ใบหน้าของท่านนักพรตเฒ่าที่ระบายยิ้มนิด ๆ นั้นดูช่างมีเมตตา ต่างกับอีกคนที่ยืนถมึงทึงอยู่เบื้องหลัง “ ท่านนักพรตยืนอยู่ตรงนี้ ยังไม่รู้จักคารวะ ” เขาตะคอก แน่ใจเหลือเกินว่านางผู้นี้เพียงละม้ายคล้ายท่านหญิงเท่านั้น แต่กิริยามารยาทแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว “ คารวะท่านนักพรต ” นางพูดไปส่ง ๆ แต่ท่านผู้เฒ่าก็ยังยิ้มตอบอย่างใจดี “ ยินดีที่ได้พบแม่นาง ” ก่อนที่ท่านจะจ้องนางเขม็งอยู่เนิ่นนานกระทั่งนางต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาไปก่อน “ เจ้ามาที่นี่ประสงค์สิ่งใด ” ท่านนักพรตถาม “ ข้ามิได้ประสงค์สิ่งใดทั้งนั้น ” นางว่า “ เห็นหรือไม่เล่า ขนาดท่านนักพรตยังรู้เลยว่าเจ้านั้นหาใช่ท่านหญิงไม่ จะเผยตัวออกมาดี ๆ หรือจะให้กระบี่ของข้าได้อาบโลหิตของเจ้า ” องครักษ์หนุ่มตวาดขึ้นอีกที แต่ท่านนักพรตแตะแขนของเขาเอาไว้ “ ช้าก่อนเถิดหลิวเหว่ย มันหาได้เป็นเ