บทที่ 6
ครอบครัวสมบูรณ์ พ่อแม่และลูก
พิสุทธิ์กลายเป็นหนุ่มหล่อไฟแรงอายุเพียงแค่สามสิบสองปี เขาประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน บริษัทที่ก่อตั้งกับเพื่อน ๆ ก็ดำเนินไปได้สวยมีรายได้เข้าบริษัทปีละหลายล้าน และเขายังเป็นผู้ชายสมบูรณ์แบบ รักเดียวใจเดียวไม่คิดนอกใจเมีย แม้จะมีผู้หญิงมากหน้าหลายตาเข้ามาให้ท่า และพร้อมที่จะพลีกายให้เขาเชยชม แต่พิสุทธิ์ก็ไม่เคยมอง เพราะว่ารักเมียมาก
สี่ปีแล้วที่พิสุทธิ์และพัชชาอยู่กันด้วยความรักจนมีโซ่ทองคล้องใจถึงสองคน คนหนึ่งเป็นหญิงวัยกำลังน่ารักนามว่า ‘เด็กน้อยพิชญา โกวิทธรรมกรณ์’ อายุสี่ขวบกว่า ส่วนอีกคนอยู่ในท้องมีอายุครรภ์ห้าเดือนแล้ว
ตั้งแต่พัชชาท้องลูกคนแรกและกำลังจะคลอดลูกคนที่สอง พิสุทธิ์ก็ขอให้พัชชาหยุดทำงาน เลี้ยงลูกและเป็นแม่บ้าน ซึ่งหญิงสาวก็ทำหน้าที่แม่ของลูกและภรรยาได้อย่างดีไม่เคยตกบกพร่อง
เฉกเช่นวันนี้ก็เหมือนกัน เธอตื่นแต่เช้าทำงานบ้านและเตรียมทุกอย่างไว้ให้สามีแล้วขึ้นมาตามชายหนุ่มที่ห้องนอน
“พี่เก้า เช้าแล้วนะคะ” พัชชาปล่อยมือน้อยของลูกแล้วเปิดประตูห้องนอนให้กว้าง พยักหน้าบอกให้ยัยหนูเดินไปหาพ่อของแก
ชายหนุ่มยังนอนคุมโปงอยู่ใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ ส่วนเธอก็วางแก้วน้ำผลไม้ไว้ตรงโต๊ะนั่งเล่น แล้วเดินอุ้ยอ้ายอุ้มท้องไปยืนตรงหน้าต่าง ก่อนที่เธอจะเปิดผ้าม่านให้แสงแดดยามเช้าส่องเข้ามาในห้องนั้นพัชชาก็หันไปยิ้มให้กับเสียงของลูกสาวที่ปลุกคุณพ่อของแก
“คุณพ่อขา สายแล้วค่า” ทุกเช้าคุณแม่จะพูดบ่อยเลยทำให้เด็กน้อยจำและพูดตามคุณแม่ ซึ่งหนูน้อยพิชญายืนแอ่นหน้าเด้งหลังเขย่งปลายเท้าอยู่ตรงข้างเตียง มือเกาะขอบเตียงไว้แน่นส่วนอีกมือก็ดึงผ้าห่มปลุกคุณพ่อให้ตื่น
“มะ แม่อุ้มค่ะ” พัชชาเดินเข้าไปนั่งบนขอบเตียงข้างปลายเท้าของสามี เธอหอมแก้มของยัยหนูแล้วปล่อยให้แกนั่งบนฟูก
“คุณพ่อขา ตื่นไปทำงานค่ะ” หนูน้อยพิชญายิ้มให้แม่จนเห็นฟันน้ำนมเต็มปาก แล้วคลานขึ้นนั่งขย่มบนตัวของพ่อที่ยังนอนคุมโปง
“ดวงใจของพ่อ พ่อตื่นแล้วค่ะ” เสียงใสปานน้ำผึ้งของเมียและลูกทำให้คุณพ่อที่แกล้งหลับโผล่หัวออกจากผ้าห่ม คุณพ่อโอบอุ้มลูกให้เอนนอนทับบนหน้าอก แล้วคุณพ่อก็คลานเหมือนงูใหญ่กลับหัวตรงไปหาเมียรัก
“อุ๊ย! พี่เก้า” พัชชาตกใจเมื่อสามีเข้ามานั่งกระแซะ ชายหนุ่มใช้แขนข้างหนึ่งกอดเธอและลูกในท้องจากทางด้านหลัง ส่วนอีกข้างยังอุ้มยัยหนูให้นั่งบนตัก
“จะให้พ่อหอมแก้มใครก่อนดีคะ หอมแม่หรือว่าหอมลูกพีชก่อนดีคะ” พิสุทธิ์ถามลูกสาว แต่เขากลับหันโน้มหน้าเข้าไปจูบแก้มของเมีย
“คนเจ้าเล่ห์” พัชชาบ่นให้สามี แต่เธอเอียงหน้ามองข้างไม่ขัดขืนปล่อยให้พี่เก้าแอบหอบแก้มไซ้ซอกคอเล่น
“หอมแม่แล้ว ทีนี้พ่อจะหอมลูกพีชแล้วนะคะ” พิสุทธิ์ทำหน้าทะเล้นใส่เมีย แล้วเคลื่อนหน้าหล่อลงไปไซ้หอมแก้มหอมคอและไซ้หน้าหล่อไปตามตัวของลูกสาว
“คิกก คุณพ่อขา ลูกพีชจะหอมน้องด้วยค่ะ” เด็กน้อยหัวเราะชอบใจ เมื่อพ่อไม่ยอมหยุดซุกหน้าตรงพุงหอม ซึ่งหนูน้อยพิชญาก็ยกมือขึ้นตบหน้าพ่อเสียงดังเปาะแปะ ๆ
“หอมน้องเหรอคะ” พิสุทธิ์จูบมือกัดนิ้วน้อยของลูกเล่น แล้วปล่อยให้แกนั่งคั่นกลาง ส่วนตัวเขาก็นอนตะแคงข้างหัวหนุนตักของเมีย
“คุณแม่ขา ลูกพีชจะหอมน้องค่ะ” หนูพิชญาบอกแม่ว่าจะหอมน้อง แต่กลับคลานขึ้นไปนั่งบนตัวของพ่อ ไม่ยอมให้พ่อหอมน้องและกอดแม่
“เจ้าเล่ห์เหมือนใครนะ” พัชชาขำลูกสาวตัวน้อยที่คอยแต่ดันหน้าของพ่อให้ออกห่างจากหน้าท้องนูนของเธอ
“คิกก” เด็กน้อยพิชญาหัวเราะคิกคักเมื่อคุณแม่พูดชิดจูบปลายจมูกน้อย
“ดิ้นใหญ่เลยนะลูกพ่อ” ด้านคุณพ่อไม่ยอมปล่อยเมียและลูกให้พูดกันสองคน เขายังนอนกอดเอวท้วมรวมถึงลูกในท้องของเมีย ใบหน้าก็ยังวนเวียนจูบรอยเท้ารอยกำปั้นของลูกอีกคนที่เคลื่อนกายอยู่ในท้องของแม่
“คุณแม่ขาน้องดิ้นอยู่ในนี้ค่ะ” หนูน้อยพิชญานั่งบนตัวของพ่อ แล้วทำตามคุณพ่อ ก้มหน้าจูบน้องในท้องของแม่
“ดิ้นแรงแบบนี้สงสัยลูกพีชได้น้องชายแน่ ๆ เลยค่ะ” พิสุทธิ์บอกลูกสาวชิดรอยดิ้นรุนแรงของลูกอีกคนในท้องของเมีย
“น้องชายเหรอคะ” หนูพิชญาคลานไปอุ้มตุ๊กตาหมีเน่า ทำท่ากล่อมน้องให้พ่อกับแม่ดู
“ลุกไปอาบน้ำได้แล้วค่ะ” พัชชาบอกสามีทั้งที่ลูบหัวของเขาเล่น
“กี่โมงแล้วครับ” พิสุทธิ์ยังคงหยอกล้อลูกในท้องเล่น ซึ่งดูเหมือนเจ้าคนในท้องจะสัมผัสและได้ยินที่พ่อคุยกับแกจึงดิ้นใหญ่ผิดปกติกว่าทุกวัน
“จะสิบโมงแล้วค่ะ” พัชชาพูดเสียงหยอกล้อแล้วดันให้สามีลุก ด้านพิสุทธิ์ก็ลุกขึ้นอย่างไม่เต็มใจขยับก้นไปนั่งหย่อนขาตรงปลายเตียง ซึ่งทำให้พัชชามีโอกาสลงจากเตียงไปเอาน้ำผลไม้เอามาให้สามี
