4 พนักงานที่ไร่

1469 คำ
เมื่อขุนเขาลงมาจากบ้าน ในเวลา 8 โมง ก็เห็นอาหารของโปรดตัวเอง ถูกจัดไว้ที่โต๊ะอย่างเป็นระเบียบ ทั้งยังร้อนๆ อยู่เลย แสดงว่าพึ่งมาจัดโต๊ะไว้ไม่นานนี้เอง "พี่บัว พี่บัว" ขุนเขาเรียกเสียงดังไปทั่วบ้าน "เมื่อวานคุณบอกว่าไม่ให้พี่บัวไม่มาทำงานบ้านที่นี่แล้ว" เป็นเสียงชนิสาที่พูดมาแทน "..." แค่ได้ยินเสียงเธอใจเขาก็วูบไหวแล้ว "คุณอยากได้อะไร เรียกใช้ฉันได้ค่ะ" เธออยากจะโกรธเขาให้มากกว่านี้ แต่เธอก็ทำไม่ได้ เพราะเธอรู้ดีว่าเธอไม่มีสิทธิ์อะไร เลยทำได้แต่แบกสังขารมารับใช้เขา "ฉันลืมไปว่าตอนนี้เธอเป็นคนรับใช้ที่บ้านของฉัน" คำพูดเหยียดหยามเริ่มออกมาอีกครั้ง "ค่ะ แล้วแต่คุณจะให้เป็น" แล้วแต่เขาเลย เพราะเธอทำได้แค่อดทนจริงๆ อดทนเท่านั้น "อวดเก่ง" "คุณมีอะไรจะใช้ฉันอีกไหมคะ" "ไม่มี" เขาตอบเสียงเรียบ "ค่ะ ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัว" "วันเสาร์นี้..." "เอ่อ พอดีฉันมีเรื่องจะบอกคุณ เสาร์ - อาทิตย์นี้ ฉันลานะคะ ฉันจะกลับบ้าน" "ไปไหน!!!" เขาถามเสียงแข็ง "ไปธุระค่ะ" "แล้วธุระเธอคืออะไร" แล้วไม่คิดจะบอกเขาเลยหรือยังไง "เรื่องส่วนตัวค่ะ" "ไม่มีคำว่าส่วนตัวของเธอ เมื่ออยู่กับฉัน" "ฉันจะพาพ่อไปหาหมอค่ะ" "อืม ก็แค่นี้" ถ้าจะไม่ให้ไปเขาก็คงใจร้ายเกินไป "ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวนะคะ ต้องไปดูน้องๆ นักศึกษา" เพราะวันนี้ที่ไร่มีนักศึกษาจากกรุงเทพฯ มาดูงาน "อืม" เขาตอบเสียงเรียบ พร้อมกับนั่งกินข้าวไม่สนใจอะไร เสียงบรรยายของอาจารย์ ของมหาวิทยาลัยชื่อดังในกรุงเทพฯ ได้แนะนำความรู้ต่างๆ ให้นักศึกษาปี 4 จำนวน 200 กว่าชีวิต ที่มาดูงาน และมาพักที่รีสอร์ทของไร่ 'สุขสมบูรณ์' เป็นเวลา 2 คืน 3 วัน ตามด้วยลุงเจิมวิทยากรจำเป็นของไร่ กำลังเอ่ยแนะนำในส่วนต่างๆ ของไร่ ก่อนที่จะพานักศึกษาไปยังจุดต่างๆ "ไร่สวยจังเลยนะคะ" นักศึกษาสาวสวยคนหนึ่งเอ่ยขึ้น "ครับ ก็ได้คนรุ่นใหม่มาบริหาร ก็เลยมีไอเดียดีๆ ทำให้ที่นี่สวย เอ่อ เจ้าของไร่สุขสมบูรณ์ ชื่อคุณขุนเขานะครับ" ลุงเจิมวิทยากรจำเป็นของไร่พูดขึ้น "พวกเราซักอยากจะเห็นเจ้าของไร่แล้วสิ จะได้เห็นไหมคะ" นักศึกษาสาวสวยคนหนึ่งก็ถามขึ้นในทันที "ได้เห็นครับ พรุ่งนี้คุณขุนเขาจะเป็นคนพาไปเก็บองุ่นเองครับ" พอลุงเจิมพูดจบ ก็ตามด้วยเสียงฮือฮาของนักศึกษาสาวๆ ดังขึ้นทันที "แต่ก่อนอื่นต้องรู้จักกับพี่นทีก่อนนะครับ" เสียงปรบมือต้อนรับก็ดังขึ้น "สวัสดีครับผมชื่อ 'นที' นะครับ เป็นพนักงานหรือคนดูแลไร่สุขสมบูรณ์ครับ วันนี้จะแนะนำความรู้ให้น้องๆ นักศึกษาทุกคนไม่มากก็น้อยนะคะ" นทีพูดจบเสียงปรบมือก็ดังขึ้น และนักศึกษาผู้หญิงหลายคนก็จ้องมองนทีตาเป็นมัน เขาหล่อมาก เขาดูดีมาก จนหลายคนคิดว่าเขาคือเจ้าของไร่ แต่ไม่ใช่เขาเป็นเพียงพนักงานในไร่เท่านั้น เมื่อแนะนำอะไรเสร็จแล้ว ก็พาน้องๆ นักศึกษาไปยังส่วนต่างๆ ของไร่ ไร่แห่งนี้กว้างถึง 1,000 กว่าไร่ ซึ่งเดินหอบแค่ไหนก็ไม่ทั่วไร่อยู่ดี จึงเริ่มไปจุดต่างๆ ตามที่ลิสไว้ก็พอ และความโด่งดังของไร่แห่งนี้ก็คือองุ่น และนมวัวแท้ ที่ขึ้นชื่อมาก ทั้งมีรีสอร์ทที่สวยและบรรยากาศดี จนทำให้ติดท็อปในหลายๆ เว็ปไซต์ และมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจำนวนมาก "อะ ขอโทษครับ" "..." นักศึกษาหนุ่มหล่อคนหนึ่งอยู่ๆ ก็เผลอเดินมาชนชนิสาเข้า จนแก้วกาแฟในมือชายหนุ่มหกจนหมด "เจ็บตรงไหนไหมครับ" เขาถามด้วยความเป็นห่วง "ไม่เป็นไรค่ะ แต่กาแฟหกหมดเลย" ชนิสาพูดพร้อมกับมองไปที่แก้วกาแฟของเขา "ผมซู่มซ่ามเองครับ" "อะ งั้นเอาแก้วนี้ไป แต่ลาเต้หวานมันนะคะ" เธอยื่นแก้วกาแฟของตัวเองที่ยังไม่ได้ดื่มให้กับชายตรงหน้า "ไม่เป็นไรครับ ผมทำหกเองเดี๋ยวไปซื้อใหม่" เขาปฎิเสธเธอด้วยความเกรงใจทันที "ไม่เป็นไร รับไปเถอะค่ะ" "ขอบคุณนะครับ คุณ? ..." เขารับแก้วกาแฟไปพร้อมกับถามชื่อเธอ "ชื่อชนิสาค่ะ เรียกพี่นิสาก็ได้" "อะ...คะ..ครับพี่นิสา ผมชื่อพีทนะครับ" "ค่ะ" "พี่เป็นเจ้าของไร่หรือเปล่าครับ" "ไม่ใช่ค่ะ พี่เป็นพนักงานเฉยๆ" "ไม่น่าเชื่อว่า พนักงานในไร่นี้จะสวย และผิวพรรณดีขนาดนี้" และเขาก็เผลอพูดออกมาตามที่ใจเขาคิด "ไม่ดีหรอกค่ะ พี่ตากแดดตากลมทุกวัน" "ขนาดตากแดดตากลมนะครับเนี่ย" "ขอบคุณค่ะ งั้นพี่ขอตัวไปทำงานก่อนนะ" "ได้ครับพี่นิสา ขอบคุณสำหรับลาเต้หวานมันแก้วนี้ด้วยนะครับ ไว้เจอกันใหม่" "ค่ะ ไม่เป็นไร" เมื่อเธอพูดจบเธอก็เดินเลี่ยงออกไปทำงานของเธอทันที หนุ่มน้อยคนนี้ก็เหลียวมองอย่างไม่วางตา 'ทำไมเธอถึงสวย และน่ารักได้ขนาดนี้กันนะ' พร้อมคลี่ยิ้มออกมา "ไอ้พีท มึงมาทำไรตรงนี้" "มาคุยโทรศัพท์ แต่บังเอิญไปเดินชนกับพี่คนสวยคนหนึ่ง จนกาแฟกูหกหมด พี่เขาเลยให้แก้วนี้มา" พีทพูดพร้อมกับโชว์แก้วกาแฟในมือให้เพื่อนดู "เอ่อ ตาเยิ้มไปเถอะมึง" "ก็กูเจอผู้หญิงสวย ทั้งใจดีอีกนะมึง" "ไร้สาระ กลับไปพักเหอะ" "เอ่อๆ" ก่อนจะเดินไป เขาก็ยังคงมองหาผู้หญิงคนนั้นอยู่ เมื่อเห็นว่าเธอเดินไปเดินมา เพื่อทำงานอยู่แถวนั้นก็ยิ้มออกมาทันที เวลาก็ล่วงเลยมาถึงตอนค่ำ หลังจากทำงานที่ไร่เสร็จ เธอก็กลับมาทำงานบ้านให้เขาต่อ แม้จะเหนื่อยล้าขนาดไหน ก็ยังคงจำเป็นต้องทำต่อไป ขุนเขาเอาแต่ลอบมองชนิสาอยู่แบบนั้น แต่ไม่ได้พูดอะไรออกไป แต่แกล้งทำนั่นทำนี่เพื่อที่จะได้อยู่ใกล้ ๆ เธอ "หลบด้วยค่ะ ฉันจะถูพื้น" "ก็ถูไปสิ ใครไม่ให้เธอทำ" เขาตอบแบบกวนๆ "..." แล้วจะให้เธอทำได้ยังไง ในเมื่อเขาเอาแต่เดินไปเดินมาวนรอบตัวเธออยู่แบบนี้ ถ้าเธอถูพื้นไปมีหวังรอยสลิปเปอร์ ที่เขาใส่อยู่คงเต็มพื้นไปหมด "ที่นี่บ้านฉัน ฉันจะยืนตรงไหนก็ได้" เขาขยับตัวไปให้อกชิดกับแผ่นหลังเธอ และกระซิบที่หูของเธอเบาๆ "ค่ะ ถ้างั้นฉันจะได้ไปทำงานอื่น" และเธอก็เดินไปห้องครัว แต่คนหน้ามึนก็ยังคงตามไปด้วยเช่นเดิม "คุณมีอะไรหรือเปล่า" เธอถามด้วยน้ำเสียงที่ลำคาญเต็มทีเต็มทน "มี!" "อะไรคะ" "วันนี้ถ้าทำงานบ้านเสร็จแล้ว ก็ขึ้นไปหาฉันที่ห้องด้วย" "ฉันเหนื่อยค่ะ ฉันขอพักผ่อน" "ทำไม ทำอีกสักเรื่องมันจะตายให้ได้เลยหรอไง" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิด "..." เธอเบื่อจะฟังสิ่งที่เขาพูดแล้ว เธอเหนื่อยกายมามากทั้งวัน ยังต้องเหนื่อยใจเพราะเขาอีก "สักสามทุ่มฉันขึ้นไปค่ะ" เธอตอบเสียงเรียบ "ทำไมต้องสามทุ่ม" เขาถามขึ้นเสียงดัง "ก็ฉันต้องทำงานบ้านให้เสร็จก่อน แล้วจะกลับไปอาบน้ำแต่งตัวค่ะ จะมาสัก 3 ทุ่ม" "อืม รีบหน่อยก็แล้วกัน ฉันห่างมาหลายวันแล้ว" "..." เธอได้แต่กระพริบตาถี่ๆ เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูดออกมา "ฉันอยากเอาเธอ!" และเขาก็พูดออกมาแบบหน้าไม่อาย คนบ้าอย่างเขานี่มันบ้าจริงๆ เขาไม่คิดจะทำอย่างอื่นบ้างเลยหรือยังไง เรียกให้เธอไปบำเรอวันเว้นวัน หรือสองวันเว้นหนึ่งวัน และแต่ละวันก็ไม่เคยต่ำกว่า 3 รอบ จนเธอเกือบใจขาดตายซะให้ได้ เรื่องเมื่อวานเธอยังโกรธแค้นเขาในใจมาก จนไม่อยากทำอะไรให้เขาอีกแล้ว แต่ด้วยเพราะเป็นสิ่งที่เธอต้องทำหลีกเลี่ยงไม่ได้ ได้แต่เก็บความขมขื่นไว้ในใจ...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม