ขุนเขา Talk
3 วันผ่านไป เขาและเธอยังมีสงครามเย็นต่อกันอยู่ เธอเงียบทุกอย่าง เขาจะหาเรื่องอะไร เธอก็ทำทั้งหมด ไม่เคยบ่นไม่เคยปฏิเสธอะไรสักอย่าง
"พ่อ..." เขาเบิกตากว้างเมื่อเห็นพ่อเขา เดินเข้ามาในบ้าน
"อืม"
"พ่อมาได้ไง" ร้อยวันพันปี พ่อเขาแทบไม่มาที่นี่เลย
"ไร่ก็ไร่ข้า ทำไมจะมาไม่ได้วะ”
"แต่พ่อยกให้ผมแล้ว จะมาไร่พ่อได้ยังไง" ต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ
"เอ่อ รู้งี้ยกให้วัดดีกว่า"
"พ่อออออ"
"เอ่อ ข้าพ่อเอ็ง"
"แล้วมาทำไม"
เมื่อนิสาเดินออกมาจากห้องครัว ทันทีที่เห็นเสี่ยไพบูลย์ เธอก็ตกใจมาก เพราะเสี่ยไพบูลย์เคยอยากได้เธอเป็นนางบำเรอ ตอนนั้นเธอปฏิเสธแทบตาย เพราะไม่ได้ต้องการอะไรแบบนี้
แต่เมื่อความจำเป็นทำให้เธอไม่มีทางเลือก เธอก็ตัดสินใจไปหาเสี่ยไพบูลย์ที่โรงแรมของเขาทันที แต่ก็เจอกับลูกชายคนเล็ก นั่นก็คือคุณขุนเขาก่อน
เมื่อเขารู้เจตนาของเธอว่าเธอมาทำอะไร เขาก็โกรธเธอเกลียดเธอมาตั้งแต่ตอนนั้น เขาดึงแขนเธอขึ้นไปบอกเสี่ยไพบูลย์ซึ่งตอนนั้น ก็อยู่กับผู้หญิงอีกคนในห้อง ว่าเขาจะให้เธอมาเป็นนางบำเรอตัวเอง และที่ 6 ไร่ของเธอเขาจะขอ จนสุดท้ายก็ได้เป็นนางบำเรอของลูกชายของเสี่ยไพบูลย์มาจนถึงทุกวันนี้
ตอนนั้นเธอก็โกรธเกลียด ทั้งรังเกียจตัวเองเหมือนกัน เขามองเธอว่าเป็นสิ่งที่ไร้ค่า ไร้ราคา ผู้หญิงดีๆ ที่ไหนจะเอาตัวเข้าไปยอมเป็นนางบำเรอใคร แต่ในเมื่อความจำเป็นมันบีบบังคับ เธอก็ต้องยอมรับชะตากรรมของตัวเองให้ได้
"หนู..." เสี่ยไพบูลย์พูดเสียงเรียบนิ่ง
"สวัสดีค่ะ..." เธอพูดด้วยเสียงที่นิ่งที่สุด แม้ว่าในใจจะสั่นไหวแค่ไหนก็ตาม ตั้งแต่เธอมาอยู่กับเขาที่นี่ ก็ 1 ปี 6 เดือนแล้ว เธอก็พึ่งจะเห็นเสี่ยไพบูลย์ก็วันนี้
"ยืนเซ่ออยู่ทำไม มีอะไรทำก็ไปทำสิ" ขุนเขาพูดเสียงดัง
"ค่ะ" และเธอก็รีบเดินออกจากบ้านไปทันที
"ไอ้เสือ ทำไมนังหนูนี่ยังอยู่กับแกอยู่" เสี่ยไพบูลย์ถามพร้อมกับจ้องหน้าเขม่ง
"ก็ยังอยู่" ขุนเขาพูดพร้อมกับหลบสายตา
"มันยังไง คนเจ้าชู้เหมือนพ่อแบบแก ทำไมยังอยู่กับนังหนูคนนี้อยู่"
"ก็รู้ตัวเนอะว่าตัวเองเจ้าชู้" --
"เอ่อ ก็ข้ารักสวยรักงาม เอ็งก็รู้"
"ก็นั่นแหละ เมียถึงได้ทิ้ง"
"ไอ้ห่า ข้าพ่อเอ็งนะ"
"พ่อมีไร รีบๆ พูดมา ต้องออกไปดูโรงงานนม"
"เอาเรื่องนังหนูคนนี้ก่อน เอ็งถึงขั้นขอกับพ่อ เอ็งถึงขั้นให้มาอยู่ เข้านอกออกในบ้านเอ็งได้ ต้องยังไง"
"ไม่ยังไงหรอก ก็ให้มาเป็นคนรับใช้"
"คนรับใช้อะไร สวยขนาดนี้" เสี่ยไพบูลย์พูดขึ้นอย่างรู้ทัน
"สวยตรงไหนพ่อ ทำงานตากแดดตากลมทุกวัน"
"นี่ขนาดทำงานตากแดดตากลมนะ ยังสวย เช้งกะเด๊ะได้ขนาดนี้"
"ไร้สาระหน่าพ่อ" ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ทำงานหนักขนาดนี้ยังสวยอยู่ได้
"เอามาอยู่ใกล้ๆ แบบนี้ เดี๋ยวเอ็งก็ตกหลุมรักซะหรอก เอาไปเอามาได้ขึ้นมาเป็นนายหญิงของไร่เอ็งสักวัน"
"ไม่มีทาง ผมไม่มีวันยกย่องผู้หญิงแบบนี้"
"เอาเถอะ ข้าจะคอยดู" เสี่ยไพบูลย์พยักหน้าเบ๋ปากเล็กน้อยและยิ้มให้ลูกชาย
"ก็แค่ผู้หญิง เอาร่างกายมาแลกกับสิ่งของ น่าสมเพช"
จังหวะที่เขาพูดว่าเขาไม่มีวันยกย่องผู้หญิงแบบเธอ เธอก็เดินเข้ามาได้ยินพอดีเพราะลืมของเขาไว้ เขาก็ชงักไปเล็กน้อย แต่ก็ทำเป็นไม่ได้สนใจอะไร จนเธอเดินออกไปด้วยท่าที ที่ไม่ได้สนใจ หรือใส่ใจอะไรกับสิ่งที่ได้ยินเช่นกัน
"เอ่อ แล้วแต่เอ็งก็แล้วกัน"
"พ่อพูดเรื่องตัวเองมาเถอะ ผมไม่ได้มีเวลามากนะ"
"งานแต่งเจ้าขุนพล แม่เอ็งจะมาไหม" เมื่อพูดเรื่องอื่นจนคลายความกังวลแล้ว เสี่ยไพบูลย์ก็พูดออกมา
"ก็ต้องมาสิ งานแต่งลูกชายเขาทั้งคน"
"เอ่อ จัดห้องดีๆ ให้ด้วยละกัน" บุษบายิ่งเป็นคนนอนยากๆ อยู่ด้วย มาแบบนี้จะนอนหลับไหมก็ไม่รู้
"แล้วเกี่ยวอะไรกับพ่อ" เขาทำทีหรี่ตาถาม
"นั่นเมียกูนะ ทำไมจะไม่เกี่ยว"
"เมียเก่าเถอะ"
"ไอ้ห่า มึงอย่ายอกย้อน" เสี่ยไพบูลย์ทำท่าทีจะลุกขึ้นตีลูกชายตัวแสบ
"อะๆ ทำไม จะทำอะไร" เขาก็ยิ้มพร้อมถาม
"ข้าก็บอกไว้ ยิ่งนอนยากๆ อยู่ด้วย ทั้งเผื่อพาผ้วใหม่มาด้วย จะว่าไม่ได้ว่าต้อนรับไม่ดี"
"แม่มีใครที่ไหนละ วันๆ ก็วุ่นวายอยู่แต่กับร้านอาหาร" แม่เขาไม่เคยมีใครเลยจริงๆ วันๆ ก็ทำแต่งาน งานยุ่งยังกะคนจะสร้างตัว ทั้งๆ ที่มีครบทุกอย่างแล้ว
เมื่อพ่อแม่เขาตัดสินใจแยกทางกัน ตอนที่เขากับพี่ชาย บรรลุนิติภาวะกันทั้งคู่ เพราะความเจ้าชู้ของพ่อ ก่อนจะไปจดทะเบียนหย่า ทั้งสองคนก็แบ่งทรัพย์สินให้ลูกทั้งสองตามสมควร แล้วก็แบ่งสินสมรสกันคนละครึ่ง
ซึ่งพ่อเขาชอบโรงแรมที่อยู่ในเมืองนี้มาก เลยทุ่มเงินมหาศาล ซื้อโรงแรมต่อจากส่วนของแม่ จะได้ไม่เป็นปัญหาต้องยุ่งยากกันอีก และก็อาศัยอยู่ที่โรงแรมนั้นเลย แล้วงานอดิเรกก็เปิดโรงรับจำนำ แต่เบื้องหลังก็ปล่อยเงินกู้ จนทำให้ชนิสาได้มาเจอเขาทุกวันนี้
ส่วนแม่ของเขาก็ได้บ้านใจกลางเมืองในกรุงเทพฯไป และอาศัยอยู่ที่บ้านนั้น ได้ลงทุนเปิดร้านอาหาร จนโด่งดังไปทั่วประเทศ มีสาขาที่ห้างชั้นนำอีกนับไม่ถ้วน
และทั้งสองคนก็ไม่ติดต่อกันอีกเลย จนเวลาผ่านไปนับสิบปี จนถึงงานแต่งลูกชายคนโตที่คาดว่าจะได้มาเจอกัน
"แม่เอ็ง สวยขนาดนั้นทำไมจะไม่มี" เมียเก่าเขาทั้วสวยทั้งแสนดี ดีกว่าผู้หญิงทุกคนที่เข้ามาหาเขา แต่เพราะความไม่รู้จักพอของเขานี่แหละเขายอมรับ
"ขนาดเขาสวย ยังทำไม่ดีกับเขาได้เนอะ" ลูกชายตัวดีก็เย้าแหย่พ่อตัวเอง
"ไอ้ห่า ก็ของใหม่มันดีกว่าสดกว่า มันก็ตื่นเต้นเป็นธรรมดา" มันหลงอะไรใหม่ๆ แล้วออกไม่ได้จริงๆ
"ก็สมควรแล้วไง ไม่รักกันก็ไม่ต้องอยู่ด้วยกันถูกแล้ว"
"แล้วใครว่าข้าไม่รัก ข้ารักแม่เอ็ง รักแม่เอ็งแค่คนเดียว" เขารักจริงๆ รักบุษบาที่ยกขึ้นมาเป็นเมียเดียวของเขาจริงๆ
"จะซีเรียสอะไรขนาดนั้น" แล้วเขาก็ลุกขึ้นเดินไปที่บราเครื่องดื่ม หยิบแก้วคริสตัลออกมา พร้อมกับบรั่นดี ยื่นให้ผู้เป็นพ่อทันที
"ไอ้ห่า แต่เช้า"
"เอ่อ กินๆ เข้าไปเถอะ"
เวลาต่อมา
"พอเถอะพ่อ กินเยอะไปแล้ว"
"ปล่อยกูจะกิน กิน กินมันให้เยอะๆ เลย ไอ้ห่า"
"..."
"กูรักแม่มึง รักแม่มึงคนเดียว กูคิดถึงบุษคิดถึงบุษมากๆ อึก แค่บุษคนเดียว" เมื่อเมาแล้วก็เริ่มเลอะเทอะจริงๆ
"รักเขาก็ยังทำให้เขาเสียใจได้"
"มึงยังไม่มีเมีย มึงไม่มีวันเข้าใจ เมียมันบ่นมันด่า มันบังคับ แต่น้องๆ ที่กูเรียกมาเขาดูแลกูทุกอย่าง เอาใจกูสารพัด กูก็ต้องหลงสิวะ มึงนี่ อึก มึงไม่มีวันเข้าใจกู ขุนเขา มึงไม่เข้าใจกู"
"ถ้าผมมีเมีย ผมมั่นใจได้ว่า ผมจะรักแค่เมียคนเดียว จะสร้างครอบครัว จะไม่ไปยุ่งกับใคร จะให้เกรียติเมียทุกอย่าง"
ซึ่งเขาได้เห็นบทเรียน จากพ่อแม่ของเขาแล้ว ลูกทั้งสองคนก็ไม่มีความสุข แต่ทำยังไงได้ เมื่อมันเป็นความต้องการขอพ่อกับแม่ ลูกๆ อย่างพวกเขาก็ต้องเข้าใจและยอมรับ
และตอนนี้ในใจเขาก็รู้สึกแปลกๆ มีแต่ภาพผู้หญิงคนนั้นคนเดียวเข้ามาอยู่ในโสตประสาท ทำไมทุกครั้งที่เขาพูดเรื่องสร้างครอบครัว หน้าเธอตัองลอยมาด้วย ชนิสา!
"เหอะ กูจะคอยดู มึงจะเอาใครซ้ำซากได้ทุกวันๆ ได้หรอ อึก"
"พ่อพอเถอะ ไปพักผ่อนไป นอนมันในห้องรับแขกแหละ"
ก็นึกว่าจะมาเรื่องอะไร ที่แท้ก็มาเรื่องเมียเก่าตัวเอง คงอยากคุย อยากเจอบ้างนั้นแหละ คนที่ไม่เจอกันนานกว่า 10 ปี ก็คงจะคิดถึงกันมากอยู่ไม่น้อยจริงๆ แม่เขาก็คงเช่นกัน...
---------------------
ก็ว่าได้ใคร ได้พ่อมาค๊าทุกคน เขาเหมือนพ่อเขาแหละ แล้วบทสรุปตอนสุดท้าย จะเหมือนพ่อไหมน๊า รอติดตามนะคะ
#ฝาก 'กดติดตาม กดไลด์ กดหัวใจ กดเข้าชั้น' เพื่อเป็นกำลังใจให้ไรท์เขียนเรื่องต่อไปด้วยนะคะ
#Phicha ❤