“วันนี้กีวี่คั้น ดื่มไหมคะ”
พิสุทธิ์ยิ้มเมื่อเห็นลูกอ้าปาก เขาจึงเอาให้ลูกสาวจิ๊บน้ำผลไม้ก่อน แล้วตัวเองถึงดื่มน้ำผลไม้จนหมดแก้ว
“กินนี่ด้วยนะคะจะได้สดชื่น” พัชชาหัวเราะ เมื่อยัยหนูคลานมากินกีวี่ที่เธอจะป้อนให้พ่อของแก ซึ่งพ่อของแกก็ทำเป็นแย่งลูกกินผลไม้จากมือของเธอ
“ไม่อยากไปทำงานเลย อยากอยู่กับเมียกับลูก ๆ” พิสุทธิ์พูดชิดหัวของลูกสาวที่นอนดูการ์ตูนในไอแพด พลางเหลือบตามองเมีย เมื่อเห็นน้องกำลังจะยื่นผลไม้ให้ยัยหนู เขาก็รีบแย่งกินกีวี่จากมือของน้องอีกครั้ง แล้วฉุดเบา ๆ ให้เธอเข้ามานั่งบนตัก
“หนูกับลูกทำให้พี่เหนื่อยใช่ไหมคะ” พัชชาไม่ขัดขืนเมื่อสามีไซ้ซอกคอและจูบปากของเธอจนเธอได้กินผลไม้จากปากของเขา เธอรู้ว่าระยะหลังมานี้ไม่เคยทำหน้าที่ภรรยาและให้ความสุขในสิ่งที่ผู้ชายทุกคนต้องการเลย เพราะมัววุ่นวายอยู่กับลูก ๆ
“ใครบอกเธอ ว่าพี่เหนื่อยเพราะพวกเธอ” พิสุทธิ์จูบปากอิ่มอย่างดูดดื่ม ไม่ต้องการให้น้องพูดในสิ่งที่ไม่เป็นความจริง ถ้าทำแล้วลูกเมียอยู่อย่างสุขสบาย เขาก็ยอมเมื่อยล้าแม้ว่าจะเหนื่อยขาดใจตายเขาก็ยอมทำเพื่อพวกเธอ
“ให้หนูคลอดลูกก่อนนะคะ แล้วหนูจะไปช่วยพี่ทำงานค่ะ” พัชชาหายใจพะงาบ ๆ เมื่อพี่เก้าเอาแต่จูบจนเธอหายใจไม่ทัน
“ฝันไปเถอะ พี่ไม่ยอมให้เธอกลับไปทำงานอีกแล้ว ถ้าเธอไปทำงานแล้วใครจะดูแลลูก ๆ ฮะ” คำพูดของน้องยิ่งทำให้พิสุทธิ์ลงทัณฑ์ เขาจูบหนักหน่วงจนปากอิ่มแดงช้ำ กว่าจะหยุดจูบเธอก็เล่นเอาน้องต้องร้องห้ามเสียงอู้อี้
“ก็หอบกันไปทำงานด้วยสิคะ” พัชชาพูดปะติดปะต่อเมื่อสามีจูบเธอตอดเล็กตอดน้อย
“พี่รักเธอนะ อยากให้เธอกับลูก ๆ ได้อยู่กันอย่างสบาย” ความสวยน่ารักเป็นธรรมชาติไม่ได้แต่งเติมจากเครื่องสำอางราคาแพงผสมผิวพรรณมีน้ำมีนวลของคนท้อง ทำให้พิสุทธิ์ยิ่งหลงใหลรักใคร่น้องน้อยมาก
“ทุกวันนี้หนูกับลูกก็มีความสุขดีอยู่แล้วนี่คะ” พัชชาพูดอ้อนสามี พร้อมทั้งฉุดให้พี่เก้าลุกขึ้นยืน ซึ่งชายหนุ่มตัวใหญ่และสูงมากจนเธอต้องแหงนหน้ามองคางหนาที่เต็มไปด้วยเคราสีดำ
“พี่จะทำงานหาเลี้ยงเธอกับลูกเอง” พิสุทธิ์อุ้มหน้างามไว้ด้วยสองมือ เขาก้มลงจูบกระซิบให้คำมั่นสัญญาชิดกลีบปากนุ่มอย่างดูดดื่ม
“ชีวิตหนูกับลูกอยู่ในมือพี่แล้ว พี่อย่าทิ้งหนูกับลูกนะคะ” พัชชายิ่งอ้อนเสียงกระเส่า หายใจแทบไม่ทันเมื่อสามีจูบไม่ยอมหยุด
“ความตายเท่านั้นที่จะทำให้พี่แยกจากเธอกับลูก” พิสุทธิ์กระซิบเสียงแหบแห้งเมื่อน้องน้อยจูบตอบ แต่ไม่เป็นประสีประสา
“หนูรักพี่ค่ะ” พัชชายกแขนสองข้างคล้องคอหนาฉุดให้เขาก้มลง ส่วนเธอก็เขย่งปลายเท้าขึ้นให้ใบหน้าของเธอและเขาอยู่ชิดกัน พัชชาจูบปากหนาปิดกั้นไม่ยอมให้สามีพูดถึงความตาย
“หนูนา! เธอทำให้พี่ไม่อยากไปทำงานนะวันนี้” พิสุทธิ์คำรามเสียงกระหึ่มในลำคอ ร่างโตสั่นสะท้านซ่านไปกับสัมผัสของเมีย ซึ่งนานหลายเดือนแล้วที่เขาและเธอไม่เคยรักกัน เป็นเพราะเธอท้องโตใกล้คลอดเขาถึงไม่อยากทำให้เมียและลูกต้องสะเทือน
“หนูทำอะไรคะ” พัชชาทำหน้าเซ็กซี่ ดวงตากลมโตบ้องแบ๊วมองหน้าหื่นของสามี เธอรู้ว่าพี่เก้าของเธอต้องการหลับนอนกับเธอมากแค่ไหน
“อยากให้พี่จับเธอกินแทนข้าวเช้าเหรอฮะ” พิสุทธิ์หน้าแดงก่ำเพราะอดทนกลั้นความต้องการไว้มากมาย มือสองข้างลูบบั้นท้ายงอนกดให้มาเข้ามาปะทะกับความแข็งแกร่งที่ชูชันอยู่ในกางเกงนอน
“คนบ้า หื่นไม่เป็นเวล่ำเวลา อย่าทำอะไรหนูนะ ลูกมองเราอยู่นะคะ” พัชชาทุบหน้าอกของสามีแก้เขินอาย ที่ชายหนุ่มไม่ยอมหยุดที่จะกระแซะความแข็งแรงชนหน้าท้องโหนกนูนของเธอ
“ถ้าไม่มียัยหนูอยู่ด้วย รับรองวันนี้เธอถูกพี่กินจนถึงเช้าวันใหม่แน่” พิสุทธิ์กัดฟันพูดเสียงหืดหาดขู่เมีย จนใบหน้างามขาวนวลแดงระเรื่อ
“ไปอาบน้ำได้แล้วค่ะ เดี๋ยวหนูจะเตรียมเสื้อผ้าไว้ให้” พัชชาดันหลังพี่เก้าให้เดินไปยังห้องน้ำ เธอหัวเราะคิกคักย่นจมูกใส่หน้าสามี เมื่อเขาหันหลังมาหาแล้วจะดึงเธอเข้าห้องน้ำด้วย แต่คนท้องใกล้คลอดรู้ทันจึงรีบปิดประตูกักขังชายหนุ่มไว้ในห้องน้ำ…
เพียงแค่สิบนาทีพิสุทธิ์ก็อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วชายหนุ่มก็เดินออกจากห้องลงบันไดตรงไปยังห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ซึ่งเชื่อมกับห้องนั่งกินข้าว
“คุณพ่อขา ลูกพีชกินข้าวเองได้แล้วค่ะ” เสียงเดินผสมเสียงฮัมเพลงของพ่อทำให้เด็กน้อยพิชญาที่นั่งกินข้าวอยู่บนเก้าอี้เด็กหันไปยิ้มจนเห็นฟันน้ำนม
“นางฟ้าของพ่อเก่งมากค่ะ” ก่อนที่ชายหนุ่มจะนั่งลงบนเก้าอี้ข้างลูกสาว คุณพ่อก็ก้มจูบฟันขาวสะอาดของแกสายตาเข้มอิ่มความสุขก็มองเมีย ซึ่งเธอยืนหันหลังทำอาหารเช้าอยู่อีกมุมของห้องครัว
“คุณพ่อกินไหมคะ” หนูน้อยพิชญายิ้มจนตาหยีแล้วตักข้าวผสมเนื้อปลาแซลมอนอบเนยยื่นให้พ่อ
“ให้พ่อกินเหรอคะ” พิสุทธิ์ยื่นหน้าเข้าหาลูก แล้วอ้าปากกินข้าวคลุกปลาแซลมอนจากช้อนของยัยหนู
“แฮ่” หนูน้อยหัวเราะ เมื่อพ่อช่วยจับผมยาวข้างแก้มเหน็บหูน้อยให้
“รอแป๊บนะพี่” พัชชาขะมักเขม้นรีบทำอาหารเช้าและรวมถึงอาหารเที่ยงให้สามี เธออมยิ้มอยู่คนเดียวเมื่อได้ยินสองพ่อลูกคุยกัน
“ให้พี่ช่วยอะไรไหมหนูนา” พิสุทธิ์ถามเมียทั้งยังสาละวนช่วยเอาน้ำให้ยัยหนูดื่มน้ำจากขวดนม
“ใกล้เสร็จแล้วค่ะ” พัชชาตอบสามี
พิสุทธิ์อมยิ้มเมื่อเห็นเมียพูดทั้งที่ไม่ยอมหันหลังมามองกัน เขาเลยหันมากระซิบเสียงเบาชิดมือน้อยว่า “เดี๋ยวพ่อมานะคะ”
“ค่ะ” หนูน้อยพิชญาพยักหน้าให้แล้วหันไปกินข้าวและเล่นของเล่นไปด้วย
“อุ๊ย! พี่เก้า” แขนแข็งแรงและไออุ่นจากสามีที่เข้ามายืนกระแซะอยู่ข้างหลังของเธอตอนไหนไม่รู้ทำให้พัชชาอุทานตกใจ เธอเอียงหน้ามองข้างจนแก้มขาวนวลชนกับริมฝีปากหยัก
“ทำอะไรให้พี่กินเหรอวันนี้ หอมน่ากินจัง” พิสุทธิ์กอดลูกในท้องของเมีย เขาเกยคางบนบ่านุ่มถามเสียงเบาและจูบซอกคอหอบกรุ่นของน้อง
“ของโปรดของพี่ค่ะ ต้มจับฉ่ายค่ะ” พัชชาตักต้มจับฉ่ายใส่ชามแล้วยื่นให้สามี ส่วนตัวเธอก็ถือจานไข่เจียวหมูสับและผัดผักรวมมิตรเดินอุ้ยอ้ายนำหน้าสามีไปที่โต๊ะอาหาร
“อาหารน่ากินทั้งนั้นเลยครับ” ก่อนที่พิสุทธิ์จะนั่งเก้าอี้เขาได้ช่วยน้องจัดอาหารบนโต๊ะ แล้วก็เป็นเขาอีกนั่นแหละที่เลื่อนเก้าอี้ให้เมียนั่งข้างลูกสาวสุดรักสุดดวงใจ
“คุณแม่ขา ลูกพีชกินข้าวหมดแล้วค่ะ” หนูน้อยพิชญาพูดไม่ชัดอ้อนแม่ทันที
“คนเก่งของแม่กินนี่อีกคำนะคะ” พัชชาชื่นชมลูกสาว แล้วลูบผมยาวแล้วมัดผมให้ลูกใหม่ และไม่ลืมที่จะทำหน้าเมียดูแลสามีบอกเขาให้กินข้าว
“พี่ก็ด้วยค่ะ กินให้หมดจานนะคะ” พัชชาตักต้มจับฉ่ายใส่จานข้าวของสามี
“เธอก็เหมือนกันนะ กินเยอะ ๆ นะลูกของเราจะได้แข็งแรง” พิสุทธิ์กินข้าวไป แต่ก็ไม่ลืมที่จะเอาใจใส่แม่ของลูก เขาตักไข่เจียวให้ใส่จานข้าวของเมียเช่นกัน
“ค่ะ” พัชชาขอบคุณพี่เก้าแล้วก้มหน้าก้มตากินข้าวตามชายหนุ่มบอก ซึ่งอาการแปลก ๆ ไม่เคยเห็นน้องเป็นแบบนี้ ทำให้พิสุทธิ์สงสัยจึงถามว่า
“ทำหน้าเศร้าแบบนี้เป็นอะไรเหรอคะ” พิสุทธิ์จับคางน้องให้เงยขึ้นมองตากัน
“คือว่า...” พัชชาพูดเสียงติดอ่างไม่กล้าขอสามี เพราะเธอรู้ว่าสามสี่เดือนมานี้พิสุทธิ์ทำงานหนักมากจนต้องกลับบ้านดึกทุกวัน เธอไม่กล้าชวนเขาให้พาไปหาหมอตรวจครรภ์ อยากให้เขาได้ฟังและเห็นลูกในเครื่องอัลตราซาวด์
“อยากให้พี่ไปหาหมอเป็นเพื่อนใช่ไหม” แค่ได้สบตาคู่งาม พิสุทธิ์ก็รู้ว่าพัชชาต้องการอะไร
“พี่เก้าว่างไหมคะ ถ้าพี่ไม่ว่างก็ไม่เป็นไรคะ เดี๋ยวหนูไปกับยัยหนูสองคนก็ได้ค่ะ” คนท้องจิตใจปั่นป่วนผิดปกติ เมื่อสามีถาม เธอก็พยักหน้าแล้วจับมือของเขาให้มาลูบลูกในท้องบอกเขาว่า “ลูกดิ้นใหญ่เลยค่ะ แกคงอยากให้พ่อของแกพาไปหาหมอค่ะ”
“ถึงพี่จะยุ่งมากแค่ไหน สำหรับเธอกับลูก ๆ พี่ว่างเสมอนะหนูนา” พิสุทธิ์หลงใหลและชอบมากเวลาเมียเด็กพูดอ้อนวอน และชายหนุ่มย้ำเสมอว่าเธอและลูก ๆ สำคัญสำหรับเขามากกว่าสิ่งอื่นใดและเขาก็ดีใจทุกครั้งเมื่อได้สัมผัสลูกเตะถีบมือของเขาผ่านหน้าท้องของแม่แก
“หนูรักพี่เก้าที่สุดเลยค่ะ” เมื่อได้คำตอบจากชายหนุ่ม พัชชาก็ยิ้มจนแก้มแทบแตกชิดมือใหญ่ เธอลุกขึ้นไปยืนเกาะพนักเก้าอี้ตัวที่สามีนั่งแล้วโน้มตัวกอดเขาจากทางด้านหลังเกยคางบนบ่าหนาปากอิ่มก็จูบข้างแก้มสาก
“พรุ่งนี้นัดหมอกี่โมงล่ะ” เมื่อเจอลูกอ้อนจากเมีย พิสุทธิ์ก็เอียงหน้าถามชิดผิวแก้มผ่องใสของน้อง เมื่อได้หอมเธอชื่นใจแล้วเขาก็ลุกขึ้น ชายหนุ่มไม่ยอมให้น้องเดินหนี เขารีบคว้าเมียเข้ามากอดไว้หลวม ๆ
“สิบเอ็ดโมงเช้าค่ะ” พัชชาบอกสามีแล้วผละออกจากอ้อมกอด เดินไปหยิบกระเป๋าทำงานและเสื้อสูทแล้วเดินย้อนกลับมาหาเขา
“คุณพ่อขา คุณพ่อจะไปทำงานแล้วเหรอคะ” พิชญาถามเมื่อเห็นพ่อใส่เสื้อสูท
“ลูกพ่ออยู่บ้านเป็นเด็กดีเชื่อฟังคุณแม่นะคะ” ก่อนที่จะอุ้มยัยหนูด้วยแขนข้างเดียว พิสุทธิ์ก็หอมหัวของแก แล้วอุ้มลูกเดินนำหน้าเมียตรงไปที่ประตูบ้าน
“ลูกพีชจะเป็นเด็กดี ดูแลคุณแม่กับน้องเองค่ะ” หนูพิชญาบอกพ่อชิดแก้มสาก แขนข้างหนึ่งกอดคอพ่อไว้ อีกข้างก็กอดตุ๊กตาหมีเน่า ดวงตากลมบ้องแบ๊วมองแม่นั่งตรงปลายเท้าของพ่อ
