ลูกจันทร์รีบแต่งตัวออกจากบ้านแต่เช้า เธอไม่รู้ว่ามีใครเชื่อเรื่องที่เธอโกหกคำโตนั่นไหม แต่เธอก็พยายามทำตัวให้ไม่ผิดสังเกตน้อยที่สุดจะมีบางตอนที่คุยกับแม่แคทก่อนออกจากบ้านเท่านั้นที่เธอเหงื่อออกเพราะกลัวจะโกหกไม่เนียน
เธอนั่งรถส่วนตัวพร้อมคนขับมาลงตรงหน้าโรงเรียน วันนี้โชคดีที่ป้ามาลีไม่ค่อยสบายเลยไม่ได้นั่งมากับเธอด้วยไม่อย่างนั้นเธอคงเหงื่อออกเต็มตัวจนเสื้อผ้าเปียกหมดก่อนถึงโรงเรียนแน่
"รถของโรงเรียนออกไปตั้งนานแล้ว ลูกมาช้าไปนะ"
มอร์แกนยืนรอลูกสาวของเขามานานแล้ว เขาขับรถออกจากบ้านก่อนเธอ และยืนรอเธออย่างคนใจเย็นแต่ภายในร้อนรนจนแทบจะเผากำแพงโรงเรียนได้อยู่แล้ว
"ป๊ะป๊า"
ดวงตาเล็กเบิกโตด้วยความตกใจ พ่อของเธอยืนอยู่ตรงหน้าทั้งที่ตอนคุยกันพ่อของเธอเชื่อสนิทใจไม่ถามอะไรสักคำไม่เหมือนแม่
"ลูกจันทร์ ลูกโกหกทำไม"
มอร์แกนเสียงดังขึ้น เขาคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ ลูกที่เลี้ยงมากับมือกล้าโกหกเขาทั้งที่พูดคุยกันทุกวัน อยากได้อะไรเขาก็ให้ไม่เคยขัดใจกัน อยากไปไหนเขาก็พาไป แล้วมันเกิดอะไรขึ้นเด็กสาวแสนน่ารักคนนี้ถึงกล้าโกหก
"พี่เดย์ เรากลับไปคุยกันที่บ้านนะคะ ลูกจันทร์กลับบ้านกันลูก"
แคทธารีนพอรู้ข่าวว่าสามีของเธอรีบร้อนออกจากบ้านมาทำไมก็สั่งให้คนขับรถรีบพาเธอมาที่นี้ทันทีอย่างไม่รีรอ มอร์แกนเป็นคนใจร้อนเธอกลัวว่าเขาจะดุลูกหรือตีลูกเพราะอารมณ์
"ป๊ะป๊าคงตามใจลูกจันทร์มากเกินไป"
มอร์แกนไม่ฟังคำใครแม้แต่เมียแสนรัก เขายังคงเสียใจกับลูกสาวที่รักหมดหัวใจ ลูกที่ไม่ใช่สายเลือดแต่เลี้ยงดูด้วยสายใจมาตลอด
"ลูกจันทร์ขอโทษค่ะ ลูกจันทร์แค่อยากจะไปตามหาพี่เอ"
เธอไม่เคยดื้อกับพ่อและแม่ถึงจะไม่ใช่เด็กน่ารักไปซะทุกเรื่อง แต่วันนี้เธอขอออกนอกลู่นอกทางเพราะจะไปตามหาหัวใจของตัวเอง เธอรู้ว่าทุกคนจะต้องเสียใจกับเรื่องที่เธอและผิดหวังในตัวเธอแต่ใจของเธอละมันระบมนะต้องการคนรักษา
"ป๊ะป๊าพูดอะไร ลูกจันทร์ไม่เคยฟังเลยสินะ"
"กลับไปคุยกันที่บ้านนะคะ"
แคทธารีนจับมือทั้งพ่อและลูกสาวเอาไว้ทั้งสองคนแล้วพาขึ้นรถกลับบ้าน เธอเป็นเหมือนสายน้ำที่ไหลเย็นชโลมใจมอร์แกนที่กำลังร้อนเป็นไฟให้เย็นลงเพียงมือสัมผัสและสายน้ำอย่างเธอยังไหลผ่านใจให้ลูกจันทร์เชื่อฟังยอมอ่อนตามสงบเหมือนน้ำนิ่งกลับบ้านไปด้วยกัน
"คราวหน้าอย่าดื้ออีก ห้ามทำแบบนี้ ป๊ะป๊าไม่ได้ใจดีตลอดไปนะ"
เขาไม่ได้คาดโทษอะไรลูกแค่บอกให้เธอรู้เอาไว้ว่าเขาไม่ได้ใจดีกับเธอได้ตลอดไปและก็ไม่มีใครช่วยเธอได้ตลอดเหมือนครั้งนี้ที่แคทธารีนมาทันเวลา เขาเลี้ยงได้ก็ต้องดุหรือทำโทษได้เหมือนกัน
"ลูกจันทร์ขอโทษค่ะ"
เด็กสาวยกมือไหว้แบบคนไทยเธอชินกับการขอโทษแบบนี้เพราะทำมาตั้งแต่เด็กและกิริยาที่เธอทำก็น่ารักมากเพียงแต่วันนี้มันคล้าวน้ำตาแห่งความสำนึกผิดเข้าไปด้วย เธอผิดเองที่เห็นคนอื่นสำคัญกว่าครอบครัว คิดทำอะไรเกินวัยจนทุกคนต้องเสียใจรวมถึงตัวเธอด้วย
พ่อลูกโผเข้ากอดกันด้วยความรักแต่กลับทำให้คนเป็นแม่อย่างแคทธารีนที่ยื่นมือเข้าช่วยลูกสาวและยืนมองอยู่ตลอดเวลาโล่งอกมากที่สุด ยังดีที่มอร์แกนมีความรักและมีความเป็นพ่ออยู่เต็มตัวจนข่มอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ได้ทำให้วันนี้ผ่านพ้นไปได้ถึงจะอึมครึมหน่อยๆ ก็ตาม
ลูกจันทร์พยายามปรับตัวเป็นคนใหม่ เธอพยายามที่จะตัดใจจากเขาไม่คิดถึง ไม่ตามหาเพราะครอบครัวสำคัญกว่าสิ่งใดแต่ก็ทำได้เพียงชั่วโมงหรือนาทีเท่านั้น จะทำยังไงได้ในเมื่อมันรักไปแล้วหมดหัวใจ
"ลูกกินน้อยไปนะ อาหารไม่ถูกปากหรือไง ป๊ะป๊าสั่งแม่ครัวทำให้ใหม่เอาไหม"
มอร์แกนมองลูกสาวกินข้าวแล้วต้องถอนหายใจ สามปีมานี้ลูกจันทร์เปลี่ยนไปมาก โดยเฉพาะเรื่องกิน จากเด็กน้อยตัวจ้ำม่ำกลายเป็นสาวน้อยตัวเล็กที่กินน้อยอย่างกับแมวดม ว่าไปแล้วแมวดมน่าจะมากกว่านี้ด้วยซ้ำไป คนอย่างเขาถึงทิ้งงานหลายอย่างมานั่งกินข้าวกับลูกทุกวันแต่ก็ไม่ได้ดีขึ้นเลยยังคงกินน้อยเหมือนเดิม
"อร่อยค่ะ แต่หนูอิ่มแล้ว ขอบคุณป๊ะป๊านะคะ"
สาววัยรุ่นวัยสิบแปดที่กำลังจะจบการศึกษาระดับไฮสคูลรวบช้อนเก็บในจานอย่างเป็นระเบียบตามแบบฉบับที่ผู้เป็นแม่สอนมา สามปีที่ผ่านมาเธอถูกอบรมบ่มนิสัยใหม่อย่างเข้มงวดและถูกผู้เป็นพ่อตามติดมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว
"หนูดาก็อิ่มแล้วใช่ไหม งั้นเราไปโรงเรียนกันเลยนะ วันนี้ป๊ะป๊าไปส่งเอง"
เขาย้ายโรงเรียนให้ลูกสาวทั้งสองมาเรียนที่เดียวกันไม่มีการตามใจเพราะความชอบส่วนตัวเพราะเขาต้องการดูแลทั้งสองคนให้ดีที่สุดส่วนลูกชายทั้งสามคนก็เลี้ยงแทบจะคนละแบบไม่มีการบังคับให้อยู่รอดด้วยตัวเองไม่เคยประคบประหงมเลยสักคนถึงจะดูลำเอียงแต่ลูกชายของเขากลับชอบและนี้ก็ตื่นไปโรงเรียนกันหมดแล้วไม่ต้องเคี่ยวเข็ญให้เหนื่อยใจเลยสักคน
"วันเสาร์นี้เราจะยังไปที่ทะเลสาบเหมือนเดิมใช่ไหมคะ"
ระหว่างทางไปโรงเรียนที่ในรถมีลินดานั่งร่วมมาด้วย สองสาวไม่ได้คุยกันเพราะลินดาสนใจอ่านแต่ประวัติศาสตร์ตลอดเวลาที่เธอว่าง ลูกจันทร์เองก็เลยมีเวลาส่วนตัวอ่านข้อมูลถึงสถานที่ที่จะไปพักผ่อนสุดสัปดาห์นี้
"ลูกดูตื่นเต้นนะ"
มอร์แกนมองลูกสาวคนสวยผ่านกระจกมองหลัง แล้วหันไปสนใจท้องถนนต่อ ลูกสาวของเขาคนนี้ชอบท่องเที่ยวเป็นพิเศษเธอจะรบเร้าให้เขาพาไปเที่ยวทุกอาทิตย์และแต่ละครั้งที่จะไปไหนเธอจะถามย้ำทีละหลายรอบ
"หนูอยากไปนิค่ะ"
สายตาของเธอเป็นประกาย เธออยากไปเจอผู้คนมากมายเผื่อจะได้เจอเขา สามปีมานี้เธอพยายามเปลี่ยนนิสัยเสียใหม่ให้เป็นเด็กดีมากที่สุดเพื่อจะได้อ้อนให้ครอบครัวพาไปพักผ่อนและเฝ้ารอให้จังหวะชีวิตของเธอกับเขาหมุนมาตรงกันสักที
"แต่อาทิตย์ที่แล้วเราก็เพิ่งไปทะเลมานะ"
"ป๊ะป๊าจะไม่พาไปใช่ไหม"
น้ำเสียงน้อยใจแทรกขึ้นมาทันที เรื่องเที่ยวเธอก็ชอบแต่มันมีความตั้งใจอื่นอยู่ด้วยแต่ตอนนี้พอฟังคำพ่อมันก็พังครืนลงมาหมดเลย
"ป๊ะป๊าเหมือนจะติดงาน"
อาทิตย์นี้งานเขายุ่งมากจริงๆ จนต้องพาเมียไปช่วยทำที่บริษัทแทบทุกวันหลังจากที่ลูกๆ ไปโรงเรียนกันหมดแล้ว และเขาก็เคลียงานไม่ทันวันหยุดที่จะมาถึงนี้แน่ทั้งที่ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะพาลูกๆ ไปเที่ยวแต่คงทำไม่ได้
"ไม่เป็นไรค่ะ"
ลูกจันทร์พับเก็บความดีใจเมื่อกี้ทันทีเหลือแต่เพียงรอยยิ้มแห้งๆ ที่ฝืนออกมา ผิดหวังทั้งที่เธอดูข้อมูลเอาไว้แล้วว่าทะเลสาบนั่นใกล้กับบ้านของเอดาน ว่าจะไม่ตามหาเขาเพราะใกล้วันสอบแล้วแต่ก็อดไม่ได้อยู่ดีคนมันรักอ่ะนะ
แล้วตารางเที่ยวอาทิตย์นั่นก็ถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนดเพราะพ่ออย่างมอร์แกนเป็นห่วงเรื่องเรียนของลูกมากกว่าสิ่งใดเขาก็เลยรอจนกว่าลูกจะสอบเสร็จ
"ทุกคนไปกันเถอะค่ะ ลูกจันทร์อยู่ได้"
หลังจากวันสอบวันสุดท้ายจบลงก็เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการเดินทางพักผ่อนของครอบครัวซานซ์เตอร์แต่มีบางคนไม่พร้อมไปด้วยเพราะอุบัติเหตุ
ลูกจันทร์ที่ตั้งท่าดีใจมากกว่าคนอื่นที่จะได้ไปพักผ่อนแต่เธอกลับเกิดอุบัติเหตุตอนกลับบ้านในวันสอบวันสุดท้าย เธอถูกเพื่อนเดินชนจนล้มลงกับพื้นมันอาจจะปกติสำหรับเธอเพราะเธอตัวเล็กกว่าเพื่อนบางคนมากแต่ครั้งนี้เธอดันล้มแรงเกินไปจนกระดูกข้อเท้าร้าวต้องใส่เฝือกทำให้เดินแทบไม่ได้แถมยังมีแผลถลอกตามตัวอีกหวิดหมดสวยอยู่เหมือนกัน
"เลื่อนไปก่อนดีไหม"
มอร์แกนประคองลูกสาวให้นั่งลงตรงสนามหญ้าหน้าบ้าน เขามองดูลูกด้วยความสงสารและก็สั่งจัดการไอ้คนที่มันเดินไม่ระวังชนลูกเขาไปแล้ว ไม่ได้ฆ่านะแค่สั่งสอนให้มันเดินระวังๆ หน่อยแค่นั้นเอง
คนเป็นพ่อกำลังลำบากใจเขามองทุกคนในครอบครัวอย่างลำบากใจ ทุกอย่างถูกเตรียมพร้อมเอาไว้หมดแล้ว แม้แต่กระเป๋าเสื้อผ้าก็ถูกขนขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว เขาไม่คิดว่าเหตุการณ์แบบนี้มันจะเกิดขึ้น
"ป๊ะป๊าพาแม่แคทกับน้องๆ ไปเที่ยวเถอะค่ะ ลูกจันทร์อยู่ได้ ดูสิคะมีคนเหลืออีกเต็มบ้าน"
เธอยังมีเวลาออกไปเที่ยวกับครอบครัวอีกมากมาย แต่เธอจะทำให้คนในครอบครัวมานั่งเจ็บกับเธอไม่ได้ ไหนจะน้องๆ อีกที่ต่างเตรียมตัวกันเอาไว้หมดแล้ว เธอเป็นพี่คนโตย่อมต้องดูแลให้น้องๆ มีความสุขที่สุดไม่ใช่เป็นตัวถ่วงแบบนี้
"ป๊ะป๊าเป็นห่วงเรานี่หนา"
"แม่ก็ด้วย"
แคทธารีนนั่งลงข้างลูกสาวคนโตของเธอ ครั้งก่อนที่มาบอกว่าโดนเพื่อนชนล้มยังไม่มีแผลเลยสักนิดแต่ดูครั้งนี้สิราวกับไปถูกรถชนมา เธอยากจะเป็นแทนลูกซะจริงๆ สาวน้อยของแม่ช่างน่าสงสารเหลือเกิน
"ไปกันเถอะค่ะ น้องๆ อยากไปเที่ยวนะคะ อย่าให้เรื่องของลูกจันทร์ทำให้น้องอดเที่ยวสิคะ"
มอร์แกนจำต้องพาครอบครัวที่ขาดสมาชิกไปหนึ่งออกเดินทาง เที่ยวครั้งนี้คงไม่สนุกและคงต้องรีบกลับก่อนกำหนดด้วยความเป็นห่วงอีกคนที่อยู่ที่นี่ถึงเธอจะดูโตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้วแต่สำหรับเขาเธอคือเด็กเสมอ