คิดซะว่าการได้ไปเป็นแบบให้เขา ทำให้ฉันกลับบ้านดึกได้โดยมีข้ออ้างกับแม่ก็แล้วกันนะ
เปิดเทอมแล้วฉันจึงมามหาลัยแต่เช้าโดยที่แม่ยังไม่ตื่นด้วยซ้ำ มันเป็นแบบนี้เสมอฉันไม่อยากเจอหน้าใครทั้งนั้นและการที่มหาลัยเปิดเป็นอะไรที่ฉันดีใจที่สุด เพราะอย่างน้อยฉันก็ไม่ต้องอยู่ที่บ้านเพื่อเห็นหน้าพ่อเลี้ยงสิงห์ที่ทำตัวเหมือนเจ้าของบ้านเข้าไปทุกวัน “น้ำขิง”
เสียงเรียกและฝ่ามือที่ทาบทับบนไหล่ทำให้ฉันเงยหน้าไปมองคนที่มาเยือน ร่างสูงของเพื่อนสนิทอีกคน ‘ไอซ์’ เพื่อนชายที่เป็นท็อปในคณะนั่งลงข้างฉัน ก่อนจะเท้าคางมองด้วยสีหน้าไม่พอใจ “อะไร?”
“มีอะไรจะบอกหรือเปล่า” ขมวดคิ้วกับคำถามของเขา “สีหน้าแบบนี้ ไอ้สิงห์ทำอะไรมาปะ”
รู้สึกโล่งใจที่ไอซ์ไม่ได้รู้เรื่องที่ฉันไปเป็นแบบวาดภาพกับเหมย ถ้าเขารู้คงโวยวายน่าดูถึงแม้ว่าเขาจะเป็นห่วงฉันในฐานะอะไรก็ตาม แต่สำหรับฉันเราคือเพื่อนกันเท่านั้นไม่มีวันเปลี่ยนแปลง “เอาตัวรอดได้”
“ไม่ไหวอย่าฝืน” น้ำเสียงไอซ์อ่อนลงก่อนจะบีบมือฉัน “อย่างน้อยฉันก็อยู่ตรงนี้”
“อือ ขอบใจนะ”
ฉันดึงมือกลับและสนใจตารางวิชาที่จะเข้าในวันนี้ซึ่งเป็นวิชาวาดภาพของอาจารย์จรัญญานี่นา ได้ข่าวว่าก่อนจะปิดเทอมอาจารย์ก็ใกล้กำหนดคลอดลูกพอดี ไหนจะต้องพักรักษาตัวอีกเพราะอาจารย์จรัญญาก็อายุเยอะแล้วแต่ดันมีลูกติดนี่สิ
“ว่าแต่วิชาแรกอาจารย์จรัญญาลาคลอดไม่ใช่เหรอ?”
“อือ คงจะมีอาจารย์มาฝึกสอนแทนละมั้ง” ไอซ์ตอบแบบขอไปทีก่อนจะยกมือโบกให้เหมยที่เดินหน้านิ่งมาหยุดตรงหน้า ฉันฉีกยิ้มให้เหมยเพื่อนรักที่ห่วงใยฉันมากที่สุดจนคนในคณะคิดว่าเราสองคนคบกันเป็นคู่เลสเบี้ยนด้วยซ้ำ ถ้าไม่มีไอซ์มาอยู่ด้วยคงจะคิดกันไปไกลแล้วล่ะ
เมื่อได้เวลาเข้าเรียนวิชาอาจารย์จรัญญา พวกเราก็ตื่นเต้นที่จะได้เจอกับอาจารย์ฝึกสอนคนใหม่ซึ่งฉันก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมาก คนที่จะมาสอนแทนอาจารย์จรัญญาที่เก่งขนาดนั้นไม่มีใครเทียบได้ อาจารย์ที่ได้รับมอบหมายจะเก่งแค่ไหนกันเชียว ไม่ใช่ปล่อยให้พวกเราเรียนรู้กันเองนะ แบบนั้นมันไม่แฟร์เลยจริงๆ เพราะว่านี่เป็นปีสุดท้ายแล้วด้วย
“ให้เดานะ คงเป็นรุ่นพี่ที่จบใหม่ๆ แน่นอน” ไอซ์หันไปพูดกับเพื่อนที่พยักหน้ารับ “เพิ่งจบก็ฝีมือคงพอๆ กับเรา จะมีอะไรให้น่านับถืออะถามจริง”
ประตูห้องเปิดขึ้นพร้อมกับร่างสูงที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวพับแขนขึ้นไปถึงข้อศอก กระดุมเสื้อถูกปลดออกถึงสามเม็ดเผยให้เห็นแผงอกแกร่งกำยำที่มีลวดลายของรอยสักภาษาอังกฤษตัวเขียนว่า ‘Charm of Art’ แปลว่า เสน่ห์ของงานศิลปะ เขาสวมแค่กางเกงยีนสีซีดขาดๆ กับรองเท้าผ้าใบสีดำยี่ห้อดีก่อนจะวางหนังสือลงบนโต๊ะ
“สวัสดีนักศึกษาทุกคนครับ” ทำไมน้ำเสียงคุ้นหูจัง จึงเลื่อนสายตาจากฝ่าเท้ามองขึ้นไปยังใบหน้าหล่อคมคายแต่คงความเรียบเฉยไว้จนอาจจะเรียกได้ว่าเย็นชา “ผมชื่อคัท คิรบดินทร์ โรจน์รุ่งเกรียงไกร”
มะ ไม่จริงอะ! คุณคัท นี่มันคุณคัทนี่นา
“พี่คัท มาได้ไงเนี่ย?” น้ำเสียงของเหมยพึมพำออกมาก่อนจะเท้าคางมองไปยังหน้าชั้นเรียน ในส่วนของฉันก็นั่งเอียงใบหน้าเพื่อหลบหลีกสายตาของเขาที่กำลังกวาดมองไปรอบห้อง
“เรียกผมว่าคุณก็ได้หรือจะอาจารย์ก็แล้วแต่สะดวก” เขายังคงพูดหน้าชั้นเรียนไปพลางเดินไปทางซ้ายทีขวาที และฉันก็ต้องหลบหลีกสายตาของเขา ทำไมโลกถึงได้กลมแบบนี้นะ! “ผมได้รับมอบหมายจากอาจารย์พงษ์เทพที่เป็นหัวหน้าคณะศิลปกรรมศาสตร์ เพื่อมาสอนแทนอาจารย์จรัญญาที่ลาไปคลอดบุตร ผมจบจากมหาลัยนี้และคณะนี้เมื่อหลายปีก่อน พูดง่ายๆ ผมเป็นรุ่นพี่ของพวกคุณ ฉะนั้นไม่ต้องเกร็งนะครับ”
“อาจารย์คัทครับ” จู่ๆ เพื่อนในห้องก็ยกมือเพื่อตั้งคำถาม “อาจารย์เป็นรุ่นพี่ของพวกเรา แสดงว่าอาจารย์จบมาหลายปีแล้ว”
“ครับ ตอนนี้ผมอายุยี่สิบหก ก็จบจากที่นี่มาห้าปีแล้ว”
“แล้วอาจารย์ทำอะไรอยู่เหรอคะตอนนี้?” คำถามมากมายกู่เข้าใส่คนตัวสูงที่ดูเหมือนเขาจะนั่งพิงขอบโต๊ะและกอดอกมองไปหานักศึกษาทุกคน ยกเว้นฉันที่ใช้ศีรษะเพื่อนตรงหน้าบดบังตัวเองอยู่
“ผมเป็นจิตรกรอิสระครับ”
“แล้วอิสระที่ว่านี่... ไส้แห้งไหมครับ?” คำถามนี้เป็นของไอซ์ที่ดูเหมือนจะไม่ชอบใจคุณคัท เพราะไอซ์คงไม่ชอบที่จะให้รุ่นพี่มาสอนแทนโดยไม่รู้เลยนะว่าคนตรงหน้าเก่งมากแค่ไหน เผลอๆ เขาประสบความสำเร็จมากที่สุดในบรรดารุ่นพี่ที่จบไปด้วยซ้ำ
“ร่างกายผมเหมือนคนไส้แห้งหรือเปล่าครับ” น้ำเสียงเย็นชาเอ่ยขึ้นทำให้ภายในห้องเงียบสงบทันที “ผมมีหน้าที่สอนพวกคุณในวิชาวาดภาพ ก่อนอื่นผมขอรู้จักพวกคุณก่อนแล้วกัน”
แย่แล้ว! คุณคัทขานชื่อของนักศึกษาหลายคนเพื่อให้ลุกขึ้นและแนะนำตัวให้เขารู้จัก ฉันมองเพื่อนในห้องที่ลุกขึ้นยืนตามชื่อของตัวเอง จนมาถึงไอซ์ เหมย อีกไม่กี่ชื่อก็จะเจอฉันแล้ว
“คณภรณ์ รมย์ธีระ”
“...” ฉันกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะหันไปมองไอซ์ที่สะกิดให้ลุกขึ้นยืนแนะนำตัว ไม่ต่างจากเหมยที่เอียงองศาใบหน้าไปทางคุณคัทที่ยังคงขานชื่อฉันไม่หยุด
“คณภรณ์ รมย์ธีระ มีตัวตนหรือเปล่าครับ?” เมื่อเขาเอ่ยชื่อซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฉันจึงค่อยๆ ลุกขึ้นจากเก้าอี้และยกมือพลางสบตากับคุณคัทที่เบิกตากว้าง “เธอ...”
“คุณคัท ไม่สิ อาจารย์คัท” เผลอเรียกอะไรแบบนั้นออกไปจึงสูดลมหายใจเข้าและฉีกยิ้มให้เขา “สวัสดีค่ะดิฉันชื่อคณภรณ์ รมย์ธีระ ชื่อเล่นน้ำขิงค่ะ”
คุณคัทปรับสีหน้าตัวเองและพยักหน้ารับก่อนจะเรียกชื่อคนต่อไป หัวใจของฉันแทบจะวายให้ได้พลางหันไปตามเสียงเรียกของไอซ์ “ทำไมเธอพูดเหมือนรู้จักอาจารย์คัท?”
“จะบ้าหรือไง ฉันเพิ่งจะรู้พร้อมเพื่อนในห้องนี่ล่ะ”