สุดท้ายคำที่เอามาเปรียบเทียบอย่างเลือกไม่ได้หรือไม่อยากจะเลือกก็ถูกคัดกรองออกมาอย่างสมควรที่สุด สำหรับการกระทำของผู้หญิงตรงหน้า จากปากผู้ชายที่ไม่เคยเอ่ยคำหยาบและเปรียบเทียบสิ่งนี้กับใครมาก่อน
“ไม่จริง ทุกคนก็มีความต้องการกันทั้งนั้น แม้แต่คุณเองก็เถอะ วิรุจ...” เธอเอ่ยอย่างแค้นเคืองและนึกไปถึงการกระทำของชายหนุ่ม หากแต่ไม่กล้าเอ่ยมากไป “ไม่จำเป็นต้องต่อว่ากันรุนแรง ถึงอย่างไรฉันก็ไม่ขออดอยากปากแห้ง” ตอนนี้เธอไม่สนใจว่ามันผิดหรือถูก แต่มันยิ่งเป็นสิ่งที่เธอต้องการมากขึ้น เหมือนยาเสพติด!
เมื่อก่อน สิ่งที่อยู่รายรอบ ไม่ว่า ความต้องการภายในจิตใจ หรือความสะดวกสบายที่ทุกคนต่างขวนขวายอยากได้ เธอก็หามาให้กับตัวเองจนได้ และสิ่งที่ตามมามันเหมือนเป็นสิ่งที่เธอขาดไม่ได้ แต่เมื่ออีกฝ่ายที่เธอยอมแลกร่างกายหวังแค่ความสบาย มาบัดนี้ ไม่อาจสนองความต้องการให้เธอได้เหมือนเดิม เมื่อโรคประจำตัวที่เพิ่งตรวจพบรุมเร้าจนทำให้เมียสาวคราวลูกค้างคา เหลือไว้แค่ความรุ่มร้อนอยู่ภายในใจอยากที่จะปลดเปลื้องคนเดียวได้อีก
ความอัดอั้นไม่ได้ดั่งใจต้องการ สิ่งที่คิดได้คือใครที่เธอพอใจยอมเล่นเกมนี้โดยไม่ผูกมัด ข้อตกลงคือจุดยืนแค่ความต้องการที่อยากปลดปล่อย เธอยอมให้ความต้องการอยู่เหนือจิตใจอย่างที่คนส่วนน้อยกระทำกัน!
คืนนั้นเกือบสี่ทุ้ม เมื่อสามีคราวพ่อนอนหลับไปแล้วด้วยฤทธิ์ยา รถกะบะเล่นฝ่าความมืด และจอดใต้แสงไฟสลัวหน้าบ้านพัก
คราแรกที่เห็น ว่าเป็นใครก้าวลงจากรถนั้น เธอเกือบถลาเข้าหาร่างนั้นด้วยความดีใจ แต่ติดอยู่ที่ว่า สิน ผู้ชายที่ปรนเปรอสวาทให้เธอเดินออกมาด้วย จึงเก็บอาการไว้
“แกไม่ต้องออกไปส่งฉันแล้วละ” เสียงห้ามเบาๆส่งไป อีกฝ่ายชะงักมองใบหน้าหวานไม่เข้าใจ ทุกทีไม่เคยห้าม
“ทำไมละครับ”
“ดูเสียบ้างว่าใครโผล่มาค่ำๆมืดๆ” เธอชี้ไปด้วยสายตา
“ใครครับ” ถามซ้ำเมื่อมองไม่ชัด ใบหน้าในแสงไฟสลัว รังรองค้อนให้อย่างรำคาญ
“ลูกชายเจ้าของฟาร์มที่ให้เงินเดือนอยู่นี่ไงเล่า”
“จริงหรือครับ นึกไงกลับมาตอนนี้”
“คงอยากกลับมาดูแลฟาร์มม้าแล้วมั่ง ไปๆฉันจะออกไปรับหน้าก่อน แกก็เข้าห้องซะหากไม่อยากเป็นเรื่อง” คำสั่งนั้นทำให้สินคนงานหน้าตาดีกว่าใครๆรีบแจ้นกลับเข้าห้องตนเองไป
รังรองเมื่อเห็นว่าสินวิ่งหายไปแล้ว จึงก้มสำรวจตัวเอง กระชับเสื้อคลุมเข้าที่เข้าทาง สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ มุ่งตรงไปยังคนมาใหม่ ด้วยหัวใจเต้นแรง
แต่เมื่อเข้าไปใกล้ เธอถึงได้รู้ว่าผู้ชายที่เธอคิดถึงมาโดยตลอดแต่ก็ไม่อาจซื่อสัจต่อความรักได้ มีหญิงสาวมาด้วย ที่สำคัญ หล่อนสวยและดูดีทุกระเบียดนิ้ว!
เธอสัญญากับตัวเองเดี๋ยวนั้น ‘ผู้ชาย คนนี้...คือของตายของเธอ คนอื่นไม่มีสิทธิ์’
และคำพูดนั้นยังก้องอยู่ หากมีโอกาสเธอไม่รีรอ อย่างเช่นตอนนี้...
“เพราะความต้องการไม่มีความยั้งคิด ร่าน...ใฝ่หาแต่ราคะโดยไม่คำนึงถึงความผิดชอบชั่วดี” น้ำเสียงต่อว่าออกไปอย่างเจ็บแสบ หากเป็นหญิงสาวอื่นคงแทรกแผ่นดินหนี
คนไม่รู้จักคำว่าสำนึกผิดเชิดหน้าเอ่ยโต้อย่างไม่ลดละ “คุณก็เหมือนกันแหละ มันจะต่างกันแค่ไหนเชียว หากทุกคนไม่ต้องการสิ่งนั้น แล้วคุณเอายายนั่นมาทำเมียทำไม” คนพาลหาเรื่องเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องของตัวเองลากเอาเรื่องของอีกฝ่ายมาเอ่ยจนได้
วิรุจส่ายหน้าอย่างเหนื่อยหน่าย กับความคิดที่ไร้มันสมองของคนตรงหน้า เขาเท้าสะเอว แหงนหน้ามองแพดาน เพื่อผ่อนคลายความรู้สึกที่พุ่งขึ้นมาด้วยคำพูด เพราะเขาเองไม่อยากจะโต้เถียงกับหล่อนเท่าไหร่นัก
ลมหายใจถูกพ่นออกมาก่อนจะสูดเข้าเต็มปอด แล้วผ่อนออกมาช้าๆ “ข้อนี้ผมไม่เถียง...” เสียงทุ้มเอ่ยอย่างใจเย็น “แต่ความต้องการของผม มีแค่เมย์...ภรรยาที่ถูกต้องของผมคนเดียวเท่านั้น แล้วคุณทำได้อย่างผมหรือเปล่า”
คำถามของวิรุจทำเอารังรองถึงกับเอ่ยอะไรไม่ออก ความจริงที่ทำมัดตัวและหาข้อแก้ตัวไม่เจอ ในเมื่อหล่อนไม่เคยพอมาตั้งแต่ไหนแต่ไร!
ใบหน้าขาวเนียนได้แต่เก็บงำความรู้สึกโกรธหงุดหงิดเสียใจไว้ในอก สะท้อนขึ้นลงด้วยแรงอารมณ์เธอ ก็เป็นได้แค่เศษขยะที่อีกคนเล็งเห็น...
สีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทำเอาชายหนุ่มยกยิ้มอย่างสะใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ในเมื่อคุณ ทำอะไรอย่างผมไม่ได้ คุณก็เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ ทุกอย่างที่คุณทำในวันนี้ ผมถือเสียว่าคุณแค่เมา...แล้วทำสิ่งที่คนปกติมีมันสมองเขาไม่ทำกัน...อย่าให้ผมเห็นว่าคุณทำอีก เพราะผมรับรองเลยว่าจะไม่เอาคุณไว้แน่” เสียงทุ้มเอ่ยหนักแน่น ก่อนจะพาร่างที่เปียกชุ่มเดินออกจากบ้านไป
สายตาหมายมาดมองตามร่างแกร่ง เธอไม่กลัวกับท่าทางจริงจังนั้นแม้แต่น้อย แต่สิ่งนั้นกลับทำให้ยิ่งรู้ว่าจุดอ่อนของชายหนุ่มคือสิ่งใด
“แล้วคุณจะรู้ว่าสิ่งที่คุณไม่เคยทำ ฉันจะเป็นคนทำให้คุณมีความต้องการเอง วิรุจ...”