เมื่อลากเธอกลับมาถึงบ้านไม้สักของเขาแล้ว เขาก็ผลักเธอไปที่โซฟาอย่างแรงทันที
"..." เธอรู้สึกเจ็บมาก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาด้วยเพราะไม่อยากเสวนาให้เขาได้ต่อว่าเธออีก
"ไปทำงานบ้าน"
"พี่บัวทำหมดแล้วไม่ใช่หรอคะ" เธอถามเสียงเรียบ บ้านเขาตอนนี้สะอาดมาก เหมือนพึ่งทำความสะอาดไป
"ต่อไปนี้ฉันจะไม่ให้พี่บัวมาทำที่นี่แล้ว และป้าแววก็จะไปทำแค่บ้านใหญ่ เพราะฉนั้นที่นี่เธอต้องทำ"
"ฉันทำงานที่ไร่ฉันก็เหนื่อยมากแล้วนะคะ" เธอส่งสายตาตัดพ้อให้เขา เพราะทุกวันนี้เธอก็เหนื่อยจนสายตัวแทบขาดจริงๆ
"เธอคงลืมว่ามาอยู่ในฐานะอะไร"
"ฉันรู้ค่ะ แต่ฉันก็ต้องทำงานทั้งในไร่ และก็ในรีสอร์ททุกวัน ฉันก็เหนื่อยเป็น"
"อันนั้นมันปัญหาของเธอ ไว้หาผัวรวยได้เมื่อไหร่ค่อยไปอยู่สุขสบาย เพราะถ้าคิดว่าได้นอนกับฉันแล้วจะสบาย เธอคิดผิด"
"ฉันไม่เคยคิดอะไรแบบนั้น" เธอตอบเสียงแข็ง
"ฉันเข้าใจผิดหรอกหรอ คิดว่าเธอชอบอะไรที่สบาย"
"เอาเป็นว่าฉันจะทำงานบ้านให้คุณด้วย ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่เหนื่อยแล้ว"
"แล้วทำไมเธอยอมง่ายๆ?"
"ฉันเหนื่อยจะเถียงค่ะ ไว้ฉันมีคนเข้ามาแบบที่คุณว่า ฉันก็จะสบายเอง"
"นี่เธอ!!!"
"ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวไปทำงานบ้านก่อนนะคะ มีงานต้องทำเยอะ" เพราะไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเขาอีกแล้ว เธอจะยอมทำทุกอย่างที่เขาให้ทำเลยแล้วกัน จะได้ไม่ต้องมีปัญหากัน วันนี้เธอเหนื่อยมาก เหนื่อยกายจนอยากจะฟุบลงแล้วหลับไปเลย
"อ่อใช่สิฉันลืมไป เธอยอมเอาตัวเข้าแลกกับที่แค่ไม่กี่ไร่ ฉันก็เชื่อแล้วแหละ" เขายังเหยียดหยามเธอไม่หยุด เธอหันหลังกำลังจะเดินออกไป แต่ทว่า
"น่าแปลกจริงๆ ที่ดินขี้ปะติ๋วแค่นั้นที่อยากได้นักอยากได้หนา จะทำให้ครอบครัวเธอดีขึ้นมาได้ ถึงขั้นเอาลูกสาวมาแลก หน้ารังเกียจกันทั้งบ้าน" เธอหันหน้ามาทันทีไม่รอช้า ตบหน้าเขาไปเต็มแรงด้วยความเจ็บใจ
"ฉันยอมได้นะ คุณจะด่าจะว่าฉันอะไรฉันทนหมด แต่อย่ามาด่ามาว่า หรือแตะต้องครอบครัวของฉัน ฉันไม่ยอม" เธอพูดขึ้นด้วยความอัดอั้น
"..." เขาแค่ตั้งใจจะพูดยั่วเธอเฉยๆ ไม่คิดว่าเธอจะโกรธมากขนาดตบหน้าเขาได้ นี่เป็นครั้งแรกเลย ครั้งแรกจริงๆ
"ดีแต่คุณสินะ คนอย่างฉันมันไม่มีอะไรดีหรอก ไม่เคยดี แต่ครอบครัวของฉันดี ฉันรักพวกเขามาก คุณอย่าได้แตะต้องครอบครัวฉันอีก!!!"
"..." ขุนเขาพูดอะไรไม่ออกแล้วตอนนี้
"อย่าให้ฉันต้องรู้สึกแย่กับคุณไปมากกว่านี้เลย ฉันพยายามจะไม่เกลียดคุณ เพราะคิดเสมอว่าสิ่งที่ฉันทำก็ไม่ถูก ถึงฉันจะไม่มีค่า ไม่มีเกรียติ ไม่มีศักดิ์ศรี แต่ฉันก็มีพ่อมีแม่ พ่อแม่ของฉันมีศักดิ์ศรี คือที่สุดของชีวิต เพราะแบบนี้ไม่ว่าคุณหรือคนไหนๆ ก็อย่ามาแตะต้อง!!!" เธอพูดขึ้นเสียงดัง พร้อมน้ำตาที่ไหลออกมาเป็นสาย อย่างเจ็บปวดหัวใจจนแทบจะระเบิดออกมา ก่อนจะวิ่งออกไปจากบ้านเขา
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นพฤติกรรมเขา ที่ร้ายกาจขนาดนี้ ทั้งการกระทำและคำพูด ปกติจะด่าว่าเธอ แต่จะไม่มีอะไรลามปามถึงพ่อแม่เธอแบบนี้ เธอเสียใจมาก และรีบหอบสังขาร ที่ร้องไห้จนตัวโยนออกไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด
"นิสา... เดี๋ยว นิสา!!! โถ่เว่ยยยยยยยย" เขาก็โมโหตัวเองเหมือนกัน ทำไมปากพล่อยไปแบบนั้นได้
"ฮึกๆ ฮึก" เธอหลบมาร้องไห้หน้าแดงจมูกแดง อยู่ข้างบ้านพักคนเดียว
"พี่นิสา พี่นิสาเป็นอะไร" แตงกวาเมื่อเห็นแบบนั้นก็เดินมาถามทันที เพราะไม่รู้ว่าพี่สาวคนสนิทเป็นอะไรไป
"แตงกวา ฮื้อ ฮึกๆ" ชนิสาจ้องไปที่แตงกวาแล้วก็ก้มลงร้องไห้ต่อ
"ใครทำอะไรพี่นิสา" แตงกวาถามด้วยความเป็นห่วง
"พี่...ฮึกๆๆๆ" เธอพูดไม่ออกได้แต่ร้องไห้ออกมา
"คนสวยๆ จะร้องไห้ได้ไง คนสวยอย่างเราต้องเชิดเข้าไว้" แตงกวาที่พอจะเดาอะไรได้ ก็พูดปลอบใจชนิสาทันที
จบคำพูดของแตงกวา ชนิสาเงยหน้าขึ้นมาทันทีด้วยสภาพที่ ตาแดงจมูกแดงผมยุ่งเยิง ทำให้แตงกวาแกล้งหัวเราะออกมา และแซวเธอ ไม่นานชนิสาก็หัวเราะตาม
และทั้งสองคุยกันหัวเราะเหมือนกับว่าพยายามจะฝั่งกลบเรื่องร้ายๆ นี้ ออกจากสมองของเธอให้ได้เร็วที่สุด
เมื่อเธอได้มานั่งคุยกับแตงกวา เธอก็รู้สึกดีขึ้นมากๆ เธอยังจำวันที่เข้ามาที่นี่วันแรกได้ดี มีแตงกวากับนที ที่คอยช่วยเหลือเธอทุกอย่าง ทำให้เธอสัมผัสได้ว่าทั้งคู่เป็นคนดีมาก
มากกว่าเจ้านายของพวกเขา ที่เป็นคนร้ายกาจยิ่งกว่าอะไร จากเหตุการณ์วันนี้เธอโกรธเขามาก มากจนจะทนมองหน้าเขาไม่ได้แล้ว เธอไปทำอะไรให้ เขาต้องโกรธต้องเกลียดเธอขนาดนั้นกัน
"อาหารเย็นค่ะ คุณขุนเขา"
"พี่บัว เอ่อ...นิสา เขาไปไหนแล้ว"
"นิสา กลับไปพักแล้วค่ะ บอกบัวว่าปวดหัวมาก ให้บัวมาทำงานแทนก่อน"
"เป็นหนักเลยหรอ"
"ก็เห็นว่าตาแดง จมูกแดงหมดเลยค่ะ ป้าแววก็เอายาให้กินแล้ว"
"ถ้างั้นไม่มีอะไรแล้ว พี่บัวก็กลับไปพักเถอะ เดี๋ยวผมเก็บโต๊ะเอง"
"ค่ะ งั้นขอตัวก่อนนะคะ"
ณ หน้าบ้านพักพนักงาน
"อะ แฮ่ม!!" นทีกระแอมให้คนที่ยืนด้อมๆ มองๆ อยู่นานหลายนาทีแล้ว
"ไอ้นที มึงมาทำอะไรที่นี่"
"แล้วคุณขุนเขามาทำอะไร" นทียอกย้อน
"มึงหุบปากไป"
"เหลือเวลาอีกแค่ 6 เดือนไม่ใช่ตั้ง 2 ปีแบบที่ผ่านมาแล้วนะ" นทีพูดเสียงเรียบ
"มึงอย่ารู้ดี"
"ไม่รู้ดีก็ได้ ถ้าร้องไห้เหมือนหมา เวลาเขาไปก็อย่าหาว่าผมไม่เตือนนะ"
"จะไปไหนก็ไปมึงอะ ลำคาญ"
เมื่อนทีไปแล้ว เขาก็แอบย่องเข้าห้องเธอทันที และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรก ที่เขาเข้ามาที่นี่เพราะฉนั้นทำไมจะเข้าไม่ได้ เพียงแต่พยายามไม่ให้เธอรู้แค่นั้น
แกร๊ก เสียงเปิดประตูเบาๆ คนที่หลับสนิทเพราะฤทธิ์ยา ยังไม่รู้สึกอะไรว่ามีผู้บุกรุก ทั้งยังนอนได้น่ารักเหมือนแมวอีก
"เธอนี่มัน ยัยแม่มด" เมื่อเห็นหน้าจิ้มลิ้มของเธอเขาก็อดเอ็นดูไม่ได้ และก็อยากโกรธตัวเอง ที่ขยันหาคำพูดมาพูดให้เธอรู้สึกไม่ดี แต่จะทำยังไงได้ละ ก็...
"นี่กินยาเยอะขนาดนี้เลยหรอ" เพราะเขาเห็นยาที่หัวเตียงเธอ เธอคงเหนื่อยมากจนไม่สบายสินะ หรืออาจจะเป็นเพราะคำพูดของเขา ที่ทำให้เธอต้องเป็นแบบนี้ เขาเอานิ้วเกลี่ยเส้นผมที่บังหน้าของเธอออก จากนั้นก็นั่งจ้องหน้าเธอยู่นับสิบนาที
ก่อนจะลุกขึ้นถอดเสื้อคลุมออก และมุดตัวเข้าไปในผ้าห่มฝืนเดียวกันกับเธอ และกอดเธอไว้แนบแน่น
และตัวเธอเองก็ด้วยความเคยชิน ตลอดเวลาที่อยู่กับเขามาปีครึ่งนี้ เขาเรียกหาเธอบ่อยมากๆ จนแทบจะนอนด้วยกันทุกคืน เมื่อเขากอดแบบนี้เธอก็กอดตอบ แบบไม่ได้รู้สึกผิดแปลกอะไร
เวลาล่วงเลยมาถึงเช้ามืด ด้วยการที่กลัวจะเสียฟอร์มขุนเขาก็รีบดีดตัวลุกขึ้น และออกจากห้องเธอไป ก่อนเธอจะตื่น และพนักงานที่นี่จะมาเห็น เพราะไม่อยากให้เธอรู้ว่าเขามันบ้าขนาดไหน ด่าว่าเธอสาระพัด แต่ก็แอบมาทำอะไรบ้าๆ แบบนี้
น่าอายชมัด
.........................
To รี๊ด
เป็นยังไงบ้างคะ ผ่านมา 3 EP แล้วมาม่าไหม สงสารนิสาไม่ไหว ไรท์เขียนยังสงสารเลย พระเอกจะโบ้ตอนไหนน๊า จัดให้หนักๆ เลยดีไหม ฝากทุกคนเอ็นดูพี่ขุนเขาของไรท์ด้วยนะคะ เขายังคิดไม่ได้จริงๆ
#ฝาก 'กดติดตาม กดไลด์ กดหัวใจ กดเข้าชั้น' เพื่อเป็นกำลังใจให้ไรท์เขียนเรื่องต่อไปด้วยนะคะ
#Phicha ❤