ข่าวหมอนลินกำราบสองหนุ่มที่ซุ้มยาดองแพร่กระจายไปทั่วฟาร์มศิลป์ทอง สองพี่น้องฝาแฝดยืนมองร่างเล็กเดินลงมาจากที่พักด้วยความหวาดหวั่น
“ไปสิค่ะ ยืนมองหาพระแสงอะไร”
“ครับๆ ไปครับหมอลิน”
รักและยมรีบวิ่งนำไปอย่างกลัวตาย วันนี้คุณหมอประจำฟาร์มจะทำการตรวจสุขภาพโคนม โคเนื้อ และเหล่าบรรดาลูกวัว พร้อมทั้งฉีดยาบำรุง
คนตัวเล็กปาดเหงื่อบนใบหน้าออกลวกๆ เพราะสภาพอากาศร้อนระอุ ยิ่งเจอวัวที่แผลงฤทธิ์ทำเอาเหนื่อยไม่ใช่น้อย
“หมอลินสวัสดีครับ”
คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมองคนที่เข้ามาทักทายด้วยรอยยิ้ม หญิงสาวยกมือไหว้พ่อเลี้ยงเจ้าของฟาร์มไปตามมารยาท
“สวัสดีค่ะพ่อเลี้ยงศิลา”
“พวกรักยมแกล้งหมอลินกันหรือเปล่าครับ”
ศิลาเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง สองพี่น้องฝาแฝดมีนิสัยขี้เล่นเขากลัวว่าจะมาทำตัวไม่ดีใส่หมอสาว เธอตัวนิดเดียวแถมยังมาอยู่ไกลบ้านต่างจังหวัดแบบนี้อีก
“เปล่านะครับพ่อเลี้ยง ใครจะกล้าไปทำหมอลินเขา!”
รักและยมตอบเป็นเสียงเดียวกัน ยิ่งเห็นรอยยิ้มหวานอาบยาพิษนั้นพวกเขายิ่งกลัวเข้าไปใหญ่ มีแต่เจ้านายนะสิที่ไม่รู้ว่าคนตรงหน้าแสบสันขนาดไหน
“ดีแล้ว ฝากดูแลหมอลินเขาด้วยนะรักยม”
พ่อเลี้ยงหนุ่มยกยิ้มหวานเป็นมิตรให้หญิงสาวไปเล็กน้อย ก่อนจะสาวเท้าออกไปหาวัวคู่ใจที่เขามักจะเข้ามาดูก่อนไปโรงงานเสมอ ดวงตาคู่คมหันกลับไปมองลูกน้องฝาแฝดวิ่งเข้ามาหา พร้อมขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
“มาทำไมรักยม”
“จะไปดูน้องมะลิด้วยครับ”
เป็นรักแฝดผู้พี่ที่เอ่ยตอบกลับไป พวกเขาเดินจับมือตามพ่อเลี้ยงหนุ่มเข้ามายังตัวอาคารที่ใช้สำหรับดูแลวัวแม่พันธุ์ ใครจะกล้าบอกเจ้านายว่ากลัวหมอสาวจนไม่กล้าอยู่ด้วย
“ทำไมน้องมะลิเป็นแบบนี้”
ศิลาเอ่ยถามด้วยความสงสัย หลายวันมานี้แม่โคท้องแก่มีอาการแปลกๆ ไม่ร่าเริงเหมือนเมื่อก่อนแถมยังอารมณ์ฉุนเฉลียวหงุดหงิดง่ายอีก มือหนารีบเข้าไปลูบหัวสัตว์เลี้ยงตัวโปรดด้วยความอ่อนโยน
“น้องมะลิครับ”
โคเพศเมียโน้มใบหน้าคลอเคลียพ่อเลี้ยงหนุ่มไม่หยุด รักและยมที่ยืนมองอยู่ห่างๆ ไม่กล้าเปิดปากบอกเจ้านายว่าแม่วัวสุดรักสุดหวงต้องเจอกับอะไรบ้างในแต่ล่ะวัน
“หรือเราจะบอกพ่อเลี้ยงไปดีไอ้ยม ว่ามะลิโดนหมอลินกำราบ”
สองพี่น้องฝาแฝดกระซิบกระซาบกันสองคนเมื่อเห็นอาการของสัตว์ตรงหน้า ปกติเจ้ามะลิก็อารมณ์ดีอยู่หรอกหากได้อยู่กับเจ้านาย แต่พอถึงเวลาที่ต้องพบกับหมอประจำฟาร์มอย่างนลินก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังตีนทันที
“กล้าบอกเหรอ โดนหมอลินกระทืบแน่”
“เอ่อ พ่อเลี้ยงครับ”
“ว่าไง”
“พวกผมว่าน้องมะลิมันไม่ชอบอยู่กับคนแปลกหน้า มันจะมีอาการแบบนี้เวลาอยู่กับหมอลินครับ”
เป็นยมที่กล้าเอ่ยปากพูดขึ้น ในตอนนี้หากแยกหมอลินออกจากน้องมะลิได้คงจะเป็นการดีต่อสุขภาพจิตของแม่วัวท้องแก่
“จริงเหรอ”
“ใช่ครับๆ”
“งั้นก็ต้องยิ่งให้หมอลินมาดูแล น้องมะลิจะได้คุ้นเคย”
ทั้งสองลอบกลืนน้ำลายลงคอเมื่อได้ยินแบบนั้น พวกเขาหันมองเจ้ามะลิที่ยืนทำหน้าเศร้าสร้อยอยู่ในคอกด้วยความเห็นใจ
“แต่รักว่ากันหมอลินออกจากน้องมะลิดีกว่านะครับเพราะ”
“เพราะอะไรเหรอคะ”
เฮือก!
รักและยมค่อยๆ หันมองหมอประจำฟาร์มคนสวยที่ยืนฉีกยิ้มกว้างให้ด้วยความเกรงกลัว พวกเขารีบขยับตัวไปหลบอยู่ด้านหลังพ่อเลี้ยงหนุ่ม เสียชาติเกิดจริงๆ มากลัวผู้หญิงตัวเล็กๆ แบบนี้
“หรือคิดว่าหนูลินจะดูแลน้องมะลิได้ไม่ดีคะ”
คนตัวเล็กแสร้งก้มหน้าตัดพ้อตัวเอง เรียกความน่าสงสารจากพ่อเลี้ยงหนุ่มเจ้าของฟาร์มโคได้ไม่ใช่น้อย ศิลารีบเดินมาใกล้หมอสาวแล้วจับไหล่ปลอบเธอด้วยความอ่อนโยน
“คิดอะไรอย่างนั้นครับหมอลิน”
ใบหน้าสวยเงยขึ้นมองร่างสูงตรงหน้า หญิงสาวยกยิ้มกว้างอีกครั้งก่อนจะหันสายตามองสองพี่น้องอย่างคาดโทษ เธอรีบเดินเข้าไปใกล้ศัตรูคู่แค้นอย่างเจ้ามะลิ แม่วัวท้องแก่ที่ยืนมองตาขวาง
“ผมฝากหมอลินดูแลน้องมะลิอย่างใกล้ชิดหน่อยนะครับ”
“ได้เลยค่ะ หนูลินจะดูแลอย่างใกล้ชิดเลยค่ะ”
“มอออ!”
“แหม ดูสิคะน้องมะลิคงจะดีใจมาก”
ศิลายกยิ้มหวานให้คนตรงหน้าเมื่อเห็นเธอใช้มือลูบศีรษะสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของเขาด้วยความอ่อนโยน มะลิท้องแก่คงจะมีอารมณ์ที่ค่อนข้างแปรปรวน หากมีคุณหมอมาอยู่ดูแลคงจะไม่มีอะไรให้ต้องน่าเป็นห่วง
ทันทีที่พ่อเลี้ยงหนุ่มเดินออกไปแล้ว นลินรีบชักมือกลับทันทีเธอยืนกอดอกจ้องแม่วัวที่สะบัดหน้าใส่ด้วยความหมั่นไส้
“ได้ยินหรือยังไอ้เจ้ามะลิ ว่าพ่อแกให้ฉันดูแลอย่างใกล้ชิด!”
“มอออ!”
“เพราะฉะนั้นทำตัวให้มันดีๆ หน่อย”
“มอออ!”
“หน็อย ไอ้วัวนิสัยเสีย!”
รักและยมมองแม่วัวท้องแก่พ่นลมหายใจฟึดฟัดออกมาด้วยความโกรธ สลับกับหมอประจำฟาร์มที่ยืนสั่งสอนอยู่ไม่ไกล พวกเขาอยากจะให้พ่อเลี้ยงมาเห็นภาพนี้จริงๆ เลย
หมอสาวแสนบอบบางมันคือภาพหลอกตา!
“มายืนมองหน้า อยากตายหรือไง!”
นลินหันไปแกล้งขู่สองพี่น้องที่ยืนตัวสั่นเทาอย่างกับเจ้าเข้าอยู่ข้างๆ ก่อนจะเห็นพวกเขารีบวิ่งหน้าตั้งออกไปด้วยความกลัว อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเห็นความเพี้ยนอะไรอย่างนั้น
“แกก็อีกตัวไอ้มะลิ มองหน้าอยากได้ตีนหรือไง!”
“มออออ!”
ร่างบอบบางรีบเก็บของใส่ลงในกระเป๋าปฐมพยาบาล ก่อนจะเดินทอดน่องกลับที่พักในช่วงเย็นของวัน ดวงตาคู่สวยมองเห็นคุณนายใหญ่ของฟาร์มยืนคุมคนงานอยู่หน้าบ้าน หมอสาวรีบเดินเข้าไปทักทายอย่างเป็นมิตร
“คุณนายใหญ่สวัสดีค่ะ”
“อ้าว สวัสดีจ้ะหนูลิน ไม่ต้องเรียกคุณนายหรอกเรียกป้าเหมือนเดิมเถอะ”
“หนูลินไม่กล้าหรอกค่ะ คุณนายใหญ่เป็นเจ้านาย”
“เรียกป้านั่นแหละดีแล้ว”
“ค่ะคุณป้า”
นลินยกยิ้มหวานให้คนตรงหน้า คุณนายใหญ่ของฟาร์มใจดีมากแถมยังสวยมากด้วย ถึงว่าพ่อเลี้ยงศิลาหน้าตาดีหล่อละลายจนสาวๆ คนงานของฟาร์มเอ่ยถึงไม่เว้นในแต่ละวัน
“หนูลินทานข้าวหรือยัง”
“ยังเลยค่ะ หนูลินเพิ่งตรวจอาการพวกลูกวัวในฟาร์มเสร็จค่ะ”
“งั้นมาทานด้วยกันนะ ป้าจะชวนหนูหลายรอบแล้วแต่ลืมทุกที”
หญิงสาวรีบยกมือปฏิเสธด้วยความเกรงใจแต่ถูกเจ้านายลากตัวเข้ามาในบ้าน แถมยังสั่งคนให้ไปตามพ่อเลี้ยงศิลป์ทองและพ่อเลี้ยงศิลามาอีก เพราะกลัวเธอจะรอนาน
นลินยกยิ้มหวานให้คนที่เพิ่งเดินเข้ามาใหม่ ก่อนจะรีบยกมือสวัสดีด้วยความนอบน้อม ล้วนเรียกคะแนนความพึงพอใจจากคุณนายวรรณได้เต็มพิกัด
“วันนี้คงจะเจริญอาหารไม่น้อย มีหมอลินมานั่งทานด้วยกัน”
พ่อเลี้ยงศิลป์ทองมองเด็กสาวรุ่นลูกด้วยความเอ็นดู ยิ่งภรรยาคนสวยมาเล่าให้ฟังว่าคุณหมอประจำฟาร์มคนใหม่ช่วยเหลือตอนโดนกระชากกระเป๋ายิ่งเพิ่มความรู้สึกชื่นชมเข้าไปอีก
“ศิลานั่งข้างหนูลินเลยลูก”
“ครับแม่”
พ่อเลี้ยงหนุ่มเดินมาทรุดนั่งข้างๆ คนตัวเล็ก ก่อนจะส่งยิ้มทักทายอย่างเช่นเคย ภาพตรงหน้าล้วนอยู่ในสายตาของสองพี่น้องคู่แฝดที่ยืนมองอยู่ไม่ไกล
“มึงคิดเหมือนกูไหมไอ้ยม”
“ถ้าเป็นอย่างที่เราคิด ความฉิบหายมาเยือนแน่”
รักและยมร้อนๆ หนาวๆ อย่างบอกไม่ถูกเมื่อทอดมองเจ้านายนั่งทานข้าวกับคุณหมอสาว ยิ่งเห็นคุณนายใหญ่ของฟาร์มใช้ให้ลูกชายตักอาหารเอาอกเอาใจหญิงสาวตรงหน้า พวกเขาก็แทบจะร้องไห้ออกมาอยู่รอมร่อ
ขนาดยังไม่เป็นนายหญิงของฟาร์มยังน่ากลัวขนาดนี้ พ่อเลี้ยงศิลาของไอ้รักและไอ้ยมจะรอดไหมเนี้ย!
.
.
.