ตั๋วเงินจำนวน 70500 ตำลึงนั้นถูกส่งมอบให้กับมือของฝูเฟยเมี่ยว หญิงสาวรับมาด้วยอาการมือสั่นๆ นี่แหละที่เขาเรียกว่า ‘น้ำขึ้นให้รีบตัก’ เพราะหากเป็นเวลาปกติที่ไม่มีสงครามและโรคระบาดนั้น สินค้าทั้งหมดอาจจะขายไม่ได้ถึง 1000 ตำลึงซะด้วยซ้ำ โบราณว่าไว้ ‘แม้จะเป็นกำแพงอิฐหนาสูงใหญ่ อย่างไรสายลมยังสามารถพัดผ่านได้’ เรื่องการค้าขายกับกองทัพของฝูเฟยเมี่ยวก็เฉกเช่นเดียวกัน ไม่อาจปิดเป็นความลับได้ เพราะคาราวานรถม้าอันยาวเหยียดที่เทียวมาขนเอาเผือก มันและไข่เค็ม ไข่เยี่ยวม้าตลอด 3 วัน 3 คืนนั้นไม่อาจหลุดรอดสายตาชาวบ้านได้เลย อีกทั้งเรื่องจำนวนเงินที่นางได้รับก็ยังเล็ดลอดออกไปให้คนภายนอกได้รับรู้ “ว่าอย่างไรนะ นี่เจ้าล้อเล่นใช่หรือไม่ เจ้ามันปากพล่อย พูดไปเรื่อย” ฉีเจียวเหม่ยโมโหจนเลือดขึ้นหน้าเมื่อสหายรักคาบข่าวมาบอก ตั๋วเงินจำนวน 70500 ตำลึง ล้อเล่นหรือไม่ นี่มันเรื่องบ้าอันใด ตัวของฉีเจียวเหม่ยเอง