โรงพิมพ์หยวนเป้า2

1309 คำ
ริมทะเลสาบ อีกคู่ก็บรรเลงเพลงรักบนหลังม้า "ท่านแม่ทัพ ข้าเหนื่อยแล้วลงเถอะขอรับ" "ได้ๆตามใจเจ้าอาเว่ยเจ้าน่ารักเสียจริงๆ ตามใจข้าทั้งคืนได้ไหม" "ข้าตัวแดงไปหมดแล้วอื้อๆๆ ท่านเนี่ยก็ได้ๆข้าตามใจท่าน หึทั้งวันทั้งคืนหากเป็นสตรีข้าคงท้องแล้ว" บทรักของทั้งคู่ยังคงบรรเลงต่อไปจนกระทั่งตะวันตกดินไห่จ้านจึงอุ้มหนุ่มน้อยขึ้นหลังม้าอย่างทะนุถนอมแล้วพากลับค่าย หลินผู่เย่วหน้าแดง นี่มันช่างเร่าร้อนสองคนนั้นหนานกงเยี่ยกับสวีไค่เฉิงอร๊ายไม่อยากจะคิดเลย ด้านจางฟางซินนั้นกำลังอ่านบทรักของหนายกงอิ๋นกับหลี่หมิงหลงอยู่เขินจนกัดผ้าห่มบิดไปมา ถึงจะเกลียดไอ้ฮ่องเต้ชั่วนั่นแต่บทรักช่างอึ๊ยย "ฉางหลงข้ารักเจ้า ดุสิเจ้าทำข้าคลั่งอีกแล้ว" "อื้อ ท่านอ๋องท่านเบาๆหน่อยกระหม่อมเสียวจะตายแล้ว นี่มันริมทะเลสาบนะพ่ะย่ะค่ะ อึ๊ย" "ใครจะกล้ามานี่ที่ส่วนตัวข้า มาเถอะเด็กดีมาให้ข้ารักเจ้าให้ลึกซึ้งอีกนะหลายๆครั้งเลย" ชินอ๋องบรรจงจูบฉางหลงอย่าหิวกระหายในความพิศวาส ช่างน่ารักเสียจริงๆ เจียงฟางซินเอาหนังสือปิดหน้าก่อนจะเขินหน้าแดง "นี่ๆๆฉีเอ๋อร์ ไอ้โรคจิตนั่นนุ่มนวลขนาดนี้เชียวหรือ ไม่น่าเชื่อ" สามสาวนอนเรียงกันพูดคุยไปมาจนหลับ ตอนเช้าจะไปโรงพิมพ์หยวนเป้า ที่นั่นรับพิมพ์หนังสือต้องห้ามเจ้าของโรงพิมพ์คือฟางซือหมิงหลานสาวอาจารย์ฟางแห่งสำนักบัณฑิต บิดาเป็นอาจารย์บุตรสาวเปิดร้านหนังสือไม่มีอะไรไม่ถูกต้องแต่เบื้องหลังนั้นมีแค่หลินผู่เย่วที่รู้ รุ่งเช้าจางซูฉีตื่นมาเข้าครัวสองสาวก็มาช่วยด้วย พวกนางสามคนทำเกี้ยวใส้หมูสับกับกุ่ยช่าย แปลงผักนั้นมีผักกระจัดกระจาย วันนี้ไปโรงพิมพิ์เรียบร้อยค่อยกลับมาทำแปลงผักใหม่ จางซูฉีมีสมุนไพรในมิติมากมายที่อยู่ในห้องสมุนไพรกับที่อยู่ในแปลงก็มี วันนี้หาร้านขายทีเดียววเลย ไม่อยากออกไปข้างนอกบ่อยนักเดี๋ยวถูกจับได้เสียก่อน เมื่อคืนดูแล้วน่าจะเป็นคนอาจเป็นเวรยามของตำหนักอ๋องหรือไม่ก็นายพรานมาล่าสัตว์เขาลูกกนี้กว้างมาก บางครั้งก็ใช้เป็นลานล่าสัตว์ของเหล่าเชื้อพระวงศ์แต่ไม่เคยมาถึงที่นี่ "อื้อฮือ พี่ใหญ่ฝีมือแต่งหน้าท่านเก่งกาจมากเลย ข้าจำฮองเฮาไม่ได้สักนิดช่างหล่อเหลายิ่งนัก"เสี่ยวเถายืนอ้าปากค้าง "จริงด้วย นี่ของข้าไม่ต้องแปลงโฉมหรอกข้าอาศัยในเมืองจนชินเดินไปก็มีแต่คนรังเกียจไม่มีใครกล้าสบตาข้าหรอก แต่ว่าก็ว่านะฉีเอ๋อร์เจ้าเป็นสตรีที่งามจนทำบุรุษลืมหายใจจริงๆ พอแต่งเป็นชายเจ้าก็หล่อเหลากว่ายอดบุรุษแห่งแคว้นฉู่เสียอีก อ้อหนึ่งในนั้นคือเยี่ยอ๋องสามีเจ้าน่ะ" "สายแล้วพี่ไปกันเถอะ ข้าอยากลองไปร้านขายยาด้วยมีสมุนไพรต้องซื้อ เดี๋ยวคนพลุกพล่านไม่ดี" ทั้งสามเดินลัดเลาะตามทางเล็กๆไปจนถึงหลังร้านขายผ้า โรงพิมพ์ต้องเดินไปอีกสามตรอก สวีไค่เฉิงที่เพิ่งตื่นมองลงมาที่หน้าต่างก็เห็นดรุณีน้อยเลื่องชื่อหลินผู่เย่วคนที่ใช้แส้ฟาดเจ้าบ่าวในวันแต่งงานปางตาย คนที่กล้าตบหน้าเขาตอนที่เขาสั่งสอนว่านางเป็นสตรีป่าเถื่อน สองคนนั้นใครไม่เคยเห็นหน้าแต่บุรุษชุดสีน้ำเงินเหมือนเคยเห็นหน้าตาคุ้นๆ บุรุษชุดสีเทานั่นรูปงามนักเขายอมรับหนานกงเยี่ยงามสง่ามากแต่เทียบกับเจ้าหนุ่มน้อยอ้อนแอ้นนั่นนับว่าหนานกงเยี่ยมีคู่แข่งแล้ว มีเสียงเรียกจากด้านนอกจึงหันไปตอบ มองกลับมาก็ไม่เจอทั้งสามคนแล้ว "หึหลินผู่เย่ว ทำเป็นทะเลาะกับคนที่บ้านเพื่อให้ถูกไล่ออกมาที่แท้เจ้าก็แอบซุกซ่อนบุรุษรูปงามถึงสองคน ไม่ยอมแต่งงานคงเพราะแบบนี้ช่างเป็นสตรีแพศยาร้ายกาจ ข้ายังไม่ลืมที่เจ้าตบหน้าข้าเมื่อสามวันก่อนนะ รอก่อนเถอะ" ตรอกบัณฑิตมีร้านหนังสือเรียงราย ก่อนที่ประตูร้านหนึ่งจะเปิดออกป้ายร้านหยวนเป้าตัวหนังสือสีทองบนแผ่นป้ายนั้นเป็นฮ่องเต้องค์เก่าพระราชทานมาให้ฟางป๋ายหลานสาวอยากรับช่วงต่อกิจการเพราะทุกคนล้วนรับใช้ราชสำนักจนหมดร่างบางระหงยืนบิดขี้เกียจอยู่หน้าร้านมองดูร้านค้าที่กำลังทยอยเปิด กลิ่นน้ำเต้าหู้ยั่วใจมาก บิดซ้ายทีขวาทีก่อนจะได้ยินเสียง หึลอยมา "หึ ไร้ยางอายเป็นสตรีมายืนบิดอวดเรือนร่าง ช่างไม่สมเป็นคุณหนูในห้องหอไปกันเถอะลู่กัง" บุรุษในชุดสีขาวถือพัดในมือสวมกว๊านหยกสีเดียวกับชุด ห้อยด้วยป้ายหยกอย่างดีสลักอักษรหลี่เอาไว้ ฟางซือหมิงตะโกนตามหลัง "เชอะ ราชครูแล้วอย่างไรไม่สำรวมก็เรื่องของข้า เอาสิทธิ์อะไรมาสั่งสอนข้าไม่ใช่เมียเจ้าสักหน่อยหลี่หมิงหลงเหอะ" หลี่หมิงหลงหันกลับมาใบหน้าแดงก่ำก่อนจะตอบโต้ "ฟางซือหมิง ข้าคงไม่โชคร้ายได้สตรีเช่นเจ้าเป็นภรรยาหรอก หากมิใช่หลานสาวอาจารย์ฟางชาตินี้จะได้ออกเรือนหรือไม่ก็ยังไม่รู้" "เหอะ ห่วงตัวเองเถอะยี่สิบหกแล้วยังหาเมียไม่ได้ไม่รู้ว่าเจ้าบกพร่องอะไรหรือเปล่า" "ฟาง ซือ หมิง เจ้าพูดอีกทีสิ" ฟางซือหมิงไม่ตอบปิดประตูร้านใส่หน้าหลี่หมิงหลงทันที คนตัวสูงยืนอกกระเพื่อมอยู่กลางถนน สตรีน่าตายนี่กล้าวิจารย์เขา หึได้ยินเสียงคนมาตามจึงสบัดแขนเสื้อเดินจากไป หลังร้านมีเสียงเคาะประตูเบาๆเป็นอันรู้กัน ฟางซือหมิงเปิดประตูก็เห็นคนคุ้นเคยเป็นหลินผู่เย่วกับบุรุษอีกสองคนที่รูปงามนักแต่นางไม่รู้จัก "เย่วเย่ว มาได้อย่างไรแล้วสองคนนี้เป็นใคร" "ซือหมิงไปคุยข้างในเถอะ คนงานให้ไปข้างนอกก่อน" ฟางซือหมิงพยักหน้าก่อนจะพาทั้งหมดเข้ามา จางซูฉีจึงแนะนำตัว ส่วนเจียงฟางซินไม่อยากมีปัญหาจึงบอกว่าเป็นเพื่อนของหลินผู่เย่วท่านั้น ฟางซือหมิงที่ตอนนี้กำลังหน้าแดงกับบทรักอันเร่าร้อนในนิยาย มีภาพประกอบด้วย เลือดกำเดาถึงกับหยดแหมะๆจนหลินผู่เย่วต้องซับจมูกให้ "นี่ๆน้องซูฉีเจ้าเขียนเองหรือ แถมภาพนี้เจ้าก็วาดเองด้วย โอ้โหลายมือเจ้าสวยมากเลยจะขายยังไงว่ามา" "พี่ไม่มีภาพเล่มละสามตำลึง มีภาพสิบตำลึงกำไรข้าเจ็ดส่วนท่านสามส่วนว่าอย่างไรท่านตกลงไหมวันนี้ข้ามีชุดละห้าสิบเล่มมาให้ท่านก่อนเล่มหนึ่ง เล่มสอง เล่มสาม เป็นตัวอักษรร้อยห้าสิบเล่ม หนังสือภาพเก้าสิบเล่ม" จางซูฉีคำนวณอย่างไว ฟางซือหมิงตกลงจากนั้นก็ทำสัญญา จางซูฉีให้พวกนางรอก่อนนางจะไปซื้อยาเพื่อไม่ให้ปรากฏตัวมากเกินไปเจียงฟางซินจึงต้องรอที่ร้านหนังสือ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม