แถลงข่าว?...~ เราเลิกกัน!

2767 คำ
   วันนี้มธุรดาไม่มีคิวถ่ายละคร เธอจึงนั่งเล่นขลุกอยู่กับมีมี่แมวตัวโปรด ครู่นึงก็มีโทรศัพท์สายเข้าโทรมา.. “ไหม!..แฟนแกอย่างเท่อ่ะ แมนและเป็นสุภาพบุรุษสุดๆ อุบฉันเงียบเลยนะแก" ณัชชาโทรมาหาเธอตอนสาย “แกพูดอะไรน่ะนัช ฉันไม่เข้าใจ” “เปิดทีวีดูสิยะ! แฟนแกกำลังจะแถลงแก้ข่าวให้แกอยู่ ข่าวเด่นข่าวดังของวันนี้เลยนะเนี่ย ฉันล่ะอิจฉาแกจริงๆ”       มธุรดาได้ยินเพื่อนบอกอย่างนั้นก็รีบไปเปิดทีวีดู.. ...กองบัญชาการตำรวจ ... “ขอบคุณสำนักข่าวทุกสำนักนะครับที่มาในวันนี้” “ผม..พ.ต.ต.เมฆินทร์ เมธาพิพัฒน์พงค์ มีเรื่องจะขอชี้แจงให้ทราบดังต่อไปนี้ครับ..” เมฆินทร์นั่งอยู่ที่โต๊ะเพื่อแถลงข่าวกับทุกสำนักข่าว -ประเด็นแรก..ผมเป็นสารวัตรปราบปรามอยู่ที่สน.รอรัก ไม่ได้เป็นเด็กแว้น หรือบอดี้การ์ด หรือว่าคนขับรถอย่างที่เป็นข่าวหากผมทำให้หน่วยงานเสื่อมเสียผมต้องขออภัยด้วยครับ ผมไม่ได้มีเจตนาให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น -ประเด็นที่สอง..ผมกับคุณมธุรดา สุวรรณพินิทกุล เรารู้จักกันมาเกือบปีแล้วครับ และก็ไม่ได้ปิดบังเป็นกิ๊กหรือแอบคบแอบซุกอย่างที่เป็นข่าว และผมก็ไม่ได้มีเจตนาให้เธอเสื่อมเสียเช่นกัน -ประเด็นสุดท้าย..คุณมธุรดาเธอเป็นกุลสตรีคนนึงที่วางตัวเหมาะสมน่าชื่นชม ผมขอยืนยันว่าเธอไม่ได้เป็นอย่างที่มีข่าวออกมา เธอไม่ได้ตั้งครรภ์อย่างที่เป็นข่าวแน่นอนครับ..เข้าใจตรงกันตามนี้นะครับ มีใครจะถามอะไรผมอีกไหมครับ “เจอกันได้ยังไงคะ..แล้วตอนนี้คบกันสถานะไหนคะ” นักข่าวสำนักหนึ่งถาม “เจอกันโดยบังเอิญน่ะครับ สถานะตอนนี้..ผมเพิ่งจะขอเธอเป็นแฟนครับ..ผมรักเธอ” “ว้าววว!” นักข่าวฮือฮากับคำตอบตรงไปตรงมาของเมฆินทร์ “จะมีข่าวดีเร็วๆนี้ใช่มั้ยคะ” นักข่าวอีกสำนักหนึ่งถาม “ผมก็หวังให้เป็นอย่างนั้นครับ ผมก็ลุ้นอยู่ ช่วยเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ ถ้าเป็นสัญญาณที่ดี ก็น่าจะมีข่าวดีเร็วๆนี้..ผมจะขอเชิญทุกคนมาร่วมเป็นสักขีพยานด้วยนะครับ..ขอบคุณครับ”         มธุรดายืนดูยืนฟังทีวีไปน้ำตาก็ค่อยๆ ไหลลงมาอาบแก้มโดยไม่รู้ตัว  เธอทั้งรู้สึกโกรธรู้สึกเสียใจประเดประดังเข้ามา มีคำถามมากมายเกิดขึ้นในใจ แล้วเธอจะไว้ใจเชื่อใจใครได้อีก (“นี่ฉันโดนเขาหลอกมาตลอด เขาไม่ได้เป็นจ่า! แต่เป็นสารวัตร!” แล้วที่ฉันกำลังเสียใจและร้องไห้ นี่ก็เพราะว่าฉันรักเขามากใช่มั้ย นี่สินะความเจ็บปวดที่เกิดจากความรัก เมื่อคนที่เรารักและไว้ใจเชื่อใจที่สุดกลับเป็นคนที่หลอกลวงให้เราผิดหวังและเสียใจ รักมากก็เสียใจมากแบบนี้นี่เอง) “ไหม! เป็นอะไรน่ะลูก” มธุรสเดินเข้ามาเห็นลูกสาวกำลังยืนร้องไห้ก็ตกใจเข้ามากอด และถามอย่างห่วงใย “แม่คะ นายเมฆเขาไม่ได้เป็นจ่า เขาเป็น..” “ไหมรู้ความจริงแล้วเหรอลูก ว่าพี่เขาเป็นสารวัตร” “นี่แม่รู้มาก่อนแล้วเหรอคะ” มธุรดาเอามือปาดน้ำตาก่อนจะถามผู้เป็นแม่.. “เอ่อ..ตาเมฆมาบอกแม่หลายวันแล้วล่ะลูก” “เขาบอกแม่ แต่ไม่บอกไหม! เค้าคิดจะบอกไหมเมื่อไหร่คะ หรือไม่เคยคิดจะบอก หรืออยากให้ไหมเป็นตัวตลกในสายตาของทุกคน ถึงปล่อยให้ไหมคิดไปเองอย่างนั้นต่อไปเรื่อยๆ” มธุรดาพรั่งพรูระบายความรู้สึกออกมาด้วยความเสียใจน้อยใจปนเปกัน “ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกลูก ใจเย็นๆ พี่เขาคงจะมีเหตุผลอะไรบางอย่าง” “ไม่มีเหตุผลใดจะแก้ต่างการโกหกหลอกลวงได้หรอกค่ะแม่ ไหมเหนื่อย..ไหมขอตัวไปพักก่อนนะคะแม่”       เมื่อแถลงข่าวจบแล้ว เมฆินทร์ก็รีบเคลียร์งานก่อนจะบึ่งรถมาหามธุรดาที่บ้านของเธอทันที เขาถือดอกกุหลาบช่อโตเข้ามาในบ้าน มธุรสให้เขานั่งรอในห้องรับแขก แล้วเธอก็ขึ้นไปตามลูกสาวบนห้อง แต่มธุรดาก็ไม่ยอมออกมาจากห้อง เมฆินทร์นั่งรอมธุรดาในห้องรับแขกนานเป็นชั่วโมงแล้ว เธอก็ยังไม่ยอมลงมาพบเขา เขาพยายามทั้งโทรทั้งส่งข้อความทั้งไลน์ไปหามธุรดา เธอก็ใจแข็งไม่ยอมรับสาย ไม่มีการตอบกลับใดๆ เมฆินทร์รออย่างกระวนกระวายใจ จน 2ชั่วโมงผ่านไป..3ชั่วโมงผ่านไป..ก็ไม่มีวี่แววว่ามธุรดาจะยอมลงมาคุยด้วย เขาเดินวนไปวนมาเหมือนหนูติดจั่น จนมธุรสเดินมามองเมฆินทร์ด้วยความเห็นใจ เธอจึงขึ้นไปหาลูกสาวที่ห้องอีกครั้ง “ไหม..เปิดประตูให้แม่หน่อยลูก” “ค่ะแม่..” มธุรดาเดินมาเปิดประตูให้แม่ก่อนจะกลับไปนอนคว่ำซบหน้าลงบนหมอนเหมือนเดิม “ไหมจะไม่ออกไปคุยกับพี่เขาหน่อยเหรอลูก ที่พี่เขาตัดสินใจออกมาแถลงข่าวแบบนั้น เพราะต้องการให้เกียรติและปกป้องไหมนะลูก” “ไหมไม่ได้โกรธเขาเรื่องนั้นค่ะ แต่ไหมโกรธที่เขาปิดบังความจริง โกหกหลอกลวงไหมค่ะ”เธอยอมรับว่าลึกๆแล้ว เธอก็ประทับใจที่เขาต้องการปกป้องเธอ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่เขาปิดบังหลอกลวงเธอ ความโกรธความน้อยใจมันมีมากกว่า... “ให้โอกาสพี่เขาได้อธิบาย ไปคุยกันดีๆ ไปฟังเหตุผลของพี่เขาก่อนไม่ดีเหรอลูก มีอะไรก็คุยกัน แล้วไหมจะตัดสินใจยังไงต่อไป..แม่ก็พร้อมที่จะเป็นกำลังใจและเคารพการตัดสินใจของไหมนะลูก” “ก็ได้ค่ะแม่ ไหมจะทำอย่างที่แม่แนะนำ” มธุรดาตอบแม่ไปอย่างนั้น แต่มันกลับสวนทางกับสิ่งที่เธอจะทำ เธอเดินลงมายังห้องรับแขก เห็นเมฆินทร์ยืนอยู่กลางห้อง “นายมีอะไรจะพูด! ฉันให้เวลานายแก้ตัว 1นาที” “น้องไหม..” เมฆินทร์ได้ยินเสียงมธุรดา เขาก็ดีใจ แต่ก็ต้องเสียใจกับสรรพนามและน้ำเสียงที่ได้ยินนั้น มันช่างห่างเหินเย็นชาเสียเหลือเกิน เขารู้สึกผิดที่ทำให้เธอเสียใจ ยิ่งเห็นใบหน้าและดวงตาของเธอ เขาก็รู้ได้เลยว่ามธุรดาเพิ่งจะผ่านการร้องไห้มา ตาของเธอทั้งบวมและแดงก่ำ นี่เขาทำให้คนที่ตัวเองรักต้องเสียใจอย่างนี้ได้ยังไง “พี่ขอโทษนะคะ” เมฆินทร์เอ่ยขอโทษพร้อมกับก้าวไปหามธุรดา เขาเอื้อมมือไปจะจับแก้มของเธอ แต่เธอกลับถอยหลังออกห่างไม่ยอมให้เขาสัมผัส “หมดเวลาแล้ว! นายกลับไปซะ และอย่ามาที่นี่อีก!” มธุรดาหมุนตัวจะเดินกลับไปห้อง แต่เมฆินทร์รีบก้าวมายืนขวางหน้าเธอไว้ ทำให้เธอชนเขาเข้าอย่างจัง “อุ๊ย!” เมฆินทร์รีบรวบตัวมธุรดา เขากอดเธอไว้เพื่อไม่ให้เธอเดินหนี “นายมาขวางฉันทำไม! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ!” “พี่ไม่ปล่อยจนกว่าน้องไหมจะฟังพี่ จะคุยดีๆ กับพี่ เราตกลงเป็นแฟนกันแล้วนะคะ” “ปล่อย! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ..นายศาลาวัด!” ยิ่งมธุรดาดิ้นขัดขืนให้หลุดจากพันธนาการ เมฆินทร์ก็ยิ่งกอดรัดเธอแน่นยิ่งขึ้น “ใครเป็นแฟนนาย! ฉันไม่รู้จักนาย!” “น้องไหม!” “อย่าให้ฉันโกรธ ฉันเกลียด ฉันผิดหวัง ในตัวนายมากไปกว่านี้อีกเลย” มธุรดาพูดออกมาด้วยความเสียใจ น้ำตาที่คลออยู่ก็ค่อยๆ ไหลออกมา เมฆินทร์เห็นน้ำตาของเธอก็ยิ่งรู้สึกผิด “โอเคค่ะ..พี่จะรอเวลาที่น้องไหมพร้อมจะรับฟังพี่” เขาค่อยๆ คลายอ้อมแขนออกจากตัวมธุรดาช้าๆ “น้องไหมขึ้นไปพักเถอะค่ะ” เขาเดินคอตกกลับไปยังรถที่จอดอยู่หน้าบ้าน       เมฆินทร์ไม่รู้ว่าจะง้อจะทำยังไงให้มธุรดาหายโกรธ แม้แต่หน้าของเขา เธอก็ยังไม่อยากจะมอง เขาจะง้อจะขอโทษเธอยังไงดี เขานั่งครุ่นคิดอยู่ภายในรถจนกระทั่งเช้า...       เมฆินทร์ขับรถกลับบ้านในตอนเช้า เขากลับมาอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้ากำลังจะออกไปทำงาน มนัสกับดารณี พ่อและแม่ของเขาก็เดินเข้ามาหา “เป็นยังไงบ้างตาเมฆ หนูไหมเข้าใจเราหรือยัง” ดารณีแม่ของเขาเอ่ยถาม “ยังเลยครับแม่ น้องไหมไม่ยอมรับฟัง ไม่เปิดโอกาสให้ผมอธิบายอะไรเลยครับ หน้าก็แทบจะไม่มอง” “พยายามหน่อยสิตาเมฆ แม่อยากมีหลานแล้วนะ” “แม่อย่าเพิ่งคิดไปถึงหลานเลยครับ ตอนนี้จะทำยังไงให้น้องไหมยกโทษและยอมแต่งงานกับผม ผมยังคิดไม่ออกเลย” “มีอะไรให้พ่อช่วยก็บอกนะตาเมฆ จะให้พ่อไปขอเลยมั้ย” “ไปขอตอนนี้คงจะถูกน้องไหมไล่ตะเพิดกลับทั้งบ้านมาแน่ครับ ผมว่ารอให้น้องไหมใจเย็นลง แล้วผมจะไปคุยกับเธอให้เข้าใจ” “อย่างนั้นก็แล้วแต่เมฆ จะให้พ่อไปสู่ขอเมื่อไหร่ก็บอกนะ พ่อกับแม่พร้อมมาก สินสอดเท่าไหร่ก็พร้อมไม่อั้น” “ขอบคุณมากครับพ่อ แม่ พร้อมเมื่อไหร่ผมจะบอกพ่อกับแม่ ผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ” “ไปเถอะลูก..ขับรถดีๆนะ”  “ครับ” เมฆินทร์ขับรถไปทำงานหน้าตาเคร่งขรึม เขาคิดไม่ตกว่า จะทำยังไงให้ไหมยกโทษให้เขา      วันนี้มธุรดาไม่มีคิวถ่ายละคร เธอนอนคิดทบทวนเรื่องราวระหว่างเธอกับพี่เมฆตั้งแต่วันแรกที่เจอแล้วยิ่งรู้สึกเสียใจน้อยใจ เพราะเธอเชื่อใจไว้ใจเขามากขึ้นทุกวัน ทั้งรู้สึกผูกพันและรักเขาทีละนิดเพิ่มขึ้น จนวันที่เธอรู้ตัวว่ารักและผูกพันกับเขามาก เขาก็มาทำลายความรู้สึกความเชื่อใจที่เธอมีให้ เธอนอนคิดจนได้ยินเสียงข้อความไลน์เด้งขึ้นมา Line ~ Natcha “แกยุ่งอยู่มั้ย..โทรคุยกันได้ป่าว” “ว่าง..โทรมาสิ” เธอพิมพ์ตอบไป ไม่นานณัชชาก็โทรเข้ามา.. “ไงยะยัยไหม แฟนแกนี่ก็กล้าก็แมนมากเนอะ สุภาพบุรุษสุดๆ ฉันล่ะตื่นเต้นดีใจแทน แฟนออกมาแถลงข่าวแล้ว แกก็เก็บตัวเงียบเชียวนะ กลัวว่านักข่าวจะขอสัมภาษณ์หรือไง จะแต่งเมื่อไหร่ยะ” ณัชชาพูดมาเป็นชุด “ไม่แต่ง!” “ อ้าว! ไหงเป็นงั้นไปล่ะ” “แกก็รู้ว่าฉันเกลียดคนโกหกหลอกลวงที่สุด! เขาหลอกฉันว่าเป็นจ่า!” “เรื่องมันเป็นมายังไง..วันนี้ฉันว่าง พี่บอยก็ไปต่างจังหวัด เดี๋ยวฉันเข้าไปหาแกนะ” “อือ..มาสิ ฉันกำลังเซ็งๆ อยู่พอดี” ณัชชารีบเปลี่ยนเสื้อผ้าขับรถออกมาหามธุรดาทันที มาถึงบ้านของเพื่อนเธอก็ตรงไปยังห้องของไหมอย่างคุ้นเคย  “ก๊อก ก๊อก ฉันเข้าไปนะแก” “เข้ามาสิ..” เมื่อณัชชาเปิดประตูเข้ามา มธุรดาก็โผเข้าไปกอดซบอกเธอแน่น แล้วน้ำตาก็ไหลออกมา.. “ระบายมันออกมาให้หมดนะไหม” เธอไม่อยากซักไซร้เพื่อน รอให้ไหมพร้อมเธอก็จะเล่าเอง ณัชชาได้แต่ลูบหลังลูบไหล่ปลอบเพื่อน ด้วยความที่ทั้งคู่เป็นเพื่อนกันตั้งแต่เข้าวงการใหม่ๆ เป็นเพื่อนกันมาเกือบจะ10ปีแล้ว มธุรดาไม่เคยมีแฟนภายนอกอาจจะดูเข้มแข็งแต่ใจเธอบอบบางกับความรู้สึกมาก ณัชชาอยู่เป็นเพื่อนมธุรดาอยากให้เธอสบายใจขึ้น เธอพามีมี่เข้ามาเล่นในห้อง จนทำให้ไหมอมยิ้มออกมาได้บ้าง “นัช..แกกับพี่บอยคบกันมาหลายปี พี่บอยเคยโกหกแกมั้ย” “ก็ไม่นะ หรือว่าพี่บอยจะโกหกแต่ฉันไม่รู้ ฮ่าๆๆ” เธอพูดเล่นๆ หัวเราะขำๆเพราะไม่อยากให้เพื่อนเครียดมากไปกว่านี้ “แกก็ไม่รู้สินะ ว่าการถูกคนที่เรารักโกหกมันรู้สึกยังไง” “ฉันก็ไม่รู้หรอก เพราะพี่บอยไม่เคยปิดบังฉัน” “อย่าพูดถึงมันเลย มาเล่นกับมีมี่ดีกว่าเนอะ” “เมี๊ยว..” “ฮ่าๆๆ มีมี่ยังพูดรู้เรื่องเลยอ่ะ” สองสาวเล่นกับแมวตัวโปรด จนทำให้ลืมเรื่องที่ไม่สบายใจไปได้บ้างไม่มากก็น้อย...       เมฆินทร์ตรวจสำนวนคดีที่ลูกน้องรวบรวมข้อมูลมาส่ง เขานั่งทำงานจนล่วงเลยเวลาพักแล้วก็ไม่ยอมออกไปไหน จนกระทั่งบ่าย..โทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะทำงาน สั่นขึ้นพร้อมกับแสงหน้าจอกะพริบเป็นสัญญาณเตือนข้อความเข้า เขาจึงหยิบมาเปิดอ่าน Line Group ~ "RoboCop" Win : แถลงข่าวขนาดนั้น..จะแต่งวันไหนวะ Kong : เออ..กูจะได้เป็นเพื่อนเจ้าบ่าว เป็นไงแผนกู ได้ผลดีเกินคาดใช่มั้ยวะ Mak : “ดีกับ...มึงอ่ะดิ ไหมไม่มองหน้ากูเลย ไม่ยอมฟังกูด้วย โกรธมากกว่าเดิมอีก” Kong : มึงไปทำอะไรไม่ถูกใจน้องเขาหรือเปล่า..อย่ามาโทษกู Mac : สมควร! เชื่อใครไม่เชื่อ ไปเชื่อไอ้ก้อง! Mak : ไอ้แม็ค! มึงอยู่เงียบๆ กูก็ไม่ได้ว่ามึงเป็นใบ้ Kong : ถึงคราวมึงอย่ามาขอร้องให้กูช่วยนะไอ้แม็ค! จำไว้! Win : มึงยังคิดจะช่วยคนอื่นอีกเหรอวะ ไอ้ก้อง -“- Mac : กูคงไม่ต้องขอความช่วยเหลืออะไรจากมึง Kong : เออ..จำไว้ให้ดีละกัน ถ้าขอให้กูช่วย กูจะให้มึงคุกเข่าขอกู Mak : ไปทะเลาะกันที่อื่นได้มั้ยวะ กูยิ่งเครียดๆอยู่ ไม่ช่วยก็อย่าให้กูเครียดปวดหัวกว่าเดิม Mac : กูขอโทษ.. Win : แล้วมึงจะทำยังไงต่อไป.. Kong : ปล้ำเลยสิวะ รวบหัวรวบหางเลย Mak : ไอ้...น้องเขามีแม่ ถ้ากูไปทำอย่างนั้น แม่น้องไหมกับพ่อกู ฆ่ากูแน่! Mac : มึงแนะนำแต่ละอย่างนะไอ้ก้อง..กูเพลีย! Win : มึงทำบ่อยสินะไอ้ก้อง! น่าจับเข้าตะรางนะมึง Mak : เออ..กูคิดหาวิธีก่อน ได้เรื่องยังไงจะบอก ตอนนี้ขอทำงานก่อน พวกมึงว่างงานกันนักเหรอวะ Mac : กูทำงานอยู่ Win : กูก็ทำงาน Kong : กูว่าง...มากกก.. ^^  Mak : “ -“- “      เมฆินทร์ส่ายหัวกับเพื่อนแต่ละคน ก่อนจะกดออกจากไลน์ วางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะแล้วรีบเคลียร์งานให้เสร็จ จนเลิกงานเขาออกตรวจพื้นที่โดยรอบเช่นเดิม เมื่อเหตุการณ์ปกติ เขาจึงขับรถไปยังบ้านของมธุรดา ซึ่งเป็นจังหวะที่เธอออกมาส่งณัชชาพอดี จนณัชชาขับรถออกไป เธอกำลังจะเดินเข้าบ้าน เขาก็เปิดประตูรีบก้าวไปขวางเธอไว้ “น้องไหม..คุยกับพี่ก่อนนะคะ” “นาย! มาที่นี่อีกทำไม!” “พี่ก็มาหา..แฟน” “ใครเป็นแฟนนาย ที่นี่ไม่มี!” “น้องไหม..เราเป็นแฟนกันแล้วนะคะ” “เราเลิกกัน!” “ได้ไงคะ เพิ่งเป็นแฟนกันได้ไม่ถึง 2 วัน พี่ไม่ยอม!” “ไม่ยอมก็เรื่องของนาย..หลีกไป! ฉันจะเข้าบ้าน” “พี่ไม่หลีกค่ะ คุยกันก่อนได้ไหมคะ นะคะ” เมฆินทร์มองตามธุรดาด้วยสายตาอ้อนวอนขอความเห็นใจ  “(ไหม!..เธอจะใจอ่อนกับสายตาคู่นั้นไม่ได้! มธุรดาพยายามเตือนตัวเองว่าห้ามใจอ่อนให้เขาเด็ดขาด)” เธอเบือนหน้าหนีสายตาคู่นั้นก่อนจะเอ่ยขึ้น.. “ฉันเหนื่อย..ไม่อยากรับรู้หรือฟังอะไรตอนนี้ นายกลับไปเถอะ” แล้วเธอก็เดินเลี่ยงเขาเข้าบ้าน “น้องไหม...” เมฆินทร์ยืนมองเธอเดินเข้าบ้าน ส่วนเขาก็นอนในรถที่จอดตรงหน้าบ้านของเธอเหมือนเดิม แม้ไม่ได้เห็นหน้าไม่ได้พูดคุย แค่ได้เฝ้าอยู่หน้าบ้านก็ยังดี (รู้สึกว่าตัวเองเหมือนหมาเลยว่ะ)       Line sent to Darling ~ พักผ่อนนะคะ หลับฝันดีค่ะ...เมฆินทร์ส่งข้อความไลน์ไปให้มธุรดาก่อนจะพึมพำกับตัวเอง “จะมีใครโชคร้ายเหมือนเขามั้ย เป็นแฟนแค่ข้ามวันก็ถูกบอกเลิกเสียแล้ว เขาไม่ยอม!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม