อาจจะเป็นเพราะทิชาตัวเล็ก เธอเลยดูเด็กกว่าวัยจนแม็กซิมัสไม่อยากเชื่อว่าผู้หญิงตรงหน้ากำลังเรียนระดับปริญญา
“อิๆ” ลอร่ายกมือป้องปากหัวเราะคิก “ทีร่าอายุเท่ากับลอร่านะคะแม็ก!”
“งั้นรึ!” ชายหนุ่มเปรยเหมือนไม่อยากเชื่อ หากเขายืน แม่สาวตรงหน้าความสูงคงอยู่ประมาณราวนม เขาไม่เคยเจอผู้หญิงสาวๆ ที่ตัวเตี้ยขนาดนี้มาก่อน “ช่างเถอะ ผมมีเวลาแค่30นาทีนะลอร่า ผมต้องไปต่อ”
ชายหนุ่มตัดบท เขาถูกหล่อนลากมาที่นี่ และแม็กซิมัสไม่อยากขัดใจ เมื่อกำลังมีผลประโยชน์ร่วมกัน แม้จะรู้สึกรำคาญในบางครั้งก็ตาม
“มีอะไรแนะนำไหมทีร่า อะไรก็ได้ที่เธอคิดว่าเป็นหน้าเป็นตาของร้านนี้”
หญิงสาวหันไปเจรจากับทิชา “หากให้แนะนำก็คงเป็นต้มยำกุ้ง หรือไม่ก็ผัดไทยจ้ะ”
อาหารไทยขึ้นชื่อที่คนต่างชาติส่วนใหญ่นิยม หากพูดถึงอาหารไทยคงไม่พ้นเมนูแนะนำสองอย่างนี้
“ฉันทานบ่อยแล้วนะ เธอแน่ใจเหรอว่าเมนูแนะนำร้านนี้มีแค่สองอย่างที่เธอบอกมา”
ทิชารอบผ่อนลมหายใจ เมื่อเพื่อนสาวต้องการให้เธอแนะนำ เธอก็จัดให้ เจ้าหล่อนเจ้ากี้เจ้าการแบบนี้ ทิชาเชื่อว่าลอร่าคงมีแผนบางอย่างไม่อย่างนั้นคงไม่ถ่อสังขารมาถึงที่ทำงานของเธอ
“มันก็มีอีกหลายอย่างค่ะ แต่ถ้าขึ้นชื่อและคนโซนเมืองหนาวอย่างนี้ชื่นชอบก็คงมีแค่นี้ ฉันแน่ใจว่าเธอคงไม่ทานรสจัด อาหารไทยหลายอย่างรสค่อนข้างจัดจ้าน เลยไม่รู้ว่าจะแนะนำอะไรดี”
ลุคคุณหนูกับไฮโซที่ฉาบคนทั้งคู่ไว้ ทิชาเลยไม่กล้าแนะนำเมนูเด็ด
แต่ดูเหมือนว่าแม็กซิมัสจะรู้จักอาหารไทยดี “ขอส้มตำ กับแกงเขียวหวานแล้วกัน ทอดมันปลาอีกอย่างด้วย”
เขาเป็นคนสั่งอาหารหลังนั่งเปิดเมนูไปผ่านๆ
ทิชาก้มหน้าจด ครั้นพอเงยหน้าขึ้นมา “น้ำใบเตย คุณล่ะเอาอะไรเพิ่มไหมลอร่า?” เขาสั่งเครื่องดื่มกับเธอ ก่อนจะหันไปหาสาวคู่ควง ลอร่าส่ายใบหน้า เธอแอบเป็นกังวลนิดๆ กับบรรดาชื่ออาหารที่แม็กซิมัสสั่งมาชิม
ทิชากำลังจะขยับตัว เสียงทุ้มๆ ก็ดังตามหลัง “20นาทีสำหรับอาหารจานแรก ถ้าช้ากว่านั้นฉันจะไม่รอ!” หญิงสาวพยักหน้ารับรู้ เธอเดินตัวปลิวเข้าไปด้านใน เพื่อแข่งกับเวลา
ชายหนุ่มดันตัวลุกขึ้นยืน “ขอผมไปห้องน้ำสักครู่นะคนสวย” เสียงที่ลดความแข็งลงเอ่ยบอกลอร่าเบาๆ
สาวไฮโซมองตามแผ่นหลังเหยียดตรงของแม็กซิมัส ก่อนจะชักสายตากลับมาสนใจโทรศัพท์มือถือในมือแทน ลอร่ามัวแต่อัพอินสตาแกรม เธอโพส์เรื่องเดทกับแม็กซิมัสวันนี้ มีบรรดาเพื่อนๆ และคนรู้จักเข้ามาคอมเม้นท์ไม่น้อย เธอเลยไม่ได้สนใจว่าชายหนุ่มหายไปนานแค่ไหน
ทิชากำลังยัดขนมปังเข้าปาก เธออ้าปากค้างเมื่อแม็กซิมัสเดินผ่าน เขาหยุดมองเธอด้วยสายตาตำหนิ
หญิงสาวหมุนตัวขวับ! รีบยัดขนมปังชิ้นสุดท้ายเข้าปาก ก่อนจะรีบยกมือตบแผ่นอก เพราะอารามรีบร้อนเธอเลยกลืนขนมปังชิ้นนั้นลงไปในลำคอทั้งๆ ที่ยังไม่ทันได้เคี้ยว
แค๊กๆ
เสียงไอดังๆ กับท่าทางเหมือนกำลังทรมาน ด้วยมนุษยธรรม แม็กซิมัสเลยยื่นมือไปตบแผ่นหลังทิชาให้ เป็นการช่วยเหลือเวลาที่คนเกิดอาการติดคอ ตับๆ น้ำหนักมือของเขาคงมากเกินไปสักนิด เรือนร่างเล็กบางนั่นจึงเซถลาไปข้างหน้าเกือบล้มหน้าขมำหากมือแข็งแรงจะไม่รั้งเอาไว้
ทิชาเงยหน้าขึ้นมองคนที่ยื่นมือเข้ามาช่วย
“ขอบคุณค่ะ” เสียงพึมพำดังเบาๆ พร้อมกับร่างเล็กบางที่ขยับออกห่าง
แม็กซิมัสปล่อยมือ เขายืดกายเต็มความสูง นั่นเท่ากับข่มให้ทิชาดูเล็กจ้อยลงไปอีก
“เธอกำลังเอาเปรียบเพื่อนร่วมงาน รวมทั้งเจ้านายของเธออยู่นะ!” เสียงติงกึ่งตำหนิจากชายร่างใหญ่
ใบหน้าเล็กก้มต่ำ รอบผ่อนลมหายใจแผ่วๆ ทิชารู้ว่าเธอเป็นเช่นที่แม็กซิมัสกล่าว เธอแอบอู้ เพราะท้องหิว แต่มันไม่ใช่เรื่องใหญ่คอขาด บาดตาย เวลาเพียงเสี้ยววินาที เรียกไม่ได้ว่าเธอกำลังเบียดบังเวลาทำงาน
“ขอโทษค่ะ” ทิชาพึมพำขอโทษไปอีกครั้ง เธอไม่อยากสร้างปัญหาให้ประภาร้อนหู
“ถ้าเธอเป็นพนักงานที่ร้านฉัน...วันพรุ่งนี้เธอคงไม่มีงานทำ!”
ชายหนุ่มตำหนิต่อ เขาไม่ชอบคนงานที่เบียดบังเวลาทำงานเท่าไหร่ มันเหมือนกับว่าเจ้าหล่อนไม่เคร่งครัดกับกฏที่พนักงานทุกคนยึดถือปฏิบัติกันมา
ทิชาไม่ได้ตอบโต้ เธอผิด และเธอยอมรับความจริง ถึงแม้ผู้ชายตรงหน้าจะไม่สิทธิ์ติติงเธอ เมื่อเขาเป็นลูกค้า ไม่ใช่นายจ้าง เธอยอมเสียมารยาทด้วยการเดินหนี แต่เป็นการเดินถอยหลังที่มองไม่เห็นเส้นทาง ด้านหลังของทิชามีกล่องกระดาษขนาดใหญ่ เมื่อเจ้าตัวขยับถอยเธอจึงชนกล่องนั่นเข้าเต็มลัก!! กองกระดาษไหลร่วงเข้าหาตัวเธอ ทิชากระโจนไปข้างหน้าเพื่อหลบพายุลังกระดาษเหล่านั้นที่ถล่มลงมาเหมือนห่าฝน จังหวะเดียวกันที่แม็กซิมัสถลันเข้าหา เขาเอื้อมมือกระชากเรียวแขนของทิชา ตอนที่เธอกระโจนใส่ ผลที่ได้...
คือคนทั้งคู่ล้มกลิ้งลงไปบนพื้น...
เรียวปากสีเข้มกระแทกอัดนวลแก้ม เขาเบิกตาโตมองผิวเนียนใสในระยะประชิด ก่อนจะเผลอตัวสูดกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่โชยออกมาจากร่างเล็กบาง ทิชาตกใจแทบสิ้นสติ เธอถูกร่างหนาหนักคร่อมทับไว้ทั้งตัว! แถมซ้ำ ปลายจมูกโด่งแหลมของผู้ชายนัยน์คมเหมือนเหยี่ยวยังประทับอยู่ที่ข้างแก้มของตนเองเสียอีก
เป็นช่วงเวลาแสนสั้น แต่ในความทรงจำของแม็กซิมัสและทิชามันยาวนานจนชายหนุ่มสามารถสำรวจคนใต้ร่างได้แบบละเอียดยิบ จากที่เคยค่อนว่า ทิชาคือผู้หญิงไร้เสน่ห์ ตัวเล็กเหมือนคนแคระ หล่อนไม่มีอะไรในตัวสักอย่างที่ดึงดูดเพศตรงข้าม สิ่งเดียวที่แม็กซิมัสยอมรับในตัวหล่อนคือเส้นผมสีดำ แต่เมื่อได้อยู่ในระยะที่ร่างทั้งร่างแนบสนิทกันทุกส่วน กลิ่นของหล่อนเป็นอีกอย่างที่เขาสัมผัสได้ กลิ่นหอมอ่อนๆ นั่นคุ้นจมูก เหมือนเคยได้กลิ่นนั้นมาจากที่ไหนสักที่ เขาพยายามนึก แต่ยังนึกไม่ได้ในทันที อย่างที่สองตามมาในเวลาติดๆ กัน ผิวของทิชาเนียนใส เรียบเนียนจนมองไม่เห็นแม้แต่รูขุมขน เท่าที่สัมผัสด้วยตนเอง มันนุ่มเนียนจนอยากดอมดมไม่ห่าง ชายหนุ่มโหย่งตัวขึ้น เขาฟุ้งซ่านเกินไป คงเป็นเพราะความตกใจ ทำให้ดวงตาเขามองอะไรผิดเพี้ยน ทิชาขยับตัวตาม เธอพยายามถอยห่างเขา แววตาของเธอเต้นระริก มีความหวาดหวั่นอยู่เต็มหน่วยตา
ช่วงเวลาเร่งรีบตอนที่เธอพยายามมุดลอดวงแขนแข็งแรงของแม็กซิมัสออกมานั้น ยางรัดผมสีดำที่มัดพวงผมทั้งหมดของเธอไว้ ดันไปเกี่ยวเข้ากับเข็มกลัดเนคไท ยางเส้นนั้นหลุดออกจากพวงผมสลวย ห้อยคาอยู่ที่เข็มกลัดเนคไทเส้นนั้นนั่นเอง
ผมเส้นเล็กสีดำมันระยับทิ้งตัวลงแผ่กระจายเต็มแผ่นหลัง ล้อมกรอบหน้าเล็กๆ จนทำให้ดวงตากลมโตดูงามซึ้งจนหัวใจในอกของชายหนุ่มเต้นโครมคราม แม็กซิมัสผงะถอยหลัง มีอาการตะลึงค้าง เขายกมือตะปบอกข้างซ้าย จังหวะเดียวกับที่ทิชาหมุนตัว ปลายเส้นผมสะบัดผ่านใบหน้าเขา ทิ้งไว้แค่กลิ่นชมพูสระผมกลิ่นดอกไม้จางๆ ชายหนุ่มกะพริบเปลือกตาถี่ๆ มองตามหลังหล่อนไปจนทิชาหายลับไปจากสายตา
มือแข็งแรงยกขึ้นตบหน้าผาก! กลอกตามองฟ้า พร้อมกับบ่นพึม “เป็นอะไรของมึงไอ้แม็ก!”
เสียงหัวใจในช่องอกเต้นรัวเร็ว มันมีอาการแปลกๆ ตั้งแต่สบตากับทิชาในระยะประชิดเมื่อสักครู่
ใบหน้าคมเข้มสะบัดแรงๆ เหมือนต้องการขับไล่บางสิ่งที่ติดค้างอยู่ในความทรงจำ แม็กซิมัสเดินตัวลอยกลับมาที่เดิม เขาทิ้งตัวนั่งแต่ก็ยังอยู่ในภวังค์ ภาพที่มองเห็นวูบไปวูบวาบมา หากมีภาพขึ้นโชว์ให้คนอื่นร่วมรับรู้ด้วย คนเหล่านั้นก็จะเห็นภาพเดียวกับเขา คือภาพของ...ทิชา
ผู้หญิงแคระที่เขาค่อนว่าในใจตั้งแต่ตอนที่พบเจอกันครั้งแรก
ผู้หญิงคนเดียวกันนี่แหละที่แม็กซิมัสเพิ่งเห็นว่าหล่อน...สวย...
“แม็กๆ แม็กคะ!!” เสียงใครบางคนร้องเรียก
หัวไหล่หนาไหวน้อยๆ ก่อนดวงตาคมดุจะเหลียวมองหาต้นกำเนิดเสียง
มือเรียวบางยกโบกไปมาห่างจากใบหน้าเขาแค่คืบ แม็กซิมัสแอนตัวหนี “มีอะไรหรือลอร่า?” เขาย้อนถามเสียงแหบ
“เปล่าค่ะ ลอร่าเห็นคุณตาลอยๆ” สาวไฮโซยิ้มตอบ