"ท่านผิดที่ให้ท่านพ่อกู้เงินมากมายขนาดนั้น!! ชีวิตทั้งชีวิตของข้ายังไม่เคยเห็นเงินจำนวนมากมายขนาดนั้นมาก่อนเลย..."
"นี่!! พ่อเจ้าเอาเกียรติของจาเมลเป็นประกัน ข้าผิดที่ไหนกัน ข้าให้กู้ก็เพราะว่าข้าสงสาร..."
เวโรนิก้าถอนหายใจ
"ข้าไม่รู้ว่าจะต้องทำเช่นไร แน่นอนว่าหากท่านสามารถให้ข้าผ่อนในระยะยาว ข้าก็อาจจะสามารถหาเงินมาคืนท่านได้"
"หากว่าเจ้าผ่อนดอกเบี้ยมันก็จะเพิ่มมากขึ้น นั่นแปลว่าชาตินี้ทั้งชาติเจ้าอาจจะไม่มีวันชดใช้เงินข้าหมด..."
"เช่นนั้นจะให้ข้าทำเช่นไร!!"
คำถาม ที่กาเลนรอมานานได้ถูกกล่าวถามออกมาแล้ว เขาแสยะยิ้มพร้อมกับมองที่เวโรนิก้า
"ข้าไม่เคยยื่นข้อเสนอเช่นนี้ให้ใครมาก่อนเลยนะ จงภูมิใจไว้เถิด มาเป็นผู้หญิงของข้าสิ..."
"....."
เธอขมวดคิ้วมองหน้าเขา นี่เธอกำลังคาดหวังอะไรจากเขากันนะ คาดหวังว่าเขาจะมีทางออกให้เธอที่มันดีกว่านี้ แต่กลับต้องมาเจอข้อเสนอที่ห่วยแตกเช่นนี้
"เวโรนีก้า เพียงแค่เจ้ายินยอมเป็นผู้หญิงของข้า สัญญาห้าปีกับหนี้สินทั้งหมด ข้าจะคืนคฤหาสน์จาเมลและท่าเรือพวกนั้นให้เจ้า ในวันที่ครบสัญญาห้าปี เจ้ารู้นิสัยของข้าอยู่แล้วว่าข้ามิได้ชอบการอยู่กับสตรีเพียงคนเดียว เจ้ายังสามารถเปิดร้านขายดอกไม้ได้เช่นเดิม ได้ทำงานที่เจ้ารัก เพียงแค่คืนไหนที่ข้าเรียกเจ้าจะต้องมาหาข้า แค่นั้นเอง..."
"....ข้าขอเวลาคิด"
"ไม่มีเวลาคิดหรอกที่รัก ทุกคนจะตาย และข้าจะฆ่าพวกเขาจริงๆหากว่าข้าไม่เด็ดขาดพอข้าไม่ยืนอยู่ในจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหารเช่นนี้หรอกนะ เรื่องธุรกิจข้ากล่าวคำไหนคำนั้น... เจ้ามั่นใจได้เลยว่านี่ไม่ใช่คำขู่"
เธอกำมือแน่น พร้อมกับกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ความฝันของเธอจะพังทลายลงมา แต่นั่นมันจะสามารถยื้อชีวิตของคนสารเลวในครอบครัวของเธอ
"ตกลงค่ะ มีข้อแม้ว่าท่านจะต้องไล่พวกเขาออกไปจากจาเมลทันที ข้าไม่ต้องการเห็นหน้าพวกเขาอีกแล้ว..."
เธอเจ็บปวดมามากพอแล้ว และนี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะยื่นมือเข้าไปช่วย ครั้งสุดท้ายจริงๆ
"ตามที่เจ้าต้องการ เช่นนั้นก็กลับไปเถิด ข้าจะให้พ่อบ้านนำสัญญาไปให้เซ็น แน่นอนว่าเจ้าต้องปิดเรื่องนี้ไว้ให้เป็นความลับต่อดาฟเน่ด้วย..."
ในขณะที่เขารู้สึกมีความสุข แต่เธอกำลังเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส
ในขณะที่เขาบรรลุเป้าหมาย แต่ความฝันเรื่องความรักของเธอถูกพังทลายลงมา
ความสัมพันธ์ที่เกิดจากการหัวใจที่แหลกสลายของเธอ มันจะมีจุดจบเช่นไรกันนะ...
เวโรนิก้าเซ็นชื่อลงไปในสัญญา เธอยกมือขึ้นมานวดขมับเบาๆ นี่กลายเป็นว่าเธอคือเมียเก็บของเขา เธอไม่สามารถมีความสัมพันธ์กับใครได้เลยในระยะเวลาห้าปีนี้
ทุกครั้งที่หลับนอนด้วยกันจะต้องทำตามที่เขาต้องการโดยไม่มีอาการขัดขืน และหลังจากที่ร่วมรักกันจะต้องดื่มยาห้ามตั้งครรภ์ทุกครั้ง หากว่าเกิดความผิดพลาดนั่นคือหากว่าเธอตั้งครรภ์ขึ้นมา เด็กผู้นี้จะไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆกับเบอริฮานทั้งสิ้น จะไม่มีการรับผิดชอบใดๆที่นอกเหนือจากการกล่าวมาข้างต้น
พออ่านมาถึงตรงนี้ เวโรนีก้ายิ่งคิดว่าชีวิตของเธอต่อจากนี้ไปมันจะไม่ง่ายแล้ว เขาไม่ใช่คนดี แกรนด์ดยุคนั่นสารเลวมากทีเดียว
และนี่อาจจะเป็นแผนการของเขาก็เป็นได้.. มันผิดที่เธอไม่สามารถจะขัดขืนได้เลย เพราะเธอรู้ว่าเขาทำจริงแน่ๆเขาจะฆ่าทุกคนในครอบครัวของเธอแน่ๆ ถ้าหากว่าเธอไม่ทำตาม
แค่เพียงห้าปี...ห้าปีเท่านั้นเอง
มันก็จะจบลง แล้วเธอก็จะมีชีวิตของตัวเองอีกครั้งหนึ่ง แค่ต้องอดทนมากกว่าเดิมเท่านั้นเอง มากกว่านี้เธอก็อดทนมาแล้ว!! ตอนไม่มีเงินเธอทำงานอย่างหนัก ทั้งรับจ้างทำความสะอาด ทำไร่ ล้างคอกหมู เธอก็ทำมาแล้ว
เรื่องนี้ไม่น่าจะเหลือบ่าฝ่าแรง เธอจะอดทนและผ่านมันไปให้ได้..ด้วยดี
เธอส่งสัญญาให้พ่อบ้าน พร้อมกับเก็บเอาไว้เองหนึ่งฉบับ หลังจากนั้นเธอก็ไม่เจอท่านแกรนด์ดยุคอีกเลยเป็นเวลาสองเดือน แต่เธอยังคงจัดดอกไม้ให้เขาทุกเช้า เพื่อส่งให้สตรีอื่น
เสียงประตูถูกเปิดออกพร้อมกับร่างที่คุ้นเคยกำลังเดินเข้ามา
"ท่านหญิง!!"
เธอวิ่งออกมาต้อนรับดาฟเน่ด้วยความดีใจ
"ไปหาข้าบ้างสิเวโรนิก้า หรือเป็นเพราะข่าวลือของข้าที่แพร่ออกไปทำให้เจ้าคิดตีจาก"
"ไม่ใช่แน่นอนค่ะ แต่เพราะว่าข้ามิได้เป็นเลดี้อีกแล้ว ข้าลาออกจากการเป็นคนในตระกูลจาเมล นั่นทำให้ตอนนี้ข้าเป็นเพียงสามัญชนและการไปพบท่านที่เป็นสตรีสูงศักดิ์ นั่นดูจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่นัก"
"เจ้าเห็นข้าเป็นคนยังไงกัน นั่นใช่เรื่องที่ข้าจะถือสางั้นหรือเวโรนิก้า ข้าชอบองุ่นที่เจ้านำมาฝากมากนะ ครั้งหน้าช่วยเอาไปให้ข้าอีกได้รึเปล่า?"
เวโรนิก้ายกยิ้มอย่างดีใจ
"แน่นอนค่ะท่านหญิง"
เสียงกริ่งของประตูดังขึ้นมา
"ท่านหญิงรอข้าอยู่นี่นะคะ ข้าขอเวลาไปดูลูกค้าสักครู่"
เวโรนิก้าเดินออกมาก็พบเอ็นวินที่กำลังยืนส่งยิ้มมาให้เธอ
"ร้านดอกไม้เพนนียินดีต้อนรับค่ะ มิทราบว่าวันนี้คุณชายต้องการดอกไม้แบบไหนคะ?"
เธอส่งยิ้มให้เขาพร้อมกับหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ สารภาพในใจว่าเธอรอคอยการมาของเขามาโดยตลอด อาจจะเป็นเพราะเขาดูเจิดจ้าราวกับแสงตะวัน ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นเมื่อได้เข้าใกล้
"ข้าอยากได้ดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆไปประดับแจกันในห้องทำงานครับ"
อ่า โล่งอกไปทีที่เขาไม่ได้สั่งดอกไม้ไปให้สตรีอื่น
"เช่นนั้นเชิญท่านชายรอด้านในได้เลยค่ะ อาจจะต้องใช้เวลาสักครู่"
เขาพยักหน้าพร้อมกับเดินตามเธอเข้ามาในร้าน
"ท่านพี่ดาฟเน่ บังเอิญจังนะครับ"
"ให้ตายเถอะเอ็ด เจ้าหล่อเหลาขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!!"
เอ็ดวินหัวเราะก่อนที่เขาจะนั่งลงตรงข้ามดาฟเน่
"ท่านพี่มาซื้อดอกไม้งั้นหรือครับ?"
"น่าจะเป็นเช่นนั้น พี่กับเวโรนิก้านับถือเป็นพี่สาวและน้องสาวกัน เจ้าชอบดอกไหนก็หยิบเลยสิ วันนี้พี่จะจ่ายให้เอง ถือซะว่าเป็นของขวัญที่เราพบกัน"
"อ่า หากท่านพี่ทำเช่นนั้น พี่อีสเซจะต้องอิจฉาข้าจนตาลุกเป็นไฟแน่นอน ข้าสิครับต้องจ่ายเงินให้ท่านพี่ เพราะข้าคิดจะเหมาร้านดอกไม้นี้ รวมทั้งเจ้าของร้านด้วย"
เวโรนิก้าตกใจเล็กน้อยที่เอ็ดวินกล่าวกับท่านหญิงพร้อมกับมองมาที่เธอด้วยความคาดหวัง
"เห็นทีเรื่องนี้เราอาจจะต้องคุยกันยาว เวโรนิก้าปิดร้านเถิด ส่งดอกไม้ที่เจ้าตัดมาไปที่พระราชวังพร้อมกับเก็บเงินที่เอ็ดวินได้เลย แล้วเราไปคุยต่อที่ร้านน้ำชาของมาดามกรีเช่เถอะ"
เนื่องจากตอนเช้าร้านของเธอไม่มีคนงาน การส่งดอกไม้ก็เลยเป็นหน้าที่ของท่านเซอร์เบซิล
"ขอบคุณมากนะคะท่านเซอร์"
"ไม่เป็นไรครับมิสเพนนี รีบตามท่านหญิงไปเถิด"
เวโรนิก้าเดินไปที่ร้านของมาดามกรีเซ่ เธอพบเจอเพียงเอ็ดวินที่นั่งอยู่
"ท่านหญิงไปไหนกันคะ?"
"พี่ดาฟเน่น่าจะกลับไปแล้วครับ ดูท่าทางว่าพี่ดาฟเน่น่าจะกำลังเป็นแม่สื่อให้เราสองคน..."
ใบหน้าของเวโรนิก้านั้นกำลังเห่อร้อน เธอรีบก้มหน้าลงทันที
"มีคนเคยบอกรึเปล่าครับ ว่าในยามที่มิสเพนนีเขินอายนั้นน่ารักมากเลย"
เธอเงยหน้าขึ้นมองเอ็ดวินด้วยความประหม่า
"อาจจะดูน่าอายแต่ว่า ข้าไม่เคยมีความรักมาก่อนเลยค่ะ อีกทั้งข้าเป็นเพียงแค่เจ้าของร้านดอกไม้เล็กๆเท่านั้นเอง มิได้เป็นเลดี้จากชนชั้นสูง..."
เขาเลิกคิ้วมองเธอ พร้อมกับยกแก้วน้ำชาขึ้นมาดื่ม
"ข้าคิดว่าความรัก ก็คือความรักครับ พ่อและแม่ของข้าตายหมดแล้วในครอบครัวของข้าเหลือเพียงพี่ชายคนเดียว และข้าโชคดีมากที่พี่ชายของข้านั้นบูชาความรักที่สุด เราควรจะแต่งงานและใช้ชีวิตหลังแต่งงานกับสตรีที่เรารักสิครับ เรื่องเงินทองข้าไม่มีปัญหาเพราะว่าข้ามีมากพอแล้ว รวมไปถึงมากพอที่จะเลี้ยงดูภรรยาของช้าในอนาคต ส่วนเรื่องยศอะไรนั่น ข้าคิดว่าข้าไม่ต้องการ..."
เธอไม่รู้เลยว่าที่เขากล่าวออกมานั้นเป็นความจริงหรือเพียงแค่เขาอยากจะพูดออกมาให้เธอดีใจ แต่ว่าเธอในตอนนี้ มิได้อยู่ในสถานะที่สามารถมีความรักได้ เธอไม่อยากหลอกลวงชายตรงหน้า และไม่อยากผิดสัญญาที่ให้ได้กับท่านแกรนด์ดยุค
"ข้าคิดว่าเรา ควรจะทำความรู้จักกันในฐานะเพื่อนไปก่อน ข้าหมายถึงว่า..หากท่านไม่รังเกียจข้า"
เอ็ดวินหัวเราะเบาๆ
"ข้ามีเวลา..มากทีเดียว ที่จะทำความรู้กับมิสเพนนี มีคนกล่าวว่าความรักก็เหมือนกับการปลูกดอกไม้สักต้น กว่าดอกไม้จะผลิบานนั้นย่อมต้องใช้เวลา ความรักก็เช่นกัน"
เธอยกยิ้ม เวโรนิก้าส่งยิ้มที่แสนจะอ่อนโยนให้เอ็ดวิน กับเขาเธอจะคาดหวังได้ไหมนะ..
กาเลนยกมือขึ้นมากอดอก เขามองที่เวโรนิก้าและองค์ชายเอ็ดวินด้วยสายตาที่ไม่พอใจมากทีเดียว