“ลูกรักของพ่อ รู้ไหมหนูเหมือนดวงตาดวงใจของพ่อนะคะ” พิสุทธิ์นั่งลงบนเก้าอี้ใส่รองเท้า เขาให้ลูกสาวนั่งบนตัก ก้มหอมหน้าผากของลูกแต่สายตากลับมองเมีย เธอกำลังก้ม ๆ เงย ๆ หยิบรองเท้ามาเช็ดแล้ววางไว้ตรงปลายเท้าของเขา
“ลูกพีชรักคุณพ่อที่สุดในโลกเลยค่ะ” หนูน้อยพิชญาเมื่อหอมแก้มของพ่อแล้ว ก็ลงไปนั่งข้างแม่ช่วยแม่จับถุงเท้าใส่ให้พ่อ
“ใส่ได้ไหมคะ” พัชชาถามยัยหนู เมื่อลูกพยักหน้าบอกว่า “ลูกพีชใส่ให้คุณพ่อเองค่ะ” เธอก็ปล่อยให้ลูกทำ ส่วนเธอก็ลุกขึ้นเดินอุ้ยอ้ายอุ้มท้องไปเอาห่อข้าวแล้วเดินย้อนกลับมาหาสองพ่อลูก
“พี่ไปทำงานนะ” เป็นพิสุทธิ์เองที่ก้มใส่รองเท้า แล้วลูบหัวของลูกพร้อมทั้งอุ้มแกด้วยแขนข้างเดียว หอมแก้มของแก และก่อนที่จะเดินออกจากบ้านตรงไปที่รถ ชายหนุ่มก็ยื่นมือเข้าไปแตะแก้มของเมีย
“ลูกพีชคะ มาหาแม่มะ” เมื่อเห็นสามีเปิดประตูรถด้วยมือเดียว เธอก็ขอลูกมาอุ้มไว้เอง แต่เธอก็อุ้มแกได้ไม่นานเพราะหนูน้อยพิชญาหนัก เธอจึงปล่อยลูกให้ยืนบนพื้นดิน
“พ่อไปทำงานก่อนนะคะ ลูกพ่ออยู่ในนี้อย่ากวนคุณแม่นะคะ” ก่อนที่คุณพ่อจะขึ้นรถ เขาก็ก้มหน้าลงจูบลูกในท้องของเมีย และไม่ลืมที่จะหอมแก้มของลูกสาวที่ยืนเกาะเอวท้วมของแม่
“กินให้หมดนะคะ” พัชชายิ้มมีความสุข เมื่อสามีอ่อนโยนพูดคะขากับลูก ๆ ถึงจะยังไม่รู้ว่าลูกในท้องเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงเขาก็พูดคะขากับแกทุกคำ
“พี่รักเธอนะหนูนา” พิสุทธิ์ไม่ยอมขึ้นรถ เขาคว้าเอวของเมียมากอดไว้หลวม ๆ พยักหน้ารับปากว่าจะกินข้าวเที่ยงในกล่องให้หมดชิดหน้าผากนุ่ม พึงพอใจที่พัชชาทำหน้าที่เมียคอยปรนนิบัติเขาได้เป็นอย่างดี
“หนูก็รักพี่ค่ะ” ขืนยืนให้พี่เก้ายืนกอดอยู่อย่างนี้ มีหวังชายหนุ่มคงไม่ยอมขึ้นรถไปทำงานแน่ เธอจึงเป็นฝ่ายดันเขาออกห่างแล้วเปิดประตูรถให้เขา พร้อมทั้งดันให้คนตัวสูงเข้าไปนั่งในรถ
“พ่อไปนะคะ ตอนเย็นพ่อจะซื้อขนมมาฝากนะคะ” เมื่อให้คำมั่นสัญญากับยัยหนู พิสุทธิ์ปิดประตูสตาร์ตรถขับออกไปอย่างเชื่องช้า แต่แววตาสีนิลก็ยังมองเธอสองคนที่ยืนโบกมืออยู่ในกระจกรถด้านข้าง
“ลูกพีชรักคุณพ่อค่ะ ลูกพีชกับคุณแม่จะรอคุณพ่อกลับมากินข้าวเย็นด้วยกันนะคะ” หนูน้อยพิชญาพูดไม่ชัดทำตามแม่บอกโบกมือส่งจูบให้คุณพ่อ ดวงตาบ้องแบ๊วคล้ายคุณแม่น้ำตาเอ่อเหมือนจะร้องไห้มองรถของพ่อขับหายไปจนไม่เห็นแม้แต่ไฟเลี้ยวท้ายรถ…