ตอนที่ 9 ขุมทรัพย์จากป่า

2067 คำ
ยามเฉิน (07.00-08.59น.) หลังจากให้นมเจ้าก้อนแป้งจนหลับไปคาเต้าแล้ว ฝูเฟยเมี่ยวนำบุตรชายและบุตรสาวไปฝากไว้ที่บ้านป้าเจินอีกเช่นเคย วันนี้นางนำอาหารมาแบ่งให้กับป้าเจินและลุงเจินด้วย มีข้าวผัด และผัดฟักทอง ป้าเจินและลุงเจินจึงนั่งล้อมวงกินข้าวพร้อมๆ กับสองแม่ลูก “ฝีมือทำอาหารของเจ้าดียิ่งนัก นี่ข้าว่าหากมีทุนรอนสักหน่อย เปิดร้านขายอาหารยังได้เลย” ป้าเจินเอ่ยชม “อืม…รสมือดีจริงๆ” ลุงเจินกินไปชมไป ทางด้านฝูฟางหรงนั้นไม่ต้องพูดถึง รายนั้นตั้งใจกิน ไม่พูดไม่จา นานแค่ไหนแล้วนะที่นางกับมารดาไม่ได้กินอาหารอร่อยๆ อย่างอิ่มแปล้เช่นนี้ “ท่านแม่กินเยอะๆ นะเจ้าคะ” เด็กน้อยยังมีแก่ใจเป็นห่วงมารดา ผู้ใหญ่ทั้งสามต่างหันมามองฝูฟางหรงพลางยิ้มอย่างเอ็นดู “ท่านป้าเจิน เข่าของท่านเป็นอย่างไรบ้าง ที่เคยบ่นว่าปวดนั้นดีขึ้นหรือไม่เจ้าคะ?” ป้าเจินถอนหายใจพลางเอ่ย “เฮ้อ!โรคคนแก่น่ะ เป็นๆ หายๆ แต่ช่วงนี้หนักหน่อย เดินไกลไม่ได้เลย ข้าจึงต้องอยู่แต่ที่เรือนนี่แหละ” นี่คือเหตุผลที่ป้าเจินบอกฝูเฟยเมี่ยวให้เอาลูกๆ มาฝากไว้ได้ เพราะระยะหลังๆ มานี้นางมีโรครุมเร้าหลายอย่าง ผู้เป็นสามีจึงให้พักอยู่ที่เรือน ไม่ให้ออกไปช่วยเกี่ยวข้าว เดี๋ยวจะเป็นลมแดดกลางทุ่งนา “คราวก่อนท่านหมอบอกว่าความดันเลือดของนางท่าจะสูง ให้ระวังเรื่องอัมพฤกษ์ อัมพาตด้วย” ลุงเฉินพูดด้วยสีหน้าเป็นกังวล ลุงเจินและป้าเจินนั้นอยู่กินเป็นสามีภรรยากันมาหลายสิบปี ทั้งสองไม่มีลูกด้วยกัน “ความดันเลือดสูงหรือ?” ฝูเฟยเมี่ยวมุ่นหัวคิ้ว ในยุคสมัยนี้ยาที่ใช้รักษาความดันโลหิตสูงมีอะไรบ้างนะ “ข้าไม่เป็นไรหรอก ก็อยู่ไปตามสภาพ เรามันแก่แล้ว มันเป็นของธรรมชาติ ว่าแต่เจ้าเถอะ อาเมี่ยว วันนี้จะเข้าป่าอีกใช่หรือไม่?” “ใช่เจ้าค่ะ ข้าขอฝากฟางหรงและอาหลงไว้กับป้าเจินสักสองชั่วยามนะเจ้าคะ แล้วข้าจะหาอาหารจากในป่ามาฝากด้วย” หญิงชรายิ้ม พลางเอ่ย “ไม่ต้องเกรงใจหรอก เจ้าจะไปทำธุระอะไรก็เอาเด็กสองคนนี้มาฝากไว้ได้ หมู่นี้ข้าก็ไม่ได้ไปไหน มันเดินไกลไม่ได้” “ขอบคุณท่านป้าเจินมากเจ้าค่ะ ฟางหรง เจ้าอย่าดื้อ อย่าซนนะ ท่านป้าเจินบอกอะไรต้องเชื่อฟัง เข้าใจหรือไม่?” “เข้าใจแล้วเจ้าค่ะท่านแม่ วันนี้ข้าวผัดอร่อยจังเลยเจ้าค่ะ” ฝูเฟยเมี่ยวเอ็นดูลูกทั้งสองยิ่งนัก ฝูฟางหรงนั้นอายุเพิ่งจะสามขวบกว่าๆ แต่ก็รู้ความแล้ว ส่วนเจ้าก้อนแป้งนั้นก็ช่างรู้ใจมารดา เป็นเด็กดี เลี้ยงง่าย กินแล้วก็นอน แต่เรื่องน้ำนมนี่สิที่นางเป็นกังวล ‘ในป่าจะมีอะไรที่กินแล้วช่วยเพิ่มน้ำนมให้ได้บ้างนะ เราอยากให้อาหลงได้กินนมแม่อย่างน้อยก็สักปีนึง’ ตอนสายของวันแดดเริ่มแรง ฝูเฟยเมี่ยวสะพายตะกร้าที่สานจากไม้ไผ่ใบใหญ่เดินเข้าไปในป่าพร้อมกับเสียมหนึ่งด้าม นางเริ่มสอดส่ายสายตามองหาสิ่งที่คิดว่าน่าจะกินได้ ทันใดนั้นนางก็เจอกับสองสามีภรรยาวัยหนุ่มสาวคู่หนึ่ง เสียงของพวกเขานั้นดังพอให้นางได้ยินว่าพวกเขากำลังขุดจิ้งโกร่งกันอยู่ “โห!ท่านพี่ ท่านขุดเก่งจังเลย ได้มาอีกตัวแล้ว” “ฮ่าๆๆๆ โอ๊ย!เจ้าตัวนี้มันกัดข้า” “ท่านพี่ ทางนั้นมีอีกรูหนึ่ง เดี๋ยวข้าจะไปขุดทางด้านนั้น” “ได้ๆ ฮ่าๆๆๆ วันนี้ลูกๆ ของเราคงได้กินจิ้งโกร่งคั่วกันอร่อยเชียว” ฝูเฟยเมี่ยวเดินเข้ามาทักทายสองสามีภรรยาอย่างเป็นมิตร “พวกท่านกำลังขุดจิ้งโกร่งอยู่หรือ ได้เยอะหรือไม่?” ผู้เป็นภรรยาเงยหน้าขึ้นมามองก่อนจะชะงักเล็กน้อย นางไม่นึกว่าจะได้เจอกับฝูเฟยเมี่ยวที่นี่ “เอ่อ ได้พอประมาณ เจ้าเองก็มาขุดจิ้งโกร่งเหมือนกันหรือ?” สตรีนางนี้ก็คือถังลี่จิน สหายของหูเยี่ยหลินผู้ที่เคยแอบชอบอดีตสามีของฝูเฟยเมี่ยวนั่นเอง ฝูเฟยเมี่ยวยิ้มกว้าง ก่อนเอ่ยตอบ “มิได้ วันนี้ข้าเข้ามาหาผักหรือว่าพืชอย่างอื่นที่พอจะกินเป็นอาหารได้” ถังลี่จินให้รู้สึกเวทนาสตรีตรงหน้ายิ่งนัก ฝูเฟยเมี่ยวนั้นเป็นแม่ลูกอ่อน เพิ่งคลอดลูกได้ไม่กี่วันก็ต้องดิ้นรนออกมาหาอาหารเพื่อความอยู่รอดเพราะสามีของนางนั้นทิ้งไป นึกๆ ดูแล้วตัวของถังลี่จินเองยังโชคดีกว่าฝูเฟยเมี่ยวยิ่งนัก แม้ว่าสามีของนางจะยากจน แต่เขาก็ขยันทำมาหากินและเลี้ยงดูนางและลูกเป็นอย่างดี “เจ้ามองหาสิ่งใดล่ะ ทางด้านนั้นมีกล้วยกอใหญ่ แต่ยังไม่มีลูกหรอก มีแต่หัวปลีน่ะ” “จะ…เจ้า เจ้าว่าอย่างไรนะ หัวปลีเช่นนั้นหรือ?” ฝูเฟยเมี่ยวมีท่าทางดีอกดีใจ ถังลี่จินให้นึกประหลาดใจ ปลีกล้วยมันฝาด ผู้ใดเอาไปกินกัน “อืม…เจ้าอยากได้ปลีกล้วยเช่นนั้นหรือ?” ด้วยความสงสัย นางจึงอดไม่ได้ที่จะถามออกไป ฝูเฟยเมี่ยวพยักหน้าถี่ๆ ความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมบอกว่าสตรีนางนี้เป็นคนที่มีจิตใจดีพอสมควร มิใช่คนที่มีใจคอโหดร้ายเห็นแก่ตัวเหมือนสตรีหลายๆ คนในหมู่บ้านเฉียงไฉ่ “ใช่ ข้าอยากได้ปลีกล้วย ยิ่งเยอะยิ่งดี ตอนนี้ข้ารู้สึกว่าน้ำนมมันน้อยลง ข้ากลัวว่าบุตรชายของข้าจะมีนมไม่พอกิน” ฝูเฟยเมี่ยวจำได้ว่านางเคยไปดูดาราในสังกัดถ่ายทำละคร มีฉากหนึ่งที่เขาทำการต้มปลีกล้วยและขิงเพื่อกระตุ้นน้ำนมมารดาให้มามากๆ โชคดียิ่งนักที่ชีวิตในชาติภพที่แล้วของนางมีเหตุให้ต้องไปรู้จักเรื่องราวต่างๆ เหล่านี้ เวลานี้ฝูเฟยเมี่ยวตระหนักรู้ว่าความรู้รอบตัวสำคัญยิ่งนัก อย่างน้อยมันก็ช่วยให้เราเอาตัวรอดได้ “เช่นนั้นข้าจะนำทางเจ้าไปดูอีกด้านหนึ่ง ใกล้ๆ น้ำตกมีดงกล้วยขึ้นอยู่ ข้าแวะไปดูเมื่อสักครู่ก่อนมาเจอรูจิ้งโกร่งที่นี่ ต้นกล้วยเหล่านั้นยังไม่มีลูกแต่มีปลีอยู่สักห้าถึงหกอันกระมัง” วันนี้เป็นอย่างไรก็ไม่รู้ ถังลี่จินรู้สึกว่านางอยากผูกมิตรกับฝูเฟยเมี่ยว อาจจะเป็นเพราะความสงสารเห็นใจ หรือรวมทั้งนางเริ่มเบื่อหน่ายสหายที่ชอบกดขี่อย่างหูเยี่ยหลินแล้วก็เป็นได้ ฝูเฟยเมี่ยวเดินตามถังลี่จินไปจนถึงดงกล้วยขนาดใหญ่ นางมองเห็นลำธารไหลรินอยู่เบื้องหน้า ปลีกล้วยสีแดงโผล่ออกมาให้เห็นหลายอัน หญิงสาวรู้สึกตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก เมื่อมองลงไปที่พื้นดินฝูเฟยเมี่ยวเป็นต้องรีบอุทานออกมา “นี่ นี่ดอกอะไร?” นางก้มลงไปเด็ดดอกไม้ป่าที่ขึ้นอยู่เต็มไปหมด “นี่ดอกจี้ไฉ่อย่างไรล่ะ มีทั่วไปในป่า มันเป็นดอกไม้ป่าน่ะ” ถังลี่จินตอบอย่างงงๆ สตรีตรงหน้านางไม่รู้จักดอกไม้ป่าชนิดนี้หรือ เพราะมันขึ้นอยู่ทั่วไปในป่า ‘ดอกจี้ไฉ่ ใช่ดอกจี้ไฉ่ที่นำไปต้มกินแล้วช่วยลดความดันเลือดได้หรือไม่นะ เดี๋ยวเราลองเก็บไปให้ลุงเจินดูดีกว่า’ “อ้อ…ข้านึกออกแล้ว ขอบใจเจ้ามากลี่จิน เจ้าช่างมีน้ำใจกับข้ายิ่งนัก” ถังลี่จินยิ้มบาง นางเอ่ยก่อนที่จะเดินจากไป “ไม่เป็นไร เช่นนั้นข้าเห็นทีจะต้องไปก่อน จะไปขุดจิ้งโกร่งต่อ” “ได้ๆ” พูดจบฝูเฟยเมี่ยวก็ก้มลงเก็บดอกจี้ไฉ่ใส่ลงไปในตะกร้า แต่แล้วนางก็ต้องเงยหน้าขึ้นมาเมื่อจู่ๆ ถังลี่จินนั้นเดินกลับมา “ที่บ้านข้าปลูกขิงไว้ไม่น้อย มีแต่หัวใหญ่ๆ ทั้งนั้น ขิงนั้นมีสรรพคุณช่วยกระตุ้นน้ำนม เดี๋ยวข้าจะให้สามีข้าขุดและเอาไปให้ที่บ้าน” ใบหน้าของถังลี่จินนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ฝูเฟยเมี่ยวคิดว่านี่เป็นรอยยิ้มที่งดงามยิ่ง “ขอบใจเจ้ามากลี่จิน หากมีโอกาสวันหน้าข้าจะต้องตอบแทนเจ้าแน่” วันนั้นฝูเฟยเมี่ยวได้หัวปลีกลับบ้านมาห้าหัว ที่ยังเป็นหัวเล็กๆ อยู่ยังไม่เก็บมา ปล่อยให้มันโตสักพัก จากนั้นนางก็เดินไปดูฟักทองตรงที่นางเคยเก็บมา ตอนนี้มันยังเป็นลูกเล็กๆ เขียวๆ อยู่เช่นเดิม ก็แน่ละ นางเพิ่งเก็บลูกแก่จัดไปเมื่อวานเองนี่นะ สรุปแล้วอาหารเพิ่มน้ำนมแม่ที่หาได้ในวันนี้ก็คือหัวปลี และถังลี่จินบอกว่านางจะให้สามีเอาขิงมาให้ด้วย ส่วนฟักทองก็รอให้ลูกมันโตต่อไป ถ้าหากว่ามันไม่ถูกคนอื่นเก็บเอาไปก่อนนะ แต่วันนี้มีสิ่งที่ทำให้หญิงสาวรู้สึกตื่นเต้นก็คือ…จิ้งโกร่ง ใช่แล้ว จิ้งโกร่งก็เลี้ยงง่ายเหมือนกับจิ้งหรีดนั่นแหละ เพียงแต่เวลาขุดตัวมันจะขุดยากสักหน่อย บางตัวทำรูอยู่ลึก กว่าจะขุดออกมาได้ก็หมดแรงกันพอดี แต่ฝูเฟยเมี่ยวมีวิธีที่ง่ายกว่านั้น หญิงสาวเดินสำรวจป่าไปเรื่อยๆ จนมาหยุดอยู่ที่โขดหินข้างๆ ลำธารอีกฟากหนึ่ง นางนั่งลงวักน้ำล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น พริบตาถัดมานางเกือบจะร้องอุทานลั่นป่า โชคดีที่รีบเอามือปิดปากตัวเองไว้ได้ทัน “เห็ดหลินจือ!” เห็ดหลินจือแดงป่าขึ้นอยู่ในซอกลำต้นของต้นไม้แห้งต้นหนึ่ง เพราะมันขึ้นอยู่ในซอกหลืบจึงหลบสายตาผู้คนที่เข้าป่ามาหาอาหารได้ “เรานี่ช่างโชคดีจริงๆ มาเจอของดีให้แล้ว ฮ่าๆๆ” ฝูเฟยเมี่ยวเหลียวซ้ายแลขวากลัวว่าจะมีคนมาเห็น นางค่อยๆ บรรจงเก็บเห็ดหลินจือแดงป่านับสิบดอกวางลงในตะกร้า หญิงสาวใช้ใบตองที่เก็บมารองไว้อีกทีหนึ่ง เห็ดหลินจือสีแดงดอกใหญ่ๆ มีสปอร์สีขาวคลุมอยู่ด้านบน และนั่นทำให้ฝูเฟยเมี่ยวแทบจะกรีดร้องออกมา แต่นางต้องข่มกลั้นเอาไว้ เดี๋ยวเกิดมีผู้ใดผ่านมาทางนี้จะหาว่านางบ้าได้ ‘เราจะรวยแล้ว เย้’ เป็นที่รู้กันดีว่าเห็ดหลินจือ โดยเฉพาะเห็ดหลินจือแดงนั้นเป็นสมุนไพรที่ได้ชื่อว่าหายากและมีราคาแพง ในชาติภพที่นางจากมานั้นเห็ดหลินจือแดงหาซื้อได้ง่าย นั่นเป็นเพราะผู้คนรู้จักทำการเพาะเลี้ยงขึ้นมา แต่สำหรับยุคนี้นั้นคงต้องหาเอามาจากในป่าเท่านั้น ซึ่งคนที่โชคดีจริงๆ ถึงจะเจอ เพราะมันเป็นของหายาก นี่แสดงว่าสวรรค์เมตตานางแล้ว ‘เราจะทำฟาร์มเห็ดหลินจืออีกอย่างหนึ่งด้วย’ นางนึกกระหยิ่มในใจ คราวนี้เบี้ยหวัดของขุนนางชั้นผู้น้อยอย่างอดีตสามีของเจ้าของร่างเห็นทีจะต้องรีบชิดซ้ายกระมัง เมื่อถึงยามอู่ (11.00-12.59น.) ฝูเฟยเมี่ยวจึงได้ตั้งท่ากลับบ้าน อันที่จริงนางยังอยากเดินสำรวจป่าไปเรื่อยๆ เผื่อจะเจอของดีมากขึ้นอีก แต่เพราะเกรงใจป้าเจินอีกทั้งกลัวว่าเจ้าก้อนแป้งจะหิวนมนางจึงต้องรีบกลับ โชคไม่ดีที่ยุคสมัยนี้ไม่มีตู้เย็นและเครื่องปั๊มนม “มาแล้วๆ ท่านแม่มาแล้วเจ้าค่ะ” ฝูฟางหรงที่มองเห็นมารดาเดินมาแต่ไกลร้องออกมาด้วยความดีใจ ฝูฟางหรงนำตะกร้าไปเก็บที่บ้านก่อน เพราะของในตะกร้าค่อนข้างหนัก จากนั้นนางหยิบเห็ดหลินจือดอกขนาดกลาง 3 ดอกและดอกจี้ไฉ่ใส่ห่อผ้าเพื่อนำมามอบให้ป้าเจิน หวังว่าสมุนไพรเหล่านี้จะช่วยให้ร่างกายของผู้มีพระคุณของนางนั้นดีขึ้น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม