แผนการของอชิ p.1

1318 คำ
เช้าวันรุ่งขึ้น อันรดาเตรียมพาเด็ก ๆ ไปโรงเรียนใหม่ โชคดีที่โรงเรียนเดิมพึ่งเปิดเทอมได้แค่สองอาทิตย์ อีกข้อคือพวกเขาเพิ่งเรียนอนุบาล จึงไม่มีอะไรต้องกังวลมากมาย หญิงสาวมีเวลาประมาณสามอาทิตย์ก่อนที่เธอจะเริ่มทำงานให้กับภามอย่างเป็นทางการ เท่ากับว่าเธอมีเวลาเหลือเฟือในการปรับตัวเข้ากับที่นี่เพื่อให้พร้อมสำหรับเตรียมงานเปิดตัวโรงแรมอย่างยิ่งใหญ่ นอกจากจะพาลูก ๆ ไปโรงเรียนใหม่แล้ว เธอยังต้องการชดเชยให้พวกเขาหลังจากต้องทุ่มเทเวลาให้กับการทำงานและเรียนในช่วงที่เด็กทั้งสองยังเล็กกว่านี้ แต่ก็ยังมีเรื่องให้ต้องเตรียมตัว เนื่องจากอันรดามีเงินไม่พอที่จะจ่ายค่าแรกเข้าเพราะเป็นโรงเรียนเอกชน เธอได้เตรียมหนังสือรับรองการจ้างงานไว้ล่วงหน้าเพื่อพิสูจน์ความสามารถของเธอในการจ่ายเงิน เธอตั้งใจจะเอาไปเป็นหลักฐานให้โรงเรียนดูเพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่ลังเลใจที่จะรับลูกของเธอ อย่างไรก็ตามใบรับรองการจ้างงานที่เธอเตรียมไว้ได้หายไปจากแฟ้มเอกสารของเธอเสียแล้ว หญิงสาวถึงกับหน้าซีดเมื่อพลิกดูเอกสารจนครบทุกหน้า ซ้ำร้ายตอนนี้เกือบเจ็ดโมงเช้าแล้ว ขณะที่โรงเรียนจะเริ่มตอนเก้าโมง! พวกเธอคงจะสายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “โอ้ พระเจ้า ทำไมถึงหายไปได้นะ” อันรดาลูบผมไปมาด้วยความกังวล จู่ ๆ กระดาษแผ่นนั้นก็หายไป และมีทางเดียวเท่านั้นที่จะได้เอกสารนั้นมา นั่นคือต้องไปที่บริษัท อันรดาพาลูก ๆ ขึ้นแท็กซี่ไปด้วย หญิงสาวหวังว่าบริษัทจะสามารถออกใบรับรองให้ใหม่ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง ด้วยวิธีนี้ ลูก ๆ ของเธอก็จะสามารถเข้าเรียนในชั้นเรียนได้ตามปกติ อันรดามาถึงสำนักงานใหญ่ของบีแอนด์เจกรูปพร้อมกับลูกฝาแฝด หญิงสาวเดินตรงไปที่แผนกต้อนรับเพื่อขอพบกับแฟรงค์ “สวัสดีค่ะ คุณได้นัดไว้ไหมคะ” พนักงานต้อนรับคนหนึ่งถาม “ไม่ค่ะ ฉันพยายามติดต่อคุณแฟรงค์แล้ว แต่ดูเหมือนเขาจะยุ่ง” อันรดาอธิบายการมาถึงอย่างกะทันหันของเธอ “นี่เป็นเรื่องด่วนจริง ๆ ฉันต้องการพบเขาค่ะ” พนักงานต้อนรับสองคนมองหน้ากัน ลังเลว่าควรตัดสินใจเช่นใดดี อย่างไรก็ตามเนื่องจากอันรดาแต่งตัวดี ดูภูมิฐาน พนักงานจึงสรุปว่าเธอคงไม่ได้โกหก นอกจากนี้เอลลี่ยังเข้าไปช่วยพูดกับพนักงานต้อนรับด้วย “ได้โปรดค่ะพี่คนสวย แม่ของหนูต้องการเอกสารให้เราไปโรงเรียน ขอร้องช่วยเราด้วยค่ะ” “ตกลงค่ะ ฉันจะโทรหาคุณแฟรงค์ ขอเวลาสักครู่ค่ะ” พนักงานต้อนรับคนหนึ่งกล่าว ที่ชั้นแปดสิบแปดแฟรงค์กำลังอ่านตารางงานของวันนี้ ในฐานะผู้ช่วยคนสนิทของประธานบริษัท เขาต้องมาถึงที่ทำงานตอนเจ็ดโมงเช้า ส่วนภามจะมาถึงที่ทำงานช่วงเจ็ดโมงครึ่งถึงแปดโมงเช้า ข้อสำคัญ กาแฟของภามต้องพร้อมเมื่อชายหนุ่มมาถึง รวมถึงเอกสารสำคัญที่ต้องลงนาม ครั้นได้รับโทรศัพท์จากพนักงานต้อนรับ เขาก็ต้องตะลึงเมื่อรู้ว่าอันรดาต้องการพบเขา “อืม… ให้เธอขึ้นมา เธอน่าจะมีเรื่องสำคัญ” อันรดาใช้เวลาเพียงสิบนาทีในการขึ้นลิฟต์มาถึงชั้นที่แปดสิบแปดซึ่งเป็นชั้นทำงานของท่านประธาน แฟรงค์ประหลาดใจที่เห็นเธอมาพร้อมกับลูกแฝด แฟรงค์ไม่ชอบเด็ก แต่การได้เห็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่น่ารักราวกับตุ๊กตาเดินได้นั้นช่างน่ายินดี ราวกับรู้ว่าแฟรงค์มองเธออยู่ เอลลี่เดินไปหาเขา และยกมือขึ้นไหว้แฟรงค์อย่างน่ารักน่าเอ็นดู “สวัสดีค่ะ หนูชื่อเอลลี่ หนูเป็นเจ้าหญิงน้อยของแม่ค่ะ” เด็กหญิงตัวเล็กสะบัดมือสยายผมเธอ “หนูเป็นเด็กหกขวบที่สวยที่สุดในเมืองไทยค่ะ” “ห้า… เธอกำลังจะอายุหกขวบในเดือนธันวาคมนี้ แต่ตอนนี้เธอยังห้าขวบอยู่” อันรดาอธิบายพร้อมกับคว้าตัวลูกสาวพลางพูดกับแฟรงค์ว่า “ฉันขอโทษด้วยนะคะคุณแฟรงค์ เธอเป็นเด็กร่าเริงมากค่ะ” “ไม่ต้องกังวลเลย สาวน้อยน่ารัก!” แฟรงค์พูดพร้อมกับส่งยิ้มให้เด็กน้อย “เธอหน้าตาเหมือนคุณมากเลยครับ” “สวัสดีเอลลี่ ฉันชื่อแฟรงค์ เรียกฉันว่าลุงแฟรงค์ก็ได้นะ” แฟรงค์ยิ้มอย่างมีความสุข “ลุงแฟรงค์!” เอลลี่หันไปถามแม่ของเธอว่า “ลุงแฟรงค์จะมีของขวัญให้เราในช่วงปีใหม่ไหมคะ” เธอถามอย่างตื่นเต้น ทำให้แฟรงค์หัวเราะจนได้รับความสนใจจากเลขานุการคนอื่น ๆ ที่อยู่ห่างจากเขา เลขานุการของภามมีทั้งหมดแปดคน ซึ่งทำงานอยู่บนชั้นนี้ทั้งหมด ทุกคนมีโต๊ะเป็นของตัวเองโดยมีพาร์ทิชันเตี้ย ๆ กั้นระหว่างโต๊ะ “ฉันขอโทษเกี่ยวกับเรื่องนั้นด้วยนะคะ” อันรดากล่าวด้วยความเกรงใจ “แล้วคนที่อยู่ข้างหลังคุณคือ” แฟรงค์ถามถึงเด็กอีกคนที่กำลังจับกระโปรงของอันรดาอยู่ “อชิ สวัสดีคุณลุงแฟรงค์สิลูก คุณแฟรงค์ นี่อชิค่ะเป็นพี่ชายฝาแฝดของเอลลี่ค่ะ” อันรดาพูดจูงมืออชิออกมาด้านหน้าให้แฟรงค์เห็น เมื่ออชิยืนอยู่ต่อหน้าแฟรงค์ ผู้ช่วยส่วนตัวผู้บริหารก็เงียบลงทันที เขาเอนตัวโน้มไปข้างหน้าเพื่อจ้องมองพิจารณาให้ชัด จากนั้นยืดตัวขึ้น แฟรงค์ไม่รู้ว่าเขาเอียงศีรษะไปอีกด้านหนึ่งกี่ครั้งขณะมองหน้าเด็กชายที่ดูคุ้นตาเป็นอย่างมาก “บ้าจริง! หนูหน้าตาเหมือนบอสของฉันมาก!” แฟรงค์พูดออกมาอย่างตกใจ “บอสของคุณเป็นเด็กงั้นเหรอครับ!” อชิถามพร้อมกับมองหน้าแฟรงค์ วิธีตอบสนองของอชิทำให้แฟรงค์หัวเราะหนักขึ้นมากกว่าเดิม ‘แม้แต่ท่าทางยังเหมือน’ แฟรงค์คิด “บ้าที่สุด… หนูพูดเหมือนท่านเลย” แฟรงค์พูดออกมา “คุณแฟรงค์คะ บางทีอาจเป็นแค่เรื่องบังเอิญที่เขาดูเหมือนบอสของคุณ” อันรดาตัดบทเพราะเธอมาที่นี่ด้วยธุระอื่น “คุณแฟรงค์คะ ที่ฉันมาที่นี่เพราะมีเรื่องสำคัญมาก และฉันหวังว่าคุณจะสามารถช่วยฉันได้” “เรื่องอะไรเหรอครับ” แฟรงค์ถามละสายตาจากอชิมามองหน้าอันรดา “คุณต้องการให้ผมช่วยเหลือเรื่องอะไรครับคุณอันรดา?” ขณะที่อันรดากำลังอธิบายสถานการณ์ของเธอให้แฟรงค์ฟัง อชิและเอลลี่ก็เดินไปรอบ ๆ เพื่อหาป้ายชื่อห้องที่เป็นของภาม ตอนนี้ทั้งสองอยู่ที่หน้าประตูห้องทำงานของท่านประธาน พวกเขาจ้องมองไปที่ชื่อ “นี่อาจจะเป็นห้องทำงานของพ่อเรา” เอลลี่พูด “มีทางเดียวเท่านั้นที่จะรู้” อชิเสนอความเห็น “เข้าไปข้างในกันเถอะ” “พร้อม?” อชิถามน้องสาวของเขา “พร้อม!” เอลลี่ยืนยัน ฝาแฝดพยายามหาทางเปิดประตูเข้าไปในห้องแม้จะไม่ได้ขออนุญาตจากเจ้าของห้องหรือผู้ใหญ่คนอื่น ๆ ก็ตาม “คุณอันรดา…” แฟรงค์กำลังจะพูดแต่ได้ยินเสียงเด็ก ๆ พยายามจะดันประตูเปิดออก เขาจึงลุกขึ้นจากเก้าอี้ไปหาสองพี่น้องทันที “เด็ก ๆ ไม่ อย่าทำอย่างนั้น!” “ทำไมประตูมันหนักอย่างนี้” อชิบ่นขณะที่เขาใช้กำลังของเขาดันประตู “อึก!” เอลลี่คำรามขณะช่วยพี่ชายของเธอ น่าเศร้าที่ไม่ว่าจะออกแรงผลักประตูมากแค่ไหน มันก็ไม่ขยับเขยื้อน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม