ภาพตรงหน้าทำให้อัจจิมายืนมองด้วยหัวใจไหวสะท้าน ในหัวหนักอึ้ง มือทั้งสองข้างชื้นไปด้วยเหงื่อระหว่างยืนมองดูนิรุทจูบกับผู้หญิงคนนั้น
“รุท…” คนถูกขานชื่อหันมามอง เขาหน้าซีดขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นว่าเจ้าของเสียงเรียกเมื่อครู่คือใคร
อัจจิมาไม่ได้เป็นแฟนของนิรุทคนเดียว พูดให้เข้าใจง่าย ๆ คือ
เขามีโลกสองใบ กับอัจจิมาคบหากันมาได้สามปี แต่นิรุทก็ยังไม่เคยพาไปแนะนำให้ครอบครัวรู้จัก
ลูกสาวเจ้าของโรงแรมหรูระดับประเทศคือโลกอีกใบของแพทย์หนุ่ม
ฐาจะฐานะทางบ้าน สังคม รสนิยม เหนือกว่าอัจจิมาทุกอย่าง สองครอบครัวรู้จักกันเป็นอย่างดี และทั้งคู่ก็วางแผนจะแต่งงานกันในเร็ว ๆ นี้
แต่ปัญหามันอยู่ที่…อัจจิมาไม่เคยรู้หรือระแคะระคายมาก่อนว่าตลอดเวลาที่คบหากัน นิรุทยังมีใครอีกคน
“ใครเหรอคะ” ไฮโซสาวหันไปถามแฟนหนุ่ม สิ่งที่คนอย่าง โสรยา เกลียดที่สุด คือการที่มีคนทำให้เธอขายขี้หน้า
“เอ่อ คือ…” นิรุทอ้ำอึ้งเหมือนกำลังอมอะไรอยู่ในปาก หากก็มีคำตอบในใจอยู่แล้ว
ถ้าตัดเรื่องเงินทองออกไป อัจจิมาถือว่าเป็นผู้หญิงตรงตามสเปคทุกประการ แต่เธอไม่คู่ควรกับเขา นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่เขาไม่เคยพาอัจจิมาออกสังคม
“แล้วคุณเป็นใครคะ”
“ฉันเป็นแฟนของรุท อ่อ…ไม่ใช่สิ เป็นว่าที่ภรรยาน่ะค่ะ เพราะเราสองคนกำลังจะแต่งงานกันเร็วๆ นี้” อัจจิมารู้สึกเจ็บปวดในหัวใจเหมือนมีเข็มนับพันเล่มทิ่มแทงลงมา
ถ้าผู้หญิงคนนี้เป็นแฟนของผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ แล้วเธอล่ะ เป็นอะไร???
“เขาเป็นแฟนรุท?”
“ใช่” นิรุทยอมรับว่าโสรยาเป็นแฟนสาวอย่างเสียไม่ได้ ใช่ว่าเขาจะไม่รู้สึกอะไรกับอัจจิมา แต่ผู้หญิงที่จะทำให้เขาทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าได้ มีเพียงโสรยาเท่านั้น
“แล้วจี๊ดล่ะคะ” เธอซื่อสัตย์กับนิรุทเพียงคนเดียว หลงคิดว่าเขาคือเทพบุตร สามารถฝากฝังชีวิตเอาไว้ได้ แต่เธอกลับรู้สึกเหมือนตัวเองหลับใหลอยู่ในหลุมลึกมายาวนาน เป็นแค่สิ่งของที่ถูกวางเอาไว้ในที่ลับตาคน
นิรุททรยศหัวใจของเธอมานานแค่ไหนแล้ว สาเหตุที่เขาไม่เคยพาเธอไปแนะนำกับครอบครัว เป็นเพราะแบบนี้เองสินะ
ทำไมเธอมันโง่ได้ขนาดนี้นะ
แม้จะเจ็บปวดที่ได้รู้ความจริงหากบนใบหน้าของเธอก็ไม่มีน้ำตาไหลลงมาสักหยด หัวใจซึ่งถูกคมมีดกรีดเฉือน ก็สมควรแล้วที่เธอจะให้มันจมลึกอยู่ในนั้น
“นี่มันเรื่องอะไรคะ” แม้ว่าโสรยาจะมองว่านิรุทเป็นผู้ชายที่คู่ควรทั้งฐานะทางบ้าน วงศ์ตระกูล แต่คนอย่างเธอก็ไม่มีทางใช้ของร่วมกับใคร วันนี้นิรุทต้องเลิกยุ่งเกี่ยวกับอัจจิมาอย่างเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นก็เตรียมยกเลิกงานวิวาห์ได้เลย
พอถูกโสรยากดดันด้วยสายตา นิรุทก็ให้คำตอบได้ไม่ยาก อนาคตของเขาวางอยู่ตรงหน้าแล้ว เขาต้องทุ่มเทไปเท่าไหร่กว่าจะขึ้นมายืนอยู่จุดนี้ ดังนั้นจะให้ผู้หญิงธรรมดาอย่างอัจจิมา มาทำลายทุกอย่างไม่ได้
“ขอโทษนะ แต่เราเลิกกันเถอะ”
“เลิก…” ท่าทีเย็นชาที่อีกฝ่ายแสดงออก มันเป็นอาวุธไร้รูปร่างเฉือนหัวใจเธอออกมาทีละชิ้น
ทำไมคนเราถึงบอกเลิกกันได้ง่ายดายขนาดนี้ สามปีที่ผ่านมาไม่มีคุณค่าเลยเหรอ ???
“ที่จริงผมอยากบอกคุณตั้งนานแล้ว ว่าเราสองคนไปกันไม่ได้ ผมก็ไม่ชอบงานที่คุณทำ งานที่ให้ผู้ชายแตะเนื้อต้องตัวลูบๆ คลำๆ เพื่อแลกเศษเงินพวกนั้น มันดูต่ำและไร้ค่า คุณเคยรู้ตัวบ้างไหม”
หึ…!
ความในใจของนิรุททำให้หัวใจอัจจิมาเย็นเฉียบไปครึ่งดวง เสียงกลั้วหัวเราะถูกฉาบเอาไว้ด้วยความรู้สึกสมเพชตัวเอง
งานของเธอไม่มีศักดิ์ศรี ต้องเปลืองเนื้อเปลืองตัวอย่างที่อีกฝ่ายพูดมา ข้อนี้เธอไม่เถียง
แต่แล้วยังไงล่ะ ในเมื่อไม่มีสักครั้งไม่ใช่เหรอ ที่เธอจะใช้กลิ่นหวานหอมของเงินมาเป็นข้ออ้างในการนอกกาย นอกใจเขา แม้แต่ครั้งเดียวก็ไม่เคย
เทียบกับคนสูงส่งอย่างคุณหมอนิรุท กลับดูแคลนอาชีพคนอื่นด้วยคำพูดซะสวยหรู ทั้งที่ตัวเองต่ำทรามน่ารังเกียจยิ่งกว่า…
“ตลอดเวลาที่เราคบกันมาคุณคิดกับฉันแบบนี้เองเหรอ” ซอกลึกของหัวใจคำรามราวกับสัตว์ป่าได้รับบาดเจ็บ เธอเจ็บปวดจนไม่อาจบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้
แต่เธอจะไม่โทษใครทั้งนั้น เป็นเธอเองที่หลงกับเปลือกนอกของคุณหมอนิรุท เธอมันโง่เอง ที่ไปมอบหัวใจให้กับผู้ชายเห็นแก่ตัวคนหนึ่ง
“ฉันไม่สนหรอกนะว่าก่อนหน้านี้รุทกับคุณจะเป็นอะไรกัน หรือจะคบกันมานานแค่ไหนแล้ว แต่คุณก็เห็นแล้วนี่ว่าผู้ชายเขาไม่ได้เลือก ฉันว่าคุณควรจะปล่อยรุทไปดีกว่านะ อย่ามามัวคร่ำครวญเพื่อจะยื้อผู้ชายไว้เลย” ตอนนี้ผู้หลักผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายรู้เรื่องงานวิวาห์ระหว่างเธอกับแพทย์หนุ่มกันหมดแล้ว
ถ้างานแต่งล่ม เธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ไฮโซกรอกตัวเลขลงไปในสมุดเล่มเล็ก เงินหนึ่งล้าน ถ้าแลกกับชื่อเสียงของเธอ ก็ถือว่าไม่ได้มากมายอะไร
“อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะคะ รับไปเถอะถือว่าเป็นค่าเสียเวลาของคุณแล้วกันนะ” อัจจิมามองสิ่งที่อีกฝ่ายยื่นมาให้อย่างนึกเวทนาตัวเอง ไม่คิดว่าในวันเดียวกัน คนเราจะมีเรื่องบัดซบเกิดขึ้นในชีวิตได้ถึงเพียงนี้
แต่ไม่ต้องให้นิรุทกับโสรยาเสียเวลากับเธอไปมากกว่านี้ เธอยื่นมือออกไปรับเช็คเงินสดมาถือเอาไว้
“ดีแล้วค่ะ เงินจำนวนนี้น่าจะให้คุณพอมีกินมีใช้ไปสักพัก” คนให้ยิ้มอย่างดูแคลนที่เธอยอมรับเศษเงิน โดยไม่ได้ย่ามใจว่าผู้หญิงต่ำต้อยอย่างอัจจิมาจะกล้าปฏิเสธเงินจำนวนนี้
“เอาเศษเงินของคุณคืนไปเถอะค่ะ ส่วนผู้ชายคนนี้ถ้าอยากได้มากก็เอาไปเลยฉันยกให้ ถือซะว่าทำบุญทำทาน” เธอฉีกเช็คเงินหนึ่งล้านต่อหน้าต่อตาทั้งสองคน ก่อนจะเหยียบซ้ำด้วยรองเท้าส้นเข็มคู่โปรดแล้วเดินออกไปทันที