อุบัติเหตุ
ภาพสะท้อนบนกระจกเงาเบื้องหน้าของเธอคือหญิงสาวที่สวยเลิศเลอเพอร์เฟ็ค หล่อนคนนี้มีรูปร่างสุดแสนเซ็กซี่ประมาณที่ไม่ว่าผู้ชายแท้หน้าไหนได้เห็นล้วนต้องแอบคิดอกุศลจนน้ำลายหกเรี่ยราดเลอะพื้นเหมือนสุนัขเชื่อง ๆ
วีนัสยืดไหล่ตรง เธอแอ่นอกคัพดีที่ตั้งเต้ากลมได้รูปทรงสวยเพราะผ่านการออกกำลังกายอย่างถูกวิธี การทานอาหารคลีนและไม่ยอมตามใจปากช่วยให้แขนขาเรียวสวย ทุกสัดส่วนอันพึงมีของหญิงสาวกระชับแน่น พลางเบี่ยงกายซ้ายขวาสำรวจความไร้ที่ติเพื่อเรียกความมั่นใจให้ตัวเองอีกครั้งแล้วคว้ากระเป๋าชาแนลนายเบรียลใบเล็กคู่ใจเดินออกจากห้องน้ำจุดบริการเติมน้ำมันข้างทาง
เหลือเพียงห้าสิบกิโลเมตรเธอก็จะไปถึงจุดหมาย แค่ขับรถขึ้นเรือข้ามฟากจากท่าเรือชายฝั่งภาคตะวันตกของประเทศไทยไปยังเกาะพาราไดซ์ บ้านเก่าซึ่งวีนัสเคยอาศัยอยู่กับมารดาสองคนก่อนที่จะย้ายสำมะโนครัวไปพำนักอยู่ที่ฝรั่งเศสหลังจากมารดาของเธอแต่งงานใหม่และวีนัสเรียนจบมัธยมต้น
เธอตัดสินใจกลับมาที่เกาะพาราไดซ์อีกครั้งเพื่อจะลบปมอดีตอันขมขื่นเมื่อเจ็ดปีให้หลัง สมัยที่ใคร ๆ เรียกวีนัสว่ายัยอ้วนบ้างยัยซาลาเปาบ้าง เพราะตอนเป็นเด็กเธอมีรูปร่างอ้วนกลม ผิวขาวซีดเซียว ตาเรียวหยี ไม่มีสักคนที่เรียกชื่อเล่นของเธอ แม้กระทั่งนิลเนตรเพื่อนรัก(จอมปลอม) บอยเด็กอันธพาลแฟนของนิลเนตรกับหลุยส์เด็กหนุ่มที่เป็นรักแรกของวีนัสซึ่งไม่เคยเหลือบแลเธอแม้แต่หางตา
สามคนนั้นเคยเป็นเพื่อนที่เธอหลงไว้วางใจตลอดเวลาสามปีที่เรียนอยู่ในรั้วโรงเรียนมัธยม กว่าวีนัสจะรู้ว่าถูกหลอกใช้และถูกมองเหมือนตัวตลกก็เมื่อวันสุดท้ายที่มีงานพิธีฉลองสำเร็จการศึกษา
นิลเนตรมักจะขอลอกการบ้านวีนัสเป็นประจำ จนบังเอิญเห็นข้อความสารภาพรักที่วีนัสเขียนถึงหลุยส์ นิลเนตรรบเร้าให้เธอส่งมันให้หลุยส์เด็กหนุ่มสายเลือดผสมไทยญี่ปุ่นอเมริกันที่ป๊อบปูล่าที่สุดในโรงเรียน แต่วีนัสปฏิเสธเพราะกลัวว่าจะถูกเขารังเกียจ ซึ่งการถูกเพื่อนในโรงเรียนเรียกว่าอ้วนหรือซาลาเปาก็ขมขื่นเกินพอแล้วสำหรับเธอ
ในวันที่เสื้อนักเรียนปกทหารเรือสีขาวของเด็กสาวทุกคนถูกระบายด้วยสีสันของข้อความอำลาจากปลายปากกาเมจิกของเพื่อน ๆ เธอถูกนิลเนตรเขียนบนด้านหลังเสื้อว่า ‘วีนัสรักหลุยส์’ และให้บอยเอาจดหมายสารภาพรักของเธอไปอ่านผ่านเครื่องกระจายเสียงบนเวที
เสียงหัวเราะเยาะก้องกังวาลหอประชุมโรงเรียนในวันนั้นกลายเป็นฝันร้ายที่คอยหลอกหลอนวีนัสทุกค่ำคืนจนกระทั่งถึงปัจจุบัน
อดีตอันขมขื่นเป็นทั้งชนักติดหลังและแรงผลักดันที่ทำให้เธอตั้งใจมั่นเพื่อเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ วีนัส หรือ ‘วรรณิศา อุดมสุข’ กลายเป็นสาวสวยสมบูรณ์แบบ ที่เติบโตในเมืองแห่งแฟชั่นของโลกและสำเร็จการศึกษาระดับสูงด้วยผลการเรียนอันดับหนึ่งของสถาบัน
พอกันทีเจ็ดปีอันขมขื่น ตอนนี้ได้เวลาที่เธอจะชำระแค้นกับสามคนนั้นให้สาสม!
วีนัสระบายความอัดอั้นตันใจด้วยการฟาดฝ่ามือลงบนพวงมาลัยอย่างแรง ทำให้สัญญาณแตรรถยนต์ดังสนั่นเหมือนฟ้าฝ่าและเป็นจังหวะเดียวกันที่ไฟหน้าของรถยนต์ที่ขับสวนทางมาจากฝั่งตรงข้ามสาดเข้าตาของวีนัส ซึ่งรถคันนั้นพึ่งโผล่ออกมาจากทางโค้งด้วยความเร็วสูงและวิ่งล้ำเส้นแบ่งเลนถนนมายังเลนที่เธอขับรถอยู่
วีนัสตกใจแทบช็อค หญิงสาวรีบหักพวงมาลัยหลบเข้าข้างทางและเหยียบเบรคแบบกระทันหัน ทว่ารถของเธอได้เสียหลักไถลลื่นลงคลองน้ำเอียงกะเท่เร่ ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียงเสี้ยววินาที
เดชะบุญที่รถไม่ชนเข้ากับหลักกิโลเมตรหรือต้นไม้และเธอไม่มีบาดแผลเลือดตกยางออกหรือแม้แต่รอยถลอกเท่าแมวข่วน
โอ... เบรค ABS ช่วย!
‘เควิน เบเน็ตตั้น’ นั่งกึ่งนอนบนเก้าอี้โยกที่ตั้งอยู่มุมหนึ่งในคอนโดหรูหราของ หลุยส์ ‘วีระเชษฐ์ ใจสะอาด’ ลูกชายคนเดียวของน้องชายของพ่อของเควิน หรือเรียกง่ายๆ ก็ลูกชายคุณอาหรั่ง นายวีระชาติ ใจสะอาด เจ้าของกิจการอู่ซ่อมรถยนต์ยักษ์ใหญ่ที่มีสาขาเกือบทั่วทุกจุดบริการเติมน้ำมันของประเทศไทย
‘คริสโตเฟอร์ เบเน็ตตั้น’ พ่อของเขา เป็นอดีตมาเฟียที่ล้างมือมาทำธุระกิจด้านการลงทุนซึ่งบริษัทเบเน็ตตั้นคอร์ปฯ มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งบนเกาะญี่ปุ่น เขากับน้องชายเหมือนลูกที่เกิดสลับท้องมารดา เพราะเควินชื่นชอบเทคโนโลยีและเครื่องยนต์กลไก ส่วนหลุยส์ดันสนใจเรื่องสร้างรากฐานธุรกิจการลงทุน เงินตรา และอสังหาริมทรัพย์
นั่นเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้วันนี้สองครอบครัวต้องประชุมสายวิดีโอคอลข้ามประเทศ
“แลกลูกกันเลยดีไหม” คริสโตเฟอร์ พ่อของเควินพูดประชด
“ไอเดียบรรเจิดมากพี่ชาย” หรั่ง ทำหน้าตาเอาจริงเอาจัง
อู่ซ่อมรถที่เป็นเฮดออฟฟิศบนเกาะพาราไดซ์ขาดคนดูแลหลังจากเขากับภรรยาย้ายสำมะโนครัวกลับมากรุงเทพฯ เพื่อดูแลพ่อวีระชัยกับแม่นอมผู้เลี้ยงดูหรั่งแทนแม่แท้ๆ ซึ่งเสียชีวิตตั้งแต่เขาเกิด
และลูกชายหัวฝีหัวหนองของเขายังดันเกิดมาชอบความสำรวยและรังเกียจคราบเขม่าน้ำมัน ผิดกับหลานชายคนโปรดซึ่งเป็นลูกของพี่ชายต่างมารดา เควินชื่นชอบรถยนต์มากและพอโตเป็นหนุ่มก็หันมาเอาจริงเอาจังกับเรื่องเทคนิคเครื่องยนต์กลไก
“ให้ผมไปทำงานแทนพี่เควิน ส่วนพี่ก็มาทำงานแทนผม เป็นอะไรที่ลงตัวที่สุด” หลุยส์พูดเหมือนไม่แยแสคนเป็นแม่ที่หยิบเอาผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตา
“ถ้าเอ็งมาจริงๆ ลุงจะยกสมบัติทั้งหมดให้เลย ช่างหัวไอ้เควินมัน” คริสโตเฟอร์ยังไม่หายเคืองที่ลูกชายตัวดีหนีไปอยู่ประเทศไทยกับหรั่ง
“ลูกเสือถือคติพจน์พูดจริงทำจริงนะพ่อ”
เควินตะโกนข้ามหัวน้องชาย
“ไอ้ลูกเวร” พ่อของเควินตะโกนด่าเขาทันที
“เฮ้ย! หลานรักใจเด็ดแบบนี้ น่าจะเกิดมาเป็นลูกอา” หรั่งตบเข่าฉาด พลางหัวเราะร่าด้วยความชอบใจ
“ผมไม่อยากได้สมบัติพี่ ขอแค่เก้าอี้นุ่มๆ ห้องทำงานเจ๋งๆ ก็พอครับ” หลุยส์หมุนเก้าอี้มาทางเควินแล้วยักคิ้วให้พี่ชาย
“พี่ยกให้นายเอง แลกกันกับอู่รถของอาหรั่ง” เควินยื่นข้อเสนอ
“ไม่ต้องไปถามมันให้เมื่อยปาก อาหรั่งยกให้เอ็งทุกอู่ ลูกผู้ชายพูดคำไหนคำนั้น”
หรั่งยังโผงผางแบบหนุ่มลูกทุ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนสไตล์ ตั้งแต่เป็นหนุ่มเล็กจนกลายเป็นหนุ่มใหญ่ตอนปลาย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปีพุทธศักราชเขาก็ยังคงความคลาสสิคไว้อย่างเหนียวแน่น
“หลุยส์จะไม่คิดถึงแม่เลยเหรอลูก”
ชมพู่ ‘พัสตราภรณ์ มัตซึโอกะ’ แม่ของหลุยส์ประท้วงเสียงเครือ
“โธ่แม่... ผมโตแล้ว เรียนจบก็ต้องทำงาน ถ้าแม่เป็นห่วงก็ไปอยู่กับผมที่ญี่ปุ่นสิครับ”
คำพูดของลูกชายคนเดียวทำให้ชมพู่ยิ้มหน้าบาน เลิกแกล้งร้องไห้ทันที
“เฮ้ยไอ้นี่ เมียกูก็ต้องอยู่กับกูสิวะ” หรั่งโหวกเหวกโวยวาย
“ผู้หญิงเขาอยากมากับผม ช่วยไม่ได้นะพ่อ” หลุยส์แบมือ ยักไหล่ให้พ่อของเขาอย่างไม่กลัวบาทาไซส์สี่สิบห้าของคนในจอคอมพิวเตอร์
“เมื่อไหร่จะคุยกันจบ ผมต้องรีบกลับไปดูร้าน มืดค่ำถนนก็เปลี่ยวผมไม่อยากเสียน้ำให้ผู้หญิงแปลกหน้า”
เควินเอานิ้วแหย่หู แล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้โยกทำท่าบิดขี้เกียจ เขาสรุปได้แล้วว่าสาระสำคัญไม่ได้อยู่ที่ใครเป็นลูกใครหรือสมบัติใครเป็นของใคร แค่ผู้ใหญ่อยากหาเรื่องคุยกับลูกหลานก็เท่านั้น
ชายหนุ่มเหลียวมองไปรอบ ๆ อาณาจักรของน้องชายที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์หรูหราและจัดวางไว้อย่างมีระเบียบใช้งานง่าย พลันสายตาสะดุดเข้ากับรูปถ่ายของเด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มแก้มยุ้ยคนหนึ่งที่ไม่ใช่คนในครอบครัวหรือญาติสนิทมิตรสหายของครอบครัวใจสะอาดที่เขารู้จัก เธอเป็นใครนะ?
“จะว่าไปแล้ว นายกับพี่ก็เกิดสลับที่จริง ๆ นั่นแหละ” เควินพึมพำ
หลุยส์กดวางสายสนทนาเขาหันมามองพี่ชาย ด้วยสีหน้าแปลกใจ “ทำไมพี่พูดแบบนั้น”
“นายเนี๊ยบทุกรูขุมขนเหมือนพ่อพี่เลย ส่วนพี่ก็คลาสสิคเหมือนอาหรั่ง” เควินผายมือไปรอบๆ ให้น้องชายมองตามสิ่งที่เขากำลังอธิบาย
หลุยส์เหลือบมองความเป็นตัวเองแล้วพยักหน้าเข้าใจ “อาจเป็นไปได้ว่าพ่อเราเข้าห้องผิด”
เควินหัวเราะในลำคอ เขาหยิบเสื้อแจ็คเก็ตที่พาดบนเบาะพิงหลังของเก้าโยกขึ้นมาสวมเตรียมตัวจะกลับไปดูร้านอย่างที่บอก
“เคลียร์กับสาว ๆ ของนายให้ครบทุกคนก่อนวันเดินทางว่าใครทำงานอยู่ร้าน เพราะเมื่อคืนที่เราไปเที่ยวบาร์มีไอ้กร๊วกที่ไหนไม่รู้มากล่าวหาว่าพี่อึ๊บแฟนมัน”
หลุยส์ถอนหายใจเสียงดัง พลางเอาฝ่ามือนวดขมับ “ผมไม่เคยคบใครจริงจังนะพี่”
“มิน่าล่ะ พึ่งมาอยู่เกาะได้แค่เดือนเดียวแต่พี่เกือบโดนต่อยฟรีตั้งสามหน”
“แค่เรื่องแลกหมัดไม่เห็นต้องวอรี่ พี่ชายผมเจ๋งอยู่แล้ว”
“ก็แหง๋ล่ะสิ อดีตแชมป์เหรียญทองวิ่งสี่คูณร้อยเมตรระดับประเทศนี่หว่า”
สองหนุ่มหัวเราะลูกคอกระเพื่อม
“เอ้ออ... แล้วนั่นรูปใคร” เควินชี้ไปที่รูปถ่ายเด็กผู้หญิงที่เขายังรู้สึกสะดุดใจไม่หาย
หลุยส์มองตามสายตาของพี่ชายแล้วยิ้มอ่อนโยนออกมา เมื่อนึกถึงคนในภาพซึ่งเกี่ยวข้องกับความทรงจำแสนสวีทหวานสดใสของเขาเมื่อครั้งสมัยนมพึ่งแตกพาน
“รักแรกของผม นางฟ้าแสนบริสุทธิ์ที่ติดปีกบินหนีผมไปแล้ว”
อะไรบางอย่างดึงดูดให้เควินเดินไปหยิบรูปในกรอบสวยหรูนั้นขึ้นมาดูให้ชัดเจน “ตอนเป็นเด็กยังน่ารักขนาดนี้ โตขึ้นคงสวยน่าเอาเป็นบ้า”
“หายไปตั้งเจ็ดปี แต่งงานมีลูกสองโหลแล้วมั้งป่านนี้”
หลุยส์น้ำเสียงละห้อย
“ถ้านายชอบเธอทำไมไม่ไปตามหาเธอวะ”
คิ้วของเควินขมวดเข้าหันกัน
“เราสองคนหมดเยื่อใยกันแล้ว อีกอย่างนะครับ วีนัสย้ายไปอยู่ฝรั่งเศสเพราะแม่เธอแต่งงานใหม่ และต่อให้ผมติดปีกบินตามเธอไป เธอก็คงไม่แลผมหรอกพี่”
“รูปหล่อพ่อรวยหน่วยก้านมหึมาแบบนายนี่ผู้หญิงที่ไหนจะไม่เอาวะ”
“เรื่องมันยาว” หลุยส์ถอนหายใจอย่างติดนิสัย
เควินวางกรอบรูปลงบนชั้นวางข้างผนังห้องแล้วหันมาซักไซร้น้องชาย “เล่ามา”
“ตอนเรียนจบม.ต้น เธอเขียนจดหมายรักถึงผม แล้วไอ้บอยกับแฟนมันขโมยจดหมายฉบับนั้นมาอ่านประจานบนเวที”
“เรื่องแค่นี้เอง ก็รู้ว่าใจตรงกันแล้วทำไมไม่แฮปปี้วะ”
“ไม่แค่นี้หรอกพี่ ผมดันปอดแหกและทำท่าปฏิเสธว่าไม่ได้ชอบวีนัสเพราะทุกคนหัวเราะเยาะเธอ เธอเลยร้องไห้แล้ววิ่งหนีกลับบ้านไป หลังจากวันนั้นก็ไม่มีใครเคยเห็นเธออีก จบเห่!”
“จบเห่จริง ๆ เสียใจด้วยนะ”
เควินตบไหล่น้องชายเป็นเชิงปลอบใจ
“ผมลืมเธอไปแล้ว แค่เอารูปมาแต่งห้องเพราะเห็นว่าเธอยิ้มสวยดี”
“จริงสิ? ถ้าพี่เจอว่าเธอยังโสด พี่จีบนะ” เควินนายล้งกระเซ้า
“ลูกชายพ่อหรั่งพูดคำไหนคำนั้นพี่” หลุยส์ยักคิ้ว
“พี่ขอรูปนี้ได้ไหม”
เควินบุ้ยใบ้ไปทางรูปถ่ายที่เขายังตัดใจไม่ลง
“เฮ้ย พี่ชอบกิ๊กเก่าผมหรือครับ” หลุยส์เอามือกุมท้องหัวเราะลั่น
“ไม่รู้สิ คงเพราะพึ่งเคยเห็นคนสวยกว่าแม่ตัวเอง”
“ชอบมากขนาดเอาไปเปรียบเทียบกับป้าโยเลยแฮะ ผมยกให้ทั้งรูปทั้งตัวจริงเลยพี่”
“ขอให้เจอตัวจริงเถอะ พี่จะล่อให้นางฟ้าปีกหัก บินหนีไปไหนไม่รอด”
“โห... สยองแทนวีนัส” หลุยส์มองรูปร่างสูงใหญ่เหมือนนายแบบของญาติผู้พี่ซึ่งมีเชื้อสายญี่ปุ่นอเมริกันแล้วทำท่าขนลุกขนพอง
“ชื่ออะไรนะ”
“วีนัส วรรณิศา อุดมสุข”
“จำชื่อสกุลได้แม่นขนาดนี้ ไม่รักเธอแล้วจริง ๆ นะ” ปกติเขาไม่ใช่คนจู้จี้ย้ำคิดย้ำทำ แต่กับเรื่องของเด็ก ๆ เควินถึงขนาดทวนถามน้องชายรอบที่สาม
“ไม่แล้วจริงๆ พี่ ผมถูกผู้หญิงย่ำยีจนหัวใจยับเยินขนาดนี้ คงไม่มีฟีลลิ่งอินเลิฟกับใครอีก แต่ถ้าเป็นความสัมพันธ์แบบอินเบดรูมอย่างเดียวผมโอเค” หลุยส์ยกมือขึ้นมาทำสัญลักษณ์นิ้วชี้กับนิ้วโป้งชนกัน
“พี่เอานะ”
ชายหนุ่มเดินไปดึงรูปถ่ายออกมาจากกรอบแล้วยัดใส่กระเป๋าด้านในเสื้อแจ็คเก็ต ก่อนจะยกมือขึ้นกลางอากาศให้หลุยส์แทนการบอกลาและหมุนตัวออกไปจากห้อง
“ขับรถดี ๆ พี่ชาย”
เกาะพาราไดซ์คงไม่ใช่สวรรค์สำหรับเธอ เพราะขับรถบนถนนสายเปลี่ยวเสียวผีหลอกซึ่งมีแต่ป่าไม้ล้อมรอบด้านมาได้เพียงไม่กี่กิโลเมตรวีนัสก็ประสบอุบัติเหตุ ส่วนคู่กรณีนั่นเผ่นหนีไปไม่เหลียวหลังกลับมาเพื่อถามไถ่สารทุกข์หรือหยิบยื่นน้ำใจให้ความช่วยเหลือเธอแม้แต่น้อย ซ้ำร้ายเทวดาบนฟ้ายังสาดเทสายฝนกระหน่ำลงมาซ้ำเติมคนดวงจู๋แบบไม่ลืมหูลืมตาและโทรศัพท์ก็ดันไม่มีสัญญาณมันซะอย่างนั้น
เมื่อหมดหนทางจะช่วยตัวเอง หญิงสาวตัดสินใจลงจากรถออกไปตากฝนเพื่อจะขอความช่วยเหลือจากพลเมืองใจดี ซึ่งอาจบังเอิญขับรถผ่านมาแถวนี้และเธอก็ไม่ผิดหวังเมื่อรถโฟร์วีลคันแรกที่วิ่งเข้าโค้งมาชะลอความเร็วลง
“มีอะไรให้ช่วยไหมครับ”
วีนัสขมวดคิ้วมุ่น เมื่อชายหนุ่มกดปุ่มเลื่อนกระจกฝั่งซ้ายมือของเขาลง ทำไมเธอรู้สึกเหมือนกับว่าเคยเห็นหน้าหล่อ ๆ แบบนี้ที่ไหนมาก่อน
“อย่างที่คุณเห็น... คงไม่มีอะไรให้ต้องช่วยมั้งคะ”
เธอผายมือไปทางรถมินิคูเปอร์เอสที่ซื้อต่อจากปาริฉัตรเพื่อนรักเพื่อนแท้คนเดียวของเธอ ซึ่งทั้งคู่รู้จักกันตอนเรียนไฮสคูลในปารีสด้วยราคามิตรภาพ
สมน้ำหน้าเขานักที่ถามอะไรโง่ ๆ พรรณนั้นกับเธอ เควินเผลออมยิ้มกับคำตอบยียวนของสาวสวยนิรนามเจ้าของรูปร่างสุดเซ็กซี่ต้นแบบสาวในฝันของชายหนุ่ม
ผู้หญิงคนนี้น่าสนใจแฮะ - เควินคิด
พลางลอบมองความงามท่ามกลางสายฝนที่ทำให้คนหนุ่มพลังม้าอย่างเขาเกิดความคิดฟุ้งซ่านไปเรื่อยเปื่อยได้แม้ในยามหน้าสิ่วหน้าขวาน
“จะมองนมฉันอีกนานไหมคุณ”
เธอเท้าสะเอวและถลึงตาใส่เขาด้วยความโมโหหลังจากนับหนึ่งถึงสิบครบถ้วนทุกจำนวนตัวเลขแล้ว ซึ่งคำพูดขวานผ่าซากของเธอในคราวนี้ทำเอาชายหนุ่มถึงกับสะดุ้งจนลืมเก๊กหล่อ
“นมสวย เอ้ย! ผมคิดว่าเราคงต้องลากรถของคุณขึ้นมาก่อนที่ระดับน้ำคลองจะเพิ่มมากกว่านี้”
ความที่เขาตัดสินใจรวดเร็วราวกับมีประสบการณ์ทำนองนี้มาอย่างโชคโชนทำให้วีนัสนึกสงสัย เธอยกมือขึ้นบังสายฝนเพื่อเพ่งสายตาอ่านสติ๊กเกอร์ที่เห็นลาง ๆ ทางหางตาซึ่งติดอยู่ข้างตัวถังรถยนต์โฟร์วีลรุ่นล่าสุดคันงาม
หญิงสาวอ้าปากหวอตอนถึงบางอ้อ เพราะเข้าใจว่าเธอจุดใต้ตำตอกับศัตรูคู่อาฆาตเข้าจังเบ่อเร่อ !
“‘VJ Garage’ คุณเป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์เหรอคะ”
“ไม่ใช่ครับ ผมเป็นแค่ลูกหลานเจ้าของอู่” เควินถ่อมตัว
หน้าหล่อพิมพ์นิยมแบบนี้ แถมพูดภาษาไทยได้ชัดแจ๋ว
ชัดเลยล่ะ! ใช่จริงๆ เขาคือนายหลุยส์ ‘วีระเชษฐ์ ใจสะอาด’ ลูกชายคนเดียวของนายช่างหรั่ง ‘วีระชาติ ใจสะอาด’ เจ้าของอู่ VJ Garage ที่ใช้ตัวย่อตามอักษรตัวแรกของชื่อกับนามสกุลของสองพ่อลูก วีนัสคิดเองเออเองไปตามหลักฐานและรูปพรรณสัญฐานบุคคลที่คลับคล้ายคลับคลาในความทรงจำของเธอ
ทำไมเธอต้องมาเจอเขาในวันวิปโยคด้วยนะ! หญิงสาวกรอกตากับความบังเอิญที่ไม่ปรารถนาให้มันเกิด ทว่าเธอไม่มีทางเลือกอื่นแล้วเมื่อชายหนุ่มดับเครื่องยนต์และเปิดประตูรถลงมาพร้อมกับนำเครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้ในยามเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉินหรือมีรถเสียบนท้องถนน
เขาตั้งป้ายสามเหลี่ยมสะท้อนแสงบนไหล่ทางซึ่งห่างจากจุดที่เกิดเหตุสามสิบเมตรเอาไว้เตือนรถคันอื่น ๆ แล้วทำการต่ออุปกรณ์ลากรถเข้ากับรถทั้งสองคันด้วยความคล่องแคล่วอย่างมืออาชีพ
วีนัสมองการเคลื่อนไหวอันทรงพลังดุดันและมีเสน่ห์ของชายหนุ่มด้วยความรู้สึกทึ่ง แทบไม่ต้องพูดถึงเสื้อยืดคอวีสีขาวเนื้อบางที่เขาสวม เมื่อมันเปียกฝนก็ไม่ต่างอะไรกับเขาเปลือยท่อนบนอวดความเซ็กซี่เร้าใจที่หาดูได้เฉพาะในคลับออกกำลังกายของผู้ชายรักสุขภาพ เธอได้แต่หวังว่าเลือดกำเดาจะไม่ทะลักออกมาจากโพรงจมูก
วีนัสแพ้ทางเขาไม่ว่าจะในอดีตหรือปัจจุบัน สำหรับเธอแล้ว... ผู้ชายคนนี้เปรียบเสมือนผลไม้ต้องห้ามในสวนเอเดน เขาคือสิ่งมีชีวิตแสนยั่วยวนน่าหม่ำ เขาเป็นบาปแสนหวานที่เธอไม่ควรเผลอไผลหลงระเริงเพราะความปรารถนาชั่ววูบ
“คุณผู้หญิง คุณ! คุณครับ! ”
เสียงตะโกนแข่งสายฝนของเควินทำให้เธอสะดุ้งตื่นจากภวังค์
“คะ! ค่ะ”
“คุณเป็นอะไรหรือเปล่า ? ”
รู้อยู่เต็มอกแหละว่าเธอไม่เป็นอะไร แต่เควินก็ยังฉวยโอกาสสำรวจทรวดทรงองค์เอวน่าประสงค์ร้ายของหญิงสาว เขาแสร้งทำเป็นห่วงเป็นใยเสมือนว่าเธออาจได้รับบาดเจ็บหรือสมองกระทบกระเทือนจากอุบัติเหตุ... อกหนอ เอวหนอ สะโพกหนอ ขาขาวหนอ ฯลฯ
“ฉันสบายดีค่ะ”
หญิงสาวเอามือลูบหน้าที่เปียกน้ำฝน เธอใช้นิ้วนวดคลึงสันจมูกเพื่อเรียกสติที่เพี้ยนไปเพราะถูกดึงดูดใจด้วยความหล่อเหลาของซาตานร้ายในคราบเทพบุตรตัวเป็น ๆ ซึ่งการทำแบบนั้นเท่ากับวีนัสใช้แขนทั้งสองข้างดันก้อนเนื้ออวบอัดขนาดขัดแย้งรูปร่างแบบบางราวตุ๊กตาบาร์บี้ของเธอเบียดชิดกัน
สำหรับชายหนุ่มผู้มีเลือดเนื้อเต็มไปด้วยความรู้สึกรู้สม ไม่มีภาพวิวใดน่ามองมากไปกว่าหุบเหวขาวผ่องระหว่างร่องอกของสาวสวยทรงเสน่ห์ที่ทำให้เควินเกิดอาการปอดแหกจนไม่กล้าถามไถ่ชื่อเสียงเรียงนามคนนี้
“ผมต้องขับคุณ เอ้ย! คุณต้องไปขับรถลาก ส่วนผมจะขับรถของคุณขึ้นมาจากคลอง”
เขาชี้นิ้วโป้งไปที่รถโฟร์วีลคันมหึมาของตัวเองซึ่งมีขนาดแตกต่างกับรถซิตี้คาร์คันเล็กของหญิงสาว
วีนัสแอบยอมรับอย่างหน้าไม่อายว่ารู้สึกดีเหลือเกินที่ได้นั่งบนเบาะรถที่มีอุ่นไอจากกายชายหนุ่ม มันแทบไม่ต่างอะไรนักกับการนั่งตักกว้างแข็งแรงของเจ้าตัว แล้วก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงเขาว่าชายหนุ่มมีปฏิกิริยาอย่างไรบ้างตอนที่นั่งบนเบาะรถของเธอ
“ยัยบ้า! เลิกฟุ้งซ่านซะที” หญิงสาวด่าตัวเองที่เผลอคิดหมกมุ่น แล้วหันมาจัดการปรับเบาะเข้าไปใกล้กับคอนโซลรถเพราะช่วงขาของเขายาวมากกว่าเธอหลายนิ้ว
ความคิดนอกลู่นอกทางของวีนัสได้ถูกตัดขาดอย่างสิ้นเชิง เมื่อเสียงตะโกนของเควินดังขึ้น
“พร้อมไหมครับ”
“พร้อมค่ะ”
✡︎ ✡︎ ✡︎ ✡︎ ✡︎