ตอนที่ 10
ค่ำคืนแรกของการธุดงค์ผ่านพ้นไป กระทั่งเช้าวันใหม่ หลวงตาสายจึงพาพระยอดเดินลัดเลาะต่อไปอย่างไม่คิดที่จะหาจุดหมายหยุดสักที แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้พระยอดรับรู้คือ เส้นทางเหล่านี้เขาเคยมาเมื่อหลายปีก่อน
มันคือเส้นทางมุ่งสู่ถ้ำที่เก็บคัมภีร์โบราณกล่องนั้นนั่นเอง...
กว่าสองวัน จึงเดินทางไปถึง สภาพโดยรอบของผืนป่าตรงนั้น ยังคงไม่ต่างไปจากเมื่อหลายปีก่อนที่เคยมา ต้นไม้หลายต้นยังคงเดิม แผกไปบ้างเมื่อต้นเล็กต้นน้อยเติบโตขึ้นสูง ในขณะต้นสูงกลายเป็นไม้ไร้ใบ สละชีวิตตระหง่านอยู่ท่ามกลางไม้อื่นๆ รอการโค่นหักลงเมื่อถึงเวลา
จุดที่เคยปักกลดยังคงมีร่องรอยของกองไฟอยู่ ก้อนหินสามก้อนหรือก้อนเส้า ยังคงตั้งอยู่จุดเดิม เพียงแค่หาฟืนมาเพิ่มเติม และก่อไฟ ก็เพียงพอต่อการหุงต้มและให้ความอบอุ่นในการธุดงค์ครั้งนี้แล้ว
“ครั้งนี้หลวงตาจะเข้าไปเจริญภาวนาในถ้ำไหมขอรับ”
พระยอดสอบถาม ในขณะหลวงตาสายพยักหน้า แล้วคลี่ยิ้ม
“พระก็ควรจะไปฝึกร่วมด้วยนะ คราวนี้อาจจะนานหน่อย”
“ขอรับ...”
พระยอดน้อมรับคำนั้นแล้วเดินแยกไปจัดการกับกลดของตน ปัดกวาดพื้นที่แห่งนั้นเรียบร้อย จึงกลับมาช่วยหลวงตาในการตั้งกลด
“นานปีผ่านไปเท่าใด กำลังวังชาเหมือนจะลดลงเรื่อยๆ นี่แหละหนาชีวิต...”
เวลาผ่านไป ความมืดโรยตัวลงมา หลังเจริญกรรมฐานเรียบร้อย หลวงตาจึงชวนพระยอดมุ่งหน้าไปยังถ้ำคืนนั้นเลย คล้ายมีบางสิ่งบางอย่างเข้ามาสั่นคลอนให้ท่านตัดสินใจในกะทันหัน
“มีอะไรหรือเปล่าครับหลวงตา...”
“ตามมาอย่างเงียบๆ เถิด...”
สองภิกษุผู้อุทิศกายใจให้กับพระศาสนาเดินติดตามกันมุ่งหน้าสู่โถงถ้ำที่อยู่ใกล้ๆ ในมือมีไฟฉายและคบเพลิงเพื่อใช้ในการส่องสว่างนำทาง กระทั่งเข้าไปในถ้ำ หลวงตาเงยหน้าขึ้นมองผนังถ้ำจุดหนึ่งอย่างสำรวม แล้วหลับตาลง
“คงถึงวาระของเขาแล้ว ช่วยแผ่เมตตาให้เขาเถิดพระ...”
ในจังหวะนั้น พระยอดยังไม่เข้าใจในสิ่งที่หลวงตาบอก แต่กระนั้นก็ยังทำตามอย่างไม่เกี่ยงงอน กระทั่งท่ามกลางดวงจิตอันว่างเปล่า กลับได้ยินเสียงสาธุแทรกผ่านเข้ามากระทบโสต
รับรู้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างเคลื่อนไหวบางเบา พลังงานนั้นคล้ายล้ากำลังเต็มที ด้วยดวงจิตแห่งความบริสุทธิ์ เผื่อแผ่ให้กับสัตว์โลกผู้พบกับวิบากอันหนักหนา แต่บัดนี้กำลังผ่านช่วงนั้นไปแล้วมุ่งสู่เส้นทางแห่งกรรมต่อไป
ในความมืด ภาพเงาเลือนรางของอสุรกายตนหนึ่ง ปรากฏขึ้นตำแหน่งผนังถ้ำตรงหน้าสองภิกษุที่กำลังยืนแผ่เมตตาให้เขาอยู่นั้น อสุรกายยกมือขึ้นพนมไหว้ ดวงตาเรืองแสงคล้ายมีบางสิ่งบางอย่างไหลอาบสองแก้ม ปีติยินดีต่อบุญที่ได้รับ ก่อนจะค่อยๆ สลายหายไปทีละน้อย ทีละน้อย...