สำหรับเซียงรื่อ ประโยคนี้อาจเป็นหนึ่งในคำพูดที่เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยพูดมันออกไป ทว่ามันกลับประทับตราตรึงอยู่ในใจของผู้ฟัง อวิ๋นซูทอดมองหญิงสาวที่เปรียบเสมือนคนแปลกหน้าในร่างที่คุ้นเคยด้วยแววตาที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย ขณะเดียวกันหัวใจก็รู้สึกสงบลงอย่างไม่น่าเชื่อ ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ “สมแล้วที่เป็นท่านเจ้าเมือง” น้ำเสียงที่แฝงแววล้อเลียนอยู่ในทีส่งผลให้เซียงรื่อหันกลับมาแยกเขี้ยวใส่ “อีกไม่นานก็จะมืดแล้ว หากจะรีบเข้าไปช่วยคนก็ควรรีบไป ประเดี๋ยวมืดแล้วจะยิ่งมองเห็นลำบาก” “ต่อให้ข้างนอกจะกลางวันหรือกลางคืน ในเหมืองก็มีสภาพเหมือนกันหมด คนงานที่ถูกคัดตัวไว้ต่างก็มีสายเลือดของสัตว์นักล่าที่มองเห็นได้ชัดเจนในความมืด” คุณชายสกุลอวิ๋นเหยียดยิ้มมุมปากอย่างผู้กุมชัยชนะ “แล้วเจ้าเล่า ไหวหรือไม่ จะให้คนพากลับไปที่จวนเจ้าเมืองก่อนไหม” เธอหลบสายตาอีกฝ่ายพลางตอบ “ข้าไม่เป็นไร” “อืม” เขาไม่เซ้าซี้หญิงสา