เขารู้ดีว่าชายาคนใหม่ของท่านอ๋องนั้นมิธรรมดาเลย
ครั้งหนึ่งเขาได้ยินเสียงแปลก ๆ ระหว่างที่ท่านหมอหลวงกำลังทำการรักษาอยู่ในห้องของท่านอ๋อง องครักษ์ที่ถูกสั่งให้รออยู่ด้านนอกจึงเกิดข้อสงสัยขึ้น
รักษากันเช่นไร จึงมีเสียงคล้ายการเสพสม ?
เขาเองก็เป็นชายฉกรรจ์ เมื่อครั้งแตกเนื้อหนุ่ม ยังมิได้รักกับท่านหญิงหลันฮวา ก็เคยอยากรู้อยากเห็นไปใช้บริการนางโลมเพื่อดับอารมณ์อันคุกรุ่นทางเพศอยู่หลายครั้งหลายครา
เสียงเหล่านั้นมันจะเกิดขึ้นขณะทำการรักษาได้อย่างไร ?
คิดได้ดังนั้นองครักษ์หนุ่มก็ย่องไปยังหน้าต่าง แล้วแอบแนบสายตาลงที่รอยแยกเล็ก ๆ ก่อนดวงตาของเขาจะเบิกโพลงอย่างตกใจ
ร่างของหมอหลวงเฒ่านั่งอยู่บนเก้าอี้ ส่วนร่างอวบของชายาท่านอ๋องนั้นนั่งซ้อนอยู่บนตัก แล้วยกตัวโยกขย่มท่านหมอขึ้นลงไม่หยุด สองมือเหี่ยวของหมอเฒ่าสอดมาคลึงเคล้าเต้านมของนางแรง ๆ
โดยมีเตียงของท่านอ๋องตั้งอยู่เบื้องหน้า !
เขารีบถอนสายตาจากภาพอุจาดนั้นทันที รู้ดีแก่ใจว่าอิงเยี่ยชายาคนใหม่เลวทรามต่ำช้า แต่เขาจะทำเช่นไรได้เล่า
ในเมื่อท่านอ๋องก็คงเห็นภาพนั้นด้วยตัวเองอย่างเต็มตา แต่ท่านก็มิสามารถตื่นฟื้นมาทำสิ่งใดได้
มิเพียงแต่ท่านหมอหรอก กระทั่งกับตัวเขาเอง อิงเยี่ยก็ยังเคยยวนยั่ว แต่เขาไม่สนใจ
ขณะที่เขากำลังไตร่ตรองอยู่ว่าจะแก้ปัญหาเช่นไร ท่านหญิงคู่รักของตนก็มาพลอยมีอาการเช่นนี้อีก ตอนแรกเขาคิดแต่เพียงว่านางมักมากในกามแต่ตอนนี้ข้อที่ว่านางวางยาเพื่อหวังจะฮุบสมบัติมันคงจะเป็นจริง แต่ข้อนั้นเอาไว้ก่อนเถอะ ตอนนี้สิ่งที่ต้องแก้ไขคือ หาวิธีรักษาให้กับหญิงสาวอันเป็นที่รักเบื้องหน้าเสียก่อน
“ ข้าจะไม่ปล่อยให้ท่านหญิงเป็นอะไรไปอย่างเด็ดขาด เราจะแต่งงานกัน มีลูกห้าคน ท่านหญิงเคยพูดกับข้า จำได้หรือไม่เล่า ” ชายหนุ่มครวญคร่ำ นั่นยิ่งทำให้อาซินสาวใช้ยิ่งน้ำตาไหล ในที่สุดนางก็ตัดสินใจพูดออกไป มันเป็นฟางเส้นสุดท้ายแล้วในขณะนี้
“ ท่านองครักษ์เจ้าคะ ข้าได้ยินมาว่ามีนักพรตเทวดาท่านหนึ่งตั้งสำนักอยู่ในหุบเขาไข่มุกดำ ท่านเก่งมากเรื่อง แก้มนต์ดำภูตผี แม้ผู้ใดถูกวางยาท่านก็มีทางแก้เจ้าค่ะ ” หากเป็นเมื่อก่อน องครักษ์หนุ่มคงจะกล่าวว่าสาวใช้เหลวไหล แต่ตอนนี้เขายอมทำทุกอย่างเพื่อให้หญิงคนรักฟื้นขึ้นมาสบตากันอีกครั้งให้ได้
“ อยู่ที่ใด หุบเขาไข่มุกดำอยู่ที่ใด เจ้าจงบอกข้ามา ”
“ ว่ากันว่าห่างไปจากเมืองเรา มุ่งตรงไปทางทักษิณ เลาะเลียบแม่น้ำกวางโหวไปเรื่อย ๆ ผู้คนร่ำลือว่าทางเข้าของหุบเขานั้น จะมีต้นไม้ต้นหนึ่งที่ออกใบเป็นสีดำทั้งต้น ผลของมันเปล่งประกายราวไข่มุกยามต้องแสงจันทร์ นั่นจึงเป็นที่มาของหุบเขาไข่มุกดำ แต่ว่ากันว่าภูตผีปีศาจดุร้ายนัก ข้าเกรงว่า... ”
“ ข้ามิกลัวเกรงอันใดทั้งนั้น อาซิน ต่อให้บุกน้ำลุยไฟ ข้าก็จะไป และจะนำท่านนักพรตเทวดาท่านนั้นมารักษานางให้จงได้ ”
“ เจ้าค่ะ ข้าเชื่อเช่นนั้นว่าท่านต้องรอดปลอดภัยกลับมา ” พลันร่างสูงใหญ่ขององครักษ์หนุ่มก็ลุกพรวดขึ้น อาซินสะดุ้งด้วยความตกใจ
“ นั่นท่านจะไปนอนหรือเจ้าคะ ” เขาส่ายศีรษะ
“ ข้าจะไปหุบเขาไข่มุกดำ ”
“ ฮะ ตอนนี้เลยหรือเจ้าคะ ! ”
“ ช้าไม่ได้แล้วอาซิน ยิ่งไปไวเท่าไร โอกาสที่ท่านหญิงจะฟื้นขึ้นมาได้ก็มีมากขึ้นเท่านั้น ข้าเชื่อในกระบี่และวรยุทธของตน และรวมถึงหัวใจรักภักดีที่ข้ามีให้นางด้วย ” องครักษ์หนุ่มว่าก่อนจะก้มลงไปประทับจูบที่หน้าผากของท่านหญิงเบา ๆ สาวใช้หันหน้าหนีด้วยความกระดากอาย
“ ท่านหญิง ท่านต้องเข้มแข็งนะพะย่ะค่ะ รอกระหม่อมกลับมา ” แล้วเขาก็หันไปสั่งกับสาวใช้
“ อาซิน เจ้าจงดูแลท่านหญิงให้ดี อย่าให้ผู้ใดเข้ามาในห้องเป็นอันขาด โดยเฉพาะชายาใหม่ผู้นั้น ไม่เกินสามราตรีข้าจะกลับมา ” ด้วยความที่เขามัวหันหน้าไปสั่งการสาวใช้จึงไม่ทันเห็นว่าดวงตาคู่งามของท่านหญิงหลันฮวาเปิดปรือขึ้นแล้วจ้องเสี้ยวหน้าหล่อเหลากับเรือนร่างสูงใหญ่อยู่ชั่วอึดใจ
“ ใครวะ หล่อเป็นบ้าเลย ” ริมฝีปากอวบอิ่มเผยอเอ่ยเบา ๆ ราวเสียงกระซิบ ด้วยยังมิมีเรี่ยวแรง คนทั้งคู่ที่กำลังสนทนากันอยู่จึงหาได้ยินไม่
“ ขอให้ท่านโชคดี เทวดาฟ้าดินคุ้มครองนะเจ้าคะท่านองครักษ์ ข้าสัญญาว่าจะดูแลท่านหญิงด้วยชีวิต ท่านไม่ต้องเป็นห่วง ”
“ ขอบใจมาก ถ้าเช่นนั้นข้าไปล่ะ ช้าจะไม่ทันการณ์ ” องครักษ์หนุ่มว่าก่อนผลุนผลันออกไปอย่างรวดเร็วที่คอกม้าตัวโปรด จูงมันออกมาแล้วควบขับลับหายไปกับความมืดแห่งราตรี
เขาจึงไม่ได้ยินที่อาซินวิ่งตามออกไปบอกว่า
“ ท่านหญิงฟื้นแล้ว ท่านหญิงฟื้นแล้ว ! ” ทว่าเมื่อกลับเข้ามาในห้องของท่านหญิงหลันฮวา ความดีใจของอาซินก็ต้องกลับกลายเป็นตกอกตกใจเมื่อท่านหญิงของนางลุกขึ้นมานั่งและเอ่ยถามคำถามแรกกับนาง
“ ที่นี่ที่ไหน พี่เป็นใคร ? ”
“ ท่านหญิง จำกระหม่อมมิได้หรือเพคะ กระหม่อมหูจิ้นซิน อย่างไรเล่าเพคะ อาซินที่เป็นข้ารับใช้ประจำตัวของท่านมาแต่ไหนแต่ไร ”
“ ฮะ อะไรนะ ! ” นางทำตาโตอย่างตกใจ
“ แล้วที่นี่ที่ไหน พูด ! ”
“ จวนท่านอ๋องหงเฟยซานอย่างไรเล่าเพคะ ” จวนท่านอ๋องหง ตอนนี้นางชักจะเริ่มคุ้น ๆ เสียแล้ว
“ แล้วข้าล่ะ ชื่ออะไร ” สีหน้าของอาซินเริ่มเจื่อนซีดขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็ตอบกลับเสียงอ่อย
“ ท่านก็เป็นท่านหญิงหงหลันฮวา ธิดาแต่เพียงผู้เดียวของท่านอ๋องอย่างไรเล่าเพคะ ” คำตอบนั้นทำให้ผู้ที่ลืมตาตื่นขึ้นมาในร่างนี้ถึงกับอึ้ง
ตัวเธอนั้นคือ หยางลี่จือ เด็กกำพร้าที่ทำทุกอย่างเพื่อความอยู่รอด เธอเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปีสองในปี ค.ศ.2020
สมองของเธอค่อยครวญใคร่ ความทรงจำสุดท้ายคือท่านมาเฟียเฉินโทรศัพท์เรียกเธอให้ไปปรนนิบัติ พร้อมสวิงกิ้งกับบอดี้การ์ด แล้วท่านฉีดอะไรบางอย่างเข้าเส้นให้ จากนั้นเธอก็เป็นลมไป
แล้วทำไมเธอตื่นมาในร่างนี้กันได้เล่า ?