หลายวันต่อมา...
เอวาขับรถมาทำงานด้วยตัวเองเพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่าเธอกับคุณธารธรมีความสัมพันธ์กันแบบไหน ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันมากกว่าเจ้านายกับลูกน้อง แต่ก็ไม่เกินเลยไปถึงขั้นแฟน
"สวัสดีค่ะพี่ๆ"
"สวัสดีน้องเอวา มาทำงานเร็วตลอดเลยนะ"
เอวาโค้งตัวทักทายทุกคนอย่างนอบน้อม เทียบกันแล้วเธออายุน้อยที่สุดในที่ทำงานนี้ แต่ได้เป็นเลขาของท่านประธานก็มีคนแอบเม้าท์บ้างเป็นปกติ บางคนถึงกับไม่ชอบขี้หน้าเธอไม่รู้ทำไมเหมือนกัน เธอก็อยู่ของเธอแบบนี้แหละไม่เคยไปทำร้ายใครเพราะฉะนั้นใครก็อย่ามาทำร้ายเธอ
"ต้องมาเร็วค่ะ ท่านประธานชอบมาทำงานเช้า"
"จ้า เดี๋ยวพี่จะฝากท่านประธานเซ็นเอกสารการเบิกของในโรงแรมนะ ทำเสร็จพอดี"
"ได้ค่ะ งั้นเอวารอที่ห้องนะคะ"
หญิงสาวก้มหน้าลงเล็กน้อยก่อนจะเดินขึ้นไปชั้นบน ออฟฟิศของโรงแรมจะอยู่ด้านหลังและมีทั้งหมดหกชั้น ห้องของท่านประธานอยู่ชั้นบนสุดและที่ทำงานของเธอคือหน้าห้อง หญิงสาวมาถึงก็วางของทุกอย่างลง เปิดคอมพิวเตอร์เพื่อเช็คเมลในตอนเช้า ตอนนี้โรงแรมเปิดให้จองเข้าพักแล้วและมีโปรโมชั่นสำหรับสัปดาห์แรกด้วย
ยอดจองเยอะเลยแหละ สัปดาห์แรกเต็มหมดทุกห้องเลย และส่วนใหญ่ที่จองมาจากต่างประเทศหมดเลย ดีนะที่เธอพูดภาษาอังกฤษคล่อง ก็เลยสบายตัวไป
"คุณเลขาคนสวยมาทำงานเร็วจังเลย"
ธารันเดินขึ้นมายังห้องทำงานของตัวเองเจอเอวาก็เอ่ยทักทายทันที เขาขยับเข้ามาใกล้หญิงสาวก่อนจะโน้มริมฝีปากไปจุ๊บหน้าผากเธออย่างหยอกล้อ
"อ๊ะ... คุณธารันทำอะไรเนี่ย"
"พี่ธารันค่ะ เดี๋ยวตีเลยนะ"
เขาเอ่ยออกมาอย่างเซ็งๆก่อนจะใช้มือเกลี่ยแก้มหญิงสาวเล่น เอวาหันซ้ายมองขวาอย่างระแวงกลัวว่าจะมีใครมาเห็นเราสองคนในสภาพแบบนี้ ไม่งั้นโดนนินทาแน่และที่สำคัญคือเธอจะถูกนินทาว่าเข้ามาทำงานโดยใช้ตัวเข้าแลก
"เดี๋ยวใครมาเห็นเข้านะคะ"
"งั้นเข้าไปหาพี่ที่ห้องแล้วกัน"
เขาอมยิ้มก่อนจะเดินเข้าไปในห้องอย่างอารมณ์ดี เอวานั่งปริ้นอีเมลหลายฉบับ เอาเอกสารใส่ไว้ในแฟ้มก่อนจะเดินตรงเข้าไปในห้องทำงานของท่านประธาน
"เมลวันนี้ค่ะ ส่วนใหญ่เป็นใบเสนอราคาจากบริษัทต่างๆที่ยื่นเสนอราคามา ลองพิจารณาดูนะคะว่าจะเลือกซื้อของที่ไหน อ๊ะ พี่ธารัน"
เขาดึงหญิงสาวเข้ามาใกล้ก่อนจะอุ้มเธอมานั่งลงบนตัก เอวาดิ้นไปมาก่อนจะหยุดนิ่งเมื่อเขาเริ่มใช้ลูกไม้อ้อนเธออีกแล้ว
"คิดถึงอ่ะไม่เจอกันตั้งหลายชั่วโมง เย็นนี้ทำกับข้าวให้พี่กินนะอยากกินฝีมือของเอวา"
"ได้ค่ะ อยากกินอะไรคะ"
เธอเอ่ยถามเสียงหวาน ก็ชอบมาอ้อนให้ทำกับข้าวทุกวันแหละเธอก็ตามใจบ้างเป็นบางครั้งเท่านั้น ส่วนใหญ่จะออกไปทานข้างนอกมากกว่า
"อยากกินเอวา โอ๊ย!"
ชายหนุ่มร้องโอดครวญออกมาก่อนจะได้พูดต่อ สมควรที่จะโดนแล้วชอบพูดจาแบบนี้ใส่เธอตลอด ที่นี่มันบริษัทเธออยากให้เขาวางตัวมากกว่านี้ ส่วนถ้าอยากจะพูดหยอกล้อเธอให้ทำตอนอยู่ที่ห้องก็ได้
"ระวังคนอื่นมาได้ยินนะคะ เสียภาพลักษณ์ท่านประธานหมด"
"ขอโทษค่ะไม่พูดแล้วก็ได้ งั้นหนูไปทำงานเถอะเดี๋ยวพี่จะนั่งอ่านแฟ้มที่หนูเอามา"
"หาข้อมูลด้วยนะคะว่าบริษัทมั่นคงรึเปล่า กลัวว่าจะเปิดบริษัทมาหลอกเราเดี๋ยวจะแย่กันหมด"
"ครับหนูน้อย เดี๋ยวพี่จะเช็คให้ละเอียดเลยค่ะ"
เขาบีบแก้มเธออย่างเอ็นดูก่อนจะปล่อยให้หญิงสาวเดินออกไปทำงานของตัวเอง ธารันสูดลมหายใจเข้าลึกๆอย่างอารมณ์ดี ได้กอดได้หอมสักนิดก็ทำให้เขายิ้มได้แล้ว ทุกวันนี้เขาก็ทำได้แค่นี้แหละมากกว่านี้ก็ไม่กล้า กลัวเอวาไม่ชอบแล้วจะหนีเตลิดไป เพราะฉะนั้นต้องดูจังหวะที่เหมาะสมกว่านี้
ทางด้านของคุณป้าโฉมหรือคุณป้าของเอวาท่านโทรศัพท์ไปหาหลานสาวแต่ว่าเธอไม่ยอมรับสายเลย พักหลังเธอขอเงินหลานไม่ได้เลยบอกว่าจำเป็นต้องใช้เงินอ้างนั่นนี่สารพัด สงสัยต้องตามไปถึงที่ทำงานจะได้รู้กันไปเลยว่าเอาเงินไปใช้อะไร คิดได้แบบนั้นคุณป้าก็เดินทางไปหาหลานในตัวเมืองทันที เธอรู้จักร้านคาเฟ่ที่เอวาทำงานเพราะฉะนั้นร้านคือเป้าหมายในการเดินทางของเธอ เมื่อมาถึงท่านก็เข้าไปหาพนักงานในร้านทันที มองหาเอวาแต่ก็ไม่เจอเลย
"สวัสดีค่ะรับอะไรดีคะ"
"ป้ามาหาเอวานะ ทำงานที่นี่ใช่มั้ย โทรหาไม่รับสายเลยป้าเป็นห่วงก็เลยมาหา"
พนักงานได้ยินแบบนั้นก็ร้องอ่อออกมาทันที นึกว่าลูกค้าที่แท้ก็เป็นญาติของเอวานั่นเอง
"คุณป้าของเอวาเหรอคะ คือตอนนี้น้องลาออกไปแล้วค่ะย้ายไปทำงานโรงแรมที่เปิดใหม่ จำชื่อไม่ค่อยได้เดี๋ยวขอคิดแป๊บหนึ่งนะคะ"
พนักงานเงียบไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมาเหมือนคิดอะไรออก
"โรงแรมสุดสิริค่ะ คุณป้าขับไปทางซ้ายตรงไปเรื่อยๆเลยค่ะ ไกลจากที่นี่ประมาณเกือบสิบกิโลเมตรถึงพอดีเลยค่ะ"
"ขอบใจนะจ้ะ"
คุณป้าเอ่ยขอบคุณก่อนจะเดินออกมาจากตรงนั้นพร้อมกับสีหน้าที่แสดงความไม่พอใจออกมาฉายชัด นี่เอวาลาออกจากงานที่นี่แล้วย้ายไปทำงานที่โรงแรมอย่างนั้นเหรอ ไม่เห็นจะบอกกันสักคำหรือกลัวเธอจะรู้ว่าได้เงินเยอะกว่าที่เดิม
"นังเด็กคนนี้ ไหนบอกว่ากตัญญูนักหนา พอเอาตัวรอดได้ก็จะทิ้งกันเหรอ ลืมบุญคุณที่เธอให้ข้าวให้น้ำแล้วหรือยังไง..."
คุณป้ากำมือแน่นก่อนจะขึ้นรถแท็กซี่ตามหาโรงแรมสุดสิริที่เอวาย้ายไปทำงานใหม่ ถ้าเธอไม่ได้เงินนะจะอาละวาดทั้งออฟฟิศเลย คอยดู!
ทางด้านของหญิงสาวเมื่อถึงเวลาพักเที่ยงเธอก็หยิบโทรศัพท์มากดดูข้อความตรงหน้าจอโทรศัพท์ คุณป้าโทรมาอีกแล้วเธอเลี่ยงที่จะไม่รับเพราะไม่อยากปฏิเสธเวลาท่านขอเงินเพิ่ม ถ้าคุณธารันรู้ว่าให้เงินป้าเธอจะซวยอีก หญิงสาวกดโทรไปหาท่านไม่อย่างนั้นจะไม่เลิกโทรมาสักที
"คุณป้าโทรหาเอวาเหรอคะ"
(กว่าแกจะรับโทรศัพท์ป้านะ เปลี่ยนที่ทำงานใหม่ไม่คิดจะบอกป้าเลยเหรอไง ใช่สิเดี๋ยวนี้แกเรียนจบมีหน้าที่การงานที่ดีแล้วนี่)
"ป้าคะทำไมถึงพูดแบบนั้น เอวาไม่เคยลืมพระคุณของคุณป้าเลยนะคะ แล้วเอวาก็ยังให้เงินป้าทุกเดือน ยังไงเอวาก็จะส่งน้องเรียนจนจบค่ะไม่ต้องห่วงนะคะ แต่เอวาไม่สามารถให้เงินได้เหมือนก่อนหน้านี้เพราะเอวาก็ต้องใช้เหมือนกัน"
เธอเอ่ยออกมาเสียงเด็ดขาด ทำไมท่านถึงพูดเหมือนว่าเธออกตัญญูลืมบุญคุณของคนที่เลี้ยงเธอมา ทั้งที่ตลอดหลายปีที่ผ่านมามีแค่เธอที่หาเงินให้ท่านใช้ ลูกชายคนโตก็ไม่เอาไหนงานการไม่ทำของเงินแม่ใช้ตลอด ส่วนคนเล็กก็ประคบประหงมไม่ยอมให้ออกไปทำงานพิเศษเหมือนที่เธอเคยทำทั้งที่เป็นผู้ชายแท้ๆ แต่เธอก็ไม่เคยว่าเพราะถือซะว่ารับปากไปแล้วว่าจะส่งน้องเรียนให้จบ
"ไปกันเถอะเอวา"
(แค่นี้ก่อนนะคะเอวาต้องไปกับเจ้านายแล้ว สิ้นเดือนเอวาจะโอนให้อีกนะคะ)
เธอกดวางสายทันทีก่อนจะหันไปยิ้มให้ชายหนุ่ม เธอรู้ว่าคุณป้าโกรธที่เธอไม่ยอมให้เงินเพราะตลอดที่ผ่านมาเธอไม่เคยปฏิเสธท่านมาก่อน แต่ถ้าให้เลือกว่าต้องแคร์ใครสักคนเธอขอเลือกพี่ธารัน เพราะเขาทำให้ชีวิตของเธอดีขึ้น สุขสบายอย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อนในชีวิต ต่างกับอีกคนที่เบียดเบียนทุกอย่างจากเธอแทบไม่เหลืออะไร...
"ไปค่ะเอวาพร้อมแล้ว"
"หนูคุยกับใคร ป้าโทรมาเหรอ"
ธารันเอ่ยถามอย่างจับผิด จะบอกว่าเขาระแวงเธอก็ได้เพราะนิสัยโดยส่วนตัวของเอวานั้นใจดีกับทุกคน ถ้าตีหน้าเศร้าพูดให้ดูน่าสงสารยังไงเธอก็ใจอ่อน เขาจึงไม่อยากให้เธอคุยด้วยมาก
"ค่ะ แต่เอวาปฏิเสธไปแล้วนะคะทำตามที่พี่ธรันบอกเป๊ะเลยค่ะ"
"ให้มันจริงเถอะอย่าใจอ่อนแล้วกัน หนูยอมมาตลอดก็เลยได้ใจไง เชื่อสิว่าไม่ยอมจบแน่เดี๋ยวต้องหาวิธีกดดันเราอีก พี่เอาหัวเป็นประกันเลย"
เขาเอ่ยออกมาฟันธงเลยว่าป้าของเอวาไม่จบแค่นี้แน่นอน ไม่นานหรอกเดี๋ยวได้สร้างเรื่องแน่
"คงไม่หรอกมั่งคะ ป้าเค้าน่าจะเข้าใจเอวาแหละ"
"เราอ่ะโลกสวยเกินไป คอยดูแล้วกัน"