25
ครั้งล่าสุดโมณิเย่เมาหนัก ทะเลาะกับโอลิเวียเช่นเคย แต่ครั้งนี้พลั้งมือคว้าที่เขี่ยบุหรี่ฟาดลงไปบนศีรษะของโอลิเวียสุดแรง เธอสลบทันที โมณิเย่ตกใจรีบพาส่งโรงพยาบาล และการถูกทำร้ายครั้งนี้โอลิเวียไม่ปล่อยให้เรื่องที่ผ่านไปเหมือนทุกครั้ง เธอหมดความอดทนจึงโทรศัพท์หาพี่ชาย พร้อมกับบอกเล่าเรื่องราว เอมานเอเล่รีบมาหาน้องสาวทันที และพอเห็นสภาพของโอลิเวีย เอมานเอเล่ถึงกับเลือดขึ้นหน้า ตั้งใจว่าวันรุ่งขึ้นจะไปจัดการกับโมณิเย่ แต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น อยู่ ๆ อาการของโอลิเวียก็ทรุดหนัก ต้องนำตัวส่งเข้าห้องฉุกเฉิน และเสียชีวิตในอีกสองวันต่อมา ผลการตรวจถึงสาเหตุของการเสียชีวิตคือมีเลือดคั่งในสมอง สมองซีกซ้ายบวมช้ำ นั่นยิ่งเพิ่มความโกรธในใจคนเป็นพี่มากขึ้นหลายสิบเท่า
ความบังเอิญไม่มีในโลก เรื่องนี้คงใช้กับเอมานเอเล่ไม่ได้ เขามารู้ทีหลังว่าแท้จริงแล้วโมณิเย่คือลูกชายลูเก้ ความแค้น ความโกรธโหมใส่ใจเขาอย่างหนัก หมายจะฆ่าให้ตายทั้งบ้าน แต่แล้วเขาก็คิดวิธีแก้แค้นสองพ่อลูกได้สำเร็จ เป็นวิธีที่จะทำให้ครอบครัวลูเก้ตายทั้งเป็นวิธีนั้นคือนำตัวเมเชลมาเป็นเครื่องบำเรอกาม เหยียบย่ำน้ำใจสาวสวยด้วยปลายเท้า เขาจะทำให้เมเชลเจ็บปวดเหมือนโอลิเวียที่ต้องถูกโมณิเย่ทําร้าย เมเชลเต็มใจเป็นของเล่นของเขาแลกกับชีวิตบิดาและพี่ชาย เมเชลทนปวดร้าว ระบมใจ และกล้ำกลืนอยู่เช่นนี้
คนที่สมควรถูกลงทัณฑ์หรือรู้สึกสำนึกผิดในเรื่องที่ทำลงไปกลับอยู่อย่างสุขสบายบนชายหาดบนเกาะชิชิลี ลูเก้นอนอาบแดด ส่วนโมณิเย่ก็กี่งนั่งกึ่งนอนบนเตียงสนามคลอเคลียกับสาวสวย โดยมีบุญฑริกหรือ ซินเบียภรรยาของลูเก้และเป็นมารดาเมเชลนั่งอยู่บนเตียงสนามอีกเตียงหนึ่ง ทั้งสามใช้ชีวิตอย่างสุขสำราญ ท่องเที่ยวในสถานที่ที่อยากไป ไม่นึกถึงเมเชลที่ต้องตกเป็นตัวประกันสวาทของมาเฟียตัวร้ายสักนิดเดียว
“ป๊ะป๋าว่าไอ้เอมาร์มันจะปล่อยเมเชลเมื่อไหร่ นี้มันก็ผ่านมาปีกว่าแล้วนะ ไม่เห็นว่ามันจะปล่อยตัวเลย หรือว่าติดใจนังเมเชล” โมณิเย่หันมาถามบิดา
“จะไปสนใจมันทําไม ให้มันอยู่นั่นน่ะดีแล้ว ถ้าเกิดมันปล่อยตัวเมเชลมา แล้วมาจัดการฉันกับแกแทนล่ะจะว่ายังไง ให้เมเชลชดใช้กรรมแทนเราดีที่สุด ส่วนเราก็ใช้ชีวิตแบบหรูๆ สบายๆ ตามประสาคนรวย”
พูดถึงความร่ำรวยของลูเก้มาจากเขาได้รับมรดกไม่คาดฝันจากปู่ที่แอบซื้อที่ดินในมิลานไว้โดยไม่บอกลูกหลาน มารู้วันเปิดพินัยกรรมว่า มีที่ดินกว่าหนึ่งร้อยยี่สิบไร่ และมีคนต้องการซื้อต่อในราคาสูงลิบลิ่ว แน่นอนว่าบรรดาลูกชายและลูกสาวต่างเห็นพ้องต้องกันให้ขายที่ดินผืนนี้ ลูเก้ในฐานะลูกชายคนที่สองเขาจึงได้ส่วนแบ่งแทนบิดาที่เสียชีวิตไปเมื่อปีก่อน มูลค่าเงินส่วนแบ่งที่ได้คือห้าล้านยูโร
พอได้เงินมาลูเก้ใช้เงินฟุ่มเฟือย หมดไปกับการกินเที่ยวเสียส่วนใหญ่ แต่ไม่คิดจะนำเงินไปไถ่ตัวเมเชล และไม่คิดไปเยี่ยมเยียนด้วยซ้ำไป ทำราวกับว่าเมเชลเป็นคนอื่นที่ไม่ควรใส่ใจ
“เออ จริงด้วย เราก็ไม่น่านึกถึงมันเนอะ นึกถึงตัวเราดีกว่า” โมณิเย่ที่มีนิสัยเห็นแก่ตัวพูดขึ้น “ผมลืมบอกป๊ะป๋า ผมจองตั๋วเครื่องบินไปเที่ยวฝรั่งเศสแล้วนะ จองโรงแรมไว้แล้วด้วย”
“อืม ทำดีมาก แกอยากไปเที่ยวไหน จัดไปเลย นี่ฉันกะว่ากลับจากฝรั่งเศสก็จะไปเมืองไทยต่อเลย ซินเบียคิดถึงแม่ อยากกลับไปเยี่ยมแม่ แกจะไปด้วยไหม”
“ไปด้วยกันนะโมณิเย่ เมืองไทยมีที่เที่ยวหลายแห่งเลย รับรองว่าไปแล้วต้องติดใจ” แม่เลี้ยงชวนลูกเลี้ยงที่ส่ายหัวดิก
“ผมไม่ไปได้ไหมป๊ะป๋า ผมอยากไปญี่ปุ่นมากกว่า”
“เอาอย่างนี้ก็ได้ ฉันไปเมืองไทยกับซินเบียก่อน ขากลับจะไปลงที่ญี่ปุ่น ไปเจอกันที่นั่น แกก็จัดการเรื่องโรงแรมไว้เลย”
“ดีมากเลยป๊ะป๋า ตกลงตามนี้”สองพ่อลูกนัดหมายท่องเที่ยวอย่างสนุกปาก ไม่พูดถึงเมเชลเลยแม้แต่น้อย ส่วนบุญฑริกผู้เป็นแม่ แทนที่จะใส่ใจเป็นห่วงบุตรสาวที่ต้องไปอยู่กับคนโฉดชั่ว แต่เปล่าเลย นางรักสามีมากกว่าลูกตัวเอง มีหรือที่จะสนใจคนที่ตัวเองมอบความรักให้น้อยนิด แม้ว่าคนนั้นจะเป็นลูกในไส้ก็ตาม
“พี่ ฉันอยากได้แหวนสักวง ซื้อให้ฉันหน่อยนะ”
บุญฑริกอ้อนสามี
“ป๊ะป๋าพาน้าซินเบียไปซื้อแหวนเถอะ ผมจะนอนอาบแดดอีกสักหน่อยก็จะขึ้นไปหาความสุขบนห้อง”
“เจอกันที่ห้องอาหารค่ำนี้เลยแล้วกัน”
“ครับป๊ะป๋า” โมณิเย่รับคํา หันไปสนใจสาวสวยข้างกาย ส่วนอีกสองคนก็พากันเดินขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อไปเลือกซื้อของที่ต้องการ
กลิ่นกาแฟหอมฉุยสูตรเฉพาะของเอมานเอเล่โชยออกมาจากห้องครัว ก่อนที่กาแฟถ้วยนั้นจะถูกยกมาพร้อมกับคุกกี้ที่เจ้าของบ้านมักทานคู่กันกับกาแฟ คนที่ยกเครื่องดื่มไม่ใช่ใคร เมเชลผู้น่าสงสารที่ไม่ใช่มีหน้าที่บำเรอกามเอมานเอเล่เท่านั้น เธอยังต้องทำงานบ้านทุกอย่างไม่ต่างกับคนรับใช้ ไม่เว้นแม้แต่ทำความสะอาดห้องของสตรีทั้งหลายที่มาเฟียจอมวายร้ายเลี้ยงไว้ ซึ่งพวกเธอก็ดีแสนดี เห็นใจลูกผู้หญิงด้วยกัน และสงสาร พวกเธอทำความสะอาดห้องเอง รวมทั้งเสื้อผ้าก็จัดการซักเอง แบ่งเบาภาระเมเชล
“ให้ฉันช่วยไหม ดูท่าทางเธอจะไม่ไหวนะ”
คาร์ล่า สาวอเมริกันรีบเข้ามาช่วย เมื่อเห็นสีหน้าอิดโรย ดวงตาบวมช้ำและรอยจ้ำแดงม่วงรอยใหม่ตรงลำคอ ตรงแขนก็มีรอยฝ่ามือคลายถูกบีบ คาร์ล่ามองปราดเดียวก็รู้ว่าใครเป็นคนทำ
“ขอบใจมากนะ แต่ฉันทำเองดีกว่า ฉันไม่อยากเดือดร้อนอีก”
เมเชลยิ้มอ่อนให้คาร์ล่า ก่อนจะเดินไปทำหน้าที่ของตน นำเครื่องดื่มร้อนไปให้คนเอาแต่ใจที่เวลานี้มีแขกคนสำคัญมาเยือน แต่พอเดินมาถึงหน้าห้องทำงาน โคลล์ที่เดินออกมาจากห้องนั้นพอดีรีบยกถาดใส่ถ้วยกาแฟและของว่างไว้เอง