ต้องกลัวอะไรไปหรอกน่าเฮีย”
“กูแค่เป็นห่วง ไอ้คนนั้นมันคือใคร กูเห็นมันมองมาที่รถกูนานแล้ว” ยอร์ชชี้ไปที่นอกตัวรถ มีผู้ชายคนหนึ่งยืนมองเจาะจงมาที่รถของตัวเขาเอง ยีนส์มองตามไปก่อนจะพูดชื่อคนๆนั้นขึ้นมา
“อ่อนิคน่ะ”
“เพื่อนใหม่?” ยีนส์ส่ายหัว อันที่จริงเขาก็ยังไม่ได้นับนิคว่าเป็นเพื่อนหรอกนะ
“ก็ไม่เชิง มันบอกว่าเพิ่งโอนย้ายมาจากเมกา”
“อย่าไว้ใจคนที่เพิ่งรู้จัก กูขอเตือนไว้” ยีนส์พยักหน้ารับรู้ ก่อนจะเปิดประตูรถออกมา
ทันทีที่ยีนส์เดินลงมาจากรถ นิคก็แทบจะพุ่งเข้ามาหาในทันที สายตาก็มองรถที่ขับออกไปไม่วางตา
“ใครมาส่งยีนส์หรอ พี่ชายหรือว่าแฟน” นิคถามด้วยอาการกระตือรือร้นจนน่าจับผิด
“ทำไมหรอ”
“อ่า..นิคแค่สงสัยน่ะว่าคนสวยๆแบบยีนส์จะมีแฟนรึยัง”
“เรา…ขอยังไม่ตอบนะ” ยีนส์ตอบคำถามอย่างก่ำกึ่ง แล้วผละตัวเดินขึ้นห้องเรียนไปก่อน ไม่นานนิคก็รีบวิ่งตามมา เขาแทบจะไม่ปล่อยให้ยีนส์อยู่นอกสายตาแม้แต่วินาทีเดียวตอนที่อยู่ในมหา’ลัย
@XXXคลับ
“ยังเจอเฮียธีมคนนั้นอยู่ปะ” น้ำตาลถามเพื่อนที่นั่งข้างๆ ยีนส์ทำสีหน้าผิดหวังขึ้นทันทีเมื่อพูดถึงธีม ก็เพราะหลังจากวันที่ธีมทำท่าจะกินเขาคาบ้านในวันนั้นจนถึงวันนีีธีมก็ไม่โผล่มาให้เขาเห็นอีกเลย
“ไม่เห็นมาสามสี่วันแล้ววะ” พูดแล้วยีนส์ก็หยิบแก้วคอกเทลในมือขึ้นมาจิบ “มึงสนใจเฮียธีมหรอ” น้ำตาลหลุดขำที่ยีนส์ทำท่าหวงผู้ชายที่ชื่อธีมออกนอกนอกตา
“กูไม่แย่งเพื่อนหรอก กูรู้ว่ามึงชอบเขาม๊ากมาก แต่กูว่านะ ผู้ชายสิบสองนาฬิกาก็ชอบมึงมากเหมือนกันนะ” น้ำตาลสะกิดให้ยีนส์ดูผู้ชายที่มองมาทางโต๊ะเธอ ฝ่ายนั้นยกแก้วชวนยีนส์ดื่มทันทีเมื่อยีนส์หันกลับไปมอง
“กูรู้ตั้งแต่เดินเข้ามาละ” ไม่พูดเปล่า นิ้วเรียวหยิบแก้วคอกเทลทำท่าชนกลับ และดื่มมันจนหมดแก้ว “กูไปทำธุระนะ”
“ไม่ต้องรีบก็ได้ เดี๋ยวกูหาเพื่อนคุยรอ”
เมื่อยีนส์ลุกเดินไปทางห้องน้ำ ฝ่ายตรงข้ามก็ลุกเดินตามเข้าไปติดๆ ตามประสาคนชอบเที่ยวกลางคืนการที่อีกฝ่ายปรายสายตามอง แล้วเดินนำไปที่ห้องน้ำมันก็บอกอยู่แล้วว่ามันหมายถึงอะไร
“ชื่ออะไรหรอครับ เห็นคุณมาร้านนี้บ่อย” อีกฝ่ายเดินตามเข้ามาและหยุดในระยะประชิดตัว ไม่ต้องขออนุญาตมือใหญ่ก็โอบกอดเอวบางไว้ในอ้อมแขน
ยีนส์ไม่ใช่คนไม่ประสากับเรื่องอะไรแบบนี้ ค่อนข้างช่ำช้องด้วยซ้ำไป ไม่มีการขัดขืนออกจากอ้อมแขน แถมยีนส์ยังเบียดกายเข้าใกล้แผ่นอกกว้างนั่นอีกด้วย ปรายนิ้วเรียวกีดกรายไปตามลำคอไล้ลงมาจนถึงอก
“ชื่อยีนส์ครับ ถ้าคุณเห็นผมบ่อยแสดงว่าก็เที่ยวเก่งเหมือนกันนะ” ฝ่ายตรงข้ามยิ้มออกมากับคำพูดของยีนส์ เขากระชับแขนให้แน่นมาขึ้นกว่าเดิม ถือวิสาสะไล้มือต่ำลงมาลูบวนแถวสะโพกผายที่มันกลมแน่นน่าจับ
“ผมไม่ได้เก่งแค่เที่ยวนะ ไม่รู้ว่าคนแถวนี้จะเชื่อหรือเปล่า”
“งั้น…คุณก็ต้องพิสูจน์แล้วล่ะ” เป็นอันรู้ดีว่านี่หมายถึงการดิลสิ้นสุดลงแล้ว อาจจะจบที่ห้องน้ำห้องไหนสักห้องในนี้ และห้องริมสุดด้านในก็ถือว่าเป็นห้องที่ดี ไกลผู้ไกลคน ไม่ค่อยมีใครมาสนใจ
ยีนส์ผลักอีกฝ่ายเข้ามาด้านใน แล้วลงมือล็อคกลอนด้วยตัวเอง ริมฝีปากของคนทั้งสองเปรียบเสมือนแม่เหล็กที่ดึงดูดเข้าหากัน เสียงบดจูบที่หยาบโล้นดังขึ้นเป็นจังหวะน่าฟัง ยีนส์บรรจงปลดกระดุมเสื้อของอีกฝ่าย และหมายจะทำรอยสัญลักษณ์คู่นอนใหม่ในคืนนี้
อีกฝ่ายก็ไม่ได้ยืนนิ่งให้ถูกกระทำ เขาทั้งบีบทั้งเค้นบั้นท้ายกลมกลึงนั่นสนุกมือ สายตาก็ก้มต่ำมองท้ายทอยขาว อยากจะลงฟันกัดให้จมเขี้ยว แต่ตอนนี้ต้องปล่อยให้คนตัวเล็กตรงหน้าเล่นสนุกกับร่างกายเขาไปก่อน
เสียงเอะอะจากผู้เข้ามาใหม่ไม่ได้ทำให้ทั้งสองคนในห้องน้ำหยุดการกระทำนี้ได้ จนเสียงคนพูดคุยเริ่มเงียบลง แทนที่ด้วยเสียงทุบตีบางอย่างที่ด้านนอก ยีนส์ไม่รู้สึกตัวเลยสักนิดว่าภัยที่น่ากลัวกำลังก้าวมาหาเขาช้าๆ
ปัง! ธีมผลักประตูห้องน้ำที่ถูกปิดไว้ เขาไล่เปิดมันไปทีล่ะห้องๆ ใบหน้าหล่อตี๋แสดงออกถึงความไม่พอใจขั้นขีดสุด เขาตะโกนไล่ผู้คนที่เข้ามาในห้องน้ำให้ออกไปให้หมด ฝ่ามือกำเข้าหากันจนเส้นเลือดขึ้นปูดโปน
เขาไม่ได้คิดว่าจะมาเจอยีนส์ที่ร้านนี้หรอก เรียกว่าบังเอิญจะดีกว่า เขาถูกเพื่อนรบเร้าให้มาเที่ยวด้วยกันเพราะอยากจะอวดเด็กใหม่ แล้วเด็กใหม่ที่ว่าก็ชื่อน้ำตาล เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าน้ำตาลคนนี้เป็นเพื่อนยีนส์ จนหญิงสาวหงุดปากบอกว่ายีนส์เพื่อนที่มาด้วยมาเข้าห้องน้ำกับผู้ชายหน้าตาดี พอเขาเค้นถามไปมาว่าใช่ยีนส์น้องยอร์ชหรือเปล่า สรุปแล้วคือใช่!
ปัง!
ปัง!
ปังๆ!
ธีมไล่เคาะประตูห้องน้ำทุกห้อง จนมาถึงห้องสุดท้ายที่ถูกล็อคจากด้านใน ธีมไม่รู้ว่ามันถูกล็อคมากี่นาที แล้วคนข้างในจะถึงขั้นไหนกันแล้ว แต่ที่แน่ๆเขาไม่ยอมให้คนข้างในเชยชมสิ่งที่เขาอยากจะชิมง่ายๆนักหรอก
“มึงเคาะทำไมวะ!? ไม่รู้หรือไงว่ามีคนเขาอยู่ข้างใน!” เสียงใหญ่ทุ้มตะโกนตอบกลับหลังสิ้นเสียงเคาะของธีม นั่นยิ่งทำให้ร่างสูงแทบจะกดและข่มความโกรธเอาไว้ไม่อยู่
ฝ่ามือตบบานประตูดังรัวไปอีกรอบ จนฝ่ายที่อยู่ด้านในทนต่อไปไม่ไหวต้องเปิดมันออกมาพร้อมกับสีหน้าตกใจขั้นสุดขีดของยีนส์ ดวงตาสีอ่อนเบิกกว้าง ใบหน้าซีดเผือก ยีนส์ก็คงไม่คิดว่าจะเจอเขาที่นี้แบบที่เขาเองก็ไม่คาดคิดว่าจะมาเจอยีนส์ในห้องน้ำกับผู้ชายคนอื่น
“ฮะ..เฮีย!